ตอนที่ 511 หญิงร้ายชายเลว
เฉินเชียนโหรวส่ายหน้า “ขอโทษนะคะ คุณป้า ท่าทางเมื่อกี้ของพี่เขา…พวกเราก็ไม่รู้ว่าเธอจะกลายเป็นแบบนี้…”
ไช่จิ้งอี๋ส่ายหน้า “ความอาฆาตรุนแรงเกินไป ดีที่สุดท้ายซูเหิงไม่ได้เลือกเธอ”
เฉินเชียนโหรวเม้นริมฝีปาก “ความจริงแล้ว พี่เธอก็เป็นคนดีนะคะ…”
“เอาละ เอาละ เอาแต่ช่วยพูดแทนเธออยู่นั่นแหละ เธอเป็นคนยังไง ใครบ้างจะไม่รู้ โอ๊ะ…คุณย่าของเธอน่าจะมากันแล้ว”
ไช่จิ้งอี๋เงยหน้าขึ้นมาพอดีขณะที่พูด จึงเห็นรถคันหนึ่งที่กำลังขับเข้ามาจากที่ไม่ไกลออกไป ทำให้รีบตัดบทสนทนาที่เกี่ยวข้องกับเฉินฝานซิง
เฉินเชียนโหรวก็เงยหน้าขึ้นมาเช่นกัน เห็นรถคันนั้นกำลังจอดอยู่ใกล้ๆ
เธอรีบกางร่มเพื่อเดินออกไปรับเจียงหรงหรงมาจากรถทันที
ด้านหลัง ตามมาด้วยหยางลี่เวยและเฉินเต๋อฝาน
หยางลี่เวยเอ่ยทักทายไช่จิ้งอี๋ก่อนจะเริ่มบทสนทนาขึ้นมาตรงหน้าประตู
ตอนที่สวี่ชิงจือเดินเข้าไปในสโมสร สีหน้าไม่ค่อยดีนัก จึงปลีกตัวออกไปห้องน้ำก่อน
เฉินฝานซิงจึงหยุดรอเธอตรงทางเดินในห้องโถงใหญ่
ตอนที่ซูเหิงกำลังจะเดินออกมาเร่งทุกคน ก็เห็นเฉินฝานซิงที่หน้าประตูทางเดินเข้าพอดี
“ฝานซิง?”
น้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น เฉินฝานซิงขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันหน้ากลับไป เป็นใบหน้าที่คุ้นเคยอย่างที่คิดไว้จริงๆ ด้วย
สีหน้าเธอนิ่งขรึมขึ้นมาถนัดตา
ซูเหิงเอ่ยปากพูดต่อไป
“คิดไม่ถึงเลยว่าเธอก็มาด้วย”
เฉินฝานซิงขมวดคิ้วมุ่นกว่าเดิม
“ทำไมฉันถึงมาไม่ได้”
“ฉัน…”
“นังตัวซวย ทำไมแกถึงได้มาอยู่นี่ คิดจะทำอะไรอีกแล้ว”
ซูเหิงยังไม่ทันพูดจบ เสียงด่าทอจากเจียงหรงหรงก็ดังขึ้นจากด้านหลังเสียก่อน
ซูเหิงหันหน้ากลับไปมอง ก่อนจะหันกลับมามองที่เฉินฝานซิงอีกครั้ง คิ้วคู่นั้นเริ่มขมวดแน่นเข้าเรื่อยๆ
“ฝานซิง…ไม่ได้มากับพวกคุณเหรอ”
“คืนนี้มาหารือกันเรื่องงานแต่งของเธอกับเฉินโหรว ฉันจะเรียกเธอมาด้วยทำไม วันๆ ก็เอาแต่จะสร้างปัญหาให้เฉินเชียนโหรว หาเรื่องให้สกุลเฉินไม่หยุดหย่อน เรียกเธอมางั้นเหรอ ฉันคงกลัวว่าตัวเองจะอายุยืนเกินไปล่ะมั้ง”
เจียงหรงหรงพูดด้วยความโมโห ตั้งแต่วินาทีที่ได้เห็นเฉินฝานซิง สีหน้าของเธอก็ดูไม่ดีอีกเลย
เฉินฝานซิงที่กำลังรอคนอยู่จึงอยู่ในท่าที่หันหลังให้กับเจียงหรงหรงพอดี เธอไม่ขยับเขยื้อนตัวแม้แต่น้อย
เฉินเชียนโหรวจ้องมองแผ่นหลังของเฉินฝานซิง ภายในเต็มไปด้วยความได้ใจ
รู้ว่าวันนี้พวกเขามาหารือเรื่องงานแต่งระหว่างเธอกับซูเหิง ไม่รู้ว่าตอนนี้ในใจของเฉินฝานซิงจะรู้สึกแย่ขนาดไหน
ถึงแม้เมื่อครู่จะพูดราวกับไม่ได้ใส่ใจเท่าไรนัก แต่ในใจของเธอคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ
นั่นเป็นแฟนหนุ่มที่เธอหมายหมั้นปั้นมือมาตั้งหลายปีเลยนะ รู้ว่าเขากำลังจะแต่งงาน เธอจะไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิดได้อย่างไร
เหอะ…
