บทที่ 271 ภูเขาลึกลับ

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 271 ภูเขาลึกลับ

ภูเขาสั่นสะเทือน แผ่นดินส่งเสียงครืนครัน แสงสีทองแผ่รัศมีกินวงกว้างหลายกิโลเมตร อาบไล้ไปทั่วตัวภูเขาจนสว่างจ้าราวกับจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างให้สลายหายไปในพริบตา

ดวงตาของลั่วเฟ่ยเต็มไปด้วยความหวาดวิตก ตัวเขาเองมีพลังขั้นจักรพรรดิระดับ 4 แต่กลับถูกฉู่ชวิ๋นต่อยจนกระอักเลือดออกมาแล้ว

หลังจากนั้นไม่กี่นาที ลั่วเฟ่ยก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเอง แขนของเขาแทบจะยกไม่ขึ้นอีกแล้ว บ่งบอกได้ว่าฉู่ชวิ๋นมีความสามารถที่แข็งแกร่งมากพอจะฆ่าเขาได้จริง ๆ

แววตาของฉู่ชวิ๋นเย็นชาปานน้ำแข็ง มือกำเป็นหมัดแน่น ยังคงมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่ให้ต่อสู้ได้สบาย

ลั่วเฟ่ยหัวใจกระตุกวูบ ร้องคำรามสุดเสียง พร้อมกับโคจรพลังลมปราณ ก่อนที่จะดีดตัวพุ่งเข้าหาฉู่ชวิ๋น

เปรี้ยง!

หลังจากที่พลังลมปราณพุ่งปะทะกัน ก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ แรงระเบิดทำให้พื้นดินยุบเป็นหลุมลึก 3 เมตร เศษฝุ่นเศษหินเศษทรายปลิวกระจายในอากาศ

พรึบ!

ลั่วเฟ่ยลอยกระเด็นไปอีกครั้ง เลือดพุ่งออกมาจากปากสาดกระจาย

สีหน้าของลั่วเฟ่ยเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ถึงจะมีพลังขั้นจักรพรรดิระดับ 4 แต่ตอนนี้กลับถูกอีกฝ่ายเล่นงานราวกับหมาข้างถนน

แต่ลั่วเฟ่ยเป็นคนฉลาดและรู้ว่าควรรับมืออย่างไร เขาหันไปมองหน้าฉู่ชวิ๋นด้วยความโกรธแค้น ก่อนที่จะหันหลังกลับและเตรียมตัวหลบหนี

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 4 สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วมากยิ่งกว่าความเร็วเสียงถึง 2 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นความเร็วที่หาตัวจับยาก

ฉู่ชวิ๋นดีดตัวหนึ่งครั้ง ร่างของเขาก็หายไป ฉู่ชวิ๋นก็มีความเร็วมากกว่าความเร็วเสียงถึง 2 เท่าเช่นกัน เพียงไม่กี่อึดใจ เขาก็ไล่ตามลั่วเฟ่ยไปจนทันแล้วซัดพลังลมปราณใส่แผ่นหลังของอีกฝ่าย

แผ่นหลังของลั่วเฟ่ยเย็นวาบ เมื่อหันมองกลับมา สีหน้าก็ปรากฏความหวาดกลัวสุดขีด ลั่วเฟ่ยคำรามในลำคอและต่อยหมัดสวนกลับมา

ฟู่!

ลั่วเฟ่ยกระอักเลือดออกมาจากปากขณะที่ร่างลอยกระเด็นไปกระแทกกับก้อนหินใหญ่ที่อยู่ข้างทาง

ฉู่ชวิ๋นตามติดเข้าไป เงื้อกำปั้นขึ้น หมายจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายคาหมัด

แต่ทันใดนั้น ฉู่ชวิ๋นก็ดีดตัวถอยหลังห่างออกมาหลายร้อยเมตร

ตู้ม!

พลังลมปราณสายหนึ่งพุ่งลงมาจากท้องฟ้า พุ่งลงมาตรงตำแหน่งที่เขาเคยยืนอยู่ในวินาทีนั้น แผ่นดินไหว ภูเขาสั่นสะเทือน พื้นดินยุบตัวแตกแยกเป็นรอยร้าว กินพื้นที่เป็นวงกว้างน่าหวาดกลัว

ฉู่ชวิ๋นหันมองไปยังทิศทางของพลังลมปราณ แล้วเขาก็เห็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งยืนเอามือไขว้หลังอยู่ตรงนั้น ชายคนนี้สวมใส่เสื้อคลุมสีดำ มีอาวุธคู่กายเป็นกรงเล็บปีศาจที่ร้อยไว้ด้วยสายทองคำบริสุทธิ์ เพียงแค่เหลือบมองก็ทำให้เกิดความรู้สึกขนลุกไปทั่วตัวแล้ว

“ท่านผู้อาวุโส มาได้ทันเวลาพอดีเลยครับ”

ลั่วเฟ่ยรีบลุกขึ้นคุกเข่าคำนับศีรษะให้กับชายวัยกลางคนผู้นี้

“ฉู่ชวิ๋นสินะ ฉันได้ยินเรื่องของแกมาไม่น้อย” ชายวัยกลางคนพูดออกมา ลมหายใจพุ่งออกมาเป็นสาย ทำให้มวลอากาศโดยรอบปั่นป่วน

สีหน้าของฉู่ชวิ๋นเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ฉู่ชวิ๋นจำเป็นต้องตื่นตัวมากกว่าเดิม เนื่องจากสัมผัสได้ว่าฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งมาก

“ฉันคือเป๋าผิง เป็นผู้อาวุโสของประตูวิญญาณสลาย”

ฉู่ชวิ๋นตอบกลับไปด้วยแววตาเย็นชาว่า “แกช่วยมันไม่ได้หรอก”

เป๋าผิงตกตะลึงไปเล็กน้อย ดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำดูแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง แต่ชายวัยกลางคนก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นพร้อมกับยิ้มว่า “จอมมารฉู่ช่างโหดเหี้ยมอำมหิตสมคำเล่าลือจริง ๆ ”

ฉู่ชวิ๋นสีหน้าเรียบเฉยอีกครั้งในขณะที่สะบัดฝ่ามือออกไป

เปรี้ยง!

มวลอากาศสั่นไหว พลังลมปราณพุ่งออกไปแล้วนิ้วมือขนาดยักษ์ก็ร่วงลงมาจากกลางอากาศ

“เหอะ!”

เป๋าผิงคำรามในลำคอด้วยความเกลียดชัง ก่อนที่จะสะบัดฝ่ามือข้างหนึ่ง แล้วกรงเล็บปีศาจก็พุ่งขึ้นไปหานิ้วมือขนาดยักษ์บนท้องฟ้า

เปรี้ยง!

เมื่อพลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกัน กลายคลื่นแรงระเบิดแผ่ออกมา นิ้วมือขนาดยักษ์แตกกระจายหายไปกลางอากาศ เช่นเดียวกับกรงเล็บปีศาจของเป๋าผิง

ฉู่ชวิ๋นมีแววตาผ่อนคลายลงเล็กน้อย เนื่องจากพอจะประเมินฝีมือของฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว

ผลั่ก!

ฉู่ชวิ๋นใช้วิชาตัวเบาลอยตัวในอากาศพร้อมกับปล่อยหมัดออกไป

เป๋าผิงตวัดมือ ตั้งหลักยืนอยู่กับที่และสะบัดกรงเล็บปีศาจพุ่งออกมา เผชิญหน้ากับหมัดของฉู่ชวิ๋นอย่างไม่กลัวเกรง

เปรี้ยง เปรี้ยง!

พลังลมปราณของพวกเขาปะทะกันกลางอากาศ เกิดแรงระเบิดอย่างต่อเนื่อง บรรดาก้อนหินและต้นไม้ที่อยู่โดยรอบถูกแรงระเบิดเหล่านั้นทำลายไปสิ้น

กลุ่มคนที่รับชมการต่อสู้มองเห็นได้ไม่ชัดเจน ทั้งสองคนลงมือรวดเร็วเกินไป พวกเขาจึงเห็นเป็นเพียงลำแสงสว่างวูบวาบเท่านั้น

เปรี้ยง!

ปะทะกันอย่างแรงอีกครั้ง เงาร่างของทั้งสองคนแยกออกจากกัน

ฉู่ชวิ๋นยิ้มออกมาเบา ๆ

“เก่งนักใช่ไหม?” เป๋าผิงพูดออกมาเป็นครั้งแรกหลังเริ่มการต่อสู้

ฉู่ชวิ๋นยังคงยิ้มแต่ไม่ตอบคำใด ๆ ผู้ที่อยู่ข้างหลังเขาก็คือลั่วเฟ่ยที่บาดเจ็บสาหัส ฉู่ชวิ๋นหันหลังกลับไปและต่อยหมัดใส่ลั่วเฟ่ยทันที

สีหน้าของลั่วเฟ่ยซีดขาวและหวาดกลัว พยายามจะยกมือขึ้นเพื่อป้องกันหมัดจากฝ่ายตรงข้าม

กร๊อบ!

ในไม่ช้าเสียงกระดูกแตกหักก็ถูกกลบด้วยเสียงร้องโหยหวน แขนของลั่วเฟ่ยกระดูกแตกแหลกละเอียด หลังจากนั้น เขาก็ถูกกำปั้นกระแทกเข้าไปที่หน้าอกเต็มแรง

เฮือก!

เลือดพุ่งออกมาจากปากลั่วเฟ่ยเป็นสาย กระดูกหน้าอกยุบตัวลงไป

ในตอนที่เป๋าผิงโจมตีเข้ามาในวินาทีนั้น ฉู่ชวิ๋นก็หันกลับไปและรัวหมัดใส่ไม่ยั้งมือ

เป๋าผิงยกมือขึ้นปัดป้องจนเหนื่อยล้าแล้ว

ฉู่ชวิ๋นขยับนิ้วมือ เกิดเป็นพลังแสงสีแดงลอยเข้าไปจะเลื้อยพันรอบลำคอของลั่วเฟ่ย ลำแสงสีแดงนี้มีความคมกริบเหมือนใบมีด

ลั่วเฟ่ยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว พยายามจะหลบหนีเอาชีวิตรอด

ฉู่ชวิ๋นยิ้มมุมปากด้วยความเหยียดหยาม นิ้วมือของเขาเหมือนกับเต้นระบำได้ หลังจากนั้นลำแสงสีแดงก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

ลั่วเฟ่ยหลบหนีไม่ทัน เลือดจำนวนมากพุ่งกระฉูดออกมาจากร่างกาย เขาทำได้เพียงแค่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเท่านั้น

ฟู่!

เลือดไหลทะลัก หัวคนกลิ้งกระเด็น เสียงกรีดร้องหายไปในฉับพลัน ในที่สุด จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 4 ก็หนีไม่รอดจากเงื้อมมือของฉู่ชวิ๋น หนำซ้ำยังถูกตัดหัวตายอย่างน่าอนาถอีกด้วย !

“ฉู่ชวิ๋น !!”

เป๋าผิงเดือดดาลสุดขีด เขามาที่นี่เพื่อจะช่วยเหลือลั่วเฟ่ย แต่ตอนนี้ผู้เป็นลูกศิษย์กับตกตายไปต่อหน้าต่อตา

เป๋าผิงรู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง ไอสังหารแผ่ออกมาจากร่างกายอย่างรุนแรง

ฉู่ชวิ๋นตอบรับอย่างเรียบง่าย ยกมือขึ้นและต่อยหมัดสวนกลับ พลังลมปราณสีแดงพุ่งเข้าใส่เป๋าผิงโดยตรง

เปรี้ยง!

เป๋าผิงโคจรพลังลมปราณตั้งรับไว้อยู่แล้ว เมื่อพลังลมปราณของทั้งสองฝ่ายปะทะกัน แรงระเบิดก็ส่งผลให้ฝุ่นบนพื้นดินตลบฟุ้งในอากาศ

“ฉู่ชวิ๋น ฉันจะฉีกแกให้เป็นชิ้น ๆ ” เป๋าผิงคำรามด้วยความบ้าคลั่ง หลังจากนั้น ก็กระโดดเข้ามาโจมตีใส่ทันที

เปรี้ยง!

