ตอนที่ 299 : 1,000 ล้าน
หอสมบัติสวรรค์นั้นถือว่าเป็นหนี่งในกองกำลังที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหัวเซี่ย หากเทียบกับตระกูลชั้นนำทั้งห้าแล้วก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย
พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกขุมกำลังในเมือง อีกทั้งเมื่อประมูลเสร็จพวกเขาก็ยังเอาเงินไปบริจาคช่วยผู้คนทุกปีด้วย ผู้คนทั้งในเมืองหัวเซี่ยและเมืองอื่น ๆ ต่างก็ให้ความเคารพพวกเขาอย่างมาก ดังนั้นเมื่อกลุ่มสมบัติสวรรค์เป็นผู้ดูแลการประมูล มันจึงไม่มีใครคิดจะปล้นพวกเขาเลยสักครั้งเดียว
แม้แต่ในเมืองอื่นเองก็เหมือนกัน กระทั่งพวกโจรก็ไม่กล้าที่จะลงมือกับกลุ่มสมบัติสวรรค์
มันแสดงให้เห็นถึงอำนาจและความแข็งแกร่งรวมถึงชื่อเสียงของกลุ่มสมบัติสวรรค์
มันก็เหมือนกับตอนนี้ แม้ว่าจะมีหลายคนที่อยากได้โสมคนมา แต่ทุกคนก็ไม่กล้าคิดที่จะขโมยมัน
นี่ยังไม่รวมความแข็งแกร่งของเฉินเหล่าที่โดดเด่นเลย เพราะแค่มองก็ทำให้พวกเขากลัวได้แล้ว
ดังนั้นทุกคนจึงพากันเงียบและมองไปที่โสมคนตาเป็นประกาย
“110 ล้าน”
สุดท้ายก็มีคนพูดขึ้นมา
พวกคนที่ลังเลตัดสินใจจะแข่งประมูลทันที
ไม่ว่าจะได้มันไปรึไม่แต่พวกเขาก็ไม่สน พวกเขาต้องลองประมูลมันมาก่อน
ตอนนี้ในสายตาของพวกเขามีแต่โสมคนเท่านั้น
“120 ล้าน”
“130 ล้าน”
ราคาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ พวกที่ไม่มีเงินก็ได้แต่มองดูคนอื่นประมูลกันต่อ
…
ที่ชั้นสอง เมื่อเฉินเหล่าทำการอธิบายคุณสมบัติของโสมคนนี้จนจบ หวังเย่าก็ตาเป็นประกายขึ้นมา เขาได้อ่านจากหนังสือมาแล้วว่าโสมคนนั้นทรงพลังแค่ไหน
ตอนนั้นเขาคิดว่ามันคล้ายกับผลไม้ในเรื่องไซอิ๋ว แม้ว่าโสมคนนี้จะเทียบกับในนิยายไม่ได้แต่สำหรับคนในโลกนี้ก็ยังถือว่าหาได้ยาก ยังไงซะการเพิ่มอายุไขถึง 300 ปีนั้น มีใครบ้างที่ไม่ต้องการมัน ?
มันมีโอกาสที่ร่างกายจะพัฒนาด้วย หากพัฒนาได้สำเร็จ งั้นการทำงานของร่างกายก็จะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นมา
เมื่อมองไปยังโสมที่คล้ายกับทารกในมือหญิงสาว หวังเย่าก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที เขาตัดสินใจว่าจะต้องเอามันมาให้ได้
ราคาเพิ่มขึ้นมาถึง 200 ล้านภายในพริบตา ทุกห้องในชั้นสองต่างก็เข้าร่วมการประมูลกันหมด โสมคนนี้ต่างก็ทำให้พวกเขาตื่นเต้น
……
ผ่านไปไม่นานราคาของมันก็เพิ่มขึ้นถึง 500 ล้าน
ถึงตอนนี้บางคนก็เริ่มถอนตัวออกไปแล้ว ยังไงซะพวกเขาก็ไม่มีเงินมากขนาดนั้น
ตอนนี้เหลือแค่แขกพิเศษที่ชั้นสองเท่านั้นที่ยังคงทำการประมูลต่อ
หวังเย่าเองก็เข้าร่วมการประมูลเช่นกัน ไม่มีใครคิดที่จะยอมแพ้ ดังนั้นจึงทำให้ราคามีแต่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
“610 ล้าน”
“620 ล้าน”
….