เฉินฝานซิง แม้แต่ผู้ชายของตัวเองก็รักษาไว้ไม่ได้ แถมยังเคยเป็นชายหนุ่มที่มีความหมายมากที่สุดสำหรับเธออีก เธอจะนั่งเฉยๆ ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรเลยได้ยังไง
“งั้นเหรอ งั้นก็น่าเสียดายจริงๆ”
น้ำเสียงเย็นชาค่อยๆ ดังขึ้น เฉินฝานซิงหันหน้ามาช้าๆ สายตามองไปทางเจียงหรงหรง ใบหน้าเต็มไปด้วยความประชดประชัน
“ขอโทษด้วยนะ ที่พอเห็นหน้าของฉันแล้ว คุณก็อายุสั้นลงไปอีกหลายปี”
“แก…แกมันหลานอกตัญญู”
เจียงหรงหรงรู้สึกจริงๆ ว่า ไม่ช้าก็เร็ว สักวันหนึ่งเธอคงจะโกรธเฉินฝานซิงจนอกแตกตายเข้าจริงๆ
เฉินฝานซิงยังคงไม่แยแส พูดขึ้นต่อด้วยสีหน้านิ่งเรียบ “ซูเหิงจะแต่งงานกับเฉินเชียนโหรวแล้วเหรอ”
เจียงหรงหรงหรี่ตามองเธอด้วยท่าทางระแวดระวัง “ทำไม แกคิดจะทำอะไรอีก”
เฉินฝานซิงแสยะยิ้ม “ฉันจะทำอะไรได้ ซูเหิงกับเฉินเชียนโหรวได้เลงเอยกันถือเป็นเรื่องดี ฉันก็แค่รู้สึกดีใจด้วยก็เท่านั้น”
ใบหน้าที่มองด้วยความคาดหวังเล็กน้อยของซูเหิงฉายประกายแห่งความผิดหวังอย่างมหันต์ไปชั่วขณะ เขาเม้มริมฝีปากพลางมองเฉินฝานซิงด้วยแววตาที่ซับซ้อน
ขณะที่พูด เฉินฝานซิงก็หัวเราะอย่างเยือกเย็นไปด้วย
“หญิงร้ายชายแลวในที่สุดก็ต้องอยู่ด้วยกัน ฉันตั้งตารอเลยว่าพวกเขาสองคนจะครองรักกันหวานชื่นได้ขนาดไหน…”
ตอนที่ 512 ขุดหลุมดักตัวเองจนชิน
“หญิงร้ายชายแลวในที่สุดก็ต้องอยู่ด้วยกัน ฉันตั้งตารอเลยว่าพวกเขาสองคนจะครองรักกันหวานชื่นได้ขนาดไหน…”
สิ้นเสียงของเฉินฝานซิง สีหน้าของทุกคนก็อึมครึมลงอย่างกะทันหันพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ต่างออกไปก็เพียงแค่แววตาเท่านั้น ไช่จิ้งอี๋โกรธจนหน้าซีดเผือด พลันหันไปมองทางเจียงหรงหรงแวบหนึ่ง
เจียงหรงหรงที่ถูกไช่จิ้งอี๋หันมามองด้วยสายตาแบบนั้น จากเดิมทีที่สีหน้าก็ย่ำแย่อยู่แล้ว ประกอบกับความเสียหน้านี้ ความโกรธภายในใจจึงลุกโชนหนักกว่าเดิมราวกับราดน้ำมันลงบนกองไฟ
สิ่งที่ควรจะด่าก็ด่าไปหมดแล้ว เฉินฝานซิงก็ยังคงดื้อด้าน ทั้งยังแข็งข้อหนักขึ้นในทุกๆ ครั้ง
“เธอ…เธอนี่มัน…ไม่มีใครสั่งสอนจริงๆ”
เฉินฝานซิงแสยะหัวเราะ “ใช่สิ ฉันไม่มีคนสั่งสอน คุณย่าที่เคารพรักของฉัน…”
“พรวด…”
หลังจากเฉินฝานซิงพูดจบ สวี่ชิงจือที่นิ่งเงียบมาตลอดก็กลั้นขำเอาไว้อยู่
ไม่มีใครสั่งสอนงั้นเหรอ
ประโยคนี้หลุดออกมาจากปากผู้ปกครองอาวุโสสุดในบ้านสกุลเฉินอย่างเจียงหรงหรง ช่างเป็นการประชดประชันที่เจ็บแสบดีเสียจริง
เพราะอยากจะรักษาหน้าตาตัวเองต่อหน้าไช่จิ้งอี๋ แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้อับอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
สีหน้าของเจียงหรงหรงซีดขาว
“ถ้าหากเธอตั้งใจมาหาเรื่อง ก็รีบไสหัวไปซะ ทางที่ดีทำตัวสงบเสงี่ยมหน่อย อย่าสร้างความเดือดร้อนให้กันนักเลย”
