ตอนที่ 76 เกณฑ์การรับแต่ละมหาวิทยาลัย

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 76 เกณฑ์การรับแต่ละมหาวิทยาลัย

มีโลกของผู้ฝึกยุทธ์ องค์กรต่างๆ เหมือนจะทำงานได้รวดเร็วไปหมด

กลางเดือนมิถุนายน หลังจากการสอบสิ้นสุดไม่ถึงสิบวัน คะแนนของการสอบก็ออกมา

กวนหูหยวน

เห็นฟางผิงกรอกหมายเลขประจำตัวเลขอย่างเชื่องช้า ฟางหยวนนั้นร้อนใจแทน เอาแต่เร่งเร้าอยู่ข้างหลัง “ฟางผิง นายกรอกเลขเร็วๆ หน่อยไม่ได้รึไง!”

“จะรีบทำไม?”

ฟางผิงไม่สะทกสะท้าน ผ่านไปสักพักค่อยยืนยันข้อมูล

รอจนเข้ามาถึงหน้ารายงานผล ฟางผิงกวาดสายดู เอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ “ไม่ต่างจากที่ฉันคาดเท่าไหร่”

ภาษาจีน : 120 คะแนน

คณิตศาสตร์ : 131 คะแนน

สังคม : 112 คะแนน

วิทยาศาสตร์ : 264 คะแนน

คะแนนรวม : 627 คะแนน

เนื่องจากชาติก่อนฟางผิงไม่ใช่นักเรียนสายสังคม รวมทั้งสังคมมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ดังนั้นฟางผิงจึงสอบวิชาสังคมได้คะแนนไม่เยอะเท่าไหร่

ส่วนวิชาอื่นๆ กลับทำได้ดีตามที่เขาคาดไว้

คะแนนรวม 627 คะแนน มากกว่าเกณฑ์การรับที่ประกาศออกมาเมื่อวานถึง 32 คะแนน

เมื่อวานมีการประกาศจากกระทรวงการศึกษา ปีนี้เกณฑ์การรับเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ที่ 595 คะแนน

“627 คะแนน!”

ตอนนี้ฟางหยวนยื่นหน้ามองจอคอม รอจนเห็นผลคะแนนชัดเจนแล้ว เธอค่อยเผยความดีใจออกมา

แม้การสอบวัฒนธรรมของฟางผิงจะคะแนนดีมาโดยตลอด แต่ก่อนหน้านี้ก็เกินเกณฑ์การรับมาเล็กน้อยเท่านั้น

คาดไม่ถึงว่าเขาจะสอบเกาเข่าเกินเกณฑ์ขั้นต่ำมาถึง 30 กว่าคะแนน!

“ฟางผิง นายสอบเข้ามหาวทิยาลัยศิลปะการต่อสู้ได้แล้ว!”

ฟางหยวนยิ้มหน้าบาน ตะโกนออกมาเสียงดัง

ก่อนหน้านี้ถึงฟางผิงจะมีโอกาสสอบได้ถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ว่า…

แต่ว่ายังไม่อาจมั่นใจอยู่ดี ถ้าสอบเกาเข่าได้น้อย ฟางผิงคงทำได้แค่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมทั่วไป

แต่ตอนนี้ฟางผิงสอบได้ตั้ง 627 คะแนน นี่หมายความว่าฟางผิงมีโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์!

ฟางหยวนดีใจจนทำอะไรไม่ถูก ไม่รอดูปฏิกิริยาจากฟางผิง เธอรีบหมุนกายวิ่งไปข้างนอกทันที

พูดไปพลาง “ฉันจะไปบอกพ่อกับแม่!”

“ระวังหน่อย…”

ฟางผิงตะโกน ปรากฏว่าฟางหยวนนั้นวิ่งลงบันไดไปแทบไม่เห็นเงาแล้ว

เด็กคนนี้บางครั้งก็เซ่อซ่า

ทำไมไม่โทรศัพท์บอกแทนล่ะ?

