บทที่ 847 ตอบถูกมีรางวัล Ink Stone_Fantasy
“หื้ม?”
ในพุ่มหญ้า ไคลี่กวาดมองไปรอบตัวอย่างงุนงงเล็กน้อย
บ้านหลังนั้นหายไปแล้ว เธอเห็นแต่ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่อยู่ตรงหน้า
“ที่แท้เหตุการณ์เมื่อกี้ก็แค่ต้องการให้พวกเราไขว้เขวสินะ…” ไคลี่ชักปืนพกออกมาอย่างเงียบงัน สายตาสะท้อนแววระแวดระวัง “แยกพวกเราออกจากกัน คือจุกประสงค์ที่แท้จริงของพวกมัน…”
เธอยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน แต่ร่างกายกับจิตใจกลับเกร็งไปหมดทุกส่วนแล้ว
ไคลี่กำลังรอ รอจังหวะที่อีกฝ่ายลงมือก่อน
“อีกสามคนถึงแม้จะเจอเรื่องแบบเดียวกัน ก็ไม่มีทางลนลานแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อมีรองหัวหน้าทีมอยู่ เขาต้องหาทางทำลายโลกมายาอย่างเร็วที่สุดแน่นอน…เจ้าผีกับเป่ยเฟิงเองก็เหมือนกัน ดังนั้นพวกมันทำได้เพียงล้มเลิกการโจมตีรายตัว ตรงกันข้าม เพื่อใช้ประโยชน์จากโลกมายาให้ได้มากที่สุด พวกมันทำได้เพียงเลือกทำสงครามด้วยวิธีที่ประหยัดเวลามากที่สุดเท่านั้น…”
ไคลี่ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที เธอหยักยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “หนึ่งต่อหนึ่ง!”
ในขณะนั้นเอง สัมผัสอันตรายแปลกๆ พลันพลุ่งพล่าน
เธอทำได้เพียงเหลือบมองข้างหลังด้วยหางตา ขณะเดียวกันก็เขย่งปลายเท้า กระโดดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ เธอได้หมุนตัวกลับมา และยกปืนขึ้นยิงดัง “ปังปังปัง” อย่างไม่ลังเล
แสงสว่างวูบวาบจากปากปืน ทำให้ไคลี่ตะลึงค้าง
ตรงหน้าเธอ…ไม่มีใครเลย…
“ไม่ใช่ไม่มี แต่เธอมองไม่เห็นต่างหากล่ะ…
เสียงเด็กสาวเสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลังเธอ ไคลี่สัมผัสได้ถึงอันตรายที่รุนแรงยิ่งกว่าเมื่อกี้หลายเท่าทันที
“ตัดสินผิดพลาด? เป็นไปไม่ได้!”
ไคลี่สัมผัสได้ว่าประกายอาวุธมีคมกำลังฟาดฟันลงมาจากบนศีรษะ เธอยกแขนข้างหนึ่งขึ้น ใช้ปืนยิงระเบิดป้องกันตัวเองไว้
“เคร้ง!”
พละกำลังมหาศาลฟาดฟันลงมา ไคลี่ร้องครวญ พร้อมกับล้มลงไปบนพื้นอย่างแรง
ขณะที่ล้มลงไป หัวใจของไคลี่เต้นแรงจนแทบคลั่ง เธอกลิ้งตัวหลบออกไปด้านข้างอย่างไม่คิดชีวิต แต่ความเจ็บปวดก็ยังคงแผ่ซ่านมาจากส่วนขา
ไคลี่กรีดร้องเจ็บปวดอีกครั้ง เธอตะเกียกตะกายกระเด้งตัวขึ้นยืน แบกปืนยิงระเบิดไว้บนไหล่ กระสุนปืนไรเฟิลระเบิดมือพุ่งแหวกอากาศไปอย่างรวดเร็ว
“บึ้ม!”