เฉินฝานซิงหรี่ตามองเจียงหรงหรงปราดหนึ่ง สุดท้ายก็เหลือบไปมองใบหน้าของซูเหิง ก่อนจะกล่าวคำว่า “ยินดีด้วยนะ” ด้วยน้ำเสียงราบเรียบเบาๆ แล้วรีบเก็บสายตากลับมาทันที
เพราะว่าซูเหิงยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเจียงหรงหรงและคนอื่น ส่วนเฉินฝานซิงยืนอยู่ด้านหน้า ดังนั้น ทุกคนจึงไม่มีใครเห็นสีหน้าตอนที่เธอมองซูเหิง
ทว่าสีหน้าของซูเหิงกลับมีความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เขาเม้มรีมฝีปากเรียวบาง มือที่แนบลำตัวทั้งสองข้างกำแน่น
แต่เฉินฝานซิงกลับไม่มีอาการผิดปกติใดๆ พูดจบก็เดินเข้าไปยังทางเดินด้านใน
ปรากฏว่ายังไม่ทันก้าวพ้นสองก้าว ก็รู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวไม่ชอบมาพากล ที่สำคัญกว่านั้นก็คือความรู้สึกมีตัวตนอย่างแรงกล้าที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ฝีเท้าของเธอค่อยๆ ชะงักลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองด้านหน้า
ตอนที่เห็นเงาร่างสูงตระหง่านที่คุ้นชินนั้น เฉินฝานซิงก็รู้สึกชายุบยิบไปทั้งหัวขึ้นมากะทันหัน มุมปากกระตุกเองอย่างไม่อาจควบคุม
ส่วนป๋อจิ่งชวนที่ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เวลานี้ ดวงตาดำขลับดูลึกซึ้งคู่นั้นของเขากำลังจ้องมองมาที่เธอ พลางแผ่กระจายรังสีความอันตรายออกมาจนทำให้เฉินฝานซิงถึงกับร้องในใจว่าแย่แล้ว
ขณะนั้นเอง สวี่ชิงจือก็รีบยกข้อศอกขึ้นมากระทุ้งแขนเฉินฝานซิงเบาๆ พร้อมกับโน้มตัวเข้าไปใกล้เธอแล้วกระซิบกระซาบ
“ผู้ชายคนนั้นของเธอรู้สึกเหมือนจะมีอะไรแปลกๆ นะ เธอไปทำเรื่องอะไรให้เขาไม่พอใจไว้หรือเปล่า”
เฉินฝานซิงได้แต่เม้มริมฝีปาก
ก็ใช่น่ะสิ เรื่องใหญ่เลยละ
ทันใดนั้นเอง ป๋อจิ่งชวนก็เดินย่างสามขุมเข้ามาด้วยเรียวขาที่เรียวยาวคู่นั้น
ใบหน้าของเฉินฝานซิงเต็มไปด้วยความสับสนลังเล
ทว่า ในระหว่างที่ป๋อจิ่งชวนกำลังจะเข้าใกล้เธอนั้น ไหล่ของเฉินฝานซิงก็โดนใครบางคนชนเข้าอย่างแรงกะทันหัน เธอที่ไม่ได้ทันระวังตัวจึงเซเสียหลักไปทางสวี่ชิงจือ
สวี่ชิงจือรีบยื่นมือไปประคองเธอเอาไว้ ทำให้หลังของตัวเธอเองก็โดนกระแทกไปติดกับกำแพงตรงทางเดินไปด้วย
ป๋อจิ่งชวนค่อยๆ ชะลอฝีเท้า นัยน์ตาดำทมิฬที่ดูลึกล้ำมีความอันตรายแผ่กระจายไปทั่วแววตาในชั่วพริบตา
ทว่า ผู้ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องกลับไม่รู้อะไรเลย เจียงหรงหรงเดินดุ่มเข้าไปหาป๋อจิ่งชวนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชื่นมื่นพร้อมกับยื่นมือออกไปหาเขา
“ประธานเครือป๋อซื่อ สวัสดีค่ะ ฉันเป็นประธานของหลานอวิ้น พิธีรับตำแหน่งคราวก่อนของคุณ ฉันก็ไปเข้าร่วมด้วย ประธานของเครือสกุลป๋อยังหนุ่มยังแน่นจริงๆ”
ป๋อจิ่งชวนมองเธอด้วยสายตานิ่งเรียบปราดหนึ่ง ลึกลงไปในดวงตาที่มืดมิดคู่นั้น หลั่งไหลไปด้วยสติปัญญาที่ฉลาดล้ำลึกไม่อาจคาดเดา
ดูไม่ออกเลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่