ตอนที่ 485 พี่ชายผมยังไม่ตายเลย!
“พี่สะใภ้ ผมจะบอกให้นะ พี่เห็นผู้ชายที่ใส่เสื้อโปโลหน้าตาขี้เก๊กนั่นไหม นั่นคือกัปตันทีมสามของทีมรถแข่งเควัน คนหัวทองอีกคนคือกัปตันทีมสอง ส่วนผู้หญิงคนสุดท้ายนั่นหน้าตาพอใช้ได้ คนที่หน้าตาหยิ่งๆ นั่นแหละ เป็นกัปตันทีมหนึ่งของทีมรถแข่งเควัน!” เผยอวี่ถังพูดให้หลินเยียนฟัง
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว หลินเยียนกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนเควันแล้วเอ่ยปากขึ้น “อ้อ รู้แล้ว”
“พี่สะใภ้ครับ ฝีมือของกัปตันเควันทีมหนึ่งถือว่าเก่งมาก คิดว่าคงจะเก่งกว่าพี่สะใภ้อีก ถือว่าเป็นหนึ่งในมือแข่งรถผู้หญิงระดับตัวท็อปภายในประเทศเลยล่ะ!” เผยอวี่ถังพูดให้หลินเยียนฟังต่อ
ได้ยินแบบนั้นแล้ว หลินเยียนมองไปทางเผยอวี่ถังด้วยความประหลาดใจแล้วเอ่ยปากขึ้น “ทำไมเธอต้องมาเปรียบเทียบกับฉันตลอดเนี่ย…”
“แน่นอนว่าต้องเปรียบเทียบกับพี่สะใภ้สิ ก่อนอื่น กัปตันเควันเป็นมือแข่งรถเพศหญิงที่ไม่ค่อยเห็นในประเทศ พี่สะใภ้ก็เป็นผู้หญิงพอดี อีกทั้งมีฝีมือแข่งรถที่ล้ำเลิศมาก ถ้าไม่เทียบกับพี่จะให้เทียบกับใครล่ะ” เผยอวี่ถังพูดด้วยความสมเหตุสมผล
“ทำไมไม่เอาไปเทียบกับเยวาล่ะ” หลินเยียนพูดขึ้น
สิ้นเสียงหลินเยียน เผยอวี่ถังชะงักไปครู่หนึ่งแล้วมองไปทางหลินเยียนด้วยความอึ้งทึ่ง “เทียบกับใครนะ เยวารึ? พี่สะใภ้จริงจังไหมเนี่ย? นี่…ที่เขาว่ากันว่าแสงจากก้นหิ่งห้อย จะไปเทียบกับแสงจันทราได้อย่างไร สองคนนั้นอยู่กันคนละมิติเลย ไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบอะไรกันได้ ถึงแม้เยวาจะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่…นี่ไม่ใช่ประเด็นเรื่องเพศแล้วล่ะมั้ง!”
หลินเยียนเอียงหัวแล้วเหลือบมองเผยอวี่ถัง
ดังนั้นกัปตันหญิงของเควันไม่มีทางเอามาเปรียบเทียบใดๆ กับเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาได้…
แต่เอามาเปรียบเทียบกับเธอได้ อีกทั้งยังเก่งกว่าเธออีก
ตรรกะนี้ ถือว่าเยี่ยมสุดๆ ไปเลย!
“เอ่อ คุณหลินเยียน”
เผยอวี่ถังยังไม่ทันได้พูด จู่ๆ ฉีเซ่าหยวนที่อยู่ไม่ไกลนั้นเดินเข้ามาหาหลินเยียนตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างประจบประแจง
“ทำอะไร?”
