กู้ชูหน่วนหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้อย่างขี้คร้าน จากนั้นก็นั่งไขว่ห้าง สองมือคว้าของว่างยัดเข้าปาก จากนั้นก็รอชมละคร

ชิงเฟิงกับเจี้ยงเสวี่ยและชิวเอ๋อร์ล้วนอ้าปากค้าง งงเป็นไก่ตาแตก

เพียงครั้งเดียว นางก็ตั้งท้องกับนายท่านแล้วรึ อัศจรรย์เกินไปหรือเปล่า

คุณหนูท้องก่อนแต่ง จบกัน จบกัน วันหลังจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

เยี่ยจิ่งหานถามเสียงเย็นเยียบ “มั่นใจหรือว่าตั้งท้อง? ตรวจดูดี ๆ ว่านางวางยาเสแสร้งหรือไม่?”

วิชาแพทย์ของสตรีผู้นี้ล้ำเลิศมาก นางอาจจะกุเรื่องขึ้นมาแล้วเล่นละครตบตาก็เป็นได้

เหงื่อไหลพรากทั่วร่างหมอหลวง

พวกเขาก็หวังว่าวางยาเพื่อตบตา หากเป็นเช่นนี้ ท่านอ๋องคงไม่เกรี้ยวกราด

ทว่า……

“ท่านอ๋อง คุณหนูตระกูลกู้มีข่าวดีแล้วจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ ชีพจรของนางไม่มีร่องรอยวางยาเลยสักนิดพ่ะย่ะค่ะ”

“หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป พวกเจ้ารู้ผลลัพธ์ดี”

“พ่ะย่ะค่ะ พ่ะย่ะค่ะ”

“ไสหัวไป”

“พ่ะย่ะค่ะ พ่ะย่ะค่ะ”

หมอหลวงทั้งห้าคนทั้งวิ่งทั้งคลานออกไป กลัวว่าหากช้าไปหนึ่งก้าว เทพสงครามจะลงมือกับพวกเขา

สีหน้าเยี่ยจิ่งหานเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ตกตะลึง ปิติยินดี ความกลุ้มใจและความกังวลใจผสมปนเปกัน ชั่วพริบตาเดียวก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรมีอารมณ์ไหน

เขา……

เป็นพ่อคนแล้ว?

ถ้าสตรีผู้อื่นตั้งท้องกับเขา เขาจะเอาออกแบบไม่อิดออด

ทว่ากู้ชูหน่วนเป็นคนตั้งท้อง……

ไม่รู้เพราะเหตุใด เยี่ยจิ่งหานถึงรู้สึกดีใจเล็กน้อย

“ท่านอ๋อง ท่านทำข้าท้อง ท่านว่ามาสิ เรื่องนี้จะจัดการเช่นไร?”

“……”

เยี่ยจิ่งหานกระตุกมุมปาก

นางพูดราวกับเขาเป็นบุรุษเหลือเดนคนหนึ่ง

ทว่าใครทำใครท้อง?

ไม่ใช่เธอทำตัวเองท้องหรือไร

“ในเมื่อตั้งครรภ์ เช่นนั้นก็ยิ่งต้องอยู่แต่ในห้อง ทหาร เพิ่มยามเฝ้าพระชายาอีกยี่สิบนาย หากนางกล้าปีนกำแพงออกไปก็หักขาเน่า ๆ ของนางเสีย”

เยี่ยจิ่งหานหยุดชั่วครู่ จากนั้นก็กล่าวต่อว่า “ชิงเฟิง ต่อจากนี้เจ้าปกป้องพระชายา หากเกิดอะไรขึ้นกับนาง เจ้าก็ยกศีรษะของตัวเองมาพบข้า”

ชิงเฟิงเดินเซเข้ามา พร้อมกับทำหน้าเศร้า “นายท่าน เปลี่ยนงานให้ข้าน้อยได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

คุณหนูสามตระกูลกู้ เอ๋! ไม่ใช่สิ ตอนนี้ควรเรียกว่าพระชายา

พระชายานั้นเจ้าเล่ห์เพทุบาย โอหังยโสและใจกล้าเหนือคน มีอะไรบ้างที่ทำไม่ได้

ให้เขาปกป้องนาง เกรงว่าเขาจะถูกนางทารุณจนตายแน่

“อะไรกัน กระทั่งเจ้าก็กล้าขัดคำสั่งข้าหรือ?”

“ข้าน้อยมิกล้า ข้าน้อยกลัว แต่เจี้ยงเสวี่ยละเอียดรอบคอบกว่าข้าน้อย เขา……”

เจี้ยงเสวี่ยรีบคุกเข่า กำมือขอร้องวิงวอน “นายท่าน วรยุทธของชิงเฟิงเหนือชั้นกว่าข้าน้อย เขาเหมาะที่จะปกป้องพระชายาที่สุด ข้าน้อยขอเสนอให้ชิงเฟิงปกป้องพระชายาอย่างใกล้ชิด พระชายาจะไม่ได้ไม่ประสบภยันตราย”

ชิงเฟิงตะลึงตาค้าง

เจี้ยงเสวี่ยที่ปกติไม่พูดไม่จา เหตุใดยามนี้จึงพูดเป็นต่อยหอยได้?

วรยุทธของเขาดีกว่าเจี้ยงเสวี่ยที่ไหน?

ความจริงแล้วเจี้ยงเสวี่ยเก่งกว่าเขาถึงจะถูก

ชิงเฟิงยังอยากจะพูดบ่ายเบี่ยง ทว่าเยี่ยจิ่งหานกลับพูดหนักแน่นว่า

“พอแล้ว วันหลังเจ้ารับผิดชอบด้านความปลอดภัยของพระชายา”

“อ๊า…….”

ชิงเฟิงอยากตายเหลือเกิน

ทำไมเขาต้องรับงานเฮงซวยด้วย?

เมื่อก่อนเขายังกล้าปะทะคารม ทว่า……ยามนี้นางเป็นพระชายาเอกของนายท่าน ทั้งยังมีนายท่านน้อยในท้องอีก แล้วเขาจะกล้าบังอาจได้เยี่ยงใด

กู้ชูหน่วนกระพริบตาปริบ ๆ ให้ชิงเฟิง แย้มยิ้มกล่าว “เสี่ยวชิงเฟิง ความปลอดภัยของข้าก็มอบให้เจ้าแล้วนะ เจ้าต้องