ตอนที่ 1356 ที่อยู่ของอวิ๋นเซียว (1)

 

 

หงหลวนจะไม่รู้ความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของพวกเขาได้อย่างไร นางหัวเราะเยาะแล้วกวา ดสายตามองหลิงลี่และหลิงเฉินด้วยสายตาดูถูก

 

 

“หลิงเฉิน ข้าเคยพูดให้เจ้าฟังไปแล้ว ข้า หงหลวนต้องการแค่คนที่มีข้าเพียงคนเดียวทั้งชีวิต” หงหลวนเหลือบตาขึ้นมองเขาอย่างดูถูกขณะพูด “คนที่ใช้ความปรารถนาของร่างกายควบคุมมันสมองของตัวเองแบบเจ้าจะมีคุณสมบัติมาแต่งงานกับข้าได้อย่างไร”

 

 

หลิงลี่ขมวดคิ้ว เมื่อก่อนเขาประทับใจหงหลวนที่ฉลาดเฉียบแหลม แต่ตอนนี้นางกลับไร้หัวคิดเหมือนวัว เฉินเอ๋อร์ก็สัญญาแล้วว่าเขาจะไม่รับอนุ แค่นี้ยังไม่พออีกหรือ

 

 

“หลวนเอ๋อร์ ข้าจับคู่ให้เจ้ากับเฉินเอ๋อร์ก็เพื่อตัวเจ้าเอง! ทุกวันนี้บุรุษคนใดบ้างไม่มีภรรยาสามอนุสี่ บุรุษที่ยินดีแต่งงานกับสตรีเพียงคนเดียวนั้นไม่มีหรอก! บุรุษมีความปรารถนาทางร่างกายที่ใครก็ควบคุมไม่ได้!”

 

 

หงหลวนยิ้มเยาะ “ในเมื่อเป็นแบบนั้นก็หมายความว่าทุกคนมีความปรารถนาทางร่างกายใช่หรือไม่ ถ้าเช่นนั้นสตรีที่ต้องจากบ้านมาเองก็สามารถมีความปรารถนาได้เช่นกัน”

 

 

“หงหลวน!” หลิงลี่โกรธจัดน้ำเสียงของเขาไม่สุภาพเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว “” เจ้าพ่นอะไรไร้สาระออกมา สตรีจะเทียบกับบุรุษได้อย่างไร สตรีต้องซื่อสัตย์ไปตลอดชีวิต แล้วสตรีที่มีชู้รักก็สมควรถูกแยกร่างออกเป็นพันๆ ชิ้น!

 

 

สาเหตุที่หลิงลี่โกรธจัดก็เพราะคำพูดของหงหลวนทำลายศักดิ์ศรีของเขา ปีนั้นอนุของเขาไม่สามารถทนความเหงาได้แล้วไปมีความสัมพันธ์กับบุรุษอื่น เขาสังหารชายชู้คนนั้นด้วยความเดือดดาล! ในความคิดของเขา สตรีที่ไม่ซื่อสัตย์สมควรตาย!

 

 

“หลิงลี่!”

 

 

สายตาหงหลิงเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ที่นี่คือเมืองบูรพาและหลวนเอ๋อร์ก็เป็นบุตรสาวข้า ข้าหวังว่าท่านจะสุภาพกว่านี้ ไม่อย่างนั้นก็อย่าโทษว่าข้าทำเกินขอบเขต!”

 

 

“หงหลิง เจ้ากล้าตำหนิข้างั้นหรือ ข้าต่างหากที่อยากจะถามเจ้าว่าเจ้าได้สั่งสอนบุตรสาวตัวเองบ้างหรือไม่ถึงได้กล้าพูดอะไรไม่เหมาะสมขนาดนี้ออกมา ในฐานะสตรี นางรู้หรือไม่ว่าอะไรที่เรียกว่าความน่าอับอายขายหน้า”

 

 

นางถึงกลับกล้าบอกว่าสตรีสามารถออกไปหาความสำราญเพื่อตอบสนองความต้องการของร่างกายได้ ถ้านางไม่ใช่บุตรสาวคนโตของเมืองบูรพา บางทีนางคงถูกสังหารโดยพวกผู้ฝึกฌานที่รักความถูกต้องของแคว้นนี้ไปแล้ว!

 

 

“จริงๆ ข้าเป็นคนสั่งสอนบุตรสาวด้วยตัวเอง ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาสอดมือเข้ามาสั่งสอนแทน!” หงหลิงพูดอย่างเย็นชาด้วยสีหน้านิ่งเฉย

 

 

“พวกเจ้า เชิญแขกออกไป ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจวนเจ้าเมืองบูรพาของข้าไปต้อนรับคนจากเมืองอุดร!” น้ำเสียงของเขาทั้งเย็นเยียบและดุร้ายโดยไม่สนใจความสัมพันธ์กับเมืองอุดรที่เขาสร้างมาตลอดหลายปีแม้แต่น้อย

 

 

อีกอย่างนี่เป็นความผิดของหลิงเฉิน แล้วคนพวกนี้ก็มาที่นี่เพื่อขอโทษแต่พวกเขากับพยายามบังคับให้บุตรสาวเขาแต่งงานด้วยซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วเขาจะทำตัวสุภาพกับคนพวกนี้ไปทำไม ยี่สิบปีที่แล้วเขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อปกป้องคนที่เขารักแต่ตอนนี้เขาไม่มีทางยอมให้บุตรสาวเขาถูกรังแก!

 

 

“หงหลิง!” สีหน้าของหลิงลี่มืดครึ้มแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้ามั่นใจใช่หรือไม่”

 

 

“ใช่!” หงหลิงหัวเราะอย่างชั่วร้าย “ได้โปรดออกไป”

 

 

“ดี ข้าหวังว่าในอนาคตเจ้าจะไม่เสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้!” หลิงลี่ส่งสายตาเย็นเยียบแล้วเงยหน้ามองหงหลวน “หงหลวน หลังจากเจ้าปล่อยบุรุษแบบเฉินเอ๋อร์ถ้าเจ้าไม่แต่งงานไปทั้งชีวิต สามีเจ้าก็ต้องมีภรรยาสามอนุสี่แน่นอน! เป็นไปไม่ได้ที่จะมีบุรุษที่ยินดีอยู่กับเจ้าคนเดียวไปตลอดทั้งชีวิต!”

 

 

หลังจากโยนคำพูดใส่นางเสร็จ หลิงลี่ก็สะบัดแขนเสื้อแล้วรีบจากไปพร้อมผู้ติดตาม

 

 

เซี่ยชูดูเหมือนว่าะถูกพวกเขาลืมทิ้งไว้ในห้องโถง นางกวาดสายตาผ่านทุกคนในห้องโถงด้วยความกลัว

 

 

“หลวนเอ๋อร์ เจ้าจะลงโทษสตรีผู้นี้อย่างไร” หงหลิงมองหงหลวนแล้วเอ่ยถาม

 

 

หงหลวนเงียบไปชั่วครู่ “ทุกอย่างที่นางทำไปไม่เกี่ยวกับข้า ความผิดพลาดของนางให้อวิ๋นลั่วเฟิงเป็นคนตัดสินเถอะ!”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1357 ที่อยู่ของอวิ๋นเซียว (2)

 

 

หงหลวนหันไปมองหงหลิงแล้วพูดว่า “ท่านพ่อ ถ่ายทอดคำสั่งออกไปไม่ให้ใครก็ตามช่วยนาง ข้าอยากให้นางปกป้องตัวเอง!”

 

 

สุดท้ายหงหลวนก็แสดงความเมตตา เซี่ยชูไม่เคยทำร้ายนางเพื่อครอบครองหลิงเฉิน ทุกอย่างที่นางทำกับเซี่ยชูไม่ใช่เพื่อตัวนางเอง แต่เพื่ออวิ๋นลั่วเฟิง

 

 

“ไม่นะ!”

 

 

เมื่อเซี่ยชูต้องพบกับบทลงโทษ นางก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา “คุณหนูหงหลวน ข้าขอร้อง ได้โปรดละเว้นข้าด้วย!”

 

 

ถ้าจวนเจ้าเมืองบูรพาประกาศสั่งห้ามนาง ไม่ใช่แค่ครอบครัวจะขับไล่นาง การที่นางจะหาสามีที่ร่ำรวยก็เป็นเรื่องที่แทบเป็นไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เท่ากับว่าชีวิตนางทั้งชีวิตถูกทำลายหมดแล้ว!

 

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เซี่ยชูก็คลานไปหาหงหลวนแล้วคุกเข่าคำนับนาง

 

 

นางใช้ศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรงไม่นานหน้าผากนางก็ย้อมไปด้วยเลือดแล้วค่อยๆ ไหลลงพื้น

 

 

“คุณหนูหงหลวน ข้ารู้ความผิดผลาดของตัวเองแล้ว ข้าไม่กล้าทำอีกแล้วเจ้าค่ะ ข้าขอร้องได้โปรดละเว้นข้า ได้โปรด…”

 

 

หงหลวนเลิกคิ้ว “ข้าพูดไปแล้ว นี่เป็นราคาที่เจ้าต้องจ่ายเมื่อใส่ร้ายอวิ๋นลั่วเฟิง!” นางไม่ได้กำจัดเซี่ยชูด้วยตัวเองแต่เมื่อคำสั่งออกไปจากจวนเมืองบูรพา ชีวิตนางในแคว้นนี้ก็ยากลำบากมาก แล้วนางก็อาจจะอยากตายมากกว่ามีชีวิตอยู่!

