เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 988 วิญญาณอมตะเนตรดารา (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT

 

ภาคกลาง แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว

 

ฟางหยวนกำลังหลอมรวมวิญญาณอมตะระเบิดพลัง

 

ทรัพยากรอมตะจำนวนมากหลอมรวมกันและกลายเป็นก้อนของเหลวสีน้ำตาลลอยอยู่กลางอากาศ

 

ด้วยความตั้งใจของฟางหยวน วิญญาณระเบิดพลังพุ่งเข้าสู่มวลของเหลวที่อยู่ตรงหน้า

 

“ขึ้นมา!”

 

ฟางหยวนใช้กำปั้นทุบพื้นส่งเศษดินพุ่งขึ้นสู่อากาศและหลอมรวมเข้ากับก้อนของเหลว

 

นี่คือท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งปฐพีที่ฟางหยวนได้รับมาจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเมื่อไม่นานมานี้

 

มันเป็นผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆที่เขาเข้าร่วมนิกายหลางหยา

 

แน่นอนว่ามันมีราคาที่ต้องจ่าย

 

ฟางหยวนพัฒนาเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะให้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน

 

แม้มันจะไม่ใช่ท่าไม้ตายอมตะแต่มันมีประโยชน์มาก

 

ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งเลือด อสรพิษหลอมรวมโลหิต!

 

เลือดไหลออกมาจากดวงตา จมูก และรูหูของฟางหยวนก่อนจะก่อตัวเป็นอสรพิษโลหิตพุ่งเข้าเลื้อยพันก้อนโคลนกลางอากาศ

 

ฟางหยวนโยนวิญญาณเข้าไปอย่างต่อเนื่องขณะที่อสรพิษโลหิตอ้าปากกลืนพวกมันเข้าไป

 

สองชั่วโมงต่อมาอสรพิษโลหิตจึงหลอมรวมเข้ากับก้อนโคลนอย่างสมบูรณ์

 

บนพื้นผิวของมันถูกเคลือบคลุมไปด้วยเกล็ดอสรพิษสีแดง

 

ฟางหยวนจุดไฟเผา

 

แรกเริ่มเขาใช้ไฟสีฟ้า นี่ทำให้เกิดชั้นน้ำค้างแข็งขึ้นบนเกล็ดอสรพิษ

 

ต่อมาเป็นไฟสีเขียว มันทำให้มอสสีเขียวเติบโตขึ้นบนชั้นน้ำแข็ง

 

สุดท้ายเป็นไฟสีเหลือง มันกลายเป็นรังไหมสีทองที่ส่องประกายงดงาม

 

เมื่อถึงจุดนี้ฟางหยวนก็สามารถผ่านขั้นตอนที่สำคัญที่สุดไปแล้ว

 

เขาถอนหายใจและสามารถพักผ่อนเป็นเวลาสองวันสองคืน

 

เมื่อถึงเวลา ก้อนทองคำก็เติบโตขึ้นเท่ากับกะละมังใบใหญ่

 

ถัดไปเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ

 

ฟางหยวนสูดหายใจลึกก่อนจะส่งวิญญาณพุ่งเข้าโจมตีก้อนทองคำดังกล่าว

 

ด้วยเสียงที่ดังสนั่น ก้อนทองคำระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

“ล้มเหลว!” การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นมืดครึ้ม

 

หากสามารถผ่านขั้นตอนนี้ การหลอมรวมวิญญาณอมตะก็แทบรับประกันความสำเร็จ

 

แต่น่าเสียดายที่มันล้มเหลว

 

ทรัพยากรและหินวิญญาณอมตะทั้งหมดที่เขาลงทุนไปกลายเป็นสูญเปล่า สิ่งเดียวที่เขาได้รับก็คือประสบการณ์ในการหลอมรวมวิญญาณ ในการหลอมรวมครั้งต่อไปเขาจะมีความเชี่ยวชาญมากขึ้นเล็กน้อย

 

หลังจากถอนหายใจ ฟางหยวนปรับอารมณ์ของตนอย่างรวดเร็ว

 

การหลอมรวมวิญญาณอมตะไม่ใช่เรื่อง่าย โอกาสประสบความสำเร็จมีต่ำมาก

 

ความล้มเหลวถือเป็นเรื่องปกติ สิ่งที่เขาสามารถทำมีเพียงรวบรวมทรัพยากรและทดลองหลอมรวมอีกครั้งเท่านั้น

 

ฟางหยวนเคยหลอมรวมวิญญาณกาลเวลาในชีวิตก่อนหน้าและประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะความคิดดาราในชีวิตนี้ ด้วยประสบการณ์เหล่านี้ มันทำให้จิตใจของเขาแข็งแกร่งมากในแง่ของการหลอมรวม

 

หลังจากพักผ่อน ฟางหยวนใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเดินทางไปยังภาคใต้

 

ฟางหยวนบินอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน

 

เหนือขึ้นไปสามารถมองเห็นดวงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า

 

เนตรดารา!