แต่เขามองออกว่า ฟางหยวนตื่นเต้นจริงๆ คนไม่รู้ยังจะคิดว่าเป็นเธอที่สอบเกาเข่าเอง

ฟางหยวนวิ่งไปแล้ว ฟางผิงกลับส่ายหัว เขายังตรวจผลสอบไม่หมดเลย

เขาเป็นนักเรียนสายศิลปะการต่อสู้ นอกจากคะแนนวัฒนธรรมแล้ว ยังมีผลการสอบอย่างอื่นอีก

ฟางผิงเปิดหน้าต่างใหม่กรอกข้อมูลลงไปอีกครั้ง ก่อนคะแนนของการสอบศิลปะการต่อสู้ที่เขาสอบก่อนหน้านี้จะปรากฏขึ้นมา

ชื่อ : ฟางผิง

ปราณ : 149 แคล

วิชาเฉพาะ : 85 คะแนน (เต็ม 100)

ภาคปฏิบัติ : 98 คะแนน (เต็ม 100)

ด่านตรวจร่างกาย การตรวจร่างกายอย่างอื่นไม่ถูกรวมอยู่ในนี้ มีบันทึกแค่ค่าปราณเท่านั้น

เพราะหากสามารถตรวจปราณได้ นั่นหมายความการตรวจร่างกายอย่างอื่นล้วนผ่านเช่นกัน

ฟางผิงไล่สายตาดู เขารู้สึกพอใจไม่น้อย

คงไม่ต้องพูดถึงการตรวจร่างกาย เวลานั้นเขาทะลวงจวงกงระดับหนึ่ง ผลตรวจปราณต้องไม่ต่ำอยู่แล้ว

ส่วนวิชาเฉพาะ เพราะฟางผิงมีเวลาทบทวนไม่มากนัก สอบได้ 85 คะแนนถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว

วันนี้ผลคะแนนเกาเข่าออกมา ในเวลาเดียวกันแต่ละมหาวิทยาลัยก็ประกาศเกณฑ์การรับนักเรียนของพวกเขาเช่นกัน

การรับนักเรียนของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ค่อนข้างที่จะขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย

แต่ละมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้จะกำหนดเกณฑ์ด้วยตัวเอง ก่อนจะเผยแพร่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

การทำแบบนี้มีข้อดีเหมือนกัน พวกนักเรียนจะสามารถเทียบคะแนนได้ว่าตัวเองสอบเข้าได้หรือเปล่า

ฟางผิงไม่ได้รีบดูเกณฑ์การรับมหาวิทยาลัยอื่น เขาเปิดเว็บไซด์ของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียงเป็นอันดับแรก

เกณฑ์การรับนักเรียนปี 2008 ของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง :

ปราณ : 116 ขึ้นไป

วิชาวัฒนธรรม : 605 คะแนนขึ้นไป

วิชาเฉพาะ : 80 คะแนนขึ้นไป

ภาคปฏิบัติ : 80 คะแนนขึ้นไป

ข้อมูลด้านบนเป็นเกณฑ์ต่ำสุดของการรับนักเรียน ปี 2008 คาดการณ์ว่าจะรับนักเรียนทั่วประเทศ 1200 คน

หมายเหตุ 1 : ปราณ 130 แคลขึ้นไป คะแนนรายการอื่นต่ำกว่าเกณฑ์สามารถพิจารณาตามความเหมาะสม

หมายเหตุ 2 : วิชาวัฒนธรรม 680 คะแนนขึ้นไป คะแนนรายการอื่นต่ำกว่าเกณฑ์สามารถพิจารณาตามความเหมาะสม

หมายเหตุ 3 : เทียบคะแนนวิชาวัฒนธรรม วิชาเฉพาะ ภาคปฏิบัติและปราณของผู้สมัคร ผู้ที่คะแนนดีมีโอกาสได้รับการคัดเลือกก่อน

