หานเฟิงเอาของส่วนหนึ่งยัดใส่ในอกลู่ฝาน แล้วพูดว่า “สภาพสังคมนี้ ไม่นายฆ่าฉัน ก็ฉันฆ่านาย ถึงอยู่ในสถาบันสอนวิชาบู๊ มีคนตายอย่างน่าประหลาดจำนวนไม่น้อยทุกปี สิ่งของของพวกเขาจะโดนเก็บกลับมา และส่งให้นักเรียนคนอื่น ผู้ฝึกชี่ไม่กี่คนนี้ สมควรแล้วที่ต้องเจออาจารย์ที่ไร้เยื่อใย”

ฉู่สิงพูดต่อ “ศิษย์น้องลู่ฝาน เอาไปเถอะ อย่างน้อยก็ขายเป็นเงินได้ เราไม่ฆ่าคนปากดีอย่างจ้าวซวี่ ถือว่าเมตตาแล้ว”

ลู่ฝานรับของมาช้าๆ เก็บเข้าไปในอกตัวเอง

เดินไปยังประตูบานใหญ่ หันมามองจ้าวซวี่และคนอื่นบนพื้น

ฉู่เทียนตบไหล่ลู่ฝาน แล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน นายจะค่อยๆ ชินเอง ไม่ว่าจะเป็นโลกนักบู๊ หรือโลกผู้ฝึกชี่ คนตายเป็นเรื่องปกติมาก ฉันจำที่พ่อเคยพูดกับฉันได้ สภาพสังคมก็เป็นเช่นนี้ สิ่งที่เราทำได้ คือพยายามมีชีวิตต่อไปเท่านั้น ศิษย์น้องลู่ฝาน ในเมื่อนายรู้ว่าเป็นค่ายกลพลังแว้งกัด งั้นนายพาเราออกไปได้ไหม”

ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ เดินไปยังประตูบานใหญ่

ทอดถอนใจอย่างเศร้าโศก บางทีศิษย์พี่อาจพูดถูก สภาพสังคมก็เป็นเช่นนี้

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู ลู่ฝานยื่นมือออกไป สายตามองหาจุดสำคัญบนประตูคุ้มครอง

จากความรู้ที่อาจารย์หวูเฉินสอนเขา เกี่ยวกับประเภทค่ายกลของผู้ฝึกชี่ ลู่ฝานมีวิธีเปิดประตูคุ้มครอง เกินสิบวิธี

แต่วิธีพวกนั้น จะเปิดเผยความจริงว่าเขามีพลังชี่

ถึงเขาเชื่อใจในตัวศิษย์พี่ของเขา แต่ลู่ฝานก็ไม่อยากเปิดเผยความลับอันยิ่งใหญ่ออกมา

ดังนั้นอาศัยวิธีที่โง่ที่สุดละกัน

ประตูคุ้มครองที่เต็มไปด้วยค่ายกลแบบนี้ ผู้สร้างต้องทิ้งจุดสำคัญที่ซ่อนอยู่เอาไว้ ไม่งั้น ทุกครั้งที่เจ้าของเข้ามาต้องต่อสู้กับค่ายกลเสมอ นั่นเป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก โดยเฉพาะค่ายกลพลังแว้งกัดแบบนี้ โจมตีอย่างไม่เลือกหน้า

จุดสำคัญที่ว่า ก็คือวิธีเปิดประตูคุ้มครองอย่างถูกต้องและง่ายดายที่สุด บางทีแค่กดเบาๆ หรือไม่ก็พูดออกคำสั่ง ใส่ลงไป หรือไม่ก็เคลื่อนไหวพลังชี่พิเศษออกมา ก็สามารถเปิดประตูได้แล้ว

ตำแหน่งของจุดสำคัญ บนประตูคุ้มครอง หรือบนหุ่นคุ้มครอง บนลายค่ายกล จะมีปรากฏให้เห็น

ถ้าอาจารย์หวูเฉินอยู่ที่นี่ จากประสบการณ์อันแก่กล้าของเขา คงมองไม่กี่ที ก็สามารถหาจุดสำคัญเจอได้

แต่ประสบการณ์ของลู่ฝานยังไม่พอ เขาต้องการเวลา ในการค้นหา

ยังดีที่ค่ายกลพลังแว้งกัดโดนทำลายแล้ว ลู่ฝานจึงไม่กลัวว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝัน แม้จะยืนหน้าประตูนานขนาดไหน

ลู่ฝานดูไปดูมา เหมือนหัวหน้าคนงาน ตรวจสอบไซต์งาน

หานเฟิง ฉู่สิงและฉู่เทียนไม่เข้าใจว่าลู่ฝานทำอะไร พวกเขาหมดปัญญากับประตูคุ้มครอง จึงทำได้เพียงเดินไปดู

หานเฟิงพูดเบาๆ ว่า “ศิษย์พี่คิดว่าศิษย์น้องลู่ฝานมาจากตระกูลแบบไหนกันแน่ อย่าว่าแต่นักบู๊พรสวรรค์อันดับต้นๆ เลย ขนาดเรื่องพวกนั้นของผู้ฝึกชี่ เขาก็รู้เหมือนกัน เกือบเทียบกับนักบู๊ผู้ชาญฉลาดอย่างฉันได้แล้ว”

ฉู่สิงไม่สนใจคำพูดส่วนหลังของหานเฟิง “คงจะเป็นลูกชายของตระกูลใหญ่อย่างแท้จริง แต่ฉันไม่เคยได้ยินว่าในมณฑลมีตระกูลใหญ่แซ่ลู่นะ เฮ้อ อยากรู้เรื่องเขาขนาดนี้ ตอนวันหยุดเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี นายก็ไปเที่ยวเล่นบ้านศิษย์น้องลู่ฝานสิ”

หานเฟิงหัวเราะ แล้วพูดว่า “ช่างเถอะ คุณท่านตระกูลผม ยังรอผมกลับตระกูลอยู่”

ขณะกำลังคุยกัน จู่ๆ ลู่ฝานกดเมฆสีบนประตูคุ้มครอง

วินาทีต่อมา ประตูคุ้มครองเปิดออก