 

นี่คือวิญญาณอมตะที่ฟางหยวนพึ่งได้รับมา

 

มันเป็นรางวัลในการบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่

 

เมื่อฟางหยวนกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะดวงนี้ ดวงตาของเขาส่องประกายขึ้นก่อนจะเริ่มหมุนวน

 

แสงดาวถูกดึงดูดเข้าสู่ดวงตาของเขา

 

วิญญาณอมตะเนตรดาราระดับหกเป็นหนึ่งในสิบวิญญาณที่ลึกลับที่สุด

 

มันเป็นวิญญาณอมตะสายตรวจสอบ

 

ฟางหยวนไม่ได้ขาดวิธีการตรวจสอบ แต่เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เขายังเลือกรับวิญญาณอมตะดวงนี้

 

เหตุผลเป็นเพราะความสามารถของมันที่เกินกว่าท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบทั่วไป

 

เขาสามารถเปลี่ยนดวงดาวบนท้องฟ้าให้เป็นดวงตาของตนเองเพื่อสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง

 

ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใด ตราบเท่าที่มีดวงดาว ฟางหยวนก็สามารถสอดส่อง

 

แม้เขาจะอยู่ที่ภาคกลางแต่เขาจะสามารถตรวจสอบเหตุการณ์ต่างๆของภาคใต้หรือภาคอื่นๆ

 

ด้วยเหตุนี้วิญญาณอมตะเนตรดาราจึงถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในวิญญาณที่ลึกลับที่สุด

 

‘แต่น่าเสียดาย หากมันไม่มีจุดอ่อนนี้ พลังอำนาจของมันจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า’

 

จุดอ่อนของวิญญาณอมตะเนตรดาราคือไม่สามารถใช้งานได้ทันที ก่อนการใช้งาน มันต้องเชื่อมต่อกับดวงดาวบนท้องฟ้า

 

ฟางหยวนกำลังทำขั้นตอนนี้

 

เมื่อเวลาผ่านไป การหมุนวนในดวงตาของเขาก็หยุดลงและปรากฏร่องรอยเล็กๆของแสงดาวอยู่ในดวงตาทั้งสองข้างของเขา

 

ร่องรอยนี้เกิดจากการเชื่อมต่อระหว่างดวงตาของฟางหยวนกับดวงดาวบนท้องฟ้า

 

พลังงานอมตะถูกใช้ไปอย่างต่อเนื่องในการกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะเนตรดารา

 

ร่องรอยแสงดาวในดวงตาของฟางหยวนค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นทีละเล็กทีละน้อย

 

เมื่อเวลาผ่านไป ค่ำคืนก็สิ้นสุดลง

 

‘แสงดาวในดวงตาของข้าจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้มันจะสมบูรณ์แบบ ข้ายังต้องใช้เวลาและความพยายามอีกมาก’

 

หลังจากหนึ่งคืน ฟางหยวนพบว่าเขาใช้องุ่นเขียวอมตะไปถึงแปดผล!

 

‘วิญญาณอมตะเนตรดาราถูกจัดอยู่ในอันดับที่สิบเพราะค่าใช้จ่ายของมันสูงเกินไป ในการเชื่อมต่อกับดวงดาวแต่ละดวง ค่าใช้จ่ายของมันสูงกว่าวิญญาณอมตะระดับหกทั่วไปถึงสิบเท่า โชคดีที่ข้าสามารถดูแลเรื่องนี้’

 

‘ในความเป็นจริง ด้วยความสำเร็จบนเส้นทางแห่งดวงดาวระดับปรมาจารย์ของข้ากับแสงแห่งปัญญา ข้าสามารถเพิ่มวิญญาณอมตะเนตรดาราเข้าไปในท่าไม้ตายอมตะอื่นๆเพื่อแสดงพลังอำนาจที่เหนือกว่าออกมา มันจะยอดเยี่ยมที่สุดหากข้าสามารถใช้วิญญาณเนตรดารากับวิญญาณท่องแดนอมตะร่วมกัน…’

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า

 

นางมารผลาญสวรรค์ต้องตระหนักถึงจุดนี้เช่นกัน มิฉะนั้นนางย่อมไม่ให้ความสำคัญกับวิญญาณอมตะเนตรดารามากนัก

 

มันเป็นเรื่องจริงที่วิญญาณเนตรดาราและวิญญาณท่องแดนอมตะเป็นวิญญาณที่สนับสนุนกัน

 