เกณฑ์การรับนักเรียนของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง มองแวบเดียวก็เข้าใจแล้ว

คะแนนสูงกว่าปีก่อนดังที่คาด

ปีก่อน เกณฑ์ขั้นต่ำการรับนักเรียนของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียงอยู่ที่ 112 แคล ปีนี้กำหนดที่ 116 แคล

ส่วนหมายเหตุที่พูดถึงวิชาวัฒนธรรม 680 ขึ้นไป อาจดูเหมือนเป็นเกณฑ์ที่ต่ำที่สุด แต่ความจริงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

คนที่สอบวิชาวัฒนธรรมได้ 680 คะแนน บางส่วนอาจจะไม่ได้เลือกสมัครเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง อีกส่วนหนึ่งเป็นนักเรียนสายสังคม ถึงจะสอบคะแนนได้สูงกว่านี้ คงไม่อาจสมัครได้อยู่ดี

ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ปราณแตะเกณฑ์มาตรฐาน แต่อาจจะไม่สามารถสมัครเข้าได้เช่นกัน

นักเรียนที่สอบวิชาวัฒนธรรมได้ 680 คะแนนขึ้นไป ทั้งปราณต่ำกว่า 116 แคล มีจำนวนน้อยจริงๆ น้อยจนถึงขั้นที่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งสามารถให้การดูแลเป็นพิเศษได้

แม้โลกนี้จะให้ความสำคัญกับสายศิลปะการต่อสู้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะละเลยสายสังคมเช่นกัน

สามารถมองออกได้ชัดเจนจากเงื่อนไขคะแนนวิชาวัฒนธรรมที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียงเป็นมหาวิทยาลัยสำหรับผู้ฝึกยุทธ์โดยเฉพาะ รับนักเรียนค่อนข้างมาก ทั่วประเทศตั้ง 1200 คน

ฟางผิงลองเปิดดูมหาวิทยาลัยอีกสองแห่งในมณฑลหนานเจียงที่เปิดสอนสาขาศิลปะการต่อสู้

มณฑลหนานเจียงมีมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดสามแห่ง ในนั้นมีแค่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียงที่ไม่รับนักเรียนสายสังคม ส่วนอีกสองแห่ง เปิดสาขาศิลปะการต่อสู้ ในขณะเดียวกันก็รับนักเรียนสายสังคมด้วย

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์หนานเจียง เกณฑ์การรับนักเรียนนั้นไม่ต่างจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียงมาก แต่วิชาวัฒนธรรมกลับกำหนดเงื่อนไขสูงกว่า คะแนน 610 คะแนนขึ้นไป

ทั้งรับนักเรียนค่อนข้างน้อย ทั้งสาขารับเพียง 200 คน

มหาวิทยาลัยหนานเจียงแห่งสุดท้าย เกณฑ์ของปราณยังสูงกว่ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียงถึงหนึ่งแคล กำหนดที่ 117 แคล วิชาวัฒนธรรม 610 คะแนนขึ้นไป

การรับนักเรียนนั้นน้อยกว่ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง ทั้งสาขารับ 150 คน

มหาวิทยาลัยสามแห่งในมณฑล รับนักเรียนทั้งหมด 1550 คน!

แต่หนึ่งมณฑลมีมหาวิทยาลัยสามแห่ง ถือว่าไม่น้อยแล้ว มีหลายมณฑลที่มีมหาวิทยาลัยแค่แห่งเดียว

ทั้งยังไม่ใช่มหาวิทยาลัยเฉพาะทางที่รับนักเรียนทีละร้อยสองร้อยคน

มณฑลที่ขาดแคลนเช่นนี้ ถ้าไม่มีผู้มีอำนาจคอยแย่งชิงทรัพยากรให้ คงทำได้แค่ปล่อยให้ผู้ฝึกยุทธ์หลั่งไหลออกไปข้างนอกแทน

