ตอนที่ 319 อาวุธลับ!

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ

วินาทีถัดมา หุ่นรบของหลินจงชิงชนเข้าไปในเบาะลมเช่นเดียวกัน ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาฉับไวเหมือนกับหลี่ซื่ออวี๋ บังคับหุ่นรบให้พุ่งไปที่ด้านข้าง เนื่องจากด้านหลังยังมีเพื่อนอีกเจ็ดคนรอเข้าไปอยู่

หุ่นรบถลันเข้าไปในยานรบทีละตัว และพอเห็นจีอู๋ปู้ซิวถลันเข้าไปท่าปล่อยหุ่นรบได้อย่างราบรื่นภายใต้การช่วยเหลือของฉีหลง หลิงหลานอดโล่งใจไม่ได้ ขอเพียงบยานรบบินต่อไปอีกสักหลายนาทีก็สามารถหลุดพ้นจากเขตอันตรายที่เสี่ยวซื่อประเมินไว้

พอเห็นพลังงานหุ่นรบใกล้จะหมดแล้ว หลิงหลานก็กล่าวกับเนี่ยนเทียนโหยวเหรินข้างกายที่เหลือเป็นคนสุดท้ายว่า “ชีตาห์ นายเข้าไปก่อน” อาจเป็นเพราะหลิงหลานเชื่อมั่นในความสามารถของชีตาห์ เธอถึงทิ้งให้เนี่ยนเทียนโหยวเหรินอยู่ท้ายสุด

เนี่ยนเทียนโหยวเหรินตอบกลับว่า “ได้” ยังไม่ทันที่เขาจะบังคับหุ่นรบร่อนลงไปก็เห็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษที่ตามหลังพวกเขามาตลอดตัวนั้นเร่งความเร็วอย่างบ้าคลั่งขึ้นมากะทันหัน ข้ามผ่านพวกเขา ถลาเข้าไปในท่าปล่อยหุ่นรบอย่างว่องไว

“ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษคนนั้นแม่งหน้าไม่อายจริงๆ” หลี่หลานเฟิงเห็นดังนั้นก็อดเอ่ยปากด่าทอไม่ได้ ตามพวกเขามาถึงที่นี่ก็แล้วไป แต่ยังไงก็ต้องรู้ลำดับมารยาทด้วยว่าจะแทรกแถวอย่างหน้าไม่อายแบบนี้ไม่ได้เป็นอันขาด

หลิงหลานเห็นแบบนี้ก็ขมวดคิ้ว ไม่นึกเลยว่าผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษจะเลือกฉวยเวลาที่ชาญฉลาดแบบนี้ เป็นเวลาสิบนาทียอดเยี่ยมที่สุดพอดี น่าเสียดายจริงๆ ชีตาห์ต้องเลื่อนเวลาออกไปแล้ว การถลาลงไปของหุ่นรบแต่ละตัวจำเป็นต้องห่างจากหุ่นรบตัวก่อนประมาณสิบวินาที ไม่เช่นนั้นจะเกิดโศกนาฎกรรมการชนกันของหุ่นรบได้ง่ายมาก ถ้าเกิดโชคร้าย มีความเป็นไปได้สูงว่าจะทำให้ผู้ควบคุมได้รับบาดเจ็บสาหัสจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ถึงแม้หลิงหลานจะหงุดหงิดที่หุ่นรบตัวนั้นทำเรื่องแบบนี้ แต่เธอก็ไม่สามารถให้ชีตาห์ทำเรื่องไม่ยั้งคิดได้

ดังนั้นหลิงหลานเลยกล่าวว่า “ชีตาห์ รอไปอีกสิบวินาที”

ทั้งสองคนบินตามยานรบบัญชาการด้วยความเร็วสูงไปพลาง รอคอยช่วงเวลาสิบวินาทีให้ผ่านพ้นไปพลาง เมื่อเห็นว่าเกือบถึงเวลาแล้ว ขณะที่หลิงหลานกำลังเอ่ยปากให้เนี่ยนเทียนโหยวเหรินถลันเข้าไปในท่าปล่อยหุ่นรบ เธอก็ได้ยินเสี่ยวซื่อที่อยู่ในห้วงจิตใจพลันร้องตกใจว่า “ลูกพี่ แย่แล้ว ทะเลพายุสนามแม่เหล็กจะระเบิดแล้ว”

