ปล่อยให้เยี่ยเฟิงแก้ปัญหาน่ะเหรอ

ถ้าเยี่ยเฟิงเอาชนะได้ เขาจะถูกข่มเหงรังแกอย่างโหดร้ายขนาดนี้รึ

ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้มีเยี่ยเฟิงห้าคนก็ยังเอาชนะฝูกวงไม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงผู้นำกองธงกล้วยไม้เลย

กู้ชูหน่วนเริ่มปวดหัว

ยังไม่ทันที่นางจะคิดวิธีดีๆ ออก ทหารอารักขาของอัครมเหสีฉู่ก็เริ่มโจมตีผู้นำกองธงกล้วยไม้และผู้ติดตาม

แต่น่าเสียดาย แม้ว่าทหารอารักขาของอัครมเหสีฉู่จะมีวรยุทธ์ล้ำเลิศแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังไม่ใช่คู่มือของเหล่าจตุมหาราชาของผู้นำธงกล้วยไม้อยู่ดี

การเกิดเรื่องขึ้นที่นี่ทำให้เหล่าพระภิกษุในวัดไป๋อวิ๋นตื่นตระหนก ภิกษุในวัดไป๋อวิ๋นล้อมผู้นำกองธงกล้วยไม้และคนอื่นๆ เอาไว้ การต่อสู้กำลังจะปะทุ

กู้ชูหน่วนรู้ว่าทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น วัดไป๋อวิ๋นจะเจิ่งนองไปด้วยเลือด

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตึงเครียด กู้ชูหน่วนจึงขี้เกียจคิดให้มากความ นางยืดตัวบิดขี้เกียจและก้าวออกมาอย่างเกียจคร้าน มือหนึ่งจับมือเล็กๆ ที่เย็นชืดของเยี่ยเฟิงไว้ ปากก็ประชดอย่างเย้ยหยัน

“ข้าก็คิดว่าพวกเจ้าเป็นใครเสียอีก ที่แท้ก็เป็นหมีใหญ่หน้าโง่ห้าตัวนี่เอง”

วืบ…

อุณหภูมิโดยรอบเย็นลงอย่างฉับพลัน ทุกคนหันขวับไปมองกู้ชูหน่วน

เยี่ยเฟิงหวาดผวายิ่งขึ้นไปอีก

เขาพยายามดึงมือออกเพราะไม่ต้องการให้ผู้นำธงกล้วยไม้เห็นว่าเขากับกู้ชูหน่วนสนิทกันแค่ไหน

แต่วันนี้ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนเป็นลมบ้าหมูอะไร นางจับมือเขาแน่น ไม่ว่าดึงอย่างไรเขาก็ดึงไม่ออก

นอกจากกู้ชูหน่วน อัครมเหสีฉู่ยังเข้ามากุมมือเล็กๆ ที่เย็นเยียบของเขาอย่างไม่มีเหตุผล

เยี่ยเฟิงควรจะรู้สึกอบอุ่นเมื่อมีคนกุมมือไว้ทั้งซ้ายทั้งขวา แต่เขากลับไม่รู้สึกเลยสักนิด ทั้งยังรู้สึกเหมือนตกลงไปในโพรงน้ำแข็ง

ผู้นำกองธงกล้วยไม้มองเห็นการกระทำทั้งหมดของพวกนาง รังสีอำมหิตฉายวาบอยู่ในดวงตาคู่นั้น “เจ้าเป็นใคร”

“ข้าน่ะเหรอ ก็ไม่ใช่ใครหรอก เป็นคนรักของเยี่ยเฟิงน่ะ อืม… จะว่าเป็นคนที่หมายปองก็ได้”

เยี่ยเฟิงใจหายวูบเมื่อได้ยินคำว่า ‘คนรัก’

ไม่รู้ว่าเขาเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนและดึงมือออกจากการเกาะกุมของกู้ชูหน่วนและอัครมเหสีฉู่

แข้งขาของเขาอ่อนแรง เขาก้มศีรษะลงกับพื้นและคุกเข่าต่อหน้าผู้นำกองธงกล้วยไม้ ดูต่ำต้อยราวกับมดปลวก

“ท่านผู้นำกองธง เยี่ยเฟิงกับนางบริสุทธิ์ใจ แม้แต่เพื่อนก็ยังไม่ใช่ ท่านผู้นำกองธงโปรดอย่าเชื่อคำพูดของนาง เยี่ยเฟิงจะตามท่านกลับไปที่หุบเขาพิศวิญญาณทันทีและจะไม่ออกมาจากที่นั่นอีกตลอดชีวิต ขอเพียงแค่ท่านผู้นำกองธงเมตตา ไว้ชีวิตทุกคนที่นี่”

กู้ชูหน่วนกำหมัดแน่น นางรู้สึกแย่ ทั้งโกรธทั้งเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

ตลอดหลายปีมานี้เจ้าคนวิปริตนี่ทรมานเขาอย่างไรบ้าง ถึงทำให้คนที่เย็นชาและโอหังอย่างเขาหวาดผวาได้เช่นนี้

เมื่อนึกถึงตอนที่พบเยี่ยเฟิงในภูเขากันดารหลังจากที่เขาถูกเหยียดหยาม นึกถึงร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่ยังไม่หายจนกระทั่งบัดนี้ ความโกรธของกู้ชูหน่วนก็ล้นทะลักออกมา

อัครมเหสีฉู่เองกยิ่งเป็นทุกข์

พระองค์ไม่กล้านึกเลยจริงๆ ว่าเยี่ยเฟิงต้องประสบพบเจอกับความเลวร้ายแบบใดมา เขาจึงได้มีท่าทีหวาดกลัวเช่นนี้

ผู้นำกองธงกล้วยไม้ดูเหมือนจะคุ้นชินกับความถ่อมตนของเขา เขาเพียงแค่หัวเราะเยาะ ไม่ได้พยายามปกปิดจิตสังหารเอาไว้เลยแม้แต่น้อย

“เจ้าเป็นคนของข้า ใครที่แตะต้องเจ้า ข้าจะฆ่าให้หมด”

เยี่ยเฟิงเงยหน้าขึ้นมาอย่างฉับพลัน ใบหน้าของเขาขาวซีด ร่างกายสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่อยู่

กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ ท่าทางเต็มไปด้วยความเอาแต่ใจและหยิ่งผยอง “ข้าฆ่าเหรอ บนโลกนี้มีคนมากมายอยากจะฆ่าข้า แต่น่าเสียดายที่พวกนั้นไม่มีโอกาส”

นางสาวเท้าไปข้างหน้าช้าๆ ในมือซ่อนเข็มพิษซึ่งมีพิษของลูกศรพิษ*เอาไว้ เตรียมพร้อมแล้วที่จะพินาศไปพร้อมกับเขา

ฝูกวงก้าวตามกู้ชูหน่วนที่อยู่เบื้องหน้า รอนางออกคำสั่งเพื่อเริ่มการต่อสู้

หนึ่งต่อสาม เขามั่นใจมาก

หนึ่งต่อสี่ เขายอมสู้จนตัวตาย

ส่วนผู้นำกองธงกล้วยไม้…

ลูกศรพิษคือชื่อไม้มีพิษชนิดหนึ่ง