ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 88 อย่าเข้ามานะ
เมื่อเห็นดังนั้น กู้โม่หานก็ขมวดคิ้ว

หนานอี่ว์เป็นคนของจวนเฉิงเซี่ยง และเป็นบุตรสาวของหนานฉีซานด้วย เขาจะไม่รับเหล้าจากฝ่ายศัตรูจอกนี้เด็ดขาด

กู้โม่หานกำลังจะเปิดปาก กลับได้ยินหนานหว่านเยียนยิ้มหวานลุกขึ้น “เป็นผู้หญิงยิงเรือ ดื่มเหล้าอะไร ข้าจำได้ว่าน้องหนานอี่ว์ถึงวัยออกเรือนแล้ว ใช่หรือไม่ ท่านพ่อ”

ในจวนมีหยุนอี่ว์โหรวดอกบัวขาวน้อย(*ภายนอกดูบริสุทธิ์ แต่ความจริงกร้านโลก)ดอกหนึ่งแล้ว นางไม่อยากเพิ่มหนานอี่ว์มาทำให้นางรำคาญมากอีกคน

กู้โม่หานเหลือบมองหนานหว่านเยียนสองที ความสับสนปราดผ่านดวงตา

หนานหว่านเยียนคิดจะทำอะไร

แก้สถานการณ์ให้เขา? นางใจดีอย่างนั้นเชียว?

หนานฉีซานไม่เข้าใจ “ถูกต้อง พระชายาถามเรื่องนี้ทำไมหรือ”

เวลานี้มือที่กำลังยกขึ้นอย่างเก้อเขินของหนานอี่ว์ทั้งเมื่อยทั้งปวด แต่กู้โม่หานกลับไม่ยอมรับจอกเหล้า

นี่ก็ช่างเถอะ แต่หนานหว่านเยียนกลับสอดปากเข้ามากลางคันอย่างนั้น ทำจนนางบันดาลโทสะแต่กลับไม่กล้าส่งเสียง รักษากิริยา ดูสิว่าหนานหว่านเยียนจะทำอะไรกันแน่

แต่อี๋เหนียงสามกลับม้วนแขนเสื้อด้วยความตระหนก สีหน้ากระวนกระวาย

หนานหว่านเยียนหัวเราะเสียงเบา “เช่นนั้นท่านพ่อหาคนที่เหมาะสมให้อี่ว์เอ๋อร์แล้วหรือ”

ฮูหยินหัวเราะอย่างเย็นชาในใจ ยังคิดจะหาที่เหมาะสมอีก? นางจะไม่ให้นางได้มีโอกาสนั้นเด็ดขาด ไว้จะจับนางแพศยาน้อยหนานอี่ว์แต่งกับตาแก่เสียเลย!

หนานฉีซาน “ยัง”

หนานหว่านเยียนอาเบาๆ “ไม่เป็นไร แม่นางดีเยี่ยมอย่างอี่ว์เอ๋อร์ น่าจะมีคนมาพูดเรื่องแต่งงานถึงบ้านเป็นกระบุง ต่อไปข้าก็ไม่รู้ว่าจะมีเวลากลับจวนเมื่อไร ต้องยินดีกับอี๋เหนียงสามก่อนแล้ว”

จู่ๆ นางก็แย่งจอกเหล้าในมือของหนานอี่ว์ ยื่นให้ตรงหน้าอี๋เหนียงสาม “คารวะอี๋เหนียงสามหนึ่งจอก”

“คืนให้ข้านะ!” เดิมหนานอี่ว์ก็ลนลานอยู่แล้ว ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ จึงคิดจะชิงจอกเหล้านั้น

หนานฉีซานตวาดด้วยโทสะ “หนานอี่ว์! บังอาจ! มีอย่างเจ้าที่ไหนกัน!”

หนานอี่ว์รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม กรอบดวงตาแดงตะบึงตะบอนนั่งลง

หนานหว่านเยียนเลิกคิ้วถาม น้ำเสียงครุ่นคิด “อย่างไร หรือว่าเหล้าของเจ้ามีความลับอะไร ท่านอ๋องดื่มได้ คนอื่นดื่มไม่ได้?”

