“ทำไมพวกหนูสองคนมาอยู่นี่ล่ะ?เช้าขนาดนี้ แม่พวกหนูล่ะ?”
เคเห็นเด็กชายทั้งสองคนนี้แล้ว ก็ลงมาจากรถทันที ถามพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น?
ซึ่งสิ่งนี้ทำให้คนรู้สึกเป็นห่วงจริงๆ อากาศเย็นมาก ทั้งสองคนก็ยังเด็กมากด้วย เดินไปมาอยู่ตรงถนนแต่เช้า ใครบ้างจะไม่ห่วง
คุณชายคิวรีบอธิบาย:“คุณอาเค หม่ามี๊พวกเรานอนอยู่ เมื่อคืนเธอเหนื่อยครับ”
เค:“……”
เหนื่อยเหรอ?
นี่มันคือคำพูดแรงๆอะไรกัน?หรือที่เมื่อคืนประธานกลับไปซะดึก จะเป็นการยืนยันการคาดเดาของเขาได้จริงๆ?
เคนึกถึงคำพูดที่บอดี้การ์ดพวกนั้นบอกตัวเองเช้าวันนี้ ว่าเมื่อคืนBOSSผู้ยิ่งใหญ่อยู่ชั้นบนนี้นานมาก ทันใดนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดง
“แบบนี้นี่เอง งั้น……พวกหนูลงมาทำอะไร?ซื้ออาหารเช้าเหรอ?”
“ครับ ซื้อให้หม่ามี๊กับน้องสาวกิน”
ดวงตาเล็กๆของคุณชายคิวก็กะพริบเป็นพระจันทร์เสี้ยวอีกครั้ง บอกคุณอาคนนี้ไปอย่างตรงไปตรงมา
เคเห็นแบบนี้ จึงจอดรถไว้ด้านข้าง
“งั้นตอนนี้คุณอาเคจะขึ้นไปส่งพวกหนูเอง เมื่อกี๊แด๊ดดี้พวกหนูโทรหาอาแล้ว ให้อารีบพวกหนูไปโรงเรียนอนุบาล รีบขึ้นไปบอกหม่ามี๊พวกหนูดีกว่า”
เคมองนาฬิกาบนข้อมือ อยากรีบพาเด็กชายทั้งสองคนนี้ไป
แต่ว่า พอคุณชายคิวได้ยินว่ามารับพวกเขาไปโรงเรียนอนุบาล ก็ไม่ฟังนัก
“ไม่ได้ หม่ามี๊ผมยังไม่ตื่นเลย พวกเราไม่ได้บอกหม่ามี๊ แล้วก็ น้องสาวก็ไม่ไป พวกเราก็จะไม่ไป ใช่ไหม ชินจัง!”
เด็กชายมองไปยังพี่ชายที่อยู่ข้างๆ
ชินจังก็พยักหน้าอย่างไม่ลังเล:“อือ”
เค:“……”
ไม่สิ เรื่องนี้เขาไม่ได้เป็นคนตัดสินใจ ทำไมท่านทั้งสองคนนี้ต้องโกรธเขาล่ะ?
แต่ตอนที่ตะลึงงันอยู่นั้น เด็กสองคนนี้ก็จูงมือกัน ถือถึงอาหารเช้าแล้วหันหน้าวิ่งออกไปอย่างเร็ว
“เฮ้อ!คุณชายเล็กทั้งสอง รอก่อนสิครับ พวกหนูอย่าวิ่งสิ มีอะไรก็คุยกันดีๆได้ไหม”
เคย่ำเท้าไปอย่างร้อนรน
แสนรักทราบข่าวนี้ ก็ตอนที่เพิ่งถึงบริษัท
เมื่อคืนเขาก็ไม่ได้นอนทั้งคืน หลังจากออกมาจากห้องเช่าเก่าๆโทรมๆนั้น ฟ้าก็จะสว่างอยู่แล้ว ดังนั้นสุดท้ายแล้วเขาจึงหลับไปครู่หนึ่ง แล้วก็มาทำงาน
ได้ยินว่ารับเด็กสองคนนี้มาไม่ได้ เขาที่นั่งอยู่ในโต๊ะทำงานแล้วเจ็บหัวมากอยู่แล้ว ทันใดนั้นก็ยิ่งรู้สึกว่าเส้นเลือดปูดมากขึ้น!
“ทำไมพวกเขาไม่ยอมกลับมา?”
“พวกเขาบอกแล้ว จะไปกับน้องสาวด้วย ถึงจะกลับ”
เคพูดในสายอย่างกลัวๆ
แสนรักได้ยิน ทันใดนั้น ตรงขมับก็ยิ่งปูดมากขึ้น:“พวกเขาดื้อใช่ไหม?ถึงได้มากล้าขู่แด๊ดดี้ของพวกเขา?เรื่องเมื่อวาน ผมไม่ได้จัดการพวกเขาก็ถือว่าดีแล้ว!”