ทุกปีขอแค่มีสิ่งแลกเปลี่ยนที่ล้ำค่า ก็จะสามารถรั้งตัวเมล็ดพันธ์ชั้นยอดของผู้ฝึกยุทธ์ไว้ได้

“มหาวิทยาลัยหนานเจียงทั้งสามแห่ง มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียงกำหนดเกณฑ์ต่ำที่สุด ทั้งยังรับคนมากที่สุด”

ฟางผิงเปรียบเทียบสัดส่วนการรับนักเรียนของสามมหาวิทยาลัย เขาสามารถสมัครได้ทั้งสามมหาวิทยาลัย อู๋จื้อหาวคงไม่ต่างกัน

ในห้องยังมีหยางเจี้ยนที่ปราณแตะถึง 116 แคล แต่วิชาวัฒนธรรม…

ฟางผิงกังวลแทนหยางเจี้ยนอยู่บ้าง เจ้าหมอนี้จะทำคะแนนวัฒนธรรมถึงเกณฑ์ขั้นต่ำหรือเปล่า?

ในสถานการณ์ที่ปราณเท่ากัน ต้องเทียบคะแนนวัฒนธรรมก่อน จากนั้นเทียบวิชาเฉพาะ ท้ายที่สุดค่อยดูจากภาคปฏิบัติ

ฟางผิงเชื่อว่า ถึงเวลานั้นคงจะมีนักเรียนที่มีปราณ 116 แคลสมัครมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียงไม่น้อย อาจจะเกิน 1200 คน

หากปราณเท่ากัน ท้ายที่สุดอาจจะกำหนดเกณฑ์คะแนนวัฒนธรรมสูงขึ้นมา 605 คะแนน

หลิวรั่วฉีน่าเสียดายอยู่บ้าง ปราณ 115 แคล ทั้งมีโอกาสน้อยที่จะสอบได้ 680 คะแนน เธอคงไม่มีหวังจะสมัครมหาวิทยาลัยทั้งสามแห่ง

ส่วนมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แห่งอื่นในประเทศ ตอนนี้ฟางผิงไม่รู้เหมือนกันว่าจะกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 116 แคลหรือเปล่า

ในสายตาของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แห่งอื่น เกณฑ์การรับนักเรียนของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียงไม่ถือว่าสูงเลย

ส่วนมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนศิลปะการต่อสู้ กำหนดเงื่อนไขปราณไม่น้อยไปกว่ากัน แต่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเสียทีเดียว

ดูเกณฑ์การรับนักเรียนทั้งสามมหาวิทยาลัยแล้ว ฟางผิงอดเปิดเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ขึ้นมาไม่ได้

ปราณ : 130 แคลขึ้นไป

วิชาวัฒนธรรม : 620 คะแนนขึ้นไป

วิชาเฉพาะ : 90 คะแนนขึ้นไป

ภาคปฏิบัติ : 90 คะแนนขึ้นไป

มองข้อมูลด้านบนแล้ว ฟางผิงหน้าเจื่อนอยู่บ้าง ยึดตามเกณฑ์นี้ วิชาเฉพาะของเขายังไม่เกณฑ์ขั้นต่ำของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ด้วยซ้ำ

แต่เหมือนกับมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้มีหมายเหตุแนบไว้เช่นกัน

“หมายเหตุที่หนึ่ง ปราณ 149 ขึ้นไป คะแนนรายการอื่นอยู่ในระดับเหมาะสม สามารถพิจารณาได้”

แค่หมายเหตุแรกก็ทำให้ฟางผิงสัมผัสความแตกต่างของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ชื่อดังได้แล้ว!

สามารถให้สิทธิพิเศษได้ แต่คุณต้องเป็นคนที่มีความสามารถพอตัว!

ปราณ 149 แคลเนี่ยนะ?

