บทที่ 236 พวกขยะ

“อะไรนะ? บอสตัวใหม่ตายแล้ว? มันตายได้ยังไง? ฆ่าตัวตายเหรอ?”

หลางฉิงเทียนเซี่ยกำลังตกตะลึงอยู่ที่ทางเข้าชั้นสองของป่าแห่งสัตว์ร้ายที่ถูกผนึก

“เอ่อ ท่านหัวหน้ากิลด์ บอสถูกไนท์ คูนเนอร์ฆ่าตายต่างหาก”

ดูเหมือนว่าผู้เล่นของกิลด์วูล์ฟจะคุ้นเคยกับวงจรสมองของหัวหน้ากิลด์อยู่แล้ว ดังนั้นจึงต้องอธิบายให้เขาฟังด้วยเสียงเบา

กิลด์วูล์ฟเป็นกิลด์ที่บ้าบิ่น สมาชิกทุกคนเป็นนักสู้ที่เลือดร้อน ในหมู่พวกเขา หลางฉิงเทียนเซี่ยผู้เป็นหัวหน้ากิลด์ก็เป็นผู้เล่นที่บ้าบิ่นที่สุดในกิลด์ด้วย ถ้าเขาไม่เห็นด้วยกับใคร ก็จะสู้กับคนนั้น อีกทั้งจะพุ่งไปแนวหน้าในการต่อสู้ทุกครั้ง

การบริหารจัดการของกิลด์วูล์ฟอยู่ในความดูแลของรองหัวหน้ากิลด์หลายคน พวกเขาไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมากมาย ท้ายที่สุดพวกเขาเป็นกลุ่มของนักสู้ นอกเหนือจากห้ามไม่ให้รังแกผู้อ่อนแอหรือก่อปัญหาอะไรบ่อย ๆ ก็ไม่มีข้อห้ามอื่นใด ถ้าหากพวกเขามีกฎเกณฑ์มากมาย กิลด์ก็คงไม่สามารถหาคนเข้าร่วมจำนวนมากได้ และพัฒนากิลด์จนได้ถึงขนาดนี้

“ไนท์ คูนเนอร์? ที่ไหน? เขามาเมื่อไหร่? เขาเข้ามาในป่าแห่งสัตว์ร้ายที่ถูกผนึกได้ยังไง?”

หลังจากได้ฟังคำตอบ หลางฉิงเทียนเซี่ยก็ถามทันที ซึ่งทำให้ผู้เล่นของกิลด์วูล์ฟรอบตัวเขาพูดไม่ออก

“ท่านหัวหน้ากิลด์ ไม่ใช่ว่าฉันส่งข้อความส่วนตัวมาให้หัวหน้าก่อนแล้วเหรอ?”

ลิตเติ้ลฟ็อกซ์เดินมาหาหลางฉิงเทียนเซี่ยและมองเขาอย่างรู้สึกปวดหัว

“เธอส่งข้อความส่วนตัวถึงฉัน? ฉันยังไม่ได้ดูเลย ตอนนั้นฉันทะเลาะกับเจ้านาย เลยไม่มีเวลาสังเกตข้อความส่วนตัวของเธอ”

หลางฉิงเทียนเซี่ยเปิดข้อความและอ่านทันที ซึ่งทำให้ลิตเติ้ลฟ็อกซ์ต้องพูดไม่ออกอีกครั้ง

เธอมองไปที่เซียวเฟิงและซือเยี่ยจิ๋งที่อยู่ข้างหลังเธอด้วยสีหน้าหมดหนทาง เธอมาที่นี่เพื่อแนะนำให้รู้จักกับหลางฉิงเทียนเซี่ย แต่เธอไม่รู้ว่าหัวหน้ากิลด์คนนี้ไม่ได้ออนไลน์อีกแล้ว

โชคดีที่เซียวเฟิงส่งสายตาว่าเข้าใจให้เธอ ซึ่งทำให้ลิตเติ้ลฟ็อกซ์โล่งใจ เธอเกือบจะเสียมารยาทกับผู้เล่นระดับเทพทั้งสองแล้ว

หลางฉิงเทียนเซี่ยเป็นชายหนุ่ม เขาดูธรรมดาและซื่อ ๆ เมื่อไม่พูด แต่เมื่อเขาตะโกนด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว เขาก็ดูดุร้าย

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ก็อยู่ที่นี่ด้วย? เขาอยู่ไหน? ฮ่า ๆ! เจ้าแห่งฮีลเลอร์จริง ๆ ด้วย! มา ๆ มาสู้กับฉันหน่อย! ฉันอยากรู้ว่านายแข็งแกร่งอย่างที่คนอื่นพูดจริงหรือเปล่า!”

หลังจากอ่านข้อความ หลางฉิงเทียนเซี่ยก็เงยหน้าขึ้นและสังเกตเห็นเซียวเฟิงที่ยืนอยู่ข้างหลังลิตเติ้ลฟ็อกซ์ทันที และเขาก็พูดอย่างตื่นเต้น

เซียวเฟิงไม่ได้ปกปิดตัวตนของเขาตั้งแต่เข้ามาในป่าแห่งสัตว์ร้ายที่ถูกผนึก ตอนนี้รูปร่างหน้าตาของสวมใส่ของเขาเป็นเครื่องหมายประจำตัวของเขาไปแล้ว

ในตอนนี้ ไม่เพียงแต่ลิตเติ้ลฟ็อกซ์และกลุ่มผู้เล่นของกิลด์วูล์ฟเท่านั้นที่พูดไม่ออก แต่เซียวเฟิงก็พูดไม่ออกเช่นกัน

“โฮก!”

ในขณะนั้นเอง นักรบออร์คที่หลงทางก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ทางเข้าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา เนื่องจากมีชื่อสีเหลือง ผู้เล่นของกิลด์วูล์ฟจึงไม่ตื่นตระหนก และกลุ่มคนก็แยกย้ายกันไปเพื่อต่อสู้กับนักรบออร์คที่หลงทาง

แม้แต่บอสตัวที่สองที่เกิดมาก่อนหน้านี้ก็มีชื่อสีเหลืองเช่นกัน มันจะไม่โจมตีและสร้างความวุ่นวายกับพวกเขาก่อน แต่น่าเสียดายที่มันปรากฏในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง มันถูกระดมสกิลระยะไกลใส่และจมอยู่ท่ามกลางสกิลที่ถาโถมจากทั่วทุกแห่ง ชื่อของมันจึงกลายเป็นสีแดงและเริ่มออกโจมตี

นักรบออร์คที่เพิ่งเกิดใหม่อยู่ใกล้กับเซียวเฟิงมาก มันอยู่ในระยะสกิลค้อนแห่งการพิพากษาของเซียวเฟิง ดังนั้นชายหนุ่มก็เลยหวดมัน แน่นอนว่าเขาบัฟให้ตัวเองล่วงหน้าแล้ว

-2,106! คริติคอล!

ค้อนทองคำยักษ์ระเบิด และตัวเลขความเสียหายอันน่าตกใจที่ทำให้ผู้เล่นทุกคนประหลาดใจที่ลอยอยู่บนหัวของนักรบออร์คที่หลงทาง จากนั้นแถบพลังชีวิตของมันก็ลดลงไปครึ่งหนึ่งโดยตรง

หลางฉิงเทียนเซี่ยตกใจ มองตัวเลขตาไม่กระพริบ เขาไอหลังจากเห็นว่าพลังชีวิตบนหัวของเขามีไม่ถึง 300 หน่วย

“เอ่อ ฉันเพิ่งตีบอสมาอะนะ ตอนนี้ฉันเลยไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ ดังนั้นฉันไม่อยากสู้กับเจ้าแห่งฮีลเลอร์แล้ว งั้นไนท์ คูนเนอร์…”

จากนั้นหลางฉิงเทียนเซี่ยก็หันมามองที่ซือเยี่ยจิ๋ง

ทว่าตอนนี้ซือเยี่ยจิ๋งก็พุ่งออกไปแล้ว บัฟที่เซียวเฟิงให้กับเธอนั้นยังไม่หมดเวลา หญิงสาวจึงพุ่งตรงไปยังนักรบออร์คที่หลงทางซึ่งมีพลังชีวิตเพียงครึ่งเดียว มีดคู่ปาดขึ้นและลง ตัวเลขความเสียหายจากการโจมตีคริติคอลมากกว่า 300 หน่วยพุ่งออกมาจากเหนือหัวของนักรบออร์คที่หลงทางครั้งแล้วครั้งเล่า ซือเยี่ยจิ๋งฆ่านักรบออร์คที่หลงทางด้วยการฟันหลาย ๆ ครั้ง และมีหนังสือสกิลดร็อปอยู่ข้าง ๆ ศพ

ในตอนนี้เอง ซือเยี่ยจิ๋งก็ได้ยินว่าหลางฉิงเทียนเซี่ยดูเหมือนจะเรียกเธอ ดังนั้นจึงมองมาที่เขาอย่างสับสนขณะที่เธอเดินกลับมา

“เอ่อ วันนี้ฉันไม่ค่อยสบาย ไว้เราสู้กันวันหลังดีกว่า แค่ก…แค่ก ฮ่า ๆ”

หลางฉิงเทียนเซี่ยกุมคอของเขาและยิ้มอย่างเขินอาย ซึ่งทำให้ผู้เล่นของกิลด์วูล์ฟรอบตัวเขาทุกคนต่างต้องหลบตา ทำตัวเหมือนพวกเขาไม่รู้จักคนคนนี้

“ให้ฉันแนะนำตัวเขาหน่อย นี่คือหลางฉิง หัวหน้ากิลด์วูล์ฟของเรา” คิ้วที่ดูดีของลิตเติ้ลฟ็อกซ์เกือบจะบิดเบี้ยว แต่เธอยังคงพยายามยิ้มและแนะนำตัวให้ทั้งสองฝ่ายต่อไป

“นี่คือเจ้าแห่งฮีลเลอร์ และนี่คือไนท์ คูนเนอร์แห่งกิลด์มิดซัมเมอร์”

“ชื่อเสียงของพวกนายทั้งคู่ดังไปทั่วอยู่แล้ว! ฉันได้ยินชื่อของพวกนายมานานแล้วล่ะ!”

หลางฉิงเทียนเซี่ยกระตือรือร้นมาก เขาอยากจับมือกับเซียวเฟิงและซือเยี่ยจิ๋ง

เซียวเฟิงจับมือกับเขา แต่ซือเยี่ยจิ๋งปฏิเสธ

“กิลด์วูล์ฟของเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับการมาเยือนของผู้เล่นชั้นยอดทั้งสอง ทั้งคู่สามารถฆ่าบอสของแผนที่นี้ได้ตามสบาย แต่มีข้อแม้สำคัญอย่างหนึ่ง ฉันหวังว่าทั้งคู่จะไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับแผนที่นี้” หลางฉิงเทียนเซี่ยไม่ได้ห่วงเท่าไหร่แต่เขาก็ยังคงพูด

“ฉันไม่ค่อยสนใจแผนที่นี้เท่าไหร่หรอก ฉันแค่ต้องการหนังสือสกิลที่นักบวชใช้ได้นะ หากมีหนังสือสกิลแบบนั้นฉันก็ซื้อให้ได้นะ”

เซียวเฟิงกล่าว นี่คือเหตุผลที่เข้ามาในดันเจี้ยนนี้ ชายหนุ่มไม่อยากเสียเวลาหาหนังสือสกิลในแผนที่นี้มากเกินไป

เซียวเฟิงมองไปที่หนังสือสกิลที่เพิ่งดร็อปโดยนักรบออร์คที่หลงทาง เป็นหนังสือระดับเริ่มต้น ‘หวด’ แม้ว่าเขาจะหาหนังสือสกิลได้มากมายผ่านดันเจี้ยนนี้ แต่คุณภาพและคลาสของหนังสือสกิลที่ดร็อปมันผิดปกติ เขาไม่แน่ใจว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะได้สกิลของนักบวช

“หนังสือสกิลของนักบวชนั้นหายากมาก ไม่เพียงแต่เราต้องต่อสู้กับออร์คผู้ประกอบพิธีกรรมเท่านั้น แต่เราต้องต่อสู้กับบอสด้วย กิลด์ของเราเข้ามาในดันเจี้ยนเป็นเวลานานแล้ว แต่เราได้มันมาแค่เล่มเดียวเท่านั้นและเราก็ใช้ไปแล้ว ตอนนี้เราไม่มีหนังสือสกิลนักบวชแล้ว”

หลางฉิงเทียนเซี่ยมองไปที่ลิตเติ้ลฟ็อกซ์ในขณะที่เขาพูด เห็นได้ชัดว่าลิตเติ้ลฟ็อกซ์ได้เรียนรู้หนังสือสกิลเล่มนั้นไป

“บอสออร์คผู้ประกอบพิธีกรรม?”

เซียวเฟิงพยักหน้า ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาได้แต่สกิล ‘หวด’ จากนักรบออร์ค เดิมทีแล้ว มันน่าจะขึ้นอยู่กับคลาสของมอนสเตอร์ ยิ่งกว่านั้น มอนสเตอร์สามารถดร็อปได้แต่หนังสือสกิลระดับทั่วไปเท่านั้น จะหาของระดับดีเยี่ยมและหายากต้องดร็อปจากบอสเท่านั้น

“กิลด์ของเรายังไม่ได้สำรวจแผนที่นี้อย่างถี่ถ้วน เราเพิ่งเจอทางเข้าชั้นสองเมื่อไม่กี่วันก่อนเอง นอกจากนี้ยังมีบอสจำนวนมากปรากฏตัวในชั้นสอง แต่ทั้งหมดมีเลเวล 30 และเราไม่สามารถฝ่าแผนที่ไปได้ เราทำได้แค่ลากบอสมาและฆ่าพวกมันใกล้ทางเข้าเท่านั้นเอง”

หลางฉิงเทียนเซี่ยพูดอย่างร่าเริงโดยไม่ปิดบังข้อมูลใด ๆ ของแผนที่นี้

“โอเค ขอบคุณมากหัวหน้ากิลด์หลาง เราจะไปหาหนังสือสกิลเอง” เซียวเฟิงพยักหน้าแล้วจากไปพร้อมกับซือเยี่ยจิ๋ง เขาเลือกทิศทางและเดินลึกเข้าไปในชั้นสองของป่าแห่งสัตว์ร้ายที่ถูกผนึก

ในเวลาเดียวกัน การประมูลของร้านค้ามหาสมบัติในเมืองเทียนหลงก็เข้าสู่จุดเดือด แน่นอน เวทีที่ร้อนแรงเช่นนี้เป็นเพียงการเยาะเย้ยของหานเฟิง และเป้าหมายของการเยาะเย้ยคือกิลด์แอนติควิตี้

“หนึ่งล้านเหรียญทอง! ไปต่อสิพวกขี้ขลาดในกิลด์แอนติควิตี้ ถ้าไม่ไปต่อพวกแกจะเป็นหมาเลยนะ! พวกนายไม่มีปัญญาจ่ายหนึ่งล้านเหรียญทองเหรอ?”

สถานที่จัดประมูลทั้งหมดเงียบมาก มีเพียงเสียงแห่งชัยชนะของหานเฟิงเท่านั้นที่ดังก้องอยู่ในสถานที่นี้ ตอนนี้ผู้เล่นทั้งหมดในสถานที่จัดประมูลเข้าใจแล้วว่าบุคคลที่อยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข 1 เป็นเกรียนอินเตอร์เน็ตแน่นอน เขาจะหาเรื่องกับใครก็ตามที่เขาอยากหาเรื่อง โชคไม่ดีที่กิลด์แอนติควิตี้ตั้งใจจะเข้ามาขวางทางเขาอีกครั้ง

“นายท่าน เขาด่าผู้อื่นว่าขี้ขลาดและเป็นหมา มันหมายความว่าเขาด่าตัวเองว่าเป็นหมาด้วยไม่ใช่เหรอ?”

ที่มุมห้องโถง ผู้เล่นหญิงคนหนึ่งถามชายคนหนึ่งที่มีของสวมใส่พิเศษ

“ชู่ว! เงียบไว้! อย่าให้เขาได้ยิน! เราไม่สามารถรับมือคนที่นั่งอยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข 1 ได้หรอกนะ!”

ชายคนนั้นกลัวมากจึงรีบปิดปากของผู้เล่นหญิง เขาสามารถซื้อตั๋วสองใบสำหรับการประมูลและพาผู้เล่นหญิงมาประมูลด้วยได้ ซึ่งหมายความว่ามีตัวตนที่ไม่ธรรมดาแน่นอน

แต่ด้วยเหตุนี้ เขาจึงรู้ว่าการได้ตั๋วมางานประมูลนั้นยากเพียงใด แล้วก็รู้ด้วยว่าคนที่นั่งในห้องวีไอพีหมายเลข 1 ไม่ใช่คนที่เขาจะไปขัดใจได้

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เล่นลึกลับในห้องวีไอพีหมายเลข 1 ดูเหมือนจะมีนิสัยที่ไม่ดีด้วย

“ต่อซี่ ผู้เล่นในกิลด์แอนติควิตี้เป็นพวกคนจนหรือไง? ราคาเพิ่มไม่ไหวแล้วเหรอ?”

เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่ในห้องวีไอพีหมายเลข 1 ไม่เพียงแต่มีนิสัยแย่ ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นเกรียนอินเทอร์เน็ตอีกด้วย เขาหัวเราะเยาะใส่กิลด์แอนติควิตี้อย่างบ้าคลั่ง

ในขณะนี้ นอกเหนือจากซีเหมินชุยเสวียและจางเสี่ยวหยูแล้ว หวงฟูตงไลและผู้เล่นหนุ่มคนอื่น ๆ ในห้องวีไอพีหมายเลข 9 ต่างก็โกรธแค้น

“ไปตรวจสอบมาให้ฉันซะ! ไอ้เวรที่อยู่ในห้องวีไอพีหมายเลขหนึ่ง 1 คือใคร?! ฉันไม่อยากเห็นเขาอยู่ในโลกนี้แล้ว!“ หวงฟูตงไลสั่งด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

“ได้ยินมาว่าห้องวีไอพีหมายเลข 1 เป็นห้องพิเศษของเจ้าแห่งฮีลเลอร์ แต่ฉันแน่ใจว่าคนที่เสนอราคาไม่ใช่เจ้าแห่งฮีลเลอร์แน่นอน!” คนอื่น ๆ ก็พูดด้วยสีหน้าบูดบึ้งเช่นกัน

หวงฟูตงไลกำลังหงุดหงิด อันที่จริง เขารู้อยู่แล้วว่าห้องวีไอพีหมายเลข 1 เป็นห้องที่เจ้าแห่งฮีลเลอร์อยู่ ยิ่งไปกว่านั้น เหตุผลที่เขาเข้าร่วมประมูลอาร์ติแฟกต์ก็คือ เขาต้องการทำให้เจ้าแห่งฮีลเลอร์รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม ต้องการคิดบัญชีแค้นที่ยังไม่จบบนเกาะมหาสมบัติ

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผู้เล่นทุกคนในกิลด์แอนติควิตี้ล้วนเป็นนักดาบ และไม่มีใครสามารถใช้คทาได้

แต่เขาไม่คิดเลยว่าเกรียนอินเทอร์เน็ต ‘ตัวพ่อ’ แบบนี้จะปรากฏในห้องวีไอพีหมายเลข 1 และมันก็ไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปตั้งแต่มันเริ่มหาเรื่องพวกเขาได้

ตอนนี้พวกเขาถูกต้อนจนมุมโดยคนคนนั้น

ราคาของอาร์ติแฟกต์ตอนนี้ถูกขึ้นราคาได้สูงถึงหนึ่งล้านเหรียญทองแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่ปัญหาของเงิน

แต่หนึ่งล้านเหรียญทองมันมีค่าเท่ากับพันล้านหยวน! นั่นเป็นราคาที่ดีที่สุดสำหรับอาร์ติแฟกต์ที่ยอดเยี่ยม หากยังจะเพิ่มราคาต่อไป คงต้องเป็นโรคจิตหรือไม่ก็มีเงินมากเกินไปจนไม่รู้ว่าจะใช้ยังไงให้หมด

ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่ใช่แค่คทาที่พวกเขาใช้ไม่ได้เท่านั้น แต่ยังเป็นคทาที่เสียหายอีกด้วย หากยังคงเพิ่มราคาต่อไป พวกเขาทั้งหมดต้องพิการทางจิตใจแน่

“ผู้เล่นในกิลด์แอนติควิตี้ไปไหนแล้ว? ตายยัง? ลิ้นจุกปากเหรอ? ถ้าไม่มีเงินก็บอกมาสิ จะถ่วงเวลาหาอะไร ไอ้พวกขยะ”

แต่เห็นได้ชัดว่าคนในห้องวีไอพีหมายเลข 1 ไม่คิดจะปล่อยคนในกิลด์แอนติควิตี้ไป เขายังคงเยาะเย้ยไม่หยุดหย่อน

จนถึงตอนนี้ ผู้เล่นทั้งหมดในโรงประมูลก็เงียบ รวมทั้งห้องวีไอพีอื่น ๆ ผู้เล่นหลายคนมีสีหน้าประหลาดใจ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคาดเดาตัวตนของผู้เล่นในห้องวีไอพีหมายเลข 1 ได้คร่าว ๆ แล้ว

“ฉันรู้ว่านั่นไม่ใช่เขา! ไปหาตัวตนของมันมา! และมันต้องได้เจ้าแห่งฮีลเลอร์หนุนหลังแน่ เพราะในเมื่อมันกล้าเสนอราคาแบบนี้! เรื่องระหว่างเจ้าแห่งฮีลเลอร์กับพวกเรายังไม่จบ!” หวงฟูตงไลสั่งพลางทำสีหน้าเหี้ยม