ตอนที่ 489 เชื่อไหมว่าฉันจะฟ้องพี่ชายเธอ
สายตาเว่ยสวีเฟิงมองไปทางหลินซูหย่าที่อยู่ไม่ไกลด้วยความขอบคุณ
เขาไม่คิดว่าหลินซูหย่าจะพูดถึงเขาต่อหน้าเยวาแบบนี้
“ขอบคุณนะ” สีหน้าเว่ยสวีเฟิงแลดูตื่นเต้นยิ่งนัก เขาเอ่ยปากขอบคุณหลินซูหย่า
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว หลินซูหย่าหัวเราะเบาๆ มองไปทางเว่ยสวีเฟิงแล้วเอ่ยปากขึ้น “สวีเฟิงไม่ต้องขอบคุณหรอก ฉันรู้ว่านายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของคุณเยวา ตอนที่คุณเยวายังไม่อำลาวงการ นายจะไปดูการแข่งขันของเธอทุกรอบเลย อีกทั้งยังเลื่อนตารางงานไปหมด ดังนั้นฉันคิดว่าคุณเยวาควรรู้จักนายสักหน่อย เธอคงจะดีใจว่ามีแฟนคลับอย่างนาย!”
“เหอ...”
ทันใดนั้น หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ เว่ยสวีเฟิง อมยิ้มแล้วมองไปทางหลินซูหย่า “ซูหย่า ขอบคุณที่เธอแนะนำนะ เขาน่ารักดีน่ะ”
“อ้า…”
สิ้นคำพูดหญิงสาว เว่ยสวีเฟิงตัวสั่นเหมือนโดนไฟช็อต
เมื่อกี้บอสบอกว่าเขาทำไมนะ?
น่ารักดี...
วินาทีนี้ราวกับความฝันผสมผสานเข้ากับความเป็นจริงที่ไม่สมจริง
เว่ยสวีเฟิงเคยจิตนาการสถานการณ์ที่ตัวได้พูดคุยกับบอสมาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าบอสจะชมเขาน่ารักต่อหน้าแบบนี้…
วินาทีนี้ สีหน้าขาวใสของเว่ยสวีเฟิงในตอนแรก แลดูอมชมพูขึ้นมาเล็กน้อย
“บ้าเอ้ย!”
มองดูเว่ยสวีเฟิงที่อยู่ไม่ไกลนั้น ฉีเซ่าหยวนแทบอยากจะตบหน้าให้หัวทิ่มไปเลย
หมอนี่ช่างเป็นแฟนคลับปลอมเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
ปล่อยบอสตัวจริงไว้ แต่แทบจะถวายทั้งตัวให้ตัวปลอม เกินเยียวยาจริงๆ ต้องโทรหาเมรุเผาศพสักหน่อย ให้คนลากตัวมันไปเผาทิ้งเลยดีกว่า!
“เทพครับ!”
จู่ๆ เผยอวี่ถังเดินมาถึงด้านหน้าสุดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เขามายืนอยู่ข้างๆ เว่ยสวีเฟิงแล้วมองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาเคารพนับถือ
“สวัสดีค่ะ”
สายตาหญิงสาวเปลี่ยนจากเว่ยสวีเฟิงแล้วมองไปทางเผยอวี่ถัง
“ท่านเทพยังรับลูกศิษย์อยู่ไหมครับ? ลองพิจารณาให้ผมเป็นลูกศิษย์หน่อยไหมครับ?” เผยอวี่ถังมองไปทางหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น
“รับลูกศิษย์น่ะเหรอ?”
ได้ยินที่เผยอวี่ถังพูดแล้ว หญิงสาวชะงักไปเล็กน้อย
“อื้มๆๆ รับลูกศิษย์!” เผยอวี่ถังพยักหน้าอย่างแรง จากนั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ท่านเทพครับ พรสวรรค์การแข่งรถของผมน่าทึ่งสุดๆ ผมเชื่อว่าถ้าท่านเทพรับผมเป็นศิษย์ จากนี้ไปฝีมือการขับของผมเผลอๆ คงจะแซงหน้าพวกลั่งหมั่งกับเด๊ดบุชเชอร์ได้…คงจะไม่แย่กว่าพวกเขาหรอก…แน่นอนว่าถ้าท่านเทพยอมรับผมเป็นลูกศิษย์ ไม่ว่าจะมีข้อแม้ยังไงผมได้หมด!”
เผยอวี่ถังส่งสายตาอันแวววาวเป็นนัยน์ว่า ‘ฉันมีเงิน!’
ถึงแม้คำเรียกร้องของเผยอวี่ถังจะเกินไปหน่อย แต่หลินซูหย่าและหันอี้เซวียนไม่ได้พูดอะไรมาก
หลินซูหย่าและหันอี้เซวียนไม่ค่อยรู้จักเผยอวี่ถัง แต่คนระดับสูงแนะนำเขามา คงจะมีฐานะไม่ธรรมดาแน่นอน
เผยอวี่ถังยังไม่ทันเอ่ยปากพูดอะไรต่อ กลับโดนหลินเยียนดึงตัวกลับมาซะก่อน
“พี่สะใภ้ทำอะไรน่ะ นี่คือจุดเปลี่ยนในชีวิตผมเลยนะ โอกาสอันหายาก!” เผยอวี่ถังมองหลินเยียนที่อยู่ข้างหลัง เอ่ยปากพูดขึ้นเบาๆ ด้วยความงุนงง
ได้ยินแบบนั้นแล้ว หลินเยียนชำเลืองมองเผยอวี่ถัง
จะเสียเงินให้ตัวปลอมเป็นอาจารย์…อย่าได้หวัง!
ขอเป็นลูกศิษย์ได้ แต่เสียเงินไม่ได้!
“เชื่อไหมว่าฉันจะฟ้องพี่ชายเธอ” หลินเยียนพูดกับเผยอวี่ถังด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
ในขณะนี้ น้ำเสียงของหลินเยียนเหมือนกำลังข่มขู่ว่า ‘เชื่อไหมว่าฉันจะฟ้องแม่แก!’
ตอนแรกท่าทางเผยอวี่ถังฟึดฟัดยิ่งนัก แต่สิ้นเสียงหลินเยียนแล้ว เผยอวี่ถังเหมือนลูกโป่งลมแฟบไม่มีอารมณ์ฟึดฟัดอีกต่อไป
ตอนที่ 490 อย่ายุ่งกับผู้หญิงของยมบาล
เมื่อนึกถึงพี่ชายตัวเอง เผยอวี่ถังสันหลังเย็นวูบ
ไม่ได้ ไม่ว่ายังไงห้ามให้พี่ใหญ่รู้เด็ดขาด ถ้าพี่ใหญ่รู้เรื่องนี้ล่ะก็ ต้องโดนทุบจนขาหักแน่นอน!
“ฮ่าๆ พี่สะใภ้ ไม่ๆๆ พ่อผู้แสนดีของผม พี่ดูที่พี่พูดสิครับ ผมแค่ล้อเล่นเฉยๆ น่ะ ผมจะไปขอเป็นลูกศิษย์เขาได้ไงล่ะ แค่คุณพ่อยอมสอนเทคนิครถแข่งให้ผมก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ไม่ต้องให้คนอื่นมาสอนผมทั้งนั้น” เผยอวี่ถังทำหน้ายิ้มแย้มแล้วพูดขึ้น
เมื่อได้ยินที่เผยอวี่ถังพูดแล้ว หลินเยียนส่ายหน้าด้วยความรังเกียจ “ฉันขอปฏิเสธ”
“อ๋า?” เผยอวี่ถังชะงักไปเล็กน้อย “ปฎิเสธอะไรเหรอครับ”
“ปฎิเสธสอนเธอ” หลินเยียนไม่ไว้หน้าใดๆ
เผยอวี่ถัง “…”
“เธอมาอยู่นี่ได้ไง?”
เผยอวี่ถังยังไม่ทันได้พูดอะไร เนื่องด้วยเมื่อสักครู่หลินเยียนดึงตัวเผยอวี่ถังกลับมา ทำให้หันอี้เซวียนและหลินซูหย่าสังเกตเห็นได้ ขณะนี้สายตาหันอี้เซวียนมองไปทางหลินเยียนและขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ขณะที่หลินเยียนยังไม่ได้เอ่ยปาก หันอี้เซวียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอแฝงตัวเข้ามาได้ยังไง ถึงตอนนี้แล้วเธอยังไม่สบายใจอีกเหรอ ต้องมาวุ่นวายกับฉันและซูหย่า วันนี้ยังไม่รบกวนแขกคนสำคัญของพวกเราอีกงั้นเหรอ!”
ได้ยินหันอี้เซวียนเอ่ยปากพูดขึ้น สายตาของหลายคนที่อยู่ตรงนั้นต่างมองไปทางหลินเยียน
ทันใดนั้น หลินเยียนกวาดสายตามองหันอี้เซวียนแล้วเผยสีหน้าแปลกใจ ความภูมิใจของหมอนี่มาจากไหนกันแน่?
“อี้เซวียนใจเย็นก่อนนะ พี่สาวอาจจะแค่บังเอิญน่ะ…” หลินซูหย่าจับแขนหันอี้เซวียนไว้เบาๆ แล้วเอ่ยปากพูดขึ้น
ได้ยินแบบนั้นแล้วหันอี้เซวียนขมวดคิ้วเข้มแล้วมองไปทางหลินซูหย่า “ซูหย่า ถึงจะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้แฝงตัวเข้ามาได้ยังไง แต่หล่อนต้องมีเจตนาบางอย่าง หล่อนมาตอนที่เราเชิญคุณเยวามา อะไรมันจะพอดีขนาดนี้…”
ขณะเดียวกัน เยวาที่อยู่ข้างๆ มองไปทางหลินเยียนด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดกับหันอี้เซวียน “คุณหัน ท่านนี้ไม่ใช่แขกที่เชิญมาเหรอคะ”
“ไม่ใช่ครับ” หันอี้เซวียนส่ายหน้า
ได้ยินเช่นนั้นแล้ว สายตาเยวายะเยือกกว่าเดิม “คุณหัน พวกคุณน่าจะรู้นะ ฉันบอกตั้งนานแล้วว่าจะเจอแค่แฟนคลับแล้วก็เพื่อร่วมวงการ ทำไมถึงปล่อยให้ใครก็ไม่รู้เข้ามาแบบนี้”
“ขอโทษครับคุณเยวา พวกเราพลาดเองครับ เดี๋ยวผมจะรีบจัดการให้” หันอี้เซวียนมองไปทางหญิงสาวด้วยความรู้สึกผิด
“ไล่ออกไปซะ!”
ไม่นาน หันอี้เซวียนเหลือบมองหลินเยียนด้วยสายตารังเกียจแล้วเอ่ยปากพูดกับบอดี้การ์ดที่มารุมมองตั้งนานแล้ว
“พ่อครับ คนนี้เป็นใครเหรอ พ่อสนิทกับเขาเหรอ” ขณะเดียวกัน เผยอวี่ถังกดเสียงต่ำแล้วถามหลินเยียน “อย่าบอกว่าเป็นหนึ่งในแฟนหนุ่มที่เขาลือกันนะ?”
หลินเยียน “…”
ไม่ใช่ข่าวลือ แต่เป็นแฟนเก่าน่ะ
“ไม่ค่อยสนิทหรอกนะ เขาชื่อหันอะไรสักอย่าง…” หลินเยียนก้มหน้าทำท่าครุ่นคิด
เหอะ สำหรับคนที่ไม่ค่อยสำคัญแล้ว เธอจำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่
“ไอ้บ้า นายเป็นใครวะ มาทำตัวกร่างไปได้ เดี๋ยวก็โดนไม่เบาหรอก!” เผยอวี่ถังมองไปทางหันอี้เซวียนแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงแข็ง
ล้อเล่นกันหรือเปล่า พี่สะใภ้โดนคนแบบนี้ด่าอีกทั้งยังจะให้บอดี้การ์ดไล่ออกไปเนี่ยนะ?!
เอาความกล้ามาจากไหน!
ถ้าพี่ใหญ่รู้เรื่องล่ะก็ ฟันเขาคงร่วงหมดปากแน่!
ยุ่งกับใครไม่ยุ่ง จะมายุ่งกับผู้หญิงของยมบาลซะงั้น?