เมื่อเห็นเช่นนั้น เผยอวี่ถังขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วกันฉีเซ่าหยวนที่เตรียมตัวจะเข้าใกล้หลินเยียนเอาไว้ แล้วให้หลินเยียนไปอยู่ข้างหลังตัวเอง
“กันฉันไว้ทำไม?” ฉีเซ่าหยวนเห็นเผยอวี่ถังขวางอยู่ด้านหน้า จึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“นายดูตัวเองยิ้มซะหื่นกามขนาดนั้น นายมีอะไรก็ว่ามาเลย อย่าคิดมุดไปข้างใน” เผยอวี่ถังพูดขึ้นด้วยท่าทางรำคาญ
อย่ามาล้อเล่นกันมั่วๆ นะ หลินเยียนเป็นพี่สะใภ้แท้ๆ ของเขา มองผู้ชายตรงหน้าด้วยรอยยิ้มเสแสร้ง เผยอวี่ถังคิดว่านี่ต้องเป็นดอกหญ้าริมทางที่ไร้ยางอายแน่ๆ พี่ใหญ่ไม่อยู่ตรงนี้ เขามีหน้าที่ในการรับผิดชอบจัดการพวกดอกหญ้าริมทางเหล่านี้ให้สิ้น นี่คือวิธีที่ดีที่สุดเพื่อเอาใจพี่ชาย…ในฐานะน้องชายแล้วล่ะ…
“ฉันเป็นบอส…เอ่อ เพื่อนของคุณหลินเยียน” ฉีเซ่าหยวนพลันอธิบาย
“เพื่อน?” เผยอวี่ถังมองไปทางฉีเซ่าหยวนด้วยสายตารังเกียจเล็กน้อย “ยิ่งเข้าใกล้ไม่ได้เลย ไปข้างๆ ซะนะ”
“ถอยไป”
หลินเยียนขยี้หัวคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดกับเผยอวี่ถัง
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว เผยอวี่ถังจ้องไปทางฉีเซ่าหยวนด้วยสายตาจริงจัง “ได้ยินหรือยัง คุณหลินเยียนที่นายพูดถึงนั่นให้นายถอยไปน่ะ”
“ฉันหมายถึงเธอน่ะ”
ในขณะเดียวกัน หลินเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังเผยอวี่ถังใช้นิ้วจิ้มไปเผยอวี่ถังทีหนึ่ง
เผยอวี่ถัง “…”
“พี่ทำแบบนี้ไม่ได้นะ พี่ผมยังไม่ตายเลย…” เผยอวี่ถังทำหน้าหงอย
หลินเยียน “…”
ฉีเซ่าหยวน “…”
“คุณหลินเยียน…เจ้าบื้อ…เจ้าพ่อหนุ่มคนนี้เป็นเพื่อนคุณเหรอ?” ฉีเซ่าหยวนถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ลูกชายฉัน” หลินเยียนเผยยิ้มบางๆ
ตอนที่ 486 สติปัญญาไม่ค่อยสมประกอบ
ฉีเซ่าหยวนมองไปทางหลินเยียนสีหน้าเหวอ จากนั้นมองไปที่เผยอวี่ถังที่อยู่ตรงหน้าหลินเยียนด้วยความตะลึง
“ลูก…ลูกชาย…” ฉีเซ่าหยวนกลืนน้ำลาย ลูกชาย…ตัวโตจังเลย หรือว่านี่คือเด็กโข่งคือเขาว่ากัน?!
“ยินดีที่รู้จักครับ คุณชายหน้าตาหล่อเหลาจริงๆ คุณชายน้อยชื่ออะไรเหรอครับ” ฉีเซ่าหยวนมองไปทางเผยอวี่ถังด้วยความยิ้มแย้ม
เผยอวี่ถัง “…”
หลินเยียน “…”
เมื่อกี้หลินเยียนแค่พูดเล่นเฉยๆ เล่นมุกนิดหน่อย แต่ใครจะไปคิดว่าฉีเซ่าหยวนช่างซื่อบื้อแบบนี้ ปักใจเชื่อซะงั้น
“คุณน้อยชายหลบทางให้หน่อยได้ไหม น้ามีเรื่องจะคุยกับแม่น่ะ เดี๋ยวซื้อของเล่นให้นะ” เห็นเผยอวี่ถังไม่พูดอะไรสักที ฉีเซ่าหยวนยิ้มแล้วพูดต่อ
“นายเป็นโรคอะไรหรือเปล่าเนี่ย นายเคยเห็นคุณชายน้อยตัวโตขนาดนี้เหรอ!” เผยอวี่ถังชี้หน้าฉีเซ่าหยวนด่าทอขึ้นมา ในขณะเดียวกันยังผายมือให้ดูอัตราส่วนของร่างกายตัวเอง
……
เมื่อเผยอวี่ถังเชื่อฟังคำพูดของหลินเยียนแล้วหลบไปข้างๆ สีหน้าฉีเซ่าหยวนดูเก้อๆ กังๆ เล็กน้อย
“บอส เมื่อกี้ผมตกใจหมดเลย ผมคิดว่า…เขาเป็นลูกชายคุณจริงด้วย!” ฉีเซ่าหยวนมองไปทางหลินเยียนแล้วรู้สึกโล่งอกขึ้นมา
เขารับไม่ได้แน่นอนว่าบอสของตัวเองมีลูกชายโตขนาดนี้ ยิ่งรับไม่ได้หากว่าบอสแต่งงานมีลูกแล้วแฟนพันธุ์แท้อย่างเขาไม่รู้เรื่อง!
