เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 990 เข้าสู่หุบเขาเหล่าโปเป็นครั้งที่สอง

แปลโดย iPAT

 

เห็นผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์บินจากไป ฟางหยวนรู้สึกผ่อนคลายลงและเร่งบินไปในทิศทางตรงข้ามทันที

 

แม้เขาจะมีวิญญาณท่องแดนอมตะ แต่มันจะดีที่สุดหากเขาไม่เปิดเผยวิญญาณดวงนี้ออกไป

 

หลังจากทั้งหมดการคงอยู่ของวิญญาณท่องแดนอมตะเป็นสิ่งที่ชัดเจนเกินไป โดยไม่ต้องเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา ทุกคนก็สามารถคาดเดาได้ว่าคนผู้นี้คือฟางหยวน

 

‘หลายคนรู้ว่าข้าครอบครองวิญญาณท่องแดนอมตะ หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ข้าจะเคลื่อนไหวได้สะดวกมากขึ้น’

 

ฟางหยวนบินเข้าสู่เขตแดนที่จัดตั้งไว้ก่อนจะเคลื่อนย้ายสถานที่ไปยังจุดหมายปลายทาง

 

ที่นั่นไท่เป่ยหยุนเฉิงรออยู่แล้ว

 

“แผนจับกุมผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์ล้มเหลว” ฟางหยวนกล่าวอย่างเคร่งขรึม

 

ไท่เป่ยหยุนเฉิงถอนหายใจ “ในความคิดเห็นของข้า มันเป็นสิ่งที่ดี การจับกุมผู้อมตะระดับเจ็ดเป็นเรื่องอันตรายเกินไป ฟางหยวน เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลให้มากนัก ผู้อมตะภาคกลางยังไม่พบพวกเรา หรือกระทั่งพวกเขาจะพบพวกเรา ท่านอาจารย์ก็คงไม่นิ่งเฉย อย่าลืมว่าเรายังมีวิญญาณท่องแดนอมตะ พวกเราสามารถไปที่ใดก็ได้บนโลกใบนี้ บางทีพวกเราก็ควรเก็บความแข็งแกร่งเอาไว้บ้าง ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงอันตรายตลอดเวลา”

 

ฟางหยวนถอนหายใจและรู้สึกพูดไม่ออก

 

เขาไม่ได้บอกไท่เป่ยหยุนเฉิงเกี่ยวกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการบ่มเพาะอย่างสงบสุข แต่มันเป็นเพราะสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย ไท่เป่ยหยุนเฉิงไม่ใช่คนที่มาจากอนาคตเช่นเขา ด้วยประสบการณ์ห้าร้อยปี ฟางหยวนรู้ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นหลังจากนี้

 

หากความจริงเกี่ยวกับการล่มสลายของวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงถูกเปิดเผย สถานการณ์ของเขาจะเลวร้ายมาก

 

แม้ฟางหยวนจะต้องการอยู่อย่างสงบแต่เขาก็ไม่สามารถทำได้

 

ตราบเท่าที่วังสวรรค์เผยข้อมูลเท็จออกไปว่าฟางหยวนได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง ผู้อมตะจำนวนนับไม่ถ้วนจะมาหาเขาด้วยความโลภ

 

ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ใด เขาก็จะถูกไล่ล่าและปราบปราม

 

ท้ายที่สุดตอนนี้ก็ไม่ใช่ยุคของอาณาจักรแห่งความฝันอันรุ่งโรจน์ มันไม่ใช่การกล่าวเกินจริงที่มรดกของเทพอมตะตะวันเดือดจะกลายเป็นจุดสนใจของผู้อมตะทั้งโลก

 

การบ่มเพาะของฟางหยวนอยู่ในจุดต่ำสุดของระดับหก เขาจะกลายเป็นเป้าหมายของผู้คนทั้งหมดทันที

 