หลายวันต่อมา ฟางหยวนยังพยายามหลอมรวมวิญญาณอมตะระเบิดพลัง ขณะเดียวกันเขาก็ศึกษาท่าไม้ตายเขตแดนที่ถูกทิ้งไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่ เขาต้องการสร้างท่าไม้ตายเขตแดนที่ไม่ส่งผลกระทบต่อแดนศักดิ์สิทธิ์

 

ทุกช่วงเวลาหนึ่งฟางหยวนจะออกไปยังโลกภายนอกและใช้วิญญาณอมตะเนตรดาราเชื่อมต่อกับดวงดาวบนท้องฟ้า

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วขณะที่ฟางหยวนทำงานอย่างหนัก

 

สถานการณ์ที่ภาคเหนือและภาคกลางไม่ต่างจากชีวิตก่อนหน้า

 

แต่ที่ทะเลตะวันออก สถานการณ์ในผาสวรรค์เปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย ในชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน ผู้บ่มเพาะสันโดษกับปีศาจอมตะจำนวนมากพุ่งเข้าสู่ผาสวรรค์และสร้างปัญหาให้กับสามตระกูลใหญ่

 

ในช่วงเวลานี้นางอสรพิษเจ็ดสมุทรยังสร้างปัญหาให้ซ่งอี้ซื่อทำให้ฝ่ายหลังทำลายหมู่บ้านบนเกาะและสังหารบรรพบุรุษของหลี่เสี่ยวเหยาด้วยโกรธ

 

อย่างไรก็ตามในชีวิตนี้กลุ่มผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะกลับถูกผลักดันออกไปโดยสามตระกูลใหญ่ เหตุผลเป็นเพราะการปรากฏตัวของนางมารผลาญสวรรค์กับฟางหยวนทำให้พวกเขาตื่นตัวและสามารถเตรียมตัวรับมือล่วงหน้า ความขัดแย้งภายในลดน้อยลงขณะที่สามตระกูลสามารถสร้างความร่วมมือ

 

เรื่องที่ฟางหยวนกังวลมากที่สุดคือเหตุการณ์ในหุบเขาเหล่าโป

 

เขารู้ว่าหุบเขาเหล่าโปอยู่ระหว่างการต่อสู้ร้อยวัน

 

ผู้อมตะภาคกลางนำโดยฟงจิวเก้อกำลังต่อสู้กับสมาชิกนิกายเงาที่นำโดยฉินไป่เฉิง

 

ฟางหยวนต้องการทราบสถานการณ์แต่เขาไม่มีวิธีตรวจสอบ

 

หากเขาวางค่ายกลวิญญาณสายตรวจสอบเอาไว้ใกล้กับหุบเขาเหล่าโป ผู้อมตะทั้งสองฝ่ายจะค้นพบเรื่องนี้

 

ไม่ว่าจะเป็นผู้อมตะภาคกลางหรือสมาชิกนิกายเงา พวกเขาไม่ใช่ตัวตนที่สามารถล้อเล่นได้โดยง่าย ทั้งสองฝ่ายอยู่ในสถานการณ์แห่งชีวิตและความตาย หากบุคคลที่สามต้องการแสวงหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้ พวกเขาจะตอบโต้อย่างรุนแรง

 

‘ครั้งนี้แตกต่างจากชีวิตก่อนหน้า ข้าตั้งใจไว้ชีวิตเซี่ยซ่งซื่อเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับนิกายเงา นั่นทำให้สถานการณ์ในหุบเขาเหล่าโปอาจเปลี่ยนแปลงไป’

 

ครั้งก่อนนิกายเงาพ่ายแพ้แต่พวกเขาก็สามารถหลบหนี แม้ผู้อมตะภาคกลางจะได้รับชัยชนะ พวกเขาก็สูญเสียฟงจิวเก้อ มันถือเป็นชัยชนะที่เต็มไปด้วยการสูญเสีย

 

ฟางหยวนอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการต่อสู้ร้อยวันในครั้งนี้เป็นอย่างมาก

 

แต่ก่อนที่ผลลัพธ์จะปรากฏ เขาไม่ต้องการสอดมือเข้าไป

 

หลังจากทั้งหมดเมื่อเขาสูญเสียวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองขณะที่การหลอมรวมวิญญาณอมตะระเบิดพลังยังไม่ประสบความสำเร็จ พลังการต่อสู้ของเขาลดลงอย่างมาก เขาไม่มีความมั่นใจมากนัก

 

สามวันหลังจากการต่อสู้ร้อยวันสิ้นสุดลง ฟางหยวนลอบอนุมานและรอคอยอยู่ในภาคเหนืออย่างอดทน

 

สุดท้ายก็มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นที่หุบเขาเหล่าโป