ตอนที่ 294 หนทางการแปลงจิต

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

ชีวิตการบำเพ็ญเพียรของชั้นปีที่สามเข้าสู่สภาวะปกติ เวลากำลังล่วงเลยอย่างเชื่องช้าและเรียบง่าย

อันหลินสร้างเสถียรภาพให้กับพลังยุทธ์ของตนแล้ว เริ่มก้าวเข้าสู่ระดับขั้นที่สูงกว่าแล้ว

ขั้นต่อไปก็คือศึกษาวิชาของตนแล้ว เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนจะสร้างวิชารูปแบบไหนออกมา

แต่ในฐานะที่อันหลินเป็นเซียนกระบี่ การมีวิชาจำพวกหมื่นกระบี่ระดมยิง หรือวิชาประเภทปราณกระบี่โลดแล่นอะไรเทือกนั้น มันจึงจะเหมาะสมกับฐานะของเขา

เพื่อการบรรลุวิชาของตน เขาจึงมองอาทิตย์ขึ้นอาทิตย์ตก นั่งสมาธิภายใต้ท้องฟ้ายามราตรี รำกระบี่ใต้ธารน้ำตก ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ทำหมดแล้ว

แต่ทว่าก็ยังไม่ได้ผลอยู่ดี

“เจ้าอัปลักษณ์ เจ้าว่าข้าศึกษาผิดวิธีหรือไม่ ไยยืนหยัดมาหลายวันแล้วกลับไม่มีผลอะไรเลย” อันหลินระบายความในใจ

เจ้าอัปลักษณ์เกาขนลิงบนศีรษะ พูดอย่างไม่ค่อยแน่ใจว่า “จะพูดว่าวิธีการไม่ถูกก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ต้องการสร้างวิชาของตน โดยปกติแล้วตัวเองจำต้องเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ สถานที่ที่ค่อนข้างมีความสุนทรี มีประโยชน์ต่อการบรรลุวิชาของตน”

“การหยั่งรู้วิชาของตนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย อย่างไรเสีย มันเป็นสันปันน้ำที่ใหญ่โตโอฬาร นักพรตหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นปลายตั้งมากมายที่ชีวิตนี้ไม่อาจบรรลุวิชาของตนได้ ฉะนั้นพี่อันอย่าใจร้อนเกินไปเลยนะ”

เมื่ออันหลินได้ฟังก็เสียวสันหลังวาบทันที

เกิดคุณสมบัติของเขาไม่ดี ต้องใช้เวลาหลายสิบปีในการศึกษาวิชาของตน คงต้องร้องไห้จนตายแน่

ไม่ได้การแล้วๆ อันตรายแบบนี้จะเสี่ยงไม่ได้…

อืม…ขอความช่วยเหลือจากระบบหลอกลวงของเขาแต่โดยดีก็แล้วกัน!

ภายในห้องปรุงยา ณ ราชวังดุสิต

จอมอ้วนตัวกลมได้เจอไอดอลของเขาอีกแล้ว

“สหายอันหลิน ครั้งนี้มากินยาอะไรหรือ!” หยินสี่ตาลุกวาว เอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น

“เอ่อ…ข้ามาครั้งนี้เพราะมีคำถามอยากจะขอคำแนะนำจากท่านสักหน่อย” อันหลินพูดอย่างละอายใจ

ผู้เที่ยงแท้หยินสี่เป็นศิษย์เอกของปรมาจารย์ไท่ซ่าง มากประสบการณ์ ซ้ำยังเป็นนักปรุงยาชั้นหนึ่ง ขอคำแนะนำจากเขาน่าจะไม่มีปัญหา

“ไม่ต้องเกรงใจ ว่ามาเถอะ เจอปัญหาอะไรหรือ” หยินสี่เคยเจออันหลินหลายครั้ง กำลังอยากผูกมิตรกับยอดฝีมือด้านการกินยาอยู่พอดี ด้วยเหตุนี้จึงแสดงความเป็นมิตรกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก

อันหลินครุ่นคิดครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พูดวัตถุดิบในการทะลวงขั้นสู่ระดับแปลงจิตออกมา “ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสหยินสี่เคยได้ยินดวงใจแห่งเทพสวรรค์ น้ำแห่งเทพสวรรค์ กับผลเทวะสูงสุดหรือไม่”

หยินสี่เบิกตากว้างทันทีที่ได้ยิน เผลอสูดหายใจดังเฮือกโดยไม่รู้ตัว “ไยเจ้าต้องถามถึงของสามอย่างนี้ด้วย”

“ข้าอยากรวบรวมพวกมัน จำเป็นต้องใช้”

“ให้ตายสิ! รวบรวมพวกมันหรือ เจ้าจะเอาของพวกนี้ไปทำไม!”

“ทำไมหรือ ไม่ได้หรือ” อันหลินดะพริบตาปริบๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมหยินสี่ถึงได้มีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้ด้วย

“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าได้หรือไม่ได้…” หยินสี่นวดขมับ มองอันหลินแล้วพูดเสียงเข้มว่า “แต่เพราะระดับของของสามสิ่งนี้สูงเกินไป ไยเจ้าต้องแตะต้องกันด้วย…”

“อย่างเช่นผลเทวะสูงสุด ยาวิเศษทั่วไปจะแบ่งเป็นระดับวิเศษกับระดับเซียนไม่ใช่หรือ”

อันหลินพยักหน้า “เรื่องนี้ข้ารู้ ระดับวิเศษกับระดับเซียนมีตั้งแต่ขั้นเก้าถึงขั้นหนึ่ง ขั้นหนึ่งสูงที่สุด”

หยินสี่มองอันหลิน กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “แล้วเจ้ารู้ไหมว่า เหนือระดับเซียนยังมีอีกหนึ่งระดับน่ะ”

อันหลินชะงัก ในใจมีข้อสันนิษฐานบางอย่างผุดขึ้นมา มุมปากกระตุกยิกๆ “คงไม่ใช่ระดับเทวะหรอกนะ”

“ใช่แล้ว ระดับเทวะนั่นแหละ ผลเทวะสูงสุดที่เจ้าต้องการก็คือผลไม้ระดับเทวะ!” หยินสี่ทำหน้าแปลกใจ พูดต่อว่า “ฉะนั้นเนี่ย…เจ้าจะเอาผลไม้ระดับนี้ไปทำอะไร”

“โอ้โฮ!” อันหลินอดสบถไม่ได้ “แค่ยาสรรสร้างชีวิตยังต้องจ่ายถึงสิบกว่าล้านหินวิญญาณ ผลเทวะสูงสุดจะไม่ทำเอาข้าถังแตกเลยหรือ!”

จู่ๆ เขาก็สัมผัสได้ถึงเจตนาชั่วร้ายของระบบ ยังจะกินผลเทวะสูงสุดอีกหรือ

คนจนอย่างเขามีปัญญาซื้อกินที่ไหนกัน!

“ไม่ขนาดนั้นหรอก ผลเทวะกับยาเซียนแตกต่างกัน เพราะยาสรรสร้างชีวิตที่เทียบเท่ายาเซียนขั้นหนึ่ง ต้องใช้สมุนไพรระดับเซียนขั้นสูงหลายชนิดกว่าจะปรุงออกมาได้ ราคาย่อมสูงกว่าอยู่แล้ว ผลเทวะไม่ได้แพงระยับ เพียงแค่ราคาสูงไม่มีใครต้องการก็เท่านั้น…”

หยินสี่เหลือบมองอันหลิน “ผลเทวะสูงสุดมีสติปัญญาแต่กำเนิด เป็นวัตถุวิเศษที่เบื้องบนคุ้มครอง มันไม่เพียงแต่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระแต่กำเนิดเท่านั้น ยังพูดภาษาง่ายๆ ได้อีกด้วย เหมือนสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาสูง สรรพคุณมหัศจรรย์ท่วมท้น ความล้ำค่าของมัน แม้แต่ผู้เที่ยงแท้ก็ไม่ขายให้ใครง่ายๆ เจ้าจะไปเอาของแบบนั้นมาจากไหน”

“ข้าถึงได้ตกใจ ไยเจ้าต้องสะสมของพวกนี้ มันเป็นภารกิจที่ไม่มีทางเป็นจริงได้เลย! เจ้าอย่าคิดเรื่องนี้เลย!”