คนที่ใกล้จะทะลวงด่านเป็นผู้ฝึกยุทธ์!

ทั่วเมืองรุ่ยหยาง คงมีฟางผิงแค่คนเดียวที่ถึงมาตรฐานนี้ ทั้งยังเป็นคนเดียวในรอบหลายปีมานี้!

นักเรียนประเภทนี้แทบที่จะเป็นอัจฉริยะของหนานเจียง แต่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ กลับมอบสิทธิพิเศษให้คุณแค่เล็กน้อย

“หมายเหตุที่สอง วิชาวัฒนธรรม 700 คะแนนขึ้นไป ปราณไม่ต่ำกว่า 120 แคล”

ฟางผิงมุมปากกระตุกอีกครั้ง เงื่อนไขนี้ จะมีสักกี่คนที่ทำได้?

นักเรียนศิลปะการต่อสู้ต้องแบ่งเวลาสนใจหลายเรื่อง แม้จะไม่ถึงกับเทวิชาวัฒนธรรม แต่ 700 คะแนนขึ้นไป น่าจะเป็นนักเรียนสายสังคมที่สอบได้เป็นอันดับหนึ่งของมณฑลมากกว่า?

มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง ฟางผิงเข้าเกณฑ์แค่เงื่อนไขในหมายเหตุที่หนึ่ง

ในนั้นบอกว่าพิจารณาตามความเหมาะสม ฟางผิงมีแค่คะแนนวิชาเฉพาะที่ไม่ถึงเกณฑ์ ทั้งไม่ได้คะแนนห่างมากมาย หากจะสมัครจริงๆ น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนมหาวิทยาลัยชื่อดังอีกแห่งหนึ่ง มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่ง เกณฑ์รับนักเรียนไม่ต่างจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้เท่าไหร่

แต่เงื่อนไขของปราณ กลับสูงกว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ 2 แคล เกณฑ์ต่ำสุด 132 แคล เงื่อนไขการรับอย่างอื่นยังคงเหมือนกัน

ฟางผิงนั้นพอมีโอกาสเข้าสองมหาวิทยาลัยดังได้

เวลานี้เขารู้สึกขัดแย้งในใจอยู่บ้าง

อันที่จริงปัญหานี้ เกิดตั้งแต่วันที่เขาตรวจร่างกายเสร็จสิ้นแล้ว

จะไปเป็นหัวหมาที่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง…แค่ก คำเรียกแบบนี้มักจะทำให้ฟางผิงนึกเชื่อมโยงไปอีกเรื่อง

หรือจะไปเป็นหางราชสีห์ที่สองมหาวิทยาลัยชื่อดัง?

แน่นอนว่า เขามีปราณ 149 แคล แม้จะอยู่ในสองมหาวิทยาลัยชื่อดัง คงไม่นับว่าเป็นพวกปลายแถวหรอก

อันที่จริงตอนนี้ปราณของเขายังไปไกลกว่า 149 แคล นักเรียนที่จะสมัครสอบสองมหาวิทยาลัยชื่อดังอาจจะปราณน้อยกว่าเขาด้วยซ้ำ ถึงจะไปสองมหาวิทยาลัยดัง ใช่ว่าเขาจะเป็นไก่อ่อนเสมอไป

“ตกลงมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แต่ละแห่งมีความแตกต่างกันขนาดไหน?”