กู้โม่หานหรี่ดวงตา สายตาคล้ายทะลุทะลวงจิตใจคน พุ่งตรงไปที่หนานอี่ว์

หนานอี่ว์ผุดเหงื่อกาฬทันที อึกๆ อักๆ “ไม่ ไม่มี พระชายาเข้าใจผิดแล้ว อี่ว์เอ๋อร์แค่อยากเทให้อี๋เหนียงใหม่อีกจอกเท่านั้น”

หนานหว่านเยียนกลับหัวเราะเบาๆ “พวกเจ้าคือแม่ลูก ข้าคิดว่าอี๋เหนียงสามคงไม่มีปัญหา อีกอย่าง เหล้าจอกนี้เจ้าก็ยกมาตรงจากหน้าอี๋เหนียงสามเมื่อกี้ไม่ใช่หรือ ท่านว่าอย่างไร อี๋เหนียงสาม”

อี๋เหนียงสามรู้สึกว่าหนานหว่านเยียนในเวลานี้เป็นอย่างกับผีอาฆาตมาดร้าย ซ่อนมีดในรอยยิ้ม นางอยากจะพูดว่ามีปัญหา แต่พอเห็นหนานฉีซานกำลังจ้องนางด้วยความดุดันแล้ว จึงกลืนคำนั้นกลับลงท้อง แล้วรับจอกเหล้ามาแบบยึกๆ ยักๆ

“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาแน่นอน นี่เดิมก็เป็นเหล้าของข้าอยู่แล้ว”

ด้วยเช่นนี้ อี๋เหนียงสามจึงกลั้นน้ำตาดื่มเหล้าจอกนั้นลงไป ภายใต้การมองอย่างบีบบังคับของหนานหว่านเยียน

ทว่าในใจทั้งโมโหทั้งแค้น นางเด็กเปรตหนานหว่านเยียน ปีนั้นควรทำให้นางตายไปเสีย ไม่ควรปล่อยให้รอดมาถึงตอนนี้เลย!

เสียดายแต่เวลากลับบ้านเดิมสั้นนัก ไม่อย่างนั้น หากให้ลูกสาวนางสบโอกาสดีๆ ปรนนิบัติท่านอ๋องสักคืน ยังไม่แน่ว่านายหญิงของจวนอ๋องอี้จะเป็นใคร!

กู้โม่หานเลิกคิ้วสูง ไม่ส่งเสียง

หนานหว่านเยียนเห็นดังนั้นจึงดื่มเหล้าในมือจนหมด กลับไปนั่งข้างกู้โม่หาน

นางยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “หวังว่าน้องหนานอี่ว์จะได้มีบุพเพที่ดีนะ”

เวลานี้ หัวใจของหนานอี่ว์กำลังหลั่งเลือด นางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน จ้องหนานหว่านเยียนที่ผ่อนคลายสบายอารมณ์ด้วยความแค้น จากนั้นก็มองอี๋เหนียงสามด้วยอารมณ์ซับซ้อนตัวสั่นงันงก

ไม่นานทุกอย่างบนโต๊ะอาหารก็กลับเป็นปกติ ทุกคนสนทนาสัพเพเหระ คีบอาหารให้กันถามไถ่เป็นบางครั้ง ทว่ากู้โม่หานกลับไม่พูดอะไรอีก ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาถึงที่สุด ราวกับคนอื่นติดหนี้เขาอย่างนั้นแหละ แต่เขาหน้าตาดี สาวใช้ที่คอยรับใช้อยู่ในห้องโถง รวมถึงหนานอี่ว์ต่างลอบมองเขาเป็นระยะ

จู่ๆ หนานหว่านเยียนก็กล่าวกับหนานฉีซานด้วยความเกรงใจ “ท่านพ่อ ข้าอยากรับท่านลุงไปที่จวน ต่อไปจะได้สะดวกหาหมอมารักษาขาของท่านลุง”

ตอนนี้นางมีเงินมากมายอยู่ในมือ สามารถดูแลโม่หวิ่นหมิงได้เป็นอย่างดี จวนเฉิงเซี่ยงน้ำลึกเกินไป ไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับเขา และนางก็ไม่สะดวกจะเปิดห้วงเวลาที่นี่ด้วย