เสียงอึกทึกโครมครามดังสนั่นท่ามกลางทุ่งหญ้า ต้นหญ้าและเศษดินมากมายกระจุยกระจาย
ไคลี่ไม่มีเวลาตรวจสอบบาดแผลตัวเอง เธอจ้องเขม็งไปยังข้างหน้าด้วยสายตาเย็นชา
ทันใดนั้น ม่านตาเธอหดเล็กลง เธอตีลังกากลางอากาศหลายตลบไปข้างหลัง เพื่อดึงระยะห่างออกจากกลุ่มฝุ่นควันนั้น
“ไม่เห็นมีใคร…ไม่มีกลิ่นเลือด…ในสถานการณ์อย่างนั้นก็ยังสามารถหลบไปได้โดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยงั้นหรอ?” เธอกวาดมองรอบกายด้วยหางตาไม่หยุด ในขณะที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิมไม่กล้าขยับเขยื้อน
“แรงกดดันรุนแรงมาก…ทั้งที่มองไม่เห็นตัวคน แต่กลับสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องฉันอยู่ตลอดเวลา…เพราะอะไร? การเคลื่อนไหวของฉันถูกเธอมองทะลุปรุโปร่งหมดเลยงั้นหรอ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าไคลี่ได้เลือนหายไปแล้ว จากเสียงพูดของเด็กสาวเมื่อกี้ เธอสัมผัสได้ถึงความกระหายเลือดและความโหดร้ายที่มากกว่าตัวเอง เทียบกับกลิ่นอายกระหายเลือดของอีกฝ่าย รังสีอำมหิตเล็กน้อยของเธอกลายเป็นอ่อนด้อยไปเลย…
“ไม่น่าล่ะ…นิสัยที่ฉันแสดงออกถือได้ว่าเป็นการข่มขวัญภายนอกอย่างหนึ่ง หากเป็นคนธรรมดาก็จะรู้สึกอึกอัด หรือกระทั่งกลัว เมื่อเป็นอย่างนั้นเวลาต่อสู้กันอีกฝ่ายก็จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบโดยไม่รู้ตัว แต่หลิงม่อกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรเลย…ดูจากตอนนี้ เหมือนเขาเคยชินกับนิสัยอย่างนี้ไปแล้ว!”
“เมื่อกี้เธอบอกว่าฉันมองไม่เห็น อะไรกันแน่ที่ฉันมองไม่เห็น!”
ระหว่างที่ประมือกันช่วงสั้นๆ แขนของไคลี่ได้รับบาดเจ็บ บนน่องก็มีบาดแผลลึกเป็นเส้นยาว เลือดสดๆ ไหลอาบหลังเท้าของเธอ และกลายเป็นแอ่งเลือดอยู่ใต้เท้าเธออย่างรวดเร็ว
เด็กผู้หญิงคนนี้…แกร่งมาก!
ไม่ว่าจะเป็นองศาการโจมตี และจังหวะที่เลือกโจมตี ล้วนไม่เหมือนสิ่งที่ผู้มีความสามารถพิเศษทำได้
ไคลี่ได้ผ่านการฝึกอบรมพิเศษจากฟอลคอนมาแล้วครึ่งปี การต่อสู้ระยะประชิดของเธอถือว่ายอดเยี่ยม แต่เมื่อเทียบกับวิธีการต่อสู้อันแปลกประหลาดยากจับทิศทางของเด็กสาวคนนี้แล้ว เธอด้อยกว่าหนึ่งขั้นอย่างเห็นได้ชัด
“แต่ฉันรู้สึกได้ว่าเธออยู่ใกล้ๆ ในเมื่อเป็นอย่างนี้…”
แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไคลี่รู้สึกร้อนรน มือเธอกระตุกสั่น แล้วปากปืนก็ถูกยกขึ้น ร่างกายก็โฉบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปพร้อมกัน
เมื่อเงาร่างของเธอโฉบหลบเข้าไปในพุ่มหญ้าด้านข้าง เสียง “ตึงตึงตึง” ของปืนก็ดังขึ้นรัวๆ
เธอกราดยิงไปรอบทิศ มองแวบแรกราวกับว่าลูกกระสุนกำลังพุ่งแหวกอากาศไปพร้อมๆ กันทั้งสี่ทิศ
“ถึงแม้จะไม่สามารถหนีออกจากโลกมายาไปได้จริงๆ แต่ถ้าทำอย่างนี้ไม่แน่อาจบีบให้อีกฝ่ายออกมาจากพุ่มหญ้าได้ เพียงแต่ถ้าทำอะไรส่งเดช อาจทำให้คนอื่นๆ ที่อยู่ในโลกมายาได้รับบาดเจ็บ และอาจทำให้ตัวเราเองได้รับบาดเจ็บด้วย…”
ไคลี่เพิ่งจะเคลื่อนไหวไปได้ไม่ถึงร้อยเมตร ทันใดนั้น สายตาคู่หนึ่งก็พุ่งเข้ามาจากข้างหลัง
ความรู้สึกที่เหมือนกำลังถูกแอบมองอย่างนี้ทำให้ไคลี่สัมผัสได้ถึงอันตรายทันที ไอเย็นแผ่ปกคลุมไปทั่วร่างกายทุกส่วนของเธอ
แต่ในขณะที่เธอหมุนกลับไปกายและยกปืนขึ้นเล็งอย่างรวดเร็ว ตรงหน้าเธอ ไม่มีใครอยู่อีกแล้ว!