อันหลินชะงักงัน ไม่รู้เพราะอะไร เขาพลันนึกถึงของประหลาดบางอย่างขึ้นมาได้

ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาก็หยิบโสมทองคำออกจากแหวนมิติวางลงบนพื้น

มันเป็นโสมคนที่มีสีทองทั้งต้น มีดอกไม้จิ๋วอยู่บนศีรษะ ขนาดเท่าครึ่งตัวมนุษย์

มันลืมตาที่สดใสของมันตั้งแต่โผล่มา “ปะป๋า!”

จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงตะโกนอันตื่นเต้น มันกอดขาของอันหลินไว้แน่น ร้องเรียกอย่างดีใจ

“ไปให้พ้น! ปะป๋าเจ้ามันต๋าอีต๋าเอ้อร์ไม่ใช่หรือ” อันหลินสลัดมือของโสมทองคำทิ้งด้วยความงุนงง

โสมทองคำผงะไปหลายก้าว เบะปากทำหน้าละห้อย เงยหน้าขึ้นมองหยินสี่ผู้อ้วนกลม ร้องโฮแล้วกอดขาหยินสี่ไว้หมับ ร่ำไห้ว่า “หม่าม้า! ปะป๋ารังแกข้า!”

“บัดซบ! ข้าไม่ใช่แม่เจ้า!”

“ไม่สิ บัดซบ! นี่มันตัวอะไรกัน!”

หยินสี่สะดุ้งโหยง โสมทองคำที่พูดได้วิ่งปร๋อนี่มันตัวบ้าอะไรกัน

แถมยังเรียกพ่อแม่ เขากับอันหลินเป็นสามีภรรยา คลอดโสมคนออกมาหรือ!

“เอ๊ะ…คลื่นพลังวิเศษ พลังชีวิตที่เข้มข้น ไหนจะโสมคนรูปร่างแบบนี้…”

หลังตื่นตระหนกครู่หนึ่ง หยินสี่ก็เบิกตากว้าง ราวกับเห็นเรื่องอะไรที่น่าเหลือเชื่อ

เขายืนนิ่งอยู่กับที่อยู่นานกว่าจะตะโกนขึ้นมาอีกครั้งว่า “โอ้พระเจ้า! นี่มันโสมวัฏจักรเทพกำเนิดไม่ใช่หรือ”

อันหลินสงบสติอารมณ์ เมื่อเห็นอากัปกิริยาของหยินสี่ก็งุนงง “ท่านรู้จักโสมวัฏจักรสมุนไพรเซียนขั้นหนึ่งด้วยหรือ”

“สมุนไพรเซียนขั้นหนึ่งอะไรกัน” หยินสี่พูดอย่างตื่นเต้นว่า “นี่มันเทพกำเนิด แปรสภาพแล้ว ผลเทวะสูงสุดต่างหาก!”

อันหลินกะพริบตาปริบๆ ยิ้มอย่างดีใจระคนตกใจ “ฮะ! ผลเทวะสูงสุดจริงหรือ โชคดีไม่หยอกเลย”

เมื่อครู่ตอนที่เขาฟังหยินสี่บรรยายผลเทวะสูงสุด ก็รู้สึกว่าโสมคนต้นนี้คล้ายคลึงกับผลเทวะสูงสุดอยู่บ้าง

เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเหมือนกัน สามารถสื่อสารเบื้องต้นได้ประหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่มีปัญญาสูง ไม่คิดว่ามันจะเป็นผลเทวะสูงสุดจริงๆ!