เมื่อเวลานั้นมาถึง ฟางหยวนจะไม่ต่างจากสุนัขจรจัดที่ต้องหลบหนีไปทุกหนทุกแห่งและไม่มีเวลาบ่มเพาะ

 

อย่าลืมว่าเขายังต้องพบกับภัยพิบัติสวรรค์พิภพเป็นครั้งคราว

 

ในทางตรงข้าม หากเขาได้รับคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดสนามรบแห่งความโกลาหล ทุกอย่างจะแตกต่างออกไป

 

ด้วยพลังการต่อสู้ระดับหก ฟางหยวนจะถูกไล่ล่าโดยผู้อมตะทั้งหมด แต่ด้วยพลังการต่อสู้ระดับแปด มีเพียงผู้อมตะระดับแปดเท่านั้นที่จะเล็งเป้ามาที่เขาและกระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ยังต้องใช้ความพยายามอย่างมากหากต้องการโค้นล้มฟางหยวน

 

ไท่เป่ยหยุนเฉิงกล่าวปลอบใจฟางหยวน “ฟางหยวน เจ้าฝืนตนเองมากเกินไป เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ พวกเราเป็นผู้อมตะ เราควรใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเป็นครั้งคราว”

 

“ข้ามีความสุขดีกับชีวิตของข้าตอนนี้” ฟางหยวนมองไปที่สุดขอบฟ้า “นานแล้วแต่ผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์ยังไม่กลับมา ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างใจเย็น ด้วยสติปัญญาของเขา เขาย่อมรู้ว่าข้าโกหก แต่เขาสามารถเอาชนะความโกรธของตนเองและจากไป”

 

“เจ้า…” ไท่เป่ยหยุนเฉิงถอนหายใจ “แต่ค่ายกลวิญญาณที่เจ้าสร้างขึ้นค่อนข้างน่าสนใจ มันปกคลุมพื้นที่นับหมื่นลี้ นี่เป็นเขตแดนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็น มันยังสามารถสร้างภาพลวงตา สิ่งสำคัญมันใช้เพียงวิญญาณระดับมนุษย์เท่านั้น เจ้าได้รับสิ่งนี้มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่เช่นนั้นหรือ?”

 

ฟางหยวนพยักหน้าแต่ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติม

 

เขาไม่เพียงได้รับวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดวงดาวแต่เขายังได้รับความรู้เกี่ยวกับวิธีการบ่มเพาะของเทพธิดาหยูลู่

 

ด้วยการใช้แสงแห่งปัญญา เขาจึงสามารถสร้างท่าไม้ตายเขตแดนที่เหมาะสมกับสถานการณ์นี้

 

ฟางหยวนกล่าว “หมื่นลี้แล้วอย่างไร? วังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงสามารถส่งอิทธิพลไปทั่วทั้งภาคเหนือ แท้จริงแล้วค่ายกลวิญญาณนี้อ่อนแอมาก ผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์ไม่ได้ทำลายมันเพียงเพราะเขากำลังยุ่งอยู่กับการหลบหนีและไม่มีเวลาสนใจมัน เอาล่ะ ไปกันเถอะ เราจะไล่ล่าไห่เจิ้ง”

 

แผนจับตัวผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์ล้มเหลวเพราะเขาฉลาดเกินไป

 

แต่ฟางหยวนจะไม่ยอมปล่อยไห่เจิ้งไป

 

ฟางหยวนใช้ทาสอมตะเผ่ามนุษย์วิหคจ้าวจงลอบติดตามไห่เจิ้งไปอย่างลับๆ ดังนั้นการติดตามไห่เจิ้งจึงประสบความสำเร็จอย่างง่ายดาย

 

แม้ไห่เจิ้งจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่เขาพึ่งผ่านการต่อสู้ร้อยวันและได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงเต็มไปด้วยความมั่นใจ

 

เขาใช้กลยุทธ์เดิมอีกครั้ง

 

คราวนี้เขาไม่ได้ปลอมตัวเป็นฟงจิวเก้อแต่ปลอมเป็นผู้อมตะเฒ่ากังหยาง

 