ประกายดาบพลันฟาดฟันเข้ามาจากด้านข้าง ไคลี่ขนลุกไปทั้งตัว เธอรีบพุ่งตัวไปข้างหน้าทันที
แต่ในขณะที่เธอลอยตัวอยู่กลางอากาศ เงาร่างหนึ่งกลับโฉบผ่านไปอย่างรวดเร็ว และมาปรากฏตัวอยู่ข้างกายเธอ
ผมยาวของอีกฝ่ายปลิวไหว ดวงตาสีดำลึกล้ำคู่นั้นจ้องมองเธอ พร้อมรอยยิ้มกระหายเลือด
ไม่รู้เพราะอะไร ไคลี่เหมือนมองเห็นความรู้สึกที่ขัดแย้งกันบนตัวเด็กสาวคนนี้ ราวกับว่าในดวงตาของอีกฝ่าย ยังมีดวงตาอีกคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเธออยู่
“อ๊าา!”
ไคลี่ร้องลั่นตกใจ แต่เธอเพิ่งจะยกปืนขึ้น มือของเด็กสาวคนนั้นก็พุ่งออกมาอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าฟาด
ขณะเดียวกันสัมผัสคมกริบที่มองไม่เห็นฟาดฟันลงมาบนศีรษะ ไคลี่หน้าซีดขาว รู้สึกตาพร่ามัว
“นี่มันพลังพิเศษอะไรกันแน่!”
แม้จะเป็นแค่เสี้ยววินาที แต่เมื่อไคลี่ได้สติ มือข้างที่ถือปืนของตัวเองกลับถูกอีกฝ่ายจับไว้ได้แล้ว และนิ้วมือของอีกฝ่ายก็สอดคาไว้ตรงไกปืน ขณะเดียวกันท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเธอ เด็กสาวคนนี้พุ่งตัวเข้าหาเธอ แล้วพาเธอล้มลงไปพื้นด้วยกัน
ขณะที่ล้มลงกับพื้นอย่างแรง ประกายดาบสายหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นด้านหลังไหล่ของเด็กสาว
เธอแกว่งไกวเคียวดาบขึ้น และฟาดฟันคมดาบรูปจันทร์เสี้ยวตรงไปยังตำแหน่งหัวใจของไคลี่
ไคลี่ม่านตาหดตัว ทั้งความเร็วและกระบวนท่าต่อสู้ของเด็กสาวคนนี้ทำให้เธอไม่อาจต้านทานได้ เดิมนึกว่าหลิงม่อคือเหยื่อของเธอ แต่กลับไม่คิดเลยว่าหลิงม่อไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตาด้วยซ้ำ…ความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดและอาวุธร้อนของเธอสามารถกำราบผู้มีความสามารถพิเศษส่วนมากได้จริงๆ โดยเฉพาะผู้มีความสามารถพิเศษด้านพลังจิต แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเด็กสาวคนนี้เธอกลับไร้ซึ่งพละกำลังโต้กลับ…
“คิดจะฆ่าฉันหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ตายไปด้วยกันเลย!” ไคลี่ตวาดคำรามอย่างชั่วร้าย เธอปล่อยปืนยิงระเบิดในมือ พร้อมกับตบไปที่เอวตัวเอง เดิมทีเธอยากจะสามารถทำอย่างนี้ได้ในขณะที่ยังอยู่ในท่านี้ แต่เมื่อดวงตาของเธอเริ่มแดงก่ำช้าๆ ร่างกายของเธอก็ระเบิดพละกำลังที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อกี้ออกมาทันที…
“ฮิฮิ ร้ายดียังไงฉันก็เคยฝึกอาวุธมาก่อน…เทียบกันเรื่องความเร็ว เธอไม่มีทางตามฉันทันแน่นอน เทียบพละกำลัง…ถึงแม้พละกำลังที่เธอระเบิดออกมาในตอนนี้ถือว่าพอสูสีกับซอมบี้ชนชั้นสูงได้ แต่ฉันไม่ใช่ชนชั้นสูงธรรมดาหรอกนะ…”
เมื่อรอยยิ้มของเด็กสาวแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา ไคลี่ก็รู้สึกราวกับวิญญาณแทบหลุดจากร่าง
เธอกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งหนักกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็เร่งมือเร็วขึ้นด้วย
“สวบ!”
