“ตอบฉันมา” น้ำเสียงของฮ่อหยุนเฉิงเย็นยะเยือกก่อนจะเข้าใกล้ซูฉิงขึ้นอีก และทันใดนั้นก็เหยียดมือออกกักขังเธอไว้
ทั้งสองอยู่ใกล้กันและท่าทางของพวกเขานั้นคลุมเครือมากจนซูฉิงหายใจไม่สะดวก
เธอขมวดคิ้ว ขณะจะให้ฮ่อหยุนเฉิงออกห่างจากเธอ ทันใดนั้นลิฟต์ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และหลังจากไฟด้านบนกะพริบสองสามครั้ง ทุกอย่างก็เข้าสู่ความมืดอย่างสมบูรณ์
“อ๊ะ!” ความมืดอย่างกะทันหันราวกับทำซูฉิงเข้าไปพัวพันกับหลุมดำที่ลึกสุดขั้ว ทำเธอตกอยู่ในความกลัวอย่าอธิบายไม่ได้ และเธอก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้อง
ฮ่อหยุนเฉิงยื่นมือออกมากอดเธอแน่น ก่อนจะพูดด้วยเสียงอ่อนลง “ไม่ต้องกลัวนะซูฉิง”
ไม่ต้องกลัวนะซูฉิง…
ช่างเป็นเสียงที่คุ้นเคย
เป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย
ขณะนั้น ด้วยแรงผลักดันจากความรู้สึกกลัว ซูฉิงจึงแนบอิงแผ่นอกของฮ่อหยุนเฉิง และหัวใจที่ประหม่าตื่นกลัวก็รู้สึกสงบลง
เธอจำได้ว่าครั้งก่อนที่เธอกับฮ่อหยุนเฉิงติดอยู่ในลิฟต์ เขาก็กอดและปกป้องเธอไว้แบบนี้
แต่ตอนนี้ เวลาผ่านไป ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
“ลิฟต์ขัดข้องน่ะ” มือข้างหนึ่งของฮ่อหยุนเฉิงกอดซูฉิงไว้ อีกข้างเอามือถือมาส่องไฟและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ร่างกายของซูฉิงแข็งทื่อเล็กน้อย “งั้นตอนนี้จะทำยังไง?”
เมื่อรู้ว่าเธอกลัวความมืด แขนของฮ่อหยุนเฉิงก็กระชับให้เธอแนบชิดกับเขา “ไม่เป็นไร มีฉันอยู่ทั้งคน ไม่ต้องกลัว”
เมื่อแนบอิงฮ่อหยุนเฉิงแน่น จนได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้น ซูฉิงก็เกิดรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก
ฮ่อหยุนเฉิงเอนค่อยๆ เอนตัวไปสูกดมศรีษะของซูฉิงเบาๆ
ยังคงเป็นกลิ่นคุ้นเคย ทำหัวใจเขาเต้นได้อย่างเคย
ความร้อนระอุแล่นในหัวใจ ฮ่อหยุนเฉิงก้มศีรษะลง และในความมืด ริมฝีปากของเขาค่อยๆ เข้าใกล้ใบหูของซูฉิง “ซูฉิง กลับมาอยู่เคียงข้างฉันได้ไหม?”
ริมฝีปากของเขาแนบชิดกับใบหูเธอ บรรยากาศอัดอั้นและพ่นลมลงบนแก้มซูฉิง
หัวใจซูฉิงเต้นผิดจังหวะ
ฮ่อหยุนเฉิงที่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?
ขณะที่เขารักถังถังก็มาขอให้เธอกลับไปอยู่เคียงข้างเขา จะจับปลาสองมือหรือไง?
