บทที่ 97 ข้าจะบิดหัวของเจ้า

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 97 ข้าจะบิดหัวของเจ้า
หนานหว่านเยียนนั่งอยู่ในรถม้า เดิมทีพื้นที่ก็แคบ ตอนนี้เต็มไปด้วยของขวัญก็ยิ่งแคบเข้าไปใหญ่

นางทำตาสว่าง และนับจำนวนของขวัญ”หนึ่ง สอง สาม……สิบห้าชิ้น!รวยเลย!”

นี่ล้วนเป็นเงินตำลึงเลยนะ เป็นทรัพย์สินที่นางกับเด็กๆสามารถใช้ในอนาคตได้!เป้าหมายนี้ราบรื่นกว่าที่คิด

นางก็คิดไม่ถึงว่า ในมือของฮูหยินยังมีของที่แม่เจ้าของร่างเดิมเหลือไว้มากขนาดนี้ โลภขนาดนี้ เก็บไว้ในมือตั้งห้าปี

ดีที่เจ้าของร่างเดิมฉลาด ปกติก็เก็บสินเดิมให้ตัวเอง ไม่งั้นพึ่งแค่สินเดิมที่จวนเสนาบดีให้มา ต้องอดอยากตายแน่ๆ

กู้โม่หานขมวดคิ้วอย่างรังเกียจ จ้องหนานหว่านเยียนเหมือนกับคนเห็นแก่เงิน อยู่ๆก็ถามด้วยเสียงเย็นชา”เพราะเหตุใด?”

เหตุใดถึงทำตัวแบบนั้นต่อคนในจวนเฉิงเซี่ยง

หนานหว่านเยียนยังตกอยู่ในท่ามกลางแห่งความสุขอยู่”อะไรนะ?”

สีหน้าของกู้โม่หานเย็นชามาก ในน้ำเสียงไม่เห็นมีความรักใดๆเลย

“ข้าถามว่าทำไมวันนี้เจ้าถึงทำเรื่องเช่นนี้?”

เขารู้ว่าคนในจวนเฉิงเซี่ยงล้วนเป็นคนชั่ว ไม่มีใครดีเลย

แต่เขารู้สึกแปลกใจ ปกติหนานหว่านเยียนจะอยู่ฝั่งเดียวกับหนานฉีซาน เหตุใดวันนี้ถึงเลือกเป็นศัตรูกับจวนเฉิงเซี่ยงล่ะ?

หนานหว่านเยียนทำหน้าเหมือนสมเหตุสมผล

“เดิมทีสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ข้าควรจะได้ แค่วันนี้ข้าอยากจะเอากลับมาเท่านั้น เจ้ามีความเห็นอะไรหรือ?”

คนเหล่านี้หน้าเนื้อใจเสือ ต้องให้บทเรียนพวกเขาบ้าง ไม่งั้นยังไม่รู้ว่าครั้งต่อไปจะรังแกนางยังไงอีก!

และนี่ก็เป็นการเคาะภูเขาเขย่าเสือ เตือนพวกเขาสักหน่อย

คนที่ลอบสังหารนางมาจากจวนอ๋องเฉิง ถ้าจะพูดว่าไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับจวนเฉิงเซี่ยง เป็นไปไม่ได้หรอก

ภายในครึ่งปีนางก็กำจัดหนานชิงชิงไม่ได้ ก็เลยรู้ว่าเหตุใดหนานชิงชิงถึงลอบสังหารเจ้าของร่างเดิมอย่างบ้าคลั่ง

เพราะมีแต่รู้สาเหตุ นางถึงมีแผนการแก้ไข นางไม่อยากให้ตอนที่นาฃกับเด็กๆออกไปจทกที่นี่ ยังต้องไปซ่อนนั่นซ่อนนี่ และห่วงว่ามีคนจะมาลอบสังหารอีก

