Ch.63 – ท่านปู่น้อย

Translator : Muntra / Author

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.63 – ท่านปู่น้อย

 

ในบรรดากำลังภายในเหล่านั้น มีอยู่ 15 เส้นไหมที่ฉินเฟิงดูดกลืนมาจากอันธพาลในสลัม

 

อย่างไรก็ตาม เส้นไหมเหล่านี้ไม่สมบูรณ์เลย มันสั้น เหี่ยวแห้งผอมบางราวกับขนวัว แต่สำหรับฉินเฟิง มันก็ยังดีกว่าได้ไม่อะไร

 

ถัดมา คือบนเวที ฉินเฟิงโค่นเหล่านักสู้เลเวล G2 G3 G4 G5 สุดท้ายเป็นจอมหักกระดูกในเลเวล G6

 

พวกแรกๆเหมือนของว่างรองท้อง แต่สำหรับจอมหักกระดูกน่ะแตกต่างออกไป เส้นไหมกำลังภายในของมันหนามาก โดยรวมแล้วบนเวที ฉินเฟิงได้รับกำลังภายในมาทั้งสิ้น 20 เส้น

 

อย่างไรก็ตาม สมาชิกทีมยามของคลับอินทรี หัวหน้าของพวกมันเป็นถึงเลเวล G9 ส่วนลูกน้องล้วนอยู่ในเลเวล G8 ทำให้ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ฉินเฟิงได้รับกำลังภายในมามากถึง 41 เส้น

 

เส้นไหมกำลังภายในมีความหนาบางแตกต่างกัน คุณสมบัติก็แตกต่างกัน ทำให้ภายในตันเถียนของเขาพลุ่งพล่าน เต็มไปด้วยความโกลาหล

 

“จงดูดกลืน!”

 

ฉินเฟิงกระตุ้นพลังพิเศษกลืนกิน แก่นอบิลิตี้เริ่มหมุนวนโคจร ดึงดูดเส้นไหมกำลังภายในที่ไม่ใช่ของตัวเองออกจากตันเถียน

 

เส้นไหมกำลังภายในถูกดูดออกไปอย่างรวดเร็ว เส้นลมปราณขยายตัวขึ้นอีกครั้งจนเกือบถึงในระดับที่น่าตกใจ และในที่สุดก็หลอมรวมเข้ากับร่างของฉินเฟิง

 

อันที่จริง สำหรับตอนนี้ แม้ว่าฉินเฟิงจะไม่ใช้ทักษะลับกลืนดาราในการฉกชิงกำลังภายในของคนอื่น ความรวดเร็วในการฝึกฝนของเขาก็นับว่าเร็วกว่าคนปกติเป็นสิบเท่าอยู่แล้ว

 

ในเวลานี้ กำลังภายในส่วนใหญ่ได้รับการกลืนกิน และกลั่นให้อยู่ในระดับที่บริสุทธิ์อย่างหาที่ใดเปรียบ จากนั้นพวกมันก็ถูกคายออกมาจากแก่นอบิลิตี้ กลับเข้าไปเวียนว่ายอยู่ในตันเถียนดังเดิม

 

เส้นไหมกำลังภายในที่ตอนแรกมี 27 เส้น บัดนี้พุ่งทะยานขึ้นเป็น 62 ทันที!

 

ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงติดปีกโผทะยาน ทรงพลังกว่าเดิมถึง 2 เท่า!

 

“ต้องอย่างงี้สิ! ไม่งั้นฉันจะถ่อมาถึงที่นี่เพื่ออะไร!”

 

ฉินเฟิงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

 

ยังไงก็ตาม เมื่อฉินเฟิงมองลงไปในตันเถียน ก็ดันค้นพบได้ถึงปัญหาใหม่

 

“แม้ว่าตันเถียนของฉันจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยกำลังภายใน แต่คาดว่ามันคงไม่อาจรองรับเส้นไหมเกินกว่าสิบเท่าของคนปกติได้ ยังไงก็ตาม นี่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะอีกไม่กี่วันฉันก็คงขึ้นไปสู่เลเวล F แล้ว”

 

การเพิ่มระดับความแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าย่อมต้องมีข้อเสีย แต่นี่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะตอนนี้เขาได้ไปยั่วยุศัตรูที่หลบซ่อนอยู่ในเงามืดอย่างรองผู้ว่าการแล้ว ดังนั้นฉินเฟิงจะไม่เร่งพัฒนาความแข็งแกร่งของตนได้อย่างไร

 

ฉินเฟิงถอนวิสัยทัศน์ตนออกจากสภาวะฝึกฝน ผุดลุกขึ้น ก้าวเดินออกจากตรอกไป

 

 

ในเวลา ตีสอง

 

ติ๊ง!