เคียวดาบฟาดฟันลงมา และแทงเข้าไปในหน้าอกของไคลี่ “ฉึก”
เด็กสาวไม่แม้แต่มองมืออีกข้างของไคลี่ ดวงตาข้างหนึ่งของเธอกลายเป็นสีแดงอย่างน่าประหลาด และด้านกลังไคลี่ ก็มีเงาร่างสีแดงปรากฏขึ้นหนึ่งเงา
“ไม่ใช่เหมือนมีคนกำลังจ้องเธอหรอกนะ แต่น่าน่าขี่หลังเธออยู่ตลอดต่างหากล่ะ…เธอหลงนึกว่าหนึ่งต่อหนึ่ง แต่ความจริงเป็นพวกเราสองคนรุมเธอหนึ่งคนต่างหาก…”
ซย่าน่าคิดอย่างได้ใจ
ที่ผ่านมา พอน่าน่าแยกร่างออกไป เฮยน่าก็จะได้รับผลกระทบจากสัญชาตญาณของซอมบี้โดยตรง
นี่ถือเป็นเรื่องดีสำหรับซอมบี้ทั่วไป แต่สำหรับซย่าน่าไม่ใช่อย่างนั้น
และเมื่อความสามารถกลายพันธุ์ของเธอถูกปลุกตื่น ความสัมพันธ์ระหว่างน่าน่ากับเฮยน่าก็เริ่มแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ทั้งสามารถแยกร่างได้ตลอดเวลา และสามารถรวมร่างได้ตลอดเวลาด้วย
ถึงแม้ไม่สามารถอยู่ในสภาวะแบบนี้ไปได้นานๆ แต่พลังที่สามารถแสดงออกมากลับต่างไปจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เกรงว่าเธอคงไม่สามารถเอาชนะไคลี่ได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ แต่เมื่อมีข้อมูลที่หลิงม่อให้มาบวกกับความสามารถในตอนนี้ พลังที่ซย่าน่าสามารถแสดงออกมาได้ไม่ใช่แค่พลังของซอมบี้ชนชั้นสูงตัวเดียว แต่ยังมีพลังลึกลับที่คล้ายกับผู้มีความสามารถพิเศษด้านพลังจิตอีกด้วย!
“สองรุมหนึ่ง ถึงจะฟังดูเหมือนรังแกคนไปหน่อย แต่ฉันไม่ได้เป็นคนอยู่แล้วนี่นา!อีกอย่างผู้หญิงคนนี้…ฉันเกลียดขี้หน้าหล่อน!” ถึงอย่างไรซย่าน่าก็ยังคงมีนิสัยเป็นเด็กวัยรุ่นสาว พอได้ยินว่าผู้หญิงคนนี้กล้าหมายหัวหลิงม่อ เธอก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที
“คิดจะแย่งอาหารฉัน…ไม่สิ คิดจะแย่งคู่ครองฉันเรอะ!”
เมื่อดวงตาข้างนั้นของซย่าน่ากลายเป็นสีแดงสนิท บุคลิกที่ประหลาดเกินคำบรรยายก็แผ่ปกคลุมรอบตัวเธอทันที
ไคลี่เบิกตากว้าง มือของเธอก็เคลื่อนไหวช้าลงไปด้วย
ร่างกายทุกส่วนของเธอสั่นเทิ้มอย่างควบคุมไม่ได้ หัวใจก็บีบรัดอย่างรุนแรง
คมดาบนั่นอยู่ไม่ห่างจากหัวใจของเธอ และในหูของเธอราวกับมีเสียงหนึ่งดังซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด
“ตึกตัก! ตึกตัก!”
เป็นครั้งแรกที่ไคลี่มีสีหน้าหวาดผวา เธอขยับริมฝีปาก แล้วพูดอย่างยากลำบาก “แก…แกไม่ใช่คน…”
“ถูกต้อง! เอาล่ะ ไหนๆ เธอก็อุตส่าห์ตอบถูก ฉันจะให้รางวัลเธอแล้วกัน”
ซย่าน่ายิ้มบาง เธองอเข่านั่งคร่อมอยู่บนตัวไคลี่ ผมยาวสยายลงมาทั้งสองด้าน ดวงหน้าที่มีกลิ่นอายประหลาดนั่นกำลังหันหน้าเข้าหาไคลี่
เคียวดาบที่มีน้ำหนักมหาศาลนั่นถูกเธอถือไว้ด้วยมือข้างเดียว แต่ปลายดาบกลับเสียดแทงอยู่ในหน้าอกของไคลี่ ถ้าเพียงแต่เธอคลายมือแม้แต่นิดเดียว เคียวดาบเล่มนี้ก็จะแทงทะลุร่างกายไคลี่ทันที!
“รางวัลแรกก็คือ…”
ซย่าน่าชะงักไปสองวินาที เธอเอื้อมมืออีกข้างไปจับข้อมือของไคลี่ที่กำลังเตรียมจะโต้กลับ แล้วค่อยๆ บิดข้อมือเธอไปยังทิศตรงข้าม “บอกมาซิว่าทำไมฟอลคอนถึงได้สนใจพี่หลิงนัก ไม่แน่ฉันอาจทำให้เธอตายสบายหน่อย อย่าคิดจะโกหกฉันล่ะ หัวใจและพลังจิตไม่เคยหลอกใครหรอกนะ…”
ซย่าน่าใช้นิ้วมือจับเส้นชีพจรของไคลี่ แล้วพูดพลางหัวเราะ
—————————————————————————–