สีหน้าของซูฉิงนิ่งขึ้น ยังไม่ทันให้เธอได้พูดอะไร ไฟด้านบนของลิฟท์ก็สว่างขึ้นและลิฟต์ก็กลับมาทำงานตามปกติ
แสงที่อยู่ๆ ก็สว่างได้แยงลูกตาของซูฉิง
เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าฮ่อหยุนเฉิงกำลังมองเธอด้วยดวงตาลึกซึ้ง
ฉากในความมืดเมื่อกี้ยังคงอยู่ในหัวของซูฉิง
หายใจเข้าลึกๆ ขับอารมณ์ที่ปนเปในหัวใจ ก่อนจะออกไปยืนด้านข้าง
เมื่อเห็นผู้หญิงที่เมื่อกี้ยังคงพึ่งพาเขา แต่พอไฟสว่างก็รักษาระยะห่างจากเขา สีหน้าฮ่อหยุนเฉิงก็ดูไม่ดีทันที
เขากระตุกริมฝีปากและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเมื่อกี้เลยนะ”
ซูฉิงกระตุกมุมปากเบาๆ “เมื่อกี้นายถามอะไรฉันนะ?”
“ซูฉิง เธอกลับมาอยู่เคียงข้างฉันได้ไหม?” ดวงตาที่ลึกล้ำจ้องไปที่ใบหน้าของซูฉิง และถามคำถามอย่างจริงจัง
ทันใดนั้น ลิฟต์ก็มาถึงชั้นหนึ่งและประตูได้เปิดออก
“ฮ่อหยุนเฉิง ถึงแล้ว” ซูฉิงดันตัวฮ่อหยุนเฉิงออกและเดินออกจากลิฟต์ไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นซูฉิงจากไปโดยไม่ลังเล ใบหน้าหล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงก็ตึงมากขึ้น
เขาก้าวออกจากลิฟต์และขณะจะไปหาซูฉิง ทว่ากลับเห็นซูฉิงเดินตรงไปยังรถเบนท์ลีย์สีดำ
ฮ่อหยุนเฉิงจำได้ว่านั่นเป็นรถของเฉินจุนเหยียน
“ซูฉิง เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” เฉินจุนเหยียนเปิดประตูลงจากรถ เห็นสีหน้าซูฉิงผิดปกติจึงอดถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้
ซูฉิงที่ได้สติก็ยิ้ม “ไม่เป็นไร”
“ไปกันเถอะ!” เฉินจุนเหยียนทำท่าทางเชิญชวนอย่างสุภาพบุรุษ
ซูฉิงยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะไปนั่งข้างคนขับ
ฮ่อหยุนเฉิงจ้องฉากที่ทิ่มแทงลูกตาอย่างเย็นชาอยู่ไม่ไกลนัก
ในลิฟต์เมื่อกี้ ซูฉิงยังพึ่งพาเขาอยู่เลย แต่ตอนนี้เพียงชั่วพริบตา เธอก็เข้าไปในรถของเฉินจุนเหยียน…
ซูฉิง ต้องทำยังไงถึงจะกลับมาหาเขา?
ฮ่แหยุนเฉิงยืนอยู่เงียบๆ ตรงประตูไม่กี่นาทีก็หันกลับไปที่ลานจอดรถ เปิดประตูสตาร์ทรถ และตามรถของเฉินจุนเหยียนไป
ในห้องผู้ป่วย
ฮ่อเฉียนมองฮ่อหยุนเฉิงที่ตามซูฉิงไปด้วยความริษยา ก่อนจะกระทืบเท้าและพูดกับแม่ฮ่อด้วยความคับข้องใจ “คุณน้าคะ ดูพี่เขาสิ เขาหลงใหลในตัวจิ้งจอกอย่างซูฉิงนั่นอีกแล้ว!”