 

ฉินเฟิงเปิดประตู ก้าวเข้ามาภายในบ้านที่มืดสนิท ทว่าจู่ๆก็มีบอลแสงสีเงินสว่างวาบขึ้นเบื้องหน้าเขา

 

ฉินเฟิงตอนแรกผงะตกใจ แต่พอเขาได้มองชัดๆ ก็พบว่าแสงที่ว่านั่นคือเสี่ยวไป๋!

 

“อ้าวเสี่ยวไป๋ นี่แกตื่นแล้วหรอ?” ฉินเฟิงอุทานด้วยความตกใจ แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็รับรู้ว่าว่าลูกกลมๆกำลังม้วนกลิ้งตรงมาที่เท้าของเขาอย่างรวดเร็ว

 

“โอ๊ย!”

 

ฟันเล็กแหลมของเสี่ยวไป๋งับเข้าใส่เท้าของฉินเฟิง

 

“ซี๊ด —” ฉินเฟิงสูดหายใจลึก บังเกิดความรู้สึกปวดแปล๊บอย่างรุนแรง

 

“โอ๊ย!”

 

คราวนี้เสี่ยวไป๋โน้มตัวขึ้น อ้าปากงับ! และกระชากขากางเกงของฉินเฟิงอย่างแรง ด้วยอานุภาพของมัน กางเกงเนื้อผ้าคุณภาพดีก็ยังเอาไม่อยู่ ถูกฉีกจนขาดวิ่น กลายเป็นเศษผ้า หากมองแค่ท่อนล่างในเวลานี้ ฉินเฟิงมีสภาพไม่ต่างจากยาจก

 

ในพริบตา ขากางเกงข้างหนึ่งขอฉินเฟิงก็ถูกกระชากเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เสี่ยวไป๋จึงค่อยก้าวถอยหลังออกมา และเหยียบย่ำบนเศษผ้าเหล่านั้น

 

“อิ๋ง อิ๋ง อิ๋ง!”

 

เสีย่วไป๋โมโหสุดๆ

 

และมันกำจะกลายเป็นบ้า!

 

ฉินเฟิงได้ทำสัญญากับเสี่ยวไป๋แล้ว ดังนั้นเขาเลยสามารถรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของเสี่ยวไป๋ เจ้าตัวบังเกิดความสับสนงุนงงไปชั่วขณะหนึ่ง

 

“หรือว่ามันจะคลั่งไปแล้ว?”

 

ฉินเฟิงจินตนาการไปว่า ฉายาที่เขาตั้งให้ตัวเองในคลับอินทรี จู่ๆก็กลายเป็นคำพยากรณ์ กลายเป็นเรื่องจริงไปซะงั้นหรือ?

 

“เสี่ยวไป๋ ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษที แกช่วยใจเย็นๆลงก่อน!”

 

ฉินเฟิงเร่งปลอบประโลมมัน

 

เสี่ยวไป๋แผดเสียงด้วยความโกรธ มันสะบัดหัวน้อยๆไปอีกข้าง ไม่สนใจฉินเฟิง วิ่งตรงขึ้นไปยังชั้นสอง

 

“รอก่อน เสี่ยวไป๋!”

 

ฉินเฟิงไล่ตามขึ้นไป และเห็นแค่เพียงเสี่ยวไป๋กระโดดเข้าไปในห้องนอน -> ประตูปิดลง ->พร้อมกับเสียงดังกริ๊ก!

 

–ประตูได้ถูกล็อคไปแล้ว!

 

ฉินเฟิง “ … ”

 

จิ้งจอกตัวนี้ เดิมมีภูมิปัญญาชนิดสามารถต่อต้านได้กระทั่งสรวงสวรรค์

 

แต่ปัจจุบัน มันกลับขังตัวเอง โดยการล็อคประตู!