เมื่อนั้นก็มีแสงมืดปราดผ่านดวงตาหนานฉีซาน สีหน้าดูไม่พอใจบางส่วน “อยู่ดีๆ ทำไมพระชายาถึงอยากรับตัวเขาไป”

กู้โม่หานพลันนึกถึงท่าทางที่โม่หวิ่นหมิงชักสีหน้าใส่เขาขึ้นมา โมโหทันที

เขาไม่อนุญาตเด็ดขาด! ในจวนอ๋องของเขาจะมีคนสกุลหนานเพิ่มอีกไม่ได้!

หนานหว่านเยียนมองอี๋เหนียงสามด้วยความหมายลึกซึ้งทีหนึ่ง ท่าทางลำบากใจ

“วันนี้ตอนที่กลับจวน ข้าบังเอิญได้ยินอี๋เหนียงสามบ่น บอกว่าท่านลุงเป็นคนเจ็บออดๆ แอดๆ เอาแต่ไอทั้งวัน ทำจนคนจวนเฉิงเซี่ยงกลัวไปหมดแล้ว”

“ข้าก็เลยคิดจะรับตัวท่านลุงไป จะได้ไม่รบกวนการพักผ่อนของฮูหยินและอี๋เหนียงสาม ”

อย่างไม่ทันตั้งตัว อี๋เหนียงสามก็ถูกหนานหว่านเยียนฟ้องจนโมโหจะกระอักเลือด เงยหน้าจ้องหนานหว่านเยียน แต่กลับสบตากับสายตาเย็นชาดุดันขอหนานฉีซานแทน

นางพลันตัวสั่นอย่างมีชนักติดหลัง ไม่กล้าพูดมาก

ฮูหยินกลับกำลังลอบคิด

โม่หวิ่นหมิงเป็นคนที่จะตายอยู่แล้ว เก็บไว้ในจวนยังจะกินที่เปล่าๆ

“ในเมื่อพระชายากล่าวเช่นนี้ นายท่าน ท่านก็ให้พระชายาได้กตัญญูสมใจเถอะ”

หนานฉีซานยิ้มอย่างเป็นมิตร แม้ว่าในดวงตาจะไม่มีรอยยิ้มสักนิดก็ตาม

“ครอบครัวเดียวกัน มีอะไรรบกวน ข้าเห็นเขาพักอยู่ในจวนเฉิงเซี่ยงก็ดี ไม่ต้องรับไปหรอก”

ที่หนานหว่านเยียนอยากจะพาโม่หวิ่นหมิงออกจากจวนขนาดนี้ ต้องมีเงื่อนงำอะไรแน่ เขาไม่จำเป็นต้องปล่อยไปง่ายๆ อย่างนี้

หนานหว่านเยียนรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้คงไม่ราบรื่น หนานฉีซานมากเล่ห์เพทุบาย วันนี้ต้องไม่ได้ตัวคนแน่

นางหยีตา “ท่านพ่อพูดมีเหตุผล เช่นนี้ท่านลุงก็พักอยู่ที่จวนเฉิงเซี่ยงเถอะ ถ้าข้ามีเวลาก็จะกลับมาเยี่ยมเขามากหน่อย”

ถ้าหนานฉีซานต้องการแลกเปลี่ยนด้วยมูลค่าที่เสมอกัน เช่นนั้นนางก็จะนั่งรอจิ้งจอกเฒ่านี่มาหานางถึงที่เอง

หนานฉีซานยังอยากพูดอะไร แต่จู่ๆ ก็มีเสียงหวีดร้องขวัญเสียของบ่าวรับใช้ดังมาก…

“อี๋เหนียงสาม อย่าเข้ามานะ!!!”

เมื่อทุกคนมองไป สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกอย่างหาที่เปรียบไม่ได้…

บทที่ 87 เขาไม่ใช่ปีศาจสักหน่อย นางจะหนีไปไหน

บทที่ 89 นางช่วยเขาแล้ว