กู้โม่หานไม่ใส่ใจใยดีกับข้ออ้างของหนานหว่านเยียน เหลือบตามองนางทีหนึ่ง

“หากเหตุผลง่ายขนาดนี้ งั้นถือว่าข้าคิดผิดไปสักแล้ว”

ตกลงหนานหว่านเยียนมีความลับอะไรอยู่ ยิ่งมองก็ยิ่งมองไม่ออกเลย

ได้ยินเช่นนี้ หนานหว่านเยียนเลิกคิ้ว นิ้วมือแตะไปที่ขอบหน้าต่าง

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดอะไรอยู่ ข้าเอาแต่เงินอย่างเดียว”

อยู่ๆ หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว มองไปทางกู้โม่หาน

หนานชิงชิงฆ่าเจ้าของร่างเดิม เป็นเพราะนางแต่งงานกับกู้โม่หานแค่นี้เองหรือเปล่า?

ในความทรงจำของนาง สองคนนี้ก็ไม่มีความขัดแย้งอะไรเลย?

กู้โม่หานถูกนางจ้องจนขนลุก”เจ้าจ้องข้าทำไม?เดี๋ยวจะขุดลูกตาออกมาเลย!”

หนานหว่านเยียนฟื้นสติกลับมา เถียงว่า”ใครบอกว่าข้าจ้องเจ้าอยู่ ข้าแค่เห็นว่าลวดลายบนเสื้อของเจ้ายังใช้ได้อยู่ คิดจะกลับไปทำให้เด็กๆสักหน่อย”

แต่ในใจของนางยังคิดสาเหตุที่หนานชิงชิงฆ่าคนอยู่

น่าจะไม่ถึงขั้นที่เพื่อผู้ชาย เพราะเจ้าของร่างเดิมถูกไอ้ชายเลวนี่ขังอยู่ในเรือนเย็นตั้งห้าปี

อาจเป็นเพราะว่าเจ้าของร่างเดิมรู้ความลับบางอย่าง หรือเป็นสิ่งสำคัญเกี่ยวข้องกับหนานชิงชิง แต่เสียดายที่ เจ้าของร่างเดิมไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับด้านนี้

ทันใดนั้น นิ้วมือที่เรียวยาวของกู้โม่หานก็จับคางของหนานหว่านเยียน และพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา”อย่านำเด็กๆมาเป็นข้ออ้าง ข้าไม่สนว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ แต่ข้าจะเตือนเจ้าว่า”

“ถ้าเจ้ากล้าเล่นกลอุบายเหมือนวันจัดงานเลี้ยงวันเกิด บอกเรื่องที่กลับบ้านให้กับโหรวเอ๋อร์ ข้าจะบิดหัวเจ้าเลย!”

อะไรเนี่ย?

เดิมทีหนานหว่านเยียนมีอารมณ์ที่ดี อยู่ๆก็ถูกกู้โม่หานทำลาย

ใครกล้าจับต้องผู้หญิงของเขา หรือมีความคิดต่อผู้หญิงของเขา เขาก็จะระเบิดทันที

หากไม่ใช่ว่ากู้โม่หานมีอำนาจในมือแถมยังต่อสู้เก่งด้วย นางคิดจะทุบหัวของเขาแตกไปเลย

หนานหว่านเยียนหัวเราะเยาะ สายตาปรากฏความเยือกเย็นออกมา”มันผู้ใดไม่รุกรานข้า ข้าก็ไม่รุกรานมันผู้ใด พูดสิ่งเหล่านี้ล้วนไร้ประโยชน์ ดูแลผู้หญิงของเจ้าให้ดี มีประโยชน์กว่าใดๆทั้งสิ้น”

พูดเสร็จ นางก็สะบัดมือของกู้โม่หานออกไป และหันหน้าไปอีกข้างหนึ่งไม่มองเขาอีก

กู้โม่หานหน้ามิดทันที

ภายในรถม้าที่คับแคบ เขาใช้มือกดทับหนานหว่านเยียนอยู่ริมหน้าต่าง มืออีกข้างหนึ่งประคองอยู่ข้างๆ และมองนางโดยอยู่เหนือกว่า

“เจ้าทำตัวยังไงเนี่ย เจ้าเป็นคนที่ไปยั่วยุคนอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ข้าเคยปรักปรำเจ้าสักครั้งหรือ?”