“ล้อเล่นหน่า เขาเป็นเพื่อนสนิทของฉัน” หลินเยียนหัวเราะ
ได้ยินแบบนั้นแล้ว ฉีเซ่าหยวนเหมือนได้ยกหินออกจากหน้าอก “บอสครับ ผมไม่ได้โง่นะ แค่เชื่อใจบอสมากเกินไปหน่อย ไม่ว่าบอสจะพูดอะไร ผมก็ปักใจเชื่อหมด…”
สิ้นคำพูด หลินเยียนเผยสีหน้า ‘ฉันเข้าใจนาย นายไม่ได้โง่หรอก แค่สติปัญญาไม่ค่อยสมประกอบ แต่พอเข้าใจได้’
“บอส ตัวปลอมนั่นเหิมเกริมจริงๆ บ้าจริง เป็นแค่ตัวปลอมแต่สร้างภาพอลังการขนาดนี้” ฉีเซ่าหยวนมองไปทางรถตู้ที่ค่อยๆ ขับมาตรงหน้า กัดฟันขบเขี้ยวแล้วพูดขึ้น “บอสรู้ไหมว่าแขกที่ถูกเชิญให้ร่วมงานเลี้ยงส่วนตัวอย่างพวกเรา ยังต้องเตรียมของขวัญแรกพบอีกด้วย อยากได้เงินจนตัวสั่นจริงๆ!”
“นายเตรียมแล้วเหรอ?” หลินเยียนจ้องไปทางฉีเซ่าหยวนแล้วถามขึ้น
“เตรียมแล้วสิ” ฉีเซ่าหยวนพยักหน้า “เจ้าบื้อเว่ยสวีเฟิงให้ผมไปซื้อ ผมไม่มีทางเลือกก็เลยไปเตรียมมา”
“เตรียมอะไรเหรอ” หลินเยียนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“บอสไม่ต้องห่วงหรอก ผมยังไม่สะดวกบอกตอนนี้ เดี๋ยวรอให้งานเลี้ยงส่วนตัวเริ่มแล้วคุณก็รู้เอง” ฉีเซ่าหยวนหัวเราะพลางพูดขึ้น
ได้ยินที่ฉีเซ่าหยวนพูดแล้ว หลินเยียนถึงค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย กลัวว่าฉีเซ่าหยวนจะไปเตรียมของขวัญหรูหราอะไรแบบนั้นกับเขาด้วย
“บอสดูท่าทางประจบเสแสร้งของพวกทีมเควันสิ อยากจะอ้วก…” ฉีเซ่าหยวนพูดต่อ
หลินเยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ในที่สุดรถตู้ก็หยุดชะงักลง
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนตรงนั้นมองไปทางรถตู้ด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง
ไม่นาน บอดี้การ์ดที่เป็นผู้นำก็ตรงเข้าไปเปิดประตูรถออก
วินาทีต่อมา หลินซูหย่าที่แต่งตัวเรียบร้อยจับแขนหันอี้เซวียนแล้วเดินลงมาจากรถตู้
“คุณหลินซูหย่าครับ เห็นคุณบนทีวีบ่อยมาก ครั้งนี้ได้เจอตัวจริง สวยกว่าในจอเยอะเลยนะครับ” หนึ่งในกัปตันทีมรถชื่อดังพูดกับหลินซูหย่า
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินซูหย่าเผยยิ้มเล็กน้อยแล้วมองไปทางกัปตันคนนั้น “กัปตันเสิ่นก็พูดเกินไปค่ะ พวกเราเองก็เคยเห็นกัปตันเสิ่นแข่งในรายการรถแข่งอยู่บ่อยๆ”