ไห่เจิ้งหลบหนีและตกลงสู่หลุมพรางในที่สุด

 

ฟางหยวนกระตุ้นใช้เขตแดนสนามรบจิตวิญญาณดาราและทำให้ไห่เจิ้งสูญเสียความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

 

นั่นทำให้ฟางหยวนสามารถจับไห่เจิ้งที่ยังมีชีวิต

 

ไห่เจิ้งมีคุณค่ามาก อย่างน้อยฟางหยวนก็สามารถขายเขาให้กับไห่ลั่วหลันเพื่อรีดเค้นผลประโยชน์

 

แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องค้นวิญญาณไห่เจิ้งเป็นอันดับแรก

 

เขาได้รับข้อมูลจากไห่ลั่วหลันในชีวิตก่อนหน้าแต่มันไม่สามารถเปรียบเทียบกับการค้นวิญญาณไห่เจิ้งด้วยตัวของเขาเอง

 

ฟางหยวนนำเชลยไห่เจิ้งกลับไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู

 

เขาพักผ่อนแต่ยังเฝ้ามองสถานการณ์ในภาคเหนือ

 

‘เป้าหมายต่อไปของข้าคือหุบเขาเหล่าโป ด้วยการผสานงานกันระหว่างภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโป จิตวิญญาณของข้าจะยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว แรงกดดันที่เกิดจากทาสอมตะก็จะถูกกำจัดออกไปขณะที่พลังการต่อสู้ของข้าจะกลับมา’ ฟางหยวนมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าต่อหุบเขาเหล่าโป

 

ก่อนหน้านี้เขาเลือกวิญญาณทาสอมตะเนื่องจากการดำรงอยู่ของหุบเขาเหล่าโป

 

แต่เขายังต้องรอเวลาที่เหมาะสม

 

หลังจากค้นวิญญาณของไห่เจิ้ง เขารู้ว่าเซี่ยซ่งซื่อเสียชีวิตตั้งแต่ช่วงแรกของการต่อสู้ร้อยวัน นอกจากนั้นทุกอย่างก็ไม่ต่างจากที่มันเคยเป็น

 

‘ฟงจิวเก้อถูกฉินไป่เฉิงกักขังเอาไว้ด้วยวิธีการบางอย่าง ตอนนี้หุบเขาเหล่าโปถูกยึดครองโดยกลุ่มผู้อมตะจากภาคเหนือ มันยังไม่ถึงเวลา’

 

ฟางหยวนรอคอยอย่างอดทน

 

ในไม่ช้าสถานการณ์ของภาคเหนือก็เกิดการเปลี่ยนแปลง มันดึงดูดความสนใจของฟางหยวนทันที

 

ผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์ลอบเข้าสู่สุสานผีดิบแต่พบและถูกจับโดยปีศาจอมตะเซี่ยหู

 

การต่อสู้ที่รุนแรงทำให้ปีศาจอมตะเซี่ยหูถูกค้นพบโดยกองกำลังพันธมิตรผีดิบของภาคเหนือ

 

แม้การต่อสู้ร้อยวันจะถูกลากออกไปสามวันแต่เหตุการณ์เกี่ยวกับปีศาจอมตะเซี่ยหูยังเกิดขึ้น

 

ฟางหยวนรู้สึกเศร้าเล็กน้อยกับเรื่องนี้

 

เขาไม่ต้องการให้นางมารผลาญสวรรค์กลับภาคเหนือเร็วเกินไปเนื่องจากนางจะร่วมมือกับไห่ลั่วหลันและเทพธิดาหลี่ซานวางแผนปราบปรามเขา

 

เหตุการณ์หลังจากนั้นพัฒนาไปในรูปแบบที่เคยเป็นเกือบทั้งหมด

 

กองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลตะวันออกสั่งให้นางมารผลาญสวรรค์กลับภาคเหนือเพื่อปกป้องชื่อเสียงของเมืองคลื่นทมิฬ