“ไม่ใช่แค่ดวงดีไม่หยอกนะ นี่มันดวงดีสุดๆ ไปเลย! นี่มันของล้ำค่าที่ไม่อาจได้มาครอบครองเชียวนะ!” หยินสี่ตื่นเต้นจนสั่นเทิ้มไปทั้งตัวแล้ว จ้องโสมทองคำที่กอดขาของตนจนของเหลวแวววาวไหลออกจากมุมปาก

ภาพนี้ทำเอาอันหลินตกใจรีบเก็บโสมคนใส่แหวนมิติทันที

ใบหน้ากลมมนของหยินสี่ขึ้นสี “ข้าขอคืนคำที่ข้าเพิ่งพูดไปเมื่อครู่ ไม่คิดว่าเจ้าจะมีผลเทวะสูงสุดจริงๆ…”

อันหลินกระหยิ่มยิ้มย่อง ไม่คิดว่าหนทางแปลงจิตจะก้าวหน้าหนึ่งในสามแล้ว นี่มันสัปหงกแล้วมีคนส่งหมอนให้ชัดๆ[1]

ต่อมาเขาก็อดสงสัยในของอีกสองสิ่งไม่ได้ “ผู้อาวุโสหยินสี่ ตอนนี้บอกข้าได้หรือยังว่า น้ำแห่งเทพสวรรค์กับดวงใจแห่งเทพสวรรค์คืออะไร”

หยินสี่เพ่งมองอันหลินแล้วพูดเสียงเอื่อยๆ ว่า “ดวงใจแห่งเทพสวรรค์เป็นวัตถุพลังจิตขั้นเทวะในรูปแบบสืบทอด ยึดครองหรือเคลื่อนย้ายตามใจชอบไม่ได้ จำต้องให้มันเป็นฝ่ายยอมรับ ในสุสานของสิ่งมีชีวิตที่มีพลังจิตแก่กล้าอย่างยิ่ง มักจะปรากฏให้เห็น”

“น้ำแห่งเทพสวรรค์เป็นวัตถุพลังงานขั้นเทวะในรูปแบบสืบทอด ปกติในสถานที่ที่มีดวงใจแห่งเทพสวรรค์ ก็มักจะมีน้ำแห่งเทพสวรรค์อยู่ด้วยเหมือนกัน”

อันหลินโล่งอกเมื่อได้ยินดังนั้น “ฟังดูไม่เลวแฮะ ทูอินวัน ง่ายขึ้นแล้ว”

หยินสี่กลอกตา “ง่ายหรือ เจ้ากำลังล้อข้าเล่นหรือไง อันดับแรก สุสานที่มีดวงใจแห่งเทพสวรรค์กับน้ำแห่งเทพสวรรค์ พลังยุทธ์ของเจ้าของต้องเป็นยอดฝีมือเหนือระดับหวนสู่ความว่างเปล่า มิหนำซ้ำยังต้องเป็นบุคคลที่มีพลังจิตแก่กล้าอย่างยิ่งยวด ไหนจะอิทธิพลจากชีพจรรอบข้างต่างๆ นานา สามารถพูดได้ว่า ต่อให้เจ้าขุดสุสานสิบแห่ง ก็อาจจะไม่เจอวัตถุดิบพวกนั้น”

“ไม่เป็นไร ค่อยเป็นค่อยไป” อันหลินไม่ได้มีท่าทีหมดอาลัยตายอยากมากนัก กลับถามว่า “คำถามข้อสุดท้าย ดวงใจแห่งเทพสวรรค์กับน้ำแห่งเทพสวรรค์หน้าตาเป็นอย่างไร”

หยินสี่โบกมือ “ข้าก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน ได้ยินว่าดวงใจแห่งเทพสวรรค์เป็นก้อนสีขาว ส่วนน้ำแห่งเทพสวรรค์เป็นท่อนสีขาว”

อันหลิน “…”

ช่างเป็นการบรรยายที่เห็นภาพดียิ่งนัก เขาไม่มีอะไรจะพุด

แต่ก็ยังดี อย่างน้อยหนทางเทพสวรรค์ของอันหลินก็แน่นอนแล้ว

จอมโจรขุดสุสาน…

เขาเป็นแน่!

[1] สัปหงกมีคนส่งหมอนให้ หมายถึง ต้องการสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น