มีศพเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้นไปหมด เลือดไหลรินออกมาจากร่างกาย และมาบรรจบกันเป็นแอ่งน้ำที่เท้าของพวกเขา

หมู่บ้านถูกไฟไหม้ และเมื่อมองไปรอบ ๆ ก็ไม่พบบ้านที่สมบูรณ์เลยสักหลัง อีกาสองสามตัวบินมาและส่งเสียงร้องกากา

นัยน์ตาของกู้ชูหน่วนดูเจ็บปวดใจ

ในบรรดาศพเหล่านั้นมีเถ้าแก่ร้านบะหมี่ ผู้ใหญ่บ้าน และผู้คนมากมายที่นางรู้จัก บนร่างของแต่ละคนถูกฟันด้วยดาบหลายสิบครั้ง และเลือดไหลนองจนตาย แม้แต่ทารกน้อยและคนชราก็ไม่ละเว้น

นี่เป็นการสังหารหมู่อย่างโหดเหี้ยมอำมหิต

กู้ชูหน่วนกำหมัดแน่น

ใบหน้าของเยี่ยเฟิงซีดเซียวจนไม่มีสีเลือด เขาแทบจะไม่ไปดูศพเหล่านั้น ทุกคนที่นี่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนญาติสนิท

เขาเดินโซซัดโซเซกลับไปที่บ้านของตนเอง และพึมพำด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา

“ท่านยาย……ท่านยาย……”

กู้ชูหน่วนมือสั่นและร้องตะโกน “เซี่ยวอวี่เซวียน เซี่ยวอวี่เซวียน เจ้าอยู่ที่ไหน……หากเจ้ายังไม่ตายก็ส่งเสียงให้ข้าหน่อย”

ในขณะที่มองหาเซี่ยวอวี่เซวียนท่ามกลางซากศพ กู้ชูหน่วนก็ตะโกนเสียงดัง ในเวลานี้นางไม่ได้เย่อหยิ่งเหมือนก่อนหน้านี้ และรู้สึกหวาดกลัว

นางกลัวว่าเซี่ยวอวี่เซวียนจะถูกฆ่าเช่นเดียวกันกับพวกเขา

นางมองหาไปรอบ ๆ อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า และไม่สามารถปกปิดความกังวลในแววตาของนางได้

เยี่ยจิ่งหานรู้สึกอึดอัดใจ

นางกับเซี่ยวอวี่เซวียนเป็นแค่เพื่อนพ้องกันจริง ๆ หรือ?

ตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับเขา นางไม่เคยตื่นตระหนกเช่นนี้มาก่อน?

ไม่รู้ทำไมจู่ ๆ เขาก็อิจฉาเซี่ยวอวี่เซวียน

อย่างน้อยเขาก็มีพื้นที่ในใจของกู้ชูหน่วน

สีหน้าของเยี่ยจิ่งหานดูอึมครึม

แต่ออกไปไม่ไกลนัก เซี่ยวอวี่เซวียนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและอ่อนล้าก็ถูกลูกน้องของเยี่ยจิ่งหานดูพยุงมา หัวใจของเขาไม่เคยอบอุ่นเช่นนี้มาก่อน

“แม่สาวอัปลักษณ์”

เขาพูดออกมาอย่างอ่อนแรง

หญิงผู้นี้ยังคงห่วงใยเขา ไม่เสียแรงที่เขาถูกคมดาบมากมายขนาดนี้

เมื่อได้ยินเสียงของเซี่ยวอวี่เซวียน และเห็นว่าเขายืนอยู่ไกล ๆ นางก็โบกทักทายเขา

กู้ชูหน่วนโกรธเคืองและรีบวิ่งเข้าไปทุบตีเขา

“ยังไม่ตายก็ไม่ขานรับ เจ้าอยากไปสวรรค์หรือ”

เซี่ยวอวี่เซวียนรู้สึกเจ็บปวด หากไม่ใช่เพราะมีคนพยุงไว้ เกรงว่าเขาคงจะล้มลงไปนานแล้ว

เขายิ้มและกล่าวว่า “แม่สาวอัปลักษณ์ เจ้าคิดจะฆ่าพี่น้องหรือ ลงมือหนักเช่นนี้ ข้าไม่ได้ถูกพวกเขาฆ่าตาย แต่จะถูกเจ้าทุบตีจนตาย”

ความกลัดกลุ้มของกู้ชูหน่วนผ่อนคลายลง และเหลือบมองบาดแผลของเขา ร่างกายของเขาถูกฟันด้วยมีดห้าหกแผล และได้รับบาดเจ็บภายใน โชคดีที่บาดแผลเหล่านั้นไม่ถึงแก่ชีวิต เพียงแต่เสียเลือดมากเกินไป

“ท่านยาย……ท่านจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ ท่านยาย……”

เสียงเยี่ยเฟิงสะอื้นไห้ด้วยความหวาดกลัว

กระท่อมมุงจากหลังหมู่บ้านถูกไฟไหม้จนเหลือแต่ซาก

เยี่ยเฟิงน้ำตานองหน้า เขาค้นหาท่านยายเยี่ยอย่างบ้าคลั่ง

รอยยิ้มของเซี่ยวอวี่เซวียนหายไปในทันที

เขาเดินกะโผลกกะเผลกไปหาเยี่ยเฟิงและพูดด้วยเสียงต่ำ “ท่านยายของเจ้าถูกพวกมันจับตัวไป ข้าขอโทษที่ไม่สามารถปกป้องนางได้”

เยี่ยเฟิงหยุดและมองไปที่เซี่ยวอวี่เซวียนด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว

ราวกับว่าต้องการคำยืนยันจากเขา

นัยน์ตาของเซี่ยวอวี่เซวียนหรี่ลงและค่อย ๆ เล่าเรื่องทั้งหมด

“วันนั้นหลังจากที่พวกเจ้าจากไปไม่นาน ผู้นำกองธงกล้วยไม้ก็ส่งคนมาล้อมหมู่บ้านเสี่ยวเหอ พวกมันล้อมพวกเราไว้หลายวัน และเมื่อวานก่อนพวกมันก็เริ่มฆ่าผู้คน ข้า……น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ และได้รับบาดเจ็บสาหัส หากเทพแห่งสงครามไม่ส่งคนมาช่วย เกรงว่าข้าก็คงจะถูกพวกมันฆ่าตายแล้ว”

“ก่อนที่ข้าจะสลบ ข้าเห็นว่าพวกมันจับตัวท่านยายของเจ้าไป ท่านยายของเจ้ายังไม่ตาย……”