ตอนที่ 521 วางแผนร้าย และให้ความร่วมมือในการสืบสวน
อวี๋กานกานถูก “กิน” ตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง ทั้งตัวอ่อนปวกเปียกถูกฟังจือหันอุ้มไปล้างตัวในห้องน้ำเรียบร้อยหนึ่งรอบ
ฟังจือหันเรียกให้อาหารมาส่งที่ห้อง
หลังจากอวี๋กานกานกินข้าวก็อยากจะกลับไป แขนยาวของฟังจือหันโอบกอดเธอจากทางด้านหลังพลางเล่นนิ้วมือของเธอ “คุณอยากกลับบ้านมีงานเหรอ”
มือหยกไร้ที่ติของเธอคู่นั้น นิ้วทั้งเรียวทั้งยาวพอดี สวยมาก
อวี๋กานกานส่ายหน้า “ไม่มีธุระอะไร”
“งั้นก็ไม่ต้องกลับแล้ว” ฟังจือหันเอียงคอเล็กน้อย จูบเบาๆ บนเส้นผมเธอ ขยับเข้ามาให้ข้างหู พ่นลมใส่ราวกับแหย่เล่น
“ไม่ได้”
อวี๋กานกานจะลุกขึ้นก็ถูกฟังจือหันกดลงไปอีก ครั้งนี้นั่งลงบนหน้าขาของเขาโดยตรง กอดแน่นอยู่ในอ้อมแขน เธอหันหน้าไปพลางต้องการจะพูดอะไร ริมฝีปากถูกจูบเสียแล้ว
แรกเริ่มยังอยากจะขัดขืน ตอนท้ายถูกแหย่เสียจนทนไม่ไหว อ่อนกลายเป็นน้ำในฤดูใบไม้ผลิในอ้อมแขนเขา
กินปลารอบใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว ตอนที่เขาจะได้กินปลาชั่วขณะนั้นจู่ๆ ก็หยุดลง
เขาต้อนถามเธอในเวลาสำคัญว่าอยากจะกลับบ้านหรืออยู่ต่อ อวี๋กานกานอยากจะกัดเขาให้ตายในวินาทีนั้น
มีที่ไหนทำได้ครึ่งหนึ่งแบบนี้แล้วข่มขู่กัน
ผู้ชายชั่วร้าย
ฟังจือหัน
ตอนกลางคืนลืมลากผ้าม่าน วันถัดมาแสงแดดประกายกระทบกับเตียง เธอที่ขดตัวในอ้อมแขนของฟังจือหันนั้นนอนหันหน้าไปทางพระอาทิตย์พอดี
เธอขมวดคิ้วและตื่นขึ้นมา จากนั้นก็หลบในอ้อมแขนของฟังจือหัน
มือของชายหนุ่มที่วางอยู่บนเอวเธอรัดแน่น น้ำเสียงเฉื่อยชา มีเสน่ห์ดังขึ้นมา “ตื่นแล้ว”
นึกถึงความน่าชังของคนบางคนเมื่อคืน จงใจรังแกเธอบนเตียง จงใจล่อลวงเธอจนหยุดไม่ได้ อวี๋กานกานก็โกรธแทบตาย หยิกไปแรงๆ ที่มือของเขาบนเอวเธอสักหน่อย เนื้อด้านเกินไปหยิกไม่รู้สึก จำต้องถีบเขาทีหนึ่งอีกครั้ง
ฟังจือหันหลับตา ส่งเสียงหัวเราะเอื่อยเฉื่อยออกมา พลิกตัวขึ้นมากดเธอไว้ใต้กาย
ทั้งคู่หัวเราะหยอกล้อกันบนเตียงเป็นเวลานาน ระหว่างนั้นอวี๋กานกานก็ถูกกินอีกครั้งหนึ่ง
ผู้ชายคนนี้บ้าอยู่หน่อยๆ!
