ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 90

เธอเคยสาบานเอาไว้ ว่าต้องล้างแค้นให้เจ้าของร่างเดิมให้ได้

หลิงหลงฟูเหรินค่อย ๆ คืบคลานอยู่บนพื้น ร่ำไห้จนไม่น่ามอง “ฮองเฮาเพคะ ได้โปรดเชื่อหม่อมฉันเถอะเพคะ ภาพภาพนี้เป็นภาพที่หยวนซื่อวาดจริง ๆ”

ฮองเฮายิ้มอย่างเยือกเย็น “เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าบอกว่าหยวนซื่อเป็นคนวาด งั้นข้าก็จะให้หยวนซื่อเข้าวังมาประจันหน้ากับเจ้า”

หลิงหลงฟูเหรินได้แต่ก่นด่าตนเองในใจ หยวนซื่อจะยอมรับว่าภาพนั้นนางเป็นคนวาดได้อย่างไร? และยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เรื่องนี้ถูกปล่อยออกไป เซียงแหยจะต้องโกรธที่นางกุเรื่องสร้างภาพหลอกลวงแน่นอน

แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังมีวิธีทางใดอีก?

ขณะที่แม่นมหยางออกจากวังไปอีกครั้งเพื่อไปรับหยวนซื่อ ฮองเฮาก็มีรับสั่ง ให้คุมตัวหลิงหลงฟูเหรินผู้ทรยศและมักใหญ่ใฝ่สูงไปคุมขังที่ห้องลงทัณฑ์ชั่วคราว

ใบหน้ามหาเสนาบดีเซี่ยซีดเผือด การถูกส่งตัวเข้าไปในห้องลงทัณฑ์ ต่อให้รอดชีวิตออกมาได้ ก็อับอายขายหน้าไปแล้วกว่าครึ่งค่อนชีวิต

นางสนมเหมยที่เห็นมาถึงตรงนี้ ก็อยากที่จะออกไปแล้ว

มหาเสนาบดีเซี่ยกัดฟันพลางกล่าว “พระสนมไม่ว่าอย่างไร วันนี้พระนางก็ยังเป็นคนของเสนาบดีอย่างข้า ได้โปรดเห็นแก่ยศของข้า ช่วยข้าครั้งนี้ด้วย”

นางสนมเหมยมองไปที่เขา “สายตาท่านนี่มันยังไงกัน? ทำไมหยวนซื่อถึงไม่ดีกว่านางพันเท่า? ก็แค่หญิงคนหนึ่ง ท่านทำตัวอย่างกับเด็กทารกหลงหัวปักหัวปำมาสิบกว่าปี วันนี้ข้ากลับเข้าใจความเย็นชาที่หยวนซื่อมีต่อท่านแล้ว”

มหาเสนาบดีเซี่ยเผยสีหน้าหนักอึ้ง “ข้ารู้ แต่ได้โปรดให้พระนางมองถึงอนาคตขององค์ชายสามเถิด ช่วยข้าอีกครั้ง หากนางถูกตราหน้าว่าเป็ยผู้ทรยศ ข้าก็จะได้รับส่วยเสียไปด้วย เพราะฉะนั้น ไม่ว่าภาพนี้จะจริงหรือเท็จ ก็ต้องให้เป็นภาพที่หยวนซื่อเป็นคนวาด”

“ต่อให้สุดท้ายแล้วพิสูจน์ได้ว่าภาพนี้หยวนซื่อเป็นคนวาด ท่านก็จะได้รับผลเสียด้วยเช่นกัน” นางสนมเหมยกล่าวเตือนเขา

มหาเสนาบดีเซี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “ในราชวงศ์นี้ มีขุนนางกว่าครึ่ง ที่ล้วนชื่นชมความสามารของนาง นางจะไม่ถูกตัดสินว่ามีความผิด จะมีคนช่วยเหลือ องค์ชายอานจะออกรับแทนเพื่อไม่ให้นางต้องรับผิด เพราะภาพนี้เป็นภาพที่นางมอบให้องค์ชายอาน”

นางสนมเหมยตกตะลึง ไม่คิดว่าเขาจะพูดประโยคนี้ออกมา

แม้ว่านางสนมเหมยจะไม่ชอบหยวนซื่อ แต่ก็อดเสียใจแทนนางไม่ได้

“ภาพภาพนี้” นางสนมเหมยอดไม่ได้ที่จะพูด “สิ่งที่ท่านได้ยินเฉินหลิงหลงพูด หยวนซื่อในวันนั้น คิดว่าตัวเองได้พบกับตอนจบแล้ว…”

นางสนมเหมยหยุดพูดไป เพราะเธอรู้สึกว่า การพูดประโยคนี้จากฐานะของเธอนั้น มันไม่มีความหมายเลยแม้แต่น้อย

เป็นเพียงความโกรธเคืองที่ออกมาจากผู้หญิงด้วยกัน

มหาเสนาบดีเซี่ยไม่ได้พูดอะไร วันนี้เขาโดนโจมตีหนักเกินไปแล้ว จึงไม่ได้ลำดับอารมณ์ความรู้สึกของตนเองดี ๆ

การที่เขาได้แต่งงานกับหยวนซื่อ เขารู้สึกว่าเคยมีความสุข แต่ตั้งแต่ที่หลิงหลงฟูเหรินเข้าจวนมา ตัวตนของนางก็เปลี่ยนไป ดูเย็นชาและเหินห่าง หรือเป็นไปได้ว่านางจะคิดจริง ๆ ว่าเขาจะปกป้องนางแค่คนเดียวไปตลอดชีวิต?

แม้แต่ชายสามัญธรรมดาทั่วไป ล้วนมีสามเมียสี่สนม เขาเป็นถึงมหาเสนาบดีของยุคสมัยนี้ มีเมียแค่หนึ่งคนสนมอีกหนึ่งคน ซึ่งก็พบได้ยากแล้ว

นางจะไม่พอใจมากไปแล้ว!