การประมูลยังคงดำเนิดต่อไปอย่างดุเดือด
ห้องชั้นสามดูเหมือนไม่มีใครยกเว้นแค่ฟางอี้
ตอนนี้เธอเดินมาที่หน้าต่างและมองไปที่ชั้นสองด้วยความสนใจ คนที่เธอมองอยู่นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากปิศาจหน้าด้าน
สายตาของเธอดูมีความหงุดหงิดและอับอายอยู่นิด ๆ
สำหรับว่าทำไมเธอถึงไม่เข้าร่วมประมูลด้วยนั้นก็เพราะว่าเธอ….ไม่มีเงิน
แม้ว่าเธอจะเป็นลูกของเจ้าเมือง แต่เธอก็มีเงินเดือนที่ได้จากพ่อ มันมากกว่าคนทั่วไปแค่เล็กน้อยเท่านั้น และเธอก็ได้เงินเดือนไม่มากจากกองกำลังที่เธอเข้าร่วม เธอไม่เหมือนหวังเย่าที่ได้แร่ไฟมาและกลายเป็นเศรษฐีในพริบตา
ดังนั้นถึงฟางอี้จะอยากได้โสมคนนั้นมาแค่ไหน แต่เพราะไม่มีเงิน เธอจึงได้แต่ดูคนที่ชั้นสองแข่งกันประมูล
ตอนที่หวังเย่าบอกราคาออกมา ทุกคนก็พากันเงียบไปชั่วครู่
“710 ล้าน ”
แต่ผ่านไปสักพักก็มีคนเสนอราคาขึ้นมา มันคือคนจากสมาคมเฟิง
“720 ล้าน”
คนที่อยู่ห้องข้าง ๆ ก็ไม่คิดจะยอมแพ้
“750 ล้าน” นี่คือเสียงของผู้อาวุโสภูเขาอู่ตัง เขาเพิ่มราคาขึ้นอีก 30 ล้านทันที
“760 ล้าน” ยิ่งราคาสูงเท่าไหร่พวกเขาก็ไม่คิดยอมแพ้
ครั้งนี้เป็นเสียงจากห้องของลู่หานที่เพิ่มราคาขึ้นอีก 40 ล้าน ให้กลายเป็น 800 ล้าน
มันทำให้ผู้คนด้านล่างต้องถอนหายใจออกมาด้วยความตะลึงกับราคาที่พุ่งขึ้นสูงขนาดนี้ สมกับเป็นคนจาก 5 ตระกูลชั้นนำ พวกเขาทั้งแข็งแกร่งและยังมั่งคั่งอีกด้วย
“850 ล้าน” หนึ่งในห้าตระกูลชั้นนำไม่คิดลังเลที่จะเพิ่มราคาขึ้นอีก 50 ล้าน
มันทำให้คนที่ด้านล่างต่างก็พากันกลัวกับราคาของมัน
นี่คือการสู้กันของเทพ พวกเราไม่อาจจะเข้าไปยุ่งได้เลย….
แม้แต่คนที่ชั้นสองก็ยังมีคนตัวสั่นและเงียบหายไป พวกเขายังไม่ประมูลต่อไปสักพัก
หวังเย่าขมวดคิ้ว เขารู้ดีว่าเขาต้องการโสมคนนี่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าตระกูลใหญ่ยังคงสู้ต่อแบบนี้ บางทีเขาอาจจะต้องเป็นฝ่ายถอนตัวไป ยังไงซะเขาก็ตัวคนเดียว พวกนี้เป็นตัวแทนของกลุ่มและตระกูลของตัวเอง
แม้ว่าเขาจะมีเงินเยอะแต่ก็ไม่อาจจะเทียบกับตระกูลเหล่านี้ได้
กองกำลังพวกนี้พัฒนาตัวเองมานานและมีภูมิหลังที่ยากจะหยั่งถึง มันไม่ใช่สิ่งที่หวังเย่าคนเดียวจะรับมือไหว นอกซะจากว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งที่เพียงพอจะมองข้ามคนอื่น ๆ ได้ แต่ชัดแล้วว่าหวังเย่ายังห่างไกลจากจุดนั้นอยู่มาก
“ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาจะใช้ทุกอย่างที่มี เพื่อโสมคนชิ้นนี้ นี่แค่ของชิ้นที่ 4 ”
“ของที่พวกเขาสนใจยังไม่มา ชัดแล้วว่าพวกเขาคงไม่ใช้เงินทั้งหมดไปกับโสมคนนี่แน่” หวังเย่าคิดในใจ
ตอนที่หวังเย่าคิดอยู่นั้นก็มีคนเริ่มทำการเพิ่มราคาอีกครั้ง
“860 ล้าน” คนจากสมาคมเฟิงได้กัดฟันแน่นและพูดขึ้นมา
ในตอนที่คนอื่น ๆ กำลังพยายามเพิ่มราคาต่อนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากอีกห้อง
“1,000 ล้าน ! ”