เค:“……”
ได้ยินเสียงโกรธทางโทรศัพท์ จนเขาไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรทันที?
เป็นคนกลางนี่ ยากจริงๆ
ตอนที่ยืนตรงนั้นอย่างทำอะไรไม่ได้ เวลานี้เอง มือเล็กๆที่ขาวสะอาด จู่ๆกลับยื่นมา:“เอาโทรศัพท์มาให้ผม”
“อ๋า?ให้……หนู?”
เคมองคุณชายเล็กชินจังที่มาตรงด้านข้างตัวเองอย่างงงๆ ลังเลอยู่นาน
สุดท้าย ชินจังเห็นเขาพูดจายืดเยื้อแบบนี้ ก็เขย่งเท้าเล็กๆ แย่งโทรศัพท์ในมือเขาไป
“แด๊ดดี้ ผมชินจังเอง!”
“แล้ว?”
แสนรักกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างมาก กับเสียงในสายที่เปลี่ยนไปกะทันหันจากลูกชาย
“แล้ว ผมก็อยากบอกว่า ตอนนี้แด๊ดดี้ไม่เหมือนผู้ชายเลย”
“!!!!”
เป็นเวลากว่าห้าวินาที แสนรักถึงได้ยินตัวเองกัดฟันถามออกไป:“ไม่เหมือนผู้ชาย?”
ชินจังยังคงไม่แยแส:“ใช่ เมื่อวานพวกเรากลับมาแล้ว”
“แล้วไง?”
“หม่ามี๊เรียกพวกเรากลับมา”
“……”
“ที่จริงพวกเราต้องไปต่างประเทศ หม่ามี๊บอกว่า จะให้แด๊ดดี้เสียใจไม่ได้ ก็เลยพาพวกเรากลับมา แต่แด๊ดดี้แด๊ดดี้……เป็นแบบนี้ตลอด แด๊ดดี้สู้หม่ามี๊ไม่ได้!”
เด็กชายตัวน้อยคนนี้พูดอย่างมีระบบแบบแผน!
น่าจะเป็นเพราะว่าพูดประโยคยาวมากไป ตอนนี้เอง ประโยคยาวๆนี้ พูดออกมาจากปากเขา ก็เหมือนกับว่าพ่นออกมาทีละคำๆ
ไม่คล่องแคล่ว และก็ไม่พอลื่นไหลพอ
แต่ว่า เขาก็ยังพยายามแสดงความหมายของตัวเองออกมา
แสนรักได้ยินในสาย ก็ตกใจทันที
ในลำคอ เดิมทีเตรียมจะต่อว่าเด็กอกตัญญูคนนี้แรงๆแล้ว แต่ทันใดนั้น เขาก็พูดไม่ออก
เมื่อวานพวกเขากลับมา ดันถูกผู้หญิงคนนั้นพากลับมาเหรอ?
จะเป็นไปได้ไง?
ไม่ใช่เพราะว่าเธอกลัวเขา จากนั้นจึงไม่กล้าไป สุดท้ายเลยเลือกพาพวกเขากลับมาเหรอ?
ชายหนุ่มที่ถือโทรศัพท์ ไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเขาได้ยินลูกพูดถึง จุดประสงค์ที่ผู้หญิงคนนั้นพาพวกเขากลับมา เป็นเพราะว่าไม่อยากเห็นเขาเสียใจ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้
“ลูกกำลังเอาใจพ่ออยู่เหรอ?เพื่อให้ยัยเด็กสาวนั่นไปเรียนโรงเรียนอนุบาลด้วยกันกับพวกลูก”
“ตรวจดูกล้องวงจรปิด ที่โรงแรมสนามบินสิ!”
เด็กชายก็พูดอย่างไร้เยื่อใยอีกครั้ง
จากนั้น เขาก็วางโทรศัพท์
เคเห็นทั้งหมดนี้กับตา เหงื่อเย็นๆทั่วใบหน้า จนแทบจะคุกเข่าให้กับคุณชายตัวน้อยคนนี้
แต่ว่า เขาก็คิดอีกว่า รับมือกับคนอย่างแด๊ดดี้ของเขาแล้ว จริงๆเลย ต้องให้ลูกชายเขาคนนี้ออกโรง ยังไง ก็มีแค่เขาที่รู้เส้นตายของเขา!
อย่างที่คาดไว้เลย วางโทรศัพท์ไปไม่ถึงห้านาที โทรศัพท์ของเขาก็มีวีแชทเข้ามาอีกครั้ง
“เอาสาวน้อยคนนั้นมา!”
“……”