แต่ในทันใดนั้นเอง กลับปรากฏแสงสีทองสายหนึ่งถูกยิงเข้ามาหาเขา

เป๋าผิงตกตะลึงรีบกระโดดหลบลำแสงนั้นได้อย่างเฉียดฉิว แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องคำรามในลำคอด้วยความเจ็บปวด เนื่องจากถูกแสงเฉี่ยวที่บริเวณหัวไหล่จนมีเลือดไหลซึมออกมา

ฉู่ชวิ๋นเองก็ตกตะลึงอยู่ไม่น้อย หันไปมองทิศทางที่แสงถูกยิงออกมาก็พบว่าตามซอกหลืบของภูเขา ปรากฏดวงตาลึกลับสีทองสว่างจ้าจากไหนไม่รู้เป็นจำนวนมาก

รู้ตัวอีกที ดวงตาสีทองเหล่านั้นก็ยิงแสงใส่เขาเสียแล้ว

ฉู่ชวิ๋นดีดตัวออกมาไกลหลายร้อยเมตรเพื่อหาที่กำบัง

เปรี้ยง!

พื้นดินระเบิดตู้ม ตรงพื้นที่ที่ถูกลำแสงยิงใส่เกิดเป็นหลุมลึกหลายเมตร

ในขณะนี้ ดวงตาลึกลับบนภูเขายังคงยิงลำแสงสีทองออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่มีเป้าหมายอยู่ที่ฉู่ชวิ๋นและเป๋าผิง

ฉู่ชวิ๋นโคจรกำลังภายในและกระโดดหลบหลีกไปมา

เป๋าผิงก็วุ่นวายอยู่กับการหลบหลีกลำแสงสีทองเช่นเดียวกัน

พื้นดินถูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นหลุมลึกหลายร้อยหลุมขึ้นมาแล้ว

ในขณะนี้ ดวงตาลึกลับบนภูเขายิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ลำแสงสีทองก็ถูกยิงออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

ฉู่ชวิ๋นกระโดดหลบหลีกด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่ทำได้ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังพลาดโดนยิงอยู่หลายครั้ง

“อ๊าก…”

เป๋าผิงร้องโหยหวน เมื่อถูกลำแสงสีทองยิงเข้าใส่ที่หัวไหล่อีกครั้ง

ฉู่ชวิ๋นไม่อยากเชื่อ ดวงตาลึกลับพวกนี้น่ากลัวมากเกินไป ร่างกายของจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 5 แข็งแกร่งจนแม้แต่กระสุนระเบิดก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้น ลำแสงพวกนี้กลับเล่นงานเป๋าผิงจนสะบักสะบอมไปหมดแล้ว

เปรี้ยง!

ในระหว่างที่ฉู่ชวิ๋นกำลังใช้ความคิดอยู่ลำแสงสีทองก็พุ่งตรงมาที่ลำคอของเขาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว ฉู่ชวิ๋นรู้สึกเย็นเฉียบไปทั่วกาย

ดวงตาลึกลับพวกนี้มีจำนวนมากเกินไปจนยากที่จะหลบหนีได้พ้น

ฉู่ชวิ๋นและเป๋าผิงหลบหลีกด้วยความรวดเร็ว

เป๋าผิงร้องคำรามพร้อมกับโคจรพลังลมปราณปล่อยเข้าใส่ดวงตาลึกลับเหล่านั้น แต่ผลที่ได้ก็คือ เขากลับถูกลำแสงยิงเข้าใส่จนเลือดสาดกระจาย

พลังลมปราณของเป๋าผิงเทียบไม่ได้เลยกับพลังของลำแสงทองคำ

ฉู่ชวิ๋นอยากจะร้องไห้ออกมา นี่เขากำลังสู้กับตัวอะไรอยู่กันแน่? ภูเขาลูกนี้ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังจะต้องน่ากลัวมากแน่ๆ เพราะไม่มีทางที่ภูเขาลูกนี้จะโจมตีผู้คนได้ด้วยตัวเอง

แต่ผู้ที่มีสภาพน่าอนาถใจมากที่สุดก็คือเป๋าผิง เขาได้แต่สบถสาบานในสภาพที่เลือดท่วมตัว ไม่คิดเลยว่าจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 5 อย่างตนเองจะต้องมีสภาพน่าอนาถใจเช่นนี้ ลำแสงสีทองถูกยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนเขาไม่มีเวลาเยียวยาสมานบาดแผลเลย

เปรี้ยง!