 

ผ่านไปสักพักหนึ่งประตูก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเปิดออก ฉินเฟิงเกิดความรู้สึกไม่รู้ว่าตัวเองจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

 

“ทำไมเสี่ยวไป๋ถึงได้โกรธกัน?” ฉินเฟิงงง เขาคิดยังไงก็คิดไม่ออก แต่เนื่องจากหนึ่งคนหนึ่งสัตว์ได้ทำสัญญากันแล้ว ทำให้ไม่นาน ฉินเฟิงก็ได้ยินเสียงอันคมชัด อ่อนหวานของเด็กน้อยดังเข้ามาในจิตใจ

 

“นายท่านแย่จริงๆ ทิ้งหนูไว้ที่บ้านคนเดียว หนูโกรธมาก!”

 

“ไหนจะบังคับไม่ให้หนูใช้พลังพิเศษอีก”

 

“แต่ตัวเองกลับออกไปเล่นสนุกอยู่คนเดียว!”

 

“แถมขากลับ ก็ยังไม่เอาของขวัญสำหรับหนูติดมือกลับมา!”

 

“ถ้าแบบนี้ไม่ต้องกลับมาดีกว่า ล็อคประตูแล้ว! ห้องนอนนี้เป็นของหนูคนเดียว!”

 

ฉินเฟิงสตั้น

 

เขาไม่คาดคิดเลย ว่าในหัวใจของเสี่ยวไป๋จะมีความคิดเช่นนี้

 

แน่นอน ว่าฉินเฟิงไม่ได้ประหลาดใจกับเนื้อหาความคิดของเสี่ยวไป๋ แต่แปลกใจตรงที่ว่าทำไมเสียงในความคิดของเสี่ยวไป๋มันถึงได้ชัดเจนมากถึงขนาดนี้ต่างหาก

 

ก่อนหน้านี้ หลังจากทำสัญญากัน การสื่อสารระหว่างฉินเฟิงกับเสี่ยวไป๋นั้นค่อนข้างคลุมเครือ แต่เมื่อครู้นี้ฉินเฟิงใช้พลังของสัญญา และพลังสมาธิในรูปแบบที่ผู้ฝึกสัตว์ใช้สื่อสารกับสัตว์ร้าย ที่มีไว้เพื่อการออกคำสั่งให้ชัดเจน

 

เพราะสัตว์ร้ายมักจะไม่สามารถเข้าใจความคิดของมนุษย์

 

แต่เสี่ยวไป๋น่ะแตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด บางทีอาจเป็นเพราะสติปัญญาของมันสูงมากเกินไป หรืออาจเป็นเพราะฉินเฟิงเอาใจใส่ดูแลอยู่เสมอ มันเลยหลักแหลม และอ่อนไหวต่ออารมณ์มากเป็นพิเศษ

 

เนื่องจากฉินเฟิงเคยบอกกับเสี่ยวไป๋ ว่าห้ามใช้พลังมิติของมันในสถานที่ชุมชน ดังนั้นเมื่อเสี่ยวไป๋ตื่นขึ้น มันเลยไม่สามารถใช้พลังมิติค้นหาตัวฉินเฟิงได้

 

มันเลยต้องรอคอยเขาเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่มันไม่คาดคิดเลย ว่าพอฉินเฟิงกลับมา เขาจะไม่มีของขวัญติดมือมาให้มัน นี่เองซึ่งเป็นสาเหตุให้เสี่ยวไป๋งอน

 

“หยุดเลย นายท่านไม่ต้องพยายามเกลี้ยกล่อม ท่านปู่น้อยคนนี้อย่างไรก็ไม่ยอมหายโกรธ!”

 

ฉินเฟิงยิ้มแห้งๆ ก่อนจะเปิดอุปกรณ์สื่อสาร

 

ในเวลานี้ เพียงค่ำคืนเดียว ในบัญชีของเขาก็มีเงินถูกโอนเข้ามามากกว่า 42 ล้าน

 

นี่ถือว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาล สำหรับคนที่อยู่ในขอบเขตเลเวล G บอกได้เลยว่าตอนนี้ ตราบใดที่ฉินเฟิงต้องการ เขาก็สามารถซื้อชุดอุปกรณ์รูนสีเงินได้เลยโดยตรง

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้มัน

 

ฉินเฟิงทำการเชื่อมต่อเครือข่ายผ่านอุปกรณ์สื่อสาร และเริ่มค้นหาแก่นพลังงาน

 