แม่ฮ่อขมวดคิ้วและถอนหายใจเบาๆ “ไม่ได้บอกว่าช่วงนี้หยุนเฉิงเขาเจอตัวถังถังแล้วเหรอ? จะไปอยู่กับซูฉิงได้ไง? เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”
แม่ฮ่อไม่ชอบทั้งถังรั่วอิงและซูฉิง แต่หากเทียบกันแล้ว ซูชิงนั้นทำให้เธอไม่ชอบใจมากกว่า
“ชิ หนูว่าพี่เขายังชองซูฉิงอยู่” น้ำเสียงของฮ่อเฉียนระงับความหึงหวงไม่อยู่ “ต้องเป็นเพราะซูฉิงยัยจิ้งจอกไร้ยางอายที่คอยตามพี่แน่ๆ!”
ไม่รู้ทำไมฮ่อฉียนถึงได้รู้สึกว่าซูฉิงเป็นคู่ต่อสู้อันดับหนึ่งของเธอ
ส่วนถังถังนั่น ฮ่อเฉียนกลับรู้สึกว่าฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับหล่อนอย่างที่เขาลือกัน
อีกทั้ง ถังรั่วอิงยังดูนุ่มนวลอ่อนแอ ไม่น่าจะรับมือยาก
ดังนั้นตอนนี้ฮ่อเฉียนยังคงเน้นไปยังซูฉิง
“คุณน้าคะ คุณน้าต้องคิดหาวิธีไล่ซูฉิงไปนะคะ!” ใบหน้าของฮ่อเฉียนทรุดลงก่อนจะกัดฟัน
แม่ฮ่อพยักหน้า “ไม่ต้องห่วงนะ น้าจะไม่ปล่อยให้ซูฉิงเข้ามายุ่งกับหยุนเฉิงอีก”
“ค่ะ” ฮ่อเฉียนพูดอย่างเชื่อฟัง “คุณน้าคะ หนูกลับไปโรงเรียนก่อนนะคะ”
ฮ่อเฉียนเดินออกจากประตูโรงพยาบาล ในขณะกำลังมุ่งหน้าไปยังโรงเรียน จู่ๆ ก็มีร่างหนึ่งเข้ามาขวางทางเธอ
ฮ่อเฉียนเงยหน้าขึ้นก็เห็นเป็นหลินเจียต้งอยู่ตรงหน้า
เธอมองชายตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ “ลุงหลิน?”
ตั้งแต่หลินเจียต้งถูกท่านผู้เฒ่าฮ่อไล่ออกไปก็เหมือนว่าเขาจะหายเข้ากลีบเมฆไปเลย
ฮ่อเฉียนแปลกใจว่าทำไมหลินเจียต้งถึงมาหาเธอ
หลินเจียต้งถอดแว่นกันแดดและมองไปทางโรงพยาบาล “เฉียนเฉียน ว่างคุยกันหน่อยไหม?”
“ได้ค่ะ” ฮ่อเฉียนพยักหน้า
เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ หลินเจียต้งถึงมาหาเธอ แต่เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างแม่ฮ่อกับหลินเจียต้ง เธอจึงตกลง
หลินเจียต้งพาฮ่อเฉียนไปที่ร้านกาแฟระดับไฮเอนด์
ทั้งสองนั่งลง ฮ่อเฉียนถามด้วยความสงสัย “ลุงหลินมาหาหนูมีอะไรงั้นเหรอคะ?”
“เฉียนเฉียน เธออย่างจัดการซูฉิงใช่ไหม?” หลินเจียต้งถามตรงประเด็นก่อนจะจิบกาแฟ
ฮ่อเฉียนเม้มริมฝีปากของเธอและไม่ได้ปฏิเสธ
หลินเจียต้งยกยิ้มริมฝีปาก “เฉียนเฉียน ฉันมีวิธีช่วยเธอได้นะ”
“จริงเหรอคะ?” ดวงตาของฮ่อเฉียนเป็นประกาย
หลินเจียต้งพยักหน้า “แน่นอน แต่ว่าต้องให้เธอร่วมมือถึงจะได้”
ฮ่อเฉียนกัดฟัน “แค่ไล่ยัยจิ้งจอกอย่างซูฉิงไปได้จะให้หนูทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นค่ะ!”