 

 

หลังจากนั้นหงหลวนก็ตะโกนอย่างจริงจัง “ไสหัวไป!” ทันใดนั้นผู้คุ้มกันสองคนก็เข้ามายกแขนทั้งสองข้างของเซี่ยชูขึ้นแล้วโยนนางออกไปทันที

 

 

พลั่ก

 

 

ร่างของเซี่ยชูกลิ้งไปสองสามครั้งบนพื้นทำให้แผ่นหลังของนางรวดร้าว ตอนนี้ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความสิ้นหวังไหลอาบเต็มใบหน้า นางรู้ว่านางไม่มีโอกาสได้ยกฐานะตัวเองอีกต่อไปแล้ว! ใบหน้าบอบบางน่าสงสารของนางอาจจะมีผลกับบุรุษ แต่ในสายตาของหงหลวน นี่ยิ่งทำให้นางรังเกียจเซี่ยชูมากขึ้น

 

 

 

 

ภายในห้องโถงเงียบสนิท

 

 

หงหลวนหันหน้าไปใช้ดวงตาอัลมอนด์มองชายวัยกลางวันที่นั่งอยู่บนที่งสูงแล้วขยับปากเล็กน้อย “ขอบคุณเจ้าค่ะ”

 

 

หัวใจของหงหลิงสั่นไหว

 

 

หลายปีที่ผ่านมา ในใจหลวนเอ๋อร์ไม่พอใจเขามาตลอด แล้วไม่ว่าเขาจะทำอะไรให้นาง เขาก็ไม่เคยได้ยินสองคำนี้เลย

 

 

“อย่าเข้าใจผิด” เมื่อเห็นดวงตาของหงหลิงสั่นไหวเล็กน้อย หงหลวนก็พูดต่อ “ข้าขอบคุณเพราะเมื่อสักครู่ท่านปกป้องข้า ข้าเกรงว่าทั้งชีวิตนี้ข้าจะไม่มีทางยกโทษให้เรื่องที่ท่านเคยทำได้!”

 

 

ความเจ็บปวดทรมานที่มารดานางจากไปจะยกโทษให้ง่ายๆ ได้อย่างไร ไม่อย่างนั้นก็เท่ากับว่ามารดานางโยนชีวิตทิ้งไปเสียเปล่าหรอกหรือ

 

 

“พ่อรู้” หงหลิงยิ้มอย่างขมขื่น “ถึงแม้เจ้าจะไม่ยกโทษให้พ่อ พ่อก็จะใช้ทั้งชีวิตเพื่อเจ้า”

 

 

หงหลวนที่ตอนแรกตั้งใจพูดต่อแต่คำพูดกลับไม่ยอมหลุดออกมาจากปาก นางมองหงหลิงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนหันหลังเดินจากไป ที่ด้านหลังของนางดวงตของหงหลิงมองตามแผ่นหลังของนางจนลับสายตา

 

 

“คุณหนู” เมื่อหงหลวนเดินออกมา ก็มีร่างคนคนหนึ่งยืนขว้างทางแล้วประสานมือพูดกับนางอย่างเคารพ “ข้าทราบที่อยู่ของคนที่ท่านให้ข้าไปสืบแล้วขอรับ!”

 

 

“อะไรนะ” หงหลวนตื่นเต้น “จักรพรรดิปีศาจอยู่ที่ไหน”

 

 

“ที่เมืองหลวง เขตคูหลงขอรับ!”

 

 

“ดีมาก ข้ารู้แล้ว ข้าจะไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงเดี๋ยวนี้แล้วบอกข่าวดีนี้กับนาง!”

 

 

 

 

ขณะเดียวกัน ภายในเหลาอาหารเซิ่งเทียนที่ตอนแรกอึกทึกวุ่นวายก็เงียบสนิท

 

 

ลูกค้าที่กำลังกินอาหารกำลังมองดูเด็กสาวที่น่าเอ็นดูที่กำลังเขมือบอาหารบนโต๊ะอย่างกับพายุจนจานทุกใบสะอาดเหมือนผ่านการล้าง สายตาทุกคู่เต็มไปด้วยความตะลึงจนพูดไม่ออก