เส้นผมของฉู่ชวิ๋นถูกลำแสงสีทองพุ่งตัดขาดไปเหมือนกับตัดใบไม้ใบหนึ่ง

พร้อมกันนั้นลำแสงสีทองอีกหลายสายก็ระดมยิงเข้ามาทั่วร่างกายของเขา

ฉู่ชวิ๋นพยายามจะม้วนตัวหนี แต่ลำแสงสีทองก็ถูกยิงเข้ามาอย่างรวดเร็วและหนาแน่นมากเกินไป ถึงจะหลบไปได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ลำแสงสายหนึ่งก็พุ่งมาโดนลำคอของเขาเข้าอย่างจัง ฉู่ชวิ๋นกำมือเป็นหมัดปล่อยพลังโต้ตอบกลับไปด้วยความเดือดดาล

ฟู่!

เลือดเป็นสายพุ่งกระฉูดออกมาจากกำปั้นของเขา พลังลมปราณแตกกระจาย กระดูกไม่สามารถรีดเค้นพลังออกมาได้และนั่นก็ถือเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวง

เมื่อมือบาดเจ็บ ฉู่ชวิ๋นก็ไม่สามารถใช้งานหมัดได้อีกแล้ว ฉู่ชวิ๋นตวัดมือและเรียกกระบองทองคำออกมาจากแหวนมิติ ซึ่งนี้ก็คือหางมังกรในตำนานนั่นเอง

ควับ!

ฉู่ชวิ๋นหมุนกระบองหางมังกรเป็นโล่กำบังลำแสงที่ถูกยิงเข้ามา ลำแสงเหล่านั้นกระเด็นกระดอนออกไปทันที

เป๋าผิงก็ตกอยู่ในสภาพบ้าเลือดร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ ยากต่อการห้ามเลือด ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เป๋าผิงจะเสียเลือดจนตายเอง โดยไม่ต้องถูกลำแสงยิงด้วยซ้ำ

เป๋าผิงชำเลืองมองมาที่ฉู่ชวิ๋น ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้น รู้สึกหัวร้อนเหมือนจะมีไฟลุกอย่างไรอย่างนั้น

ฉู่ชวิ๋นใช้มือเดียวควงกระบองหางมังกรปัดป้องพลังลำแสงอย่างสบาย ๆ

เป๋าผิงรีบล่าถอยหาที่กำบังด้วยความตื่นกลัว พยายามจะหลบหนีออกจากพื้นที่อันตรายของภูเขา แต่ดวงตาลึกลับเหล่านั้นเหมือนกับจับจ้องเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเป๋าผิงขยับตัวไปทางไหน มันก็ยิงลำแสงตามมาได้เสมอ

หรือว่าเขาจะต้องมาตายอยู่ที่นี่จริง ๆ ?

เป๋าผิงหมุนมือในอากาศและเรียกกระถางปรุงยาใบใหญ่ออกมา กระถางปรุงยาใบนี้แกะสลักเป็นลวดลายลึกลับ เพียงแค่โคจรพลังลมปราณในร่างกายใส่เข้าไปในกระถางใบนี้ มันก็จะกลายเป็นที่กำบังให้เขาได้แล้ว

สมบัติโบราณระดับกลาง

ดวงตาของฉู่ชวิ๋นสั่นไหว

เคล้ง!

ลำแสงสีทองพุ่งเข้ามากระแทกใส่กระถางปรุงยา ประกายไฟสาดกระจายไปทั่ว

เคล้ง!

ลำแสงสีทองอีกหลายสายรัวยิงเข้าใส่กระถางปรุงยาอีกครั้งจนสั่นสะเทือนอย่างแรง แต่เป๋าผิงก็โคจรลมปราณใส่เข้าไปอย่างเต็มที่จนทำให้ตัวกระถางเปล่งแสงสว่างไสวและมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

กระบองทองคำในมือของฉู่ชวิ๋นเองก็กำลังมีเปร่งประกายสว่างไสวเช่นกัน หลังจากที่ปัดป้องบรรดาลำแสงจากดวงตาลึกลับแล้ว ฉู่ชวิ๋นก็กระโดดเข้าไปหาเป๋าผิงทันที

เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นกำลังกระโดดเข้ามาหาตนเอง เป๋าผิงก็ถึงกับคำรามออกมาด้วยความร้อนรนว่า “ฉู่ชวิ๋น แกต้องการอะไร?”

