ตอนที่ 331 ดอกกุหลาบฝ้าย

แม่สาวเข็มเงิน

เจียงฉิงชะโงกศีรษะออกมาจากทางด้านหลังเจียงป่าวชิงและส่งเสียงไม่พอใจใส่หลี่อันหรู “เหอะ! นางหมาป่าตาขาว! ตอนนั้นพี่สาวข้าไปดูขาให้เจ้าแทบทุกวันเพราะนางกลัวว่าเจ้าจะเป็นโรคเรื้อรัง แต่ดูเจ้าสิ กลับฉีกเสื้อผ้าใส่ร้ายพี่สาวข้าอย่างไม่รู้จักละอายต่อบาป นี่โชคดีที่พี่สาวข้าเป็นหญิง ถ้าหากว่าเป็นชายคงถูกฆ่าตายด้วยมีดของไอ้คนแซ่หลู่นั่นแล้ว!”

นี่ถือว่าเป็นประวัติที่ไม่น่าจดจำของหลี่อันหรู นางหน้าแดงปนซีด สายตาที่ใช้มองเจียงฉิงก็ค่อนข้างผิดปกติอยู่เล็กน้อย

ถูกคนด่าใส่หน้าว่าไม่รู้จักละอายต่อบาป ถ้าหากว่าอยู่ที่เมืองหลวงเมื่อก่อน หลี่อันหรูคงเป็นลมล้มตึงไปแล้ว แต่ตอนที่อยู่ในถ้ำโจรของหมู่บ้านฟู่กุ้ย นางสัมผัสกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่สามารถจินตนาการได้มาก่อน และคำพูดของเจียงฉิงทำให้หลี่อันหรูรู้สึกรับไม่ได้ ทว่าก็ไกลจากคำว่าอับอายขายขี้หน้ามากอยู่

เจียงฉิงยังเด็ก น้ำเสียงอ่อนเยาว์ของนางแม้เบาทว่าชัดเจน และตอนนี้นางก็กำลังพูดต่อไม่มีพัก “…เรื่องเมื่อก่อนก็แล้วกันไป พี่สาวข้าใจกว้างจึงไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเจ้า เดิมทีตอนนี้ไม่มีใครทำผิดต่อใคร แต่เจ้ากลับวิ่งมาเห่าใส่เรา แถมยังจะลงไม้ลงมือตบตีคนอื่นอีก! พี่สาวข้าก็แค่ต้านเจ้าไว้และไม่ตอบโต้อะไรสักหน่อย แต่เจ้ากลับหัวกลับหางบอกว่าเรารังแกเจ้า ช่างหน้าไม่อายจริงจริ๊งงง!”

ขณะนี้ แม้จะไม่มีคนอื่นอยู่ในจุดพักม้าและนายทหารระดับสูงที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก็แทบไม่เหลือบมองพวกนางเลย แต่พวกพ่อบ้านที่เดินผ่านไปมาในจุดพักม้ากลับมองหลี่อันหรูด้วยสายตาแปลกประหลาด

“เจ้า!” หลี่อันหรูหน้าแดงก่ำตัวสั่นเทา นางซุกหน้าอยู่ในอ้อมแขนของหลิวจิ้งอี๋พลางร้องตะโกนขึ้นเสียงดังด้วยเนื้อตัวสั่นเทา “พี่จิ้งอี๋ ฆ่าพวกนางซะ! ฆ่าให้หมดเดี๋ยวนี้!”

หลิวจิ้งอี๋ตบแผ่นหลังของหลี่อันหรูอย่างจนปัญญา พยายามพูดโอ๋นางเบา ๆ ส่วนหลี่อันหรูก็ร้องไห้จนใกล้หมดสติอยู่แล้ว ดูแล้วช่างน่าเวทนายิ่งนัก

หลิวจิ้งอี๋มองเจียงป่าวชิงกับเจียงฉิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “แม่นางเจียงทั้งสอง เดิมทีหรูเอ๋อร์ก็ได้รับการกระตุ้นอารมณ์โกรธมามากแล้ว พวกเจ้ายังจะไปโรยเกลือลงบนบาดแผลของคนอื่นอีกทำไม ?”

เจียงป่าวชิงมองดูหลิวจิ้งอี๋กอดปลอบหลี่อันหรูอย่างอ่อนโยนอยู่ฝั่งตรงข้ามเงียบ ๆ เขาเอาแต่โอ๋น้องตัวเองไม่ลืมหูลืมตาและพูดจาตำหนิพวกนาง นางจึงหัวเราะและพูดตอกกลับนิ่ง ๆ “ข้าไม่คิดว่าน้องสาวข้าพูดอะไรผิด ก็เห็นอยู่ว่ามีบางคนพุ่งมายุแหย่เราตรงหน้าเอง พอเราโต้ตอบกลับไปก็หาว่าโรยเกลือลงบนบาดแผลของนาง นี่มันอะไรกัน นางมีบาดแผลจึงน่าสงสารที่สุด แล้วทุกคนบนโลกก็ต้องยอมให้นางอย่างนั้นสิ ขอโทษที ข้าตามใจน้องสาวข้า ถ้าข้าตามใจน้องสาวเจ้า สมองข้าก็มีปัญหาน่ะซี่”

เจียงป่าวชิงพูดจนหลิวจิ้งอี๋หน้าเสีย ในขณะที่หลี่อันหรูร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น

มือของหลิวจิ้งอี๋กำเข้าหากันจนกลายเป็นหมัดแน่น “แม่นางเจียง ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าเจ้าจะต่างจากโจรพวกนั้น แต่พอมาเห็นวันนี้ข้าถึงได้รู้ว่าข้าเข้าใจเจ้าผิดไป เกิดเป็นมนุษย์ก็ควรมีจิตใจเมตตาสิ”

เจียงป่าวชิงยิ้ม ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร “แต่กลับกันข้ารู้สึกว่าคุณชายหลิวมีความคล้ายพี่น้องในหมู่บ้านนะ คุณชายหลิวช่างอ้างเก่งจริง ๆ” นางหยุดชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่ออย่างมีความหมายลึกซึ้ง “อ้างศีลธรรมน่ะ”

เมื่อก่อนหลิวจิ้งอี๋เคยเจอเจียงป่าวชิงตอนที่อยู่กับซูรุ่ยเอ๋อร์ไม่กี่ครั้ง ในความประทับใจของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเจียงป่าวชิงพูดถากถางคนอย่างอย่างฝีปากดีเช่นนี้ นางช่าง…

หลิวจิ้งอี๋ชะงักเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงซูรุ่ยเอ๋อร์อีกครั้ง

เจียงป่าวชิงมองหลิวจิ้งอี๋ เบะปากใส่ก่อนจะจูงมือเจียงฉิงและเดินตามนายทหารยศสูงที่กงจี้สั่งให้เขามานำทางเข้าไปพักในจุดพักม้าโดยที่ไม่สนใจทั้งสองคนอีก

หลี่อันหรูฟุบหน้าลงในอ้อมแขนของหลิวจิ้งอี๋ด้วยท่าทางน้อยใจ “พี่จิ้งอี๋ ทำไมพี่ถึงไม่ช่วยข้าฆ่าพวกนางล่ะ ถึงยังไงพวกนางก็เป็นแค่โจรสองคนที่ออกมาจากถ้ำโจรกระจอกงอกง่อย พี่ฆ่าพวกนางก็ไม่มีใครว่าอะไรพี่หรอก!”

คิ้วหลิวจิ้งอี๋ขมวด “หรูเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าเจ้าเพิ่งออกมาจากหมู่บ้านฟู่กุ้ยได้และยังมีความบอบช้ำติดตรึงฝังอยู่ในใจ แต่เจ้าไม่ควรพูดถึงเรื่องฆ่าคนตลอดทั้งวัน คนของหมู่บ้านฟู่กุ้ยน่าเกลียดชังก็จริง แต่แม่นางสองคนนั้นไม่ได้รังแกเจ้า เจ้าเองก็ไม่ควรพาลใส่พวกนาง”

หลี่อันหรูเห็นว่าหลิวจิ้งอี๋ไม่ได้เข้าข้างนางทุก ๆ อย่างเฉกเช่นเมื่อก่อนก็รู้สึกสับสนในใจ หรือว่าเขารังเกียจที่นางถูกโจรภูเขาลักพาตัวไป แต่เขาก็น่าจะรู้ว่านางยังคงบริสุทธิ์ ไม่มีใครล่วงละเมิดนาง ยังไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย…

หลิวจิ้งอี๋เห็นหลี่อันหรูไม่พูดอะไรจึงคิดว่านางเข้าใจแล้วจึงรู้สึกโล่งใจและคิดว่าสาวน้อยเองก็น่าสงสารเช่นกัน ไปใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวนอยู่ในฝูงหมาป่าตั้งหลายวัน เป็นเรื่องปกติที่นิสัยของนางจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาเชื่อว่าสันดานเดิมของนางยังดีอยู่

“เอาล่ะหรูเอ๋อร์” หลิวจิ้งอี๋บอกใบ้ให้กุ้ยจือผู้เป็นสาวใช้มาประคองหลี่อันหรู “ไปพักผ่อนข้างในจุดพักม้าเถอะ”

หลี่อันหรูพยักหน้ารับอย่างลวก ๆ ชายตามองหลิวจิ้งอี๋อย่างลองเชิง เมื่อเห็นว่าหลิวจิ้งอี๋ยังคงอ่อนโยนและเอ็นดูนาง หินก้อนใหญ่ในใจของนางถูกวางลงเล็กน้อย

เจียงป่าวชิงกับเจียงฉิงเข้าไปในห้องและพบว่าถึงแม้บ้านจะไม่ได้หรูหรา แต่ก็สะอาดและสะดวกสบายอย่างไม่คาดคิด ทั้งยังมีแจกันกระเบื้องสีขาววางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งมีดอกกุหลาบฝ้ายสองสามดอกเสียบอยู่ในขวดอีกด้วยดูสวยงามอย่างมาก

เจียงฉิงนั่งรถม้าเกือบทั้งวัน เด็กหญิงรู้สึกง่วงนอน เพราะถึงอย่างไรนางก็ยังเล็ก นางกระโดดขึ้นเตียงอย่างดีใจ กลิ้งไปกลิ้งมาและพูดว่า “โอ้โห! นุ่มสบายมาก” อย่างต่อเนื่อง ผ่านไปสักครู่ก็ส่งเสียงกรนเบา ๆ ออกมาให้ได้ยิน

เจียงป่าวชิงสงสารที่นางอายุยังน้อยแต่ต้องมาเจอเรื่องน่าเหนื่อยใจติดต่อกันจึงไม่เรียกนางให้ลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตา แต่เลือกที่จะไปถอดรองเท้าให้อย่างเบามือ จับร่างน้อย ๆ ให้นอนตรงและห่มผ้าห่มให้นาง

ก๊อก ๆ ๆ!

ใครบางคนเคาะประตูเสียงเบา เจียงป่าวชิงเดินไปเปิดประตูก็เห็นว่าพ่อบ้านประจำจุดพักม้ามาส่งน้ำอุ่นสำหรับล้างหน้าล้างตา

พ่อบ้านกระตือรือร้นมาก และเนื่องจากเจียงป่าวชิงแต่งตัวเป็นผู้ชายอยู่ เขาจึงเอ่ยถามนางโดยเรียกขานนางว่าคุณชายเล็ก

“เอ่อ… การจัดแต่งในห้องเป็นที่น่าพอใจไหมขอรับคุณชายเล็ก ?”

เจียงป่าวชิงรับน้ำอุ่นมา พูดขอบคุณอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยชมหนึ่งประโยค “อื้ม ดอกไม้ในห้องสวยงามมาก”

พ่อบ้านพูดอย่างนอบน้อม ใบหน้ายิ้มแย้ม “ได้รับความชอบจากคุณชายเล็ก ช่างเป็นวาสนาของดอกไม้พวกนั้นจริง ๆ ขอรับ… เป็นเพราะแม่ทัพคนนั้นมีใจ มีดอกกุหลาบฝ้ายหลายต้นบานอยู่ในลานจุดพักม้าของเรา ข้าเห็นว่าแม่ทัพคนนั้นกำลังปรึกษาอะไรบางอย่างกับคนอื่นอยู่ แต่พอหางตาของเขากวาดไปเห็นดอกกุหลาบฝ้ายดอกนี้ เขาก็สั่งให้ข้าน้อยเด็ดมาให้คุณชายเล็กสองสามดอกเลยขอรับ”

เจียงป่าวชิงไม่ได้พูดอะไร นางอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองดอกกุหลาบฝ้ายพวกนั้นอีกครั้ง

ทันทีที่พ่อบ้านเห็นว่าเจียงป่าวชิงคล้ายกับจะชอบมาก เขาก็พูดขึ้นอย่างกระตือรือร้น “ถ้าหากว่าคุณชายเล็กชอบดอกไม้นี้ ก่อนเดินทางในวันพรุ่ง ข้าน้อยจะเด็ดมาใส่ไว้ให้ในรถม้าของท่านเอาไหมขอรับ ?”

เจียงป่าวชิงไม่ได้พูดอะไร เพียงแย้มยิ้มอย่างสำรวมเท่านั้น

พ่อบ้านมองรอยยิ้มนี้จนเกือบจะตาลาย เขาตกตะลึงและคิดว่า มิน่า ชายท่าทางเหมือนแม่ทัพคนนั้นถึงได้ใส่ใจเข้มงวดต่อคุณชายเล็กคนนี้ ทั้งยังสั่งให้คนจัดเก็บสองห้องนี้ให้เรียบร้อยเป็นพิเศษอีกด้วย

คุณชายเล็กคนนี้ช่าง… หืม เขามองไม่ผิดไปใช่ไหม คุณชายเล็กคนนี้… ช่างสวยเพริศพริ้งที่สุดในโลกใบนี้จริง ๆ

เมื่อพ่อบ้านกลับไปแล้ว เจียงป่าวชิงหมุนตัวไปนั่งตรงหน้าโต๊ะ สายตามองดูดอกกุหลาบฝ้ายที่ยังคงมีใบเสียบไว้อยู่ในขวดนั้น นิ้วเรียวแตะกลีบดอกที่ดูซับซ้อนสวยงามของดอกกุหลาบฝ้าย

.