หนานหว่านเยียนถูกเขากดไหล่เอาไว้ รู้สึกทึ่งโกรธทั้งตลก กู้โม่หานกล้าพูดแบบนี้ได้อย่างไร

นางดึงปกเสื้อของกู้โม่หานเข้ามา บุคลิกทรงพลังมาก ไม่ยอมแพ้เช่นกัน

“ข้าไม่อยากพูดสิ่งเหล่านี้กับเจ้า เจ้ามีคนที่ต้องปกป้อง แต่ข้าก็มีลิมิตของข้า และเจ้าก็ระวังหน่อย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสินเดิมของข้า ถ้าเจ้าทำเสียต้องชดใช้ข้า”

กู้โม่หานกวาดไปที่”สินเดิม”ของนาง สายตามีความโกรธเล็กน้อย

เขายังไม่รู้ว่านางน้อยใจอะไร นางเป็นคนรังแกโหรนเอ๋อร์มาโดยตลอด

ร่างกายของเขาทับลงไปอีก กระซิบพูดอยู่ข้างหูของหนานหว่านเยียน”เจ้าทำตัวให้ดีนะ อย่าให้ข้าจับผิดได้ ไม่งั้น……ข้าจะให้เจ้าน่าดูแน่ๆ!”

ลมเย็นพาดผ่าน พัดจนมุมหนึ่งของหน้าต่างปลิวขึ้นมา

เซี่ยงวี่มองผ่านช่องว่าง เห็นว่ากู้โม่หานกับหนานหว่านเยียนสนิทกว่าปกติ เลยรู้สึกดีใจมาก

“พระเจ้าลืมตาแล้ว พระชายากว่าจะได้ดี”

ไม่ว่าเป็นครั้งนี้ที่กลับบ้าน หรือความสัมพันธ์กับท่านอ๋อง พระชายาล้วนราบรื่นมาก

และองครักษ์เสิ่นก็ใกล้จะหายดี ถ้าร่างกายเขาดีขึ้นมา ท่านอ๋องจะต้องเชื่อถือและชอบพระชายามากขึ้นแน่ๆ

และองครักษ์เสิ่นก็ชอบคุณหนูน้อยสองคนมากๆ และปฏิบัติต่อพระชายาอย่างเคารพด้วย อนาคตอาจจะได้เป็นผู้ช่วยของท่านอ๋องและพระชายาได้ด้วย!

เซี่ยงวี่จินตนาถึงสิ่งที่ดีงามทั้งหมด อธิษฐานให้หนานว่านเยีบนสามารถปลอดภัยตลอดไป

วินาทีต่อไป นางกลับเห็นว่าพ่อบ้านกาววิ่งมาอย่างเร่งรีบ สีหน้าซีดขาวและจริงจัง เหมือนมีเรื่องที่ร้ายแรง

“ท่านอ๋อง พระชายา!”

ครขับรถม้าเห็นเช่นนี้ก็หยุดรถม้า สองคนในรถต่างคนต่างไม่ถูกกัน แต่ล้วนปล่อยมือในเวลาแรก แล้วกู้โม่หานก็เปิดผ้าม่านรถ

“เกิดอะไรขึ้น?”

หนานหว่านเยียนเห็นว่าสีหน้าของพ่อบ้านกาวแย่มาก ก็เกิดความกังวลขึ้นมา

พ่อบ้านกาววิ่งมาถึงหน้ารถม้าอย่างเหน็ดเหนื่อย มองกู้โม่หาน และพูดอย่างเศร้าโศก”ท่านอ๋อง!องครักษ์เสิ่น จะไม่ไหวแล้ว”