ฉู่ชวิ๋นยิ้มออกมาเล็กน้อยด้วยความเย็นชา แล้วตอบว่า “แกก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว”

ขาดคำ ฉู่ชวิ๋นก็เข้ามาถึงตัว หลังจากนั้นก็ใช้กระบองหางมังกรในมือ ฟาดลงไปที่กระถางปรุงยาอย่างแรง

เปรี้ยง!

ตัวกระถางเกิดรอยแตกร้าวจากแรงฟาดขึ้นมาแล้ว

เป๋าผิงทั้งโกรธแค้นและตกตะลึง กระถางปรุงยาถูกฟาดจนสั่นสะเทือนอย่างแรง รอยแตกร้าวขยายใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ

ฉู่ชวิ๋นเห็นดังนั้นก็ไม่ยั้งมือ คำรามในลำคอก่อนที่จะรวมกำลังฟาดกระบองลงไปที่กระถางปรุงยาสุดแรงเกิด ในเวลาเดียวกันนั้น ลำแสงสีทองก็ยิงเข้ามาใส่หัวไหล่ของฉู่ชวิ๋นจนเลือดสาดกระจาย

ฉู่ชวิ๋นกัดฟันกรอด กระบองหางมังกรเต็มไปด้วยพลังงานสีแดงห่อหุ้ม

ฉู่ชวิ๋นฟาดกระบองออกไปอย่างแรงอีกครั้ง

เปรี้ยง!

กระถางปรุงยาถูกฟาดอย่างแรงอีกหนพร้อมกับถูกลำแสงสีทองระดมยิงใส่เข้ามาพร้อม ๆ กัน ด้วยเหตุนี้ กระถางปรุงยาใบใหญ่ จึงมีอันแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปในวินาทีนั้นเอง

เฮือก!

เลือดสายสาดกระจายออกมาจากร่างกายของฉู่ชวิ๋น เขารวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่ ทำลายกระถางปรุงยา ซึ่งเป็นที่กำบังของเป๋าผิงได้สำเร็จแล้ว

เป๋าผิงได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อ ในวินาทีนั้น เขาก็ถูกลำแสงยิงใส่จนเกิดบาดแผลฉกรรจ์ขึ้นมาเพิ่มเติม เป๋าผิงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

“ฉู่ชวิ๋น แกจะบ้าหรือไง”

เป๋าผิงทั้งตื่นกลัวและโกรธแค้น ร่ำร้องออกมาด้วยความเดือดดาล

ฉู่ชวิ๋นระเบิดเสียงหัวเราะแต่ไม่พูดอะไรออกมา ถ้าเขาสามารถฉวยโอกาสจากลำแสงสีทองของดวงตาลึกลับเหล่านี้ฆ่าเป๋าผิงได้ ต่อให้เขาต้องบาดเจ็บมันก็คุ้มค่า ต้องเข้าใจว่าจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 5 แข็งแกร่งมาก จะฆ่าอีกฝ่ายได้ฉู่ชวิ๋นต้องแลกตายเท่านั้น มันเสี่ยงเกินไป ฉู่ชวิ๋นเลยต้องใช้วิธีนี้

ฉู่ชวิ๋นก้มหน้ามองเป๋าผิงซึ่งเป็นคนของประตูวิญญาณสลาย เป๋าผิงมีฐานะเป็นแค่ผู้อาวุโสในสำนัก แต่ก็มีพลังถึงขั้นจักรพรรดิระดับ 5 แล้วอย่างนี้คนที่เป็นเจ้าสำนักจะแข็งแกร่งขนาดไหน? รวมถึงคนที่มีตำแหน่งรองเจ้าสำนักและผู้พิทักษ์คำภีร์ ก็น่าจะมีฝีมือน่าหวาดกลัวไม่น้อยเช่นกัน