อวี๋กานกานกินข้าวเช้าเสร็จ ตอนที่กลับถึงบ้านก็เป็นตอนกลางวันแล้ว
เธอคิดว่าจะอธิบายกับอาจารย์เหม่ยเหรินยังไงมาตลอดทาง เรื่องที่เมื่อวานเย็นไม่ได้กลับบ้าน
ควรโกหกไหมนะหรือว่าบอกไปตามตรงดีล่ะ
อาจารย์เหม่ยเหรินจะโกรธมากไหมนะ ถึงอย่างไรแต่ก่อนก็วางเงื่อนไขเอาไว้ชัดเจนว่าไม่อนุญาตให้ค้างข้างนอก
อวี๋กานกานผลักประตูเบาๆ โผล่หัวเข้าไปเห็นเหอสือกุยที่กำลังนั่งอยู่ตรงโซฟา เธอรีบยิ้มเอาใจ “อาจารย์เหม่ยเหรินคะ”
“ไม่ใช่ว่าบอกว่าจะดูแลฉันเหรอ ไปไหนมา ยังไม่รีบไปทำอาหารอีก” เหอสือกุยกลับไม่ได้ถามเธอว่าเมื่อวานไปไหน คล้ายกับว่าไม่รู้ว่าเมื่อคืนวานเธอไม่ได้กลับมาเสียอย่างนั้น
อวี๋กานกานยกถุงในมือขึ้นมาครู่เดียว เมื่อกี้ระหว่างทางกลับเธอซื้อผักมา ยิ้มพร้อมกับเอ่ย “ฉันซื้อผักมาแล้ว จะรีบไปทำค่ะ…”
พลันเสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้นมา
อวี๋กานกานซึ่งกำลังล้างผักอยู่รีบวิ่งออกมาจากห้องครัว “อาจารย์เหม่ยเหริน คุณนั่งลง ไม่ต้องขยับ ฉันไปเปิดประตูเองค่ะ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจสวมชุดตำรวจหลายนายยืนอยู่ด้านนอกประตู ตำรวจที่ยืนอยู่ตรงกลางมีสีหน้าเคร่งขรึม เห็นอวี๋กานกานก็เอ่ยถาม “ไม่ทราบว่าใช่คุณอวี๋กานกานไหมครับ”
อวี๋กานกานพยักหน้า ดวงหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
“รบกวนคุณตามไปสถานีกับพวกเราเพื่อให้ความร่วมมือในการสืบสวนหน่อยครับ”
“ให้ความร่วมมือในการสืบสวน?” อวี๋กานกานมองพวกเขาอย่างไม่เข้าใจ
เหอสือกุยก็เดินออกมาและเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ สงสัย “ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมต้องให้เธอไปให้ความร่วมมือในการสืบสวนด้วย”
ตำรวจหลายคนกลับไม่ได้ให้คำตอบอวี๋กานกานกับเหอสือกุยที่นี่ว่าเพราะเรื่องอะไร ถ้าพวกเขามีคำถามค่อยไปถามที่สถานีตำรวจ
ตอนที่ 522 ใส่ร้าย เหตุผลต่างๆ นานา
บรรยากาศในห้องสอบปากคำที่สถานีตำรวจกดดันและอึดอัดมาก ท้องฟ้าเมืองไป๋หยางมีแสงแดดสดใส แต่ในตอนนี้ทำให้รู้สึกว่าโดนม่านหมอกปกคลุมเป็นชั้นๆ ไปหมด ทำให้อารมณ์ไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกหม่นหมองเกินบรรยาย
ตำรวจชายมองอวี๋กานกานซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามพลางเอ่ยถาม “คุณอวี๋กานกาน ไม่ทราบว่ารู้จักคุณผู้หญิงสวีอวี้หลันหรือไม่”
ชื่อแซ่นี้คุ้นมาก เพียงแวบเดียวอวี๋กานกานก็นึกออกในหัวว่าเธอคือใครแล้ว จึงพยักหน้าลง “ฉันรู้จักเธอค่ะ เมื่อวานฉันเจอเธอที่โรงพยาบาล เธอป่วยมีอาการเวียนหัว ฉันเป็นหมอคนหนึ่ง ฉันจึงประคองเธอเข้าไปในโรงพยาบาล จากนั้นไม่นานยังทำการตรวจรักษาให้เธอด้วย ไม่ทราบว่าเธอเป็นอะไรเหรอคะ”
ตำรวจชายเอ่ย “เมื่อวานพอถึงบ้านหลังจากสวีอวี้หลันกลับจากโรงพยาบาล เล่าให้ลูกชายฟังว่าไม่เวียนหัวแล้วหลังจากที่เธอฝังเข็มไป และต้มยากิน แต่วันถัดมาตอนที่ลูกชายของเธอปลุกให้เธอตื่นก็พบว่าเธอหมดสติไปจึงรีบพาเธอส่งโรงพยาบาล โรงพยาบาลตรวจพบว่าเธอหัวใจล้มเหลว เสียชีวิตแล้วครับ”
อวี๋กานกานมีสีหน้าซีดเผือดในพริบตา แทบไม่อยากจะเชื่อ “นี่มันเป็นไปไม่ได้ ไม่น่าเลย…เมื่อวานฉันจับชีพจรให้เธอ เธอเวียนหัวจริง แต่ว่าระบบการทำงานหัวใจของเธอปกติมากทั้งหมด เป็นไปได้ยังไงที่จู่ๆ คืนเดียวก็…”
ตำรวจชายไม่ได้ตอบคำถามอวี๋กานกาน
เขาเลื่อนใบสั่งยาที่ใส่ซองพลาสติกอย่างดีไปตรงหน้าอวี๋กานกาน “งั้นคุณลองดู นี่เป็นใบสั่งยาที่คุณออกใช่หรือไม่”
อวี๋กานกานหลุบตามองครู่หนึ่ง นี่เป็นใบสั่งยาที่เธอออกให้จริง แต่ว่าดูให้ละเอียด ยาสามตัวสุดท้ายนั้นกลับไม่ใช่ที่ตนเองสั่งเลย
การเพิ่มยาทั้งสามตัวนี้คือทำให้ยาที่รักษาอาการป่วยอย่างหนึ่งกลายเป็นยาที่เป็นอันตรายอย่างหนึ่ง
มิน่าสวีอวี้หลันถึงได้หัวใจล้มเหลว!
อวี๋กานกานรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่งในชั่วขณะ
เธอรู้สึกว่าร่างกายคล้ายกับตกลงไปในห้องน้ำแข็ง เย็นเฉียบดุจหิมะตั้งแต่หัวจรดเท้า
ยาสามตัวด้านท้ายใบสั่งยานี้ใครเป็นคนเพิ่มกัน
ลายมือคล้ายกับของเธอขนาดนั้นแทบจะพูดได้ว่าเหมือนไม่มีผิดเลย!!
นี่มันคือการวางแผนและใส่ร้ายโดยสิ้นเชิง ราวกับว่าวางแผนร้ายเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
เธอส่ายหน้า รีบอธิบายกับตำรวจ “ฉันเป็นคนออกใบสั่งยานี้ แต่ว่ายาสามตัวนี้ฉันไม่ได้เขียน แม้จะคล้ายกับตัวหนังสือฉัน แต่ก็ไม่ใช่ลายมือฉัน เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะสั่งยาสามตัวนี้ ตอนนั้นที่รักษาให้ หมอซย่า ซย่าเฉิงโจวก็อยู่ด้วย ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไปถามเขาได้”
ตำรวจตอบเธอ “เราไปหาซย่าเฉิงโจวในทันทีแล้ว เขาบอกเราว่าทุกอย่างที่คุณออกในใบสั่งยาก็ไม่ได้มียาสามตัวนี้อยู่ ไม่เช่นนั้นตอนนี้เราคงไม่ตามให้คุณมาให้ความร่วมมือในการสืบสวนแล้ว”
อวี๋กานกานมีสีหน้าเคร่งเครียด คาดเดาถามดู “มีคนใส่ร้ายฉันเหรอ”
“ถ้ายาสามตัวนี้ไม่ใช่คุณที่เป็นคนเขียน งั้นผลก็ชัดเจนแล้วว่ามีคนกำลังใสร้ายคุณ เพียงแต่คุณอวี๋กานกาน ยาสามตัวท้ายนี้คุณไม่ได้เขียนจริงๆ ใช่ไหม เราต้องทำการพิสูจน์ลายมือด้วยนะ”
ในน้ำเสียงของตำรวจชายไม่เชื่ออวี๋กานกานเลยสักนิดเดียว
อวี๋กานกานตอบอย่างหนักแน่นและแน่วแน่มาก “ฉันไม่ได้เขียน! ฉันสาบานกับฟ้า ถ้ายาสามตัวนี้ฉันเป็นคนเขียน ให้สวรรค์ลงโทษฉัน ต้องไม่ตายดี!”
“ระหว่างที่ยังไม่ชัดเจนยังต้องให้คุณอวี๋อยู่ที่สถานีตำรวจเพื่อให้ความร่วมมือในการสืบสวนชั่วคราว”
อวี๋กานกานรู้ความหมายของเขา
บอกว่าเชิญเธอมาให้ความร่วมมือในการสืบสวน ที่จริงดำเนินการตรวจสอบเธอในฐานะผู้ต้องสงสัยกระทำความผิด
ประตูห้องสอบปากคำมีคนเปิดออก ตำรวจหญิงคนหนึ่งเดินข้าวมาบอก “ทนายของคุณอวี๋มาแล้ว ขอเข้าพบคุณอวี๋ค่ะ”