แก่นพลังงานมีมูลค่าแตกต่างกันออกไป เนื่องจากสัตว์ร้ายแต่ละตัวที่ครอบครองมัน มีแข็งแกร่งไม่เหมือนกัน อย่างแก่นพลังงานจากหมาป่ามาสติฟที่ฉินเฟิงล่ามาได้ ในช่วงเพิ่งปลุกพลังให้ตื่นขึ้น มันมีมูลค่าอยู่ราวๆ 200,000 เหรียญ

 

ในขณะที่แก่นพลังงานระดับราชันย์สัตว์ร้าย จะมีมูลค่ามากกว่านั้นเป็นสิบเท่า!

 

ฉินเฟิงเปิดเข้าไปดูห้องประมูลกลุ่มหวันซ่งของเมืองเฉิงหยาง

 

【แก่นพลังงาน G8 ของราชันย์แมวกลายพันธุ์ ราคา 8.30 ล้าน】

 

【แก่นพลังงาน G7 ของราชันย์ตั๊กแตนเขียว ราคา 7.21 ล้าน】

 

【แก่นพลังงาน G5 ของราชันย์วัวเถื่อน ราคา 5.8 ล้าน】

 

【แก่นพลังงาน G9 …. 】

 

หลังจากที่มีข้อมูลเด้งขึ้นมา ฉินเฟิงก็พิจารณาแต่ละชิ้นอย่างรอบคอบ และตัดสินใจเลือกแก่นพลังงานที่ราคาค่อนข้างสมเหตุสมผลและมีพลังงานสูง ใส่ลงไปในตระกร้าสินค้าที่ต้องการซื้อ

 

“ท่านต้องการใช้บริการส่งด่วนโดยนกพิราบฟ้าหรือไม่ มันสามารส่งสินค้าถึงมือท่านได้ภายใน 10 นาที!”

 

ฉินเฟิงเลือกบริการนี้ และจ่ายเงินเพิ่มไปอีก 500,000 เหรียญ

 

นกพิราบฟ้า คือสัตว์ร้ายที่ว่องไว แต่มีบุคลิกอ่อนโยน เป็นสัตว์ที่สามารถทำให้เชื่องได้ง่าย เหมาะสมแก่การทำสัญญา แต่เนื่องจากมันไม่มีพลังต่อสู้มากนัก จึงถูกใช้งานไปทางด้านการสื่อสารและการส่งสินค้าซะมากกว่า

 

ในเวลาไม่ถึง 5 นาที อุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิงก็ดังขึ้น

 

“ลูกค้าที่รัก สินค้าที่คุณต้องการกำลังจะไปถึงในเร็วๆนี้ โปรดเปิดหน้าต่าง หรือรอรับมันในพื้นที่เปิดโล่ง”

 

ฉินเฟิงปีนขึ้นไปบนหลังคา มองไกลออกไปก็พบกับนกพิราบตัวใหญ่

 

ปีกของนกพิราบฟ้า เพียงกางออกก็ยาวกว่าหนึ่งเมตร มันมีรูปร่างอ้วนท้วน และหากสังเกตดีๆ จะพบว่าในใต้กรงเล็บของมันกำลังกุมอะไรบางอย่างที่ถูกห่อเอาไว้อยู่

 

“ฉันเห็นมันแล้ว! เฮ้ ทางนี้!” ฉินเฟิงโบกมือของเขา

 

“รับทราบ ฉันจะสั่งนกพิราบฟ้าร่อนลงทันที”

 

ตรงคอของนกพิราบฟ้า ถูกผูกไว้ด้วยอุปกรณ์สื่อสาร ผู้ฝึกสัตว์เอ่ยสั่งการให้พิราบฟ้าร่อนลง และฉินเฟิงก็ได้รับสินค้าอย่างราบรื่น

 

มีเพียงเครือข่ายห้องประมูลของกลุ่มหวันซ่งเท่านั้น ที่สามารถจัดการส่งสินค้าให้กับฉินเฟิงได้ทันทีในเวลานี้ ก่อนที่ฟ้าจะสาง!

 

เมื่อเสร็จสิ้นการรับสินค้า บนอุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิง เงินในบัญชีกว่า 40 ล้านก็กลายเป็นว่างเปล่า