 

นางมารผลาญสวรรค์เลือกผู้ติดตามจำนวนหนึ่งรวมถึงผีดิบอมตะระดับแปดอีกสองคนร่วมทางไปด้วย

 

ฟางหยวนแนะนำแผนการต่อต้านปีศาจอมตะเซี่ยหูให้กับนางมารผลาญสวรรค์

 

เมื่อนางมารผลาญสวรรค์ได้ยิน นางต้องเปิดปากชื่นชมอย่างช่วยไม่ได้ “นี่เป็นแผนที่ดีมาก ข้าชอบ ปีศาจอมตะเซี่ยหูแข็งแกร่งมากแต่เขาก็มีจุดอ่อนสำคัญ ตอนนี้เขากำลังรวบรวมทรัพยากรอมตะเพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์ ข้ารู้จักนิสัยของเจ้า บอกมาว่าเจ้าต้องการสิ่งใดเป็นค่าตอบแทน”

 

สิ่งที่นางมารผลาญสวรรค์ไม่รู้ก็คือแท้จริงแล้วนี่เป็นแผนการที่นางเค้นสมองคิดขึ้นมาด้วยตนเองหลังจากกลับไปถึงเมืองคลื่นทมิฬ

 

ฟางหยวนขอร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง

 

นางมารผลาญสวรรค์ลังเล แต่เมื่อนึกถึงเบื้องหลังของฟางหยวน นางจึงยอมรับคำขอนี้

 

ฟางหยวนขอสิ่งนี้ไว้เพื่อเป็นแผนสำรองในกรณีที่แผนการยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลและผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดล้มเหลว

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

ฟางหยวนตรวจสอบผู้อมตะภาคกลางและพบว่าพวกเขาออกจากภาคเหนือเรียบร้อยแล้ว

 

‘ได้เวลาเข้าสู่หุบเขาเหล่าโป!’

 

ฟางหยวนนำไท่เป่ยหยุนเฉิงและจ้าวจงเดินทางไปยังส่วนลึกของหุบเขาเหล่าโปโดยวิญญาณท่องแดนอมตะ

 

หลังจากค้นวิญญาณของไห่เจิ้ง เขาจึงรู้จักภูมิประเทศของหุบเขาเหล่าโปเป็นอย่างดี

 

ด้วยวิธีนี้ ฮุ้ยฟงซื่อที่เฝ้าระวังอยู่ด้านนอกจึงไม่ตระหนักถึงกลุ่มของฟางหยวน

 

วิญญาณอมตะยกภูเขา!

 

ฟางหยวนกำลังจะขโมยหุบเขาเหล่าโปแต่ในจังหวะนี้เขากลับรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

 

เขาได้ยินเสียงเพลงดังขึ้นในหู

 

“บทเพลงที่ล้มเหลวและวีรบุรุษที่สิ้นหวัง ความยากลำบากในการต่อต้านโชคชะตา”

 

“ดาบที่จมอยู่ใต้พื้นทรายทะยานขึ้นจากห้วงอดีตสร้างเสียงครวญครางไปทั่วน้ำตกสวรรค์”

 

“อนิจจา…”

 

“ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวนำวิญญาณสู่ความฝัน แล้วผู้ใดจะสามารถพักผ่อนอย่างสงบ?”

 

“ร่างกายและจิตใจอาจเปลี่ยนผัน แต่เจตจำนงสวรรค์ยังยิ่งใหญ่และไร้ขอบเขต”

 

มันเป็นบทเพลงลึกลับของเทพอมตะกลุ่มดาว!

 

ครั้งนี้ฟางหยวนสามารถจดจำได้ทั้งหมด ในเวลาเดียวกันข้อมูลจำนวนมหาศาลก็พุ่งเข้าสู่จิตใจของเขาอย่างกะทันหัน

 

ฟางหยวนตะลึง

 

‘หุบเขาเหล่าโปซ่อนมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์เอาไว้!’