นี่เป็นปัญหาที่ฟางผิงขบคิดมาโดยตลอด จากคะแนนของเขา รั้งตัวอยู่หนานเจียง คงได้เงินรางวัลจำนวนไม่น้อย

หากสองมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ชื่อดังไม่ต่างจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียงมากมาย เขารั้งตัวอยู่ที่หนานเจียงอาจไม่ได้แย่อะไร อย่างน้อยก็มีทรัพยากรจำนวนมากที่จัดสรรให้ตั้งแต่ต้น

หากมีความแตกต่างมากเกินไป เพื่อทรัพยากรในอนาคตแล้ว รั้งตังอยู่คงไม่ใช่ตัวเลือกที่คุ้มค่านัก

“เหล่าหวังบอกว่าวันมะรืนอาจจะกลับหยางเฉิง ถึงเวลานั้นค่อยถามความเห็นจากเหล่าหวังแล้วกัน”

ฟางผิงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ทำได้แค่พึ่งหวังจินหยางแล้ว

เขาไม่คิดลงลึกต่อ มือถือของฟางผิงสั่นขึ้นมาก่อน

ไม่จำเป็นต้องมอง ฟางผิงเดาได้ทันทีว่าคงจะเป็นเพื่อนในห้องโทรมา แปดถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์น่าจะเป็นอู๋จื้อหาว

พอรับสาย ฟางผิงก็ได้ยินเสียงตื่นเต้นของอู๋จื้อหาวดังคาด “ฟางผิง นายสอบวัฒนธรรมได้เท่าไหร่? ฉันได้ 645 คะแนน! ตอนนี้ฉันปวดหัวไปหมด ไม่รู้ว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยไหนดี? ฉันลองดูก่อนนะ ปราณ 120 แคล น่าจะมีมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ที่สมัครได้สามสี่แห่ง…”

ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “งั้นเหรอ? ยินดีด้วย ฉันสอบได้ 627 คะแนน ตอนนี้กำลังลังเลว่าจะสอบมหาวิทยาลัยปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ดี นายคิดว่าไง?”

“แค่กๆ…”

อู๋จื้อหาวลอบก่นด่า โทรหาผิดคนซะแล้ว เขาไม่ควรอวดฟางผิงเลย ต้องเป็นคนอื่นต่างหาก

แต่เขาจะให้เขาโทรไปอวดคนที่สอบไม่ได้ คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่

คนที่สอบได้ ในห้องตอนนี้คงจะมีแต่ฟางผิง

สมองแล่นปราดอย่างว่องไว อู๋จื้อหาวเหมือนจะเจอเป้าหมายใหม่แล้ว โทรไปอวดสองพี่น้องตระกูลถานดีกว่า!

คะแนนวัฒนธรรมของพวกเขาไม่ได้โดดเด่น คงไม่สูงเท่าเขา ทั้งอาจจะสอบเข้าสองมหาวิทยาลัยดังไม่ได้เหมือนกัน แต่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วไปคงสอบได้อยู่แล้ว

ไปอวดพวกเขาดีกว่า จะได้สมใจเขา ทั้งไม่ทำร้ายจิตใจคนอื่นด้วย

นึกถึงจุดนี้แล้ว อู๋จื้อหาวไม่คิดจะเสียเวลากับฟางผิงอีก วางสายไปทันที

อู๋จื้อหาววางสายเร็วเกินไป ฟางผิงไม่ทันถามคะแนนของหยางเจี้ยนด้วยซ้ำ

ครุ่นคิดเล็กน้อย ท้ายที่สุดฟางผิงก็ไม่ได้โทรศัพท์ไปถามหยางเจี้ยน

หยางเจี้ยนไม่มีมือถือ หากฟางผิงจะโทรต้องติดต่อผ่านพ่อแม่เขา บางทีเขาอาจจะคิดว่าฟางผิงมาอวดก็ได้

ส่วนหลิวรั่วฉี ฟางผิงยิ่งไม่รู้อะไรเลย เขาไม่ค่อยสมาคมกับผู้หญิงในห้องเท่าไหร่

ไม่คิดเรื่องของคนอื่นอีก ฟางผิงส่งข้อความให้เหล่าหวัง เนื้อหานั้นสั้นกุด…

“สอบวัฒนธรรมได้ 627 คะแนน โปรดช่วยชี้แนะผมด้วย!”

เหล่าหวังตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “ยินดีด้วย พรุ่งนี้จะกลับหยางเฉิง”

———————–