“ว่าไงนะ? ไม่ใช่บอกว่าสิบแปดนาทีเหรอ? ยังขาดอีกหลายวินาทีนี่นา” หลิงหลานได้ยินคำกล่าว สีหน้าเปลี่ยนไปทันใด ไม่เคยคาดคิดเลยว่าเวลาที่เสี่ยวซื่อประเมินจะขาดไปหลายวินาที

เสี่ยวซื่อยังไม่ทันตอบก็ได้ยินเสียงการรบกวนของสนามแม่เหล็กดังซู่ขึ้นมาในห้องคนขับ อย่างที่คิดไว้เลย ทะเลพายุสนามแม่เหล็กระเบิดแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาไม่มีทางได้รับการรบกวนที่ทรงพลังแบบนี้ทั้งๆ ที่อยู่ห่างจากใจกลางของทะเลพายุสนามแม่เหล็กขนาดนี้

หลิงหลานกับหลี่หลานเฟิงหันหน้ากลับไปพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ก่อนจะเห็นทะเลหมอกวงแหวนสีม่วงเข้มราวกับดอกไม้ไฟที่ผลิบานที่อยู่ไกลออกไประเบิดขึ้นมาโดยพลัน แผ่ขยายออกไปรอบข้างอย่างต่อเนื่องราวกับทะเลดอกไม้สีม่วง สวยงามจนทำให้คนตาพร่า ไม่กล้าเชื่อว่าในอวกาศจะมีทิวทัศน์ที่งดงามขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม หลิงหลานกับหลี่หลานเฟิงไม่รู้สึกถึงความสวยงาม หากแต่เป็นความน่ากลัว พวกเขาเห็นพื้นที่ที่ถูกท่วมด้วยทะเลสีม่วง ไม่หลงเหลือสิ่งอื่นใดอีก ความเร็วในการขยายตัวของพวกมันรวดเร็วสุดขีด เริ่มกลืนกินยานลำเลียงที่อยู่รั้งท้ายสุด ยกตัวอย่างเช่น ยานที่หลิงหลานโดยสารในตอนแรกเปลี่ยนเป็นฝุ่นในอวกาศไปแล้ว ไม่เหลือร่องรอยเลยสักนิดเดียว

“กระต่าย นายลงไปก่อน” หลิงหลานยังไม่ทันเอ่ยปากให้ชีตาห์ลงไปก่อน หลี่หลานเฟิงก็ชิงลงมือก่อนก้าวหนึ่ง ผลักหลิงหลานที่อยู่ข้างกายไปที่ท่าปล่อยหุ่นรบของยานอวกาศแรงๆ โดยพลัน

พลังงานของหุ่นรบพวกเขาขึ้นตัวอักษรสีแดงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคลื่นพายุสนามแม่เหล็ก หรือว่าพลังงานของตัวหุ่นรบต่างไม่อนุญาตให้พวกเขาบินต่อไปในอวกาศ

หลี่หลานเฟิงเชื่อว่า อาศัยความสามารถในการควบคุมของหลิงหลาน ต่อให้รับมือไม่ทันก็ยังสามารถถลันเข้าไปในท่าปล่อยหุ่นรบได้อย่างราบรื่นมั่นคง ตอนนี้หลี่หลานเฟิงมีแค่ความคิดเดียวเท่านั้น ต่อให้วันนี้เขาจะหยุดลงเพียงเท่านี้ เขาก็ไม่อาจทำให้ความพยายามก่อนหน้านี้ของกระต่ายเสียเปล่าได้

หลิงหลานถูกหลี่หลานเฟิงผลักไปที่ท่าปล่อยหุ่นรบของยานรบโดยไม่ได้เตรียมตัว แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของหลิงหลานปราดเปรียวถึงขั้นไหน เธอยื่นมือลากหลี่หลานเฟิงทันทีที่ร่วงลงไป หลังจากนั้นก็พลิกตัวกลางอากาศ ร่างของเธอทะยานขึ้นไปอยู่เหนือหลี่หลานเฟิง จากนั้นก็ยกสองขาถีบไปบนหุ่นรบของหลี่หลานเฟิงอย่างรุนแรงฉับพลัน…

นี่คือท่าไม้ตายของกระต่ายที่หลี่หลานเฟิงคุ้นเคยมากที่สุด วิชาลูกถีบหรือก็คือกระต่ายทะยานฟ้าที่ปรับปรุงแล้ว หุ่นรบของหลี่หลานเฟิงบินไปที่ท่าปล่อยหุ่นรบราวกับกระสุนปืนใหญ่เพราะลูกถีบนี้ เขาเห็นกระต่ายที่กำลังใช้พลังงานเฮือกสุดท้ายบินมาทางหุ่นรบอย่างสุดกำลัง ดวงตาฉ่ำรื้นขึ้นมายากที่จะควบคุม

อีกครั้งแล้วที่เขาเป็นตัวถ่วงกระต่าย อีกครั้งแล้วที่เขาเผชิญกับความเจ็บปวดขมขื่นของผู้อ่อนแอ

ในใจหลี่หลานเฟิงรู้สึกสิ้นหวังอยู่บ้าง หลายปีมานี้เขาเคี่ยวกรำตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างสุดชีวิต ถึงแม้ว่าสาเหตุส่วนหนึ่งคือทำเพื่ออยากจะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต แต่เขารู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงที่เขาอยากแข็งแกร่งขึ้นก็คือ เขาอยากยืนอยู่ข้างกายกระต่ายได้อย่างเปิดเผยสักวัน อยากกลายเป็นคู่หูที่ดีที่สุดของกระต่าย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า นี่เป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น เขายังคงอ่อนแอ ยังไม่มีคุณสมบัติต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับกระต่าย ต่อให้เป็นโล่ กระต่ายก็ไม่เหลือบแล…

หลี่หลานเฟิงแค้นใจที่ตัวเองไร้ความสามารถ เขาเพียงแต่เบิกตาโตจ้องเขม็งไปยังกระต่ายที่ห่างไกลออกไปมากยิ่งขึ้น ถูกมวลคลื่นสีม่วงนั้นไล่ตามติดขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าวินาทีถัดมาจะถูกกลืนกินจนหมด…

ในตอนนี้เอง ดวงตาทั้งสองข้างของหลี่หลานเฟิงที่เดิมทีเบิกกว้างฉ่ำรื้นพลันทำตากลมโต ทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อออกมา

เขาเห็นหุ่นรบระดับกลางของกระต่ายตัวนั้นเปลี่ยนเป็นหุ่นรบที่สวยงามตระการตาในชั่วพริบตา ต่อให้เป็นทะเลดอกไม้สีม่วงที่ดึงดูดสายตาคนจากด้านหลังก็ไม่สามารถปกปิดรัศมีเจิดจ้าของหุ่นรบตัวนี้

หลี่หลานเฟิงคุ้นกับหุ่นรบตัวนี้มาก มันคือหุ่นรบระดับราชันที่ชี้แนะการต่อสู้ให้กระต่ายในตอนที่เขาจดจำกระต่ายได้ มันเป็นหนึ่งในหุ่นรบสุดยอดระดับราชันหกตัวที่สามารถแลกได้ในโลกหุ่นรบ —หรูอิ่งสุยเฟิง!

หลิงหลานเปลี่ยนหุ่นรบในชั่วพริบตาแล้วเปิดใช้งานเครื่องยนต์ทั้งหมดของหุ่นรบทันที ระยะห่างระหว่างเธอกับหลี่หลานเฟิงต้องการเวลาแล่นประมาณห้าหกวินาทีสำหรับหุ่นรบระดับกลางกับหุ่นรบระดับสูง แต่สำหรับหุ่นรบระดับราชันแล้ว แค่วินาทีเดียวหลิงหลานก็ไล่ตามมาถึงข้างกายหลี่หลานเฟิงได้แล้ว

หลิงหลานคว้าหุ่นรบของหลี่หลานเฟิงไว้ เอ่ยอย่างกระหืดกระหอบว่า “ไอ้งี่เง่าชีตาห์ นายแม่งอ่อนกว่าเมื่อก่อนอีก อยากฆ่าตัวตายหรือไง?” เนื่องจากเธอมีอาวุธลับที่คุณพ่อมอบให้เธอ ดังนั้นถึงได้เตะชีตาห์เข้าไปก่อนอย่างเฉยชา แต่หมอนี่ไม่เข้าใจความพากเพียรของเธอ ท่าทียอมตายตามยถากรรมนั้นแทบจะทำให้เธอโมโหตาย

หลี่หลานเฟิงยิ้มพลางกำลังคิดจะตอบกลับอะไรบางอย่าง ทว่าเขาเห็นคลื่นดอกไม้สีม่วงด้านหลังหลิงหลานปกคลุมศีรษะลงมาแล้วก็รีบตะโกนด้วยความลนลานว่า “กระต่าย ระวัง!”

หลิงหลานหันตัวไปทันใด ในขณะเดียวกันก็สอดแหล่งพลังงานล้ำค่าที่ได้รับจากดาว X192 ชิ้นนั้น นิ้วมือทั้งข้างโบกสะบัดอย่างเร็วไว ความเร็วมือของหลิงหลานทำลายสถิติความเร็วมือแต่เดิมของเธออีกครั้งภายใต้สถานการณ์อับจนสุดขีดแบบนี้

ควรพูดว่าความเร็วมือของหลิงหลานคงระดับเดิมไว้ตลอดเพราะว่าควบคุมหุ่นรบระดับต่ำ ถึงแม้หลิงหลานรู้ว่าตัวเองก้าวหน้าขึ้นมาบ้างในหลายปีมานี้ แต่เนื่องจากเงื่อนไขที่จำกัดทำให้เธอไม่รู้ว่าก้าวหน้าไปมากเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ความเร็วมือของหลิงหลานที่ถูกจำกัดไว้ได้ระเบิดออกมาในที่สุดบนหุ่นรบระดับราชัน

“โล่ราชาชงม่าย” สิ่งที่หลิงหลานเลือกใช้คือความสามารถของอุปกรณ์ที่มีเฉพาะในหุ่นรบระดับราชัน ปากก็ไม่ลืมตะโกนว่า “ชีตาห์ กอดฉันไว้แน่นๆ นะ!”

นับตั้งแต่แต่หลิงหลานได้รับหรูอิ่งสุยเฟิง เธอเคยศึกษาทำความเข้าใจอุปกรณ์บางอย่างที่มีเฉพาะหุ่นรบระดับราชัน แน่นอนว่าคุณพ่อหลิงเซียวก็มอบข้อมูลทั้งหมดของหรูอิ่งสุยเฟิงให้เธอเช่นกัน บวกกับข้อมูลเพิ่มเติมที่อุดช่องว่างของเสี่ยวซื่อ พูดได้ว่าความเข้าใจของหลิงหลานที่มีต่อหรูอิ่งสุยเฟิงไม่ได้ด้อยไปกว่าบรรดาผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันที่ควบคุมหรูอิ่งสุยเฟิงเลย

โล่ราชาชงม่ายคืออุปกรณ์ป้องกันที่ทรงพลัง ถึงแม้ว่าจะเทียบซีรีส์โล่เทวะของหุ่นรบ IN ขั้นเทวะไม่ได้ แต่มันก็เป็นอุปกรณ์ชั้นยอดในหมู่อุปกรณ์ป้องกันทั้งหมดในสหพันธรัฐ ยังคงแข็งแกร่งกว่าโล่แสงป้องกันอนุภาคของยานรบปกติมากนัก นอกจากนี้โล่ราชันชงม่ายเป็นโล่ป้องกันที่สามารถปรับเปลี่ยนขอบเขตได้อย่างอิสระภายใต้การควบคุมของปรมาจารย์ควบคุมหุ่นรบ

หลิงหลานไม่เพียงอยากปกป้องเธอกับชีตาห์ ในเวลาเดียวกันก็อยากปกป้องพวกเพื่อนๆ ในห้องโดยสารของยานรบด้วย ความจริงแล้ว ถ้าเกิดยานรบถูกคลื่นพายุสนามแม่เหล็กนี้กลืนกิน ต่อให้หลิงหลานมีหุ่นรบระดับราชันก็ไม่สามารถประคับประคองไปถึงฐานที่มั่นซวิ่นหลงได้ นี่ก็คือขีดจำกัดของหุ่นรบ ไม่สามารถทำการบินระยะยาว

จากนั้นก็เห็นแสงสีขาวสายหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นสูงเบื้องหน้าหุ่นรบระดับราชัน พริบตาเดียวก็ปรากฏบาเรียขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกลายกิโลเมตร ถึงแม้ว่าโล่ราชาชงม่ายดูเหมือนใหญ่สุดขีด แต่ก็สามารถขวางกั้นพียงส่วนหางของยานรบ นี่คือขีดจำกัดสูงสุดที่หลิงหลานบังคับได้ ขนาดขอบเขตของโล่ราชาชงม่ายเกี่ยวพันถึงระดับของผู้ควบคุมอย่างมาก ความสามารถในการควบคุมของหลิงหลานในปัจจุบันยังไม่ถึงระดับราชัน นี่เป็นการควบคุมข้ามระดับของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถปล่อยฟังก์ชั่นพิเศษบางอย่างของหุ่นรบระดับราชันออกมาได้ทั้งหมด โล่ราชาชงม่ายก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน

ความจริงแล้ว การที่หลิงหลานสามารถปล่อยโล่ราชาชงม่ายในขอบเขตขนาดนี้ออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายดายอย่างยิ่งยวด บนแผงควบคุมของเธอย้อมไปด้วยหยดเลือดเป็นจุดๆ แล้ว การควบคุมข้ามระดับไม่ใช่ว่าไม่มีค่าตอบแทน หลิงหลานไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เหมือนนิ้วมือจะฉีกขาดเลย ในใจเธอมีเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้น นั่นก็คือทุกคนในทีมพวกเขาไม่อาจตายอยู่ในคลื่นพายุสนามแม่เหล็กนี้ได้

เสียง ‘ตูม’ ดังสนั่น โล่ราชาชงม่ายชนเข้ากับคลื่นสีม่วงอย่างรุนแรง หลังจากที่หลิงหลานถูกกระแทกก็กระอักเลือดออกมาคำหนึ่งโดยที่คุมไว้ไม่อยู่ โล่ราชาชงม่ายที่เดิมทีสว่างโรจน์ดำมืดลงทันที

หลิงหลานกัดริมฝีปากตัวเอง ใช้ความเจ็บปวดประคองไม่ให้เธอหมดสติลงไป เธอรู้ว่าการฝืนประคองโล่ราชาชงม่ายเพิ่มขึ้นหนึ่งวินาที ก็จะรับประกันชีวิตของพวกเพื่อนๆ เพิ่มขึ้นได้หนึ่งส่วน

ในตอนที่หลิงหลานปล่อยโล่ราชาชงม่ายออกมา หลี่หลานเฟิงก็ได้ยินคำสั่งจากหลิงหลานก่อนจะกอดหุ่นรบของหลิงหลานไว้แน่นๆ เมื่อโล่ราชาชงม่ายกระแทกเข้ากับคลื่นพายุสนามแม่เหล็กอย่างรุนแรง หุ่นรบของพวกเขาสองตัวถูกพลังอันโหดเหี้ยมของคลื่นพายุสนามแม่เหล็กอัดไปทางส่วนหางของยานรบทันที

เวลานี้หลี่หลานเฟิงใจเย็นสุดขีด เขาเพียงแต่กอดกระต่ายของเขาไว้อย่างแน่วแน่ ต่อให้เขาต้องตายอยู่ท่ามกลางคลื่นพายุสนามแม่เหล็กนี้ด้วยกันกับกระต่าย เขาก็ไม่มีทางปล่อยมือกระต่ายของเขาอย่างเด็ดขาด ใช่แล้ว เขาเคยปล่อยให้มิตรภาพของเขากับกระต่ายหลุดมือมาก่อน ดังนั้นคราวนี้เขาไม่มีทางปล่อยมืออีกครั้งแน่นอน….

‘ปังๆๆ…’ หุ่นรบกระแทกกับส่วนหางของยานรบโดยพลัน ในฐานะที่หลี่หลานเฟิงเป็นจุดรับการกระแทก เขากระอักเลือดออกมาในตอนที่ชนครั้งแรก การกระแทกอย่างรุนแรงทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขายังกอดกระต่ายที่อยู่ด้านหน้าเขาไว้แน่นๆ ฝืนใช้หุ่นรบของเขาเป็น ‘เบาะรองเนื้อ’ ของกระต่าย

คลื่นพายุสนามแม่เหล็กยังคงแตะถึงส่วนหางของยานหลักบัญชาการ จากนั้นก็ได้ยินส่วนหางของยานรบเริ่มส่งเสียงระเบิดอย่างรุนแรง ต่อให้หลิงหลานพยายามใช้โล่ราชาชงม่ายลดทอนพลังของคลื่นพายุสนามแม่เหล็กอย่างสุดความสามารถ แต่เธอยังไม่อาจขัดขวางชะตาสุดท้ายของยานรบไว้ได้ภายใต้พลังที่น่ากลัวของคลื่นพายุสนามแม่เหล็ก ส่วนหางของยานรบไม่สามารถหลบหนีได้พ้นทั้งหมด ยานรบถูกทะเลพายุสนามแม่เหล็กทำลายจนแหลกกระจุยกระจายมากกว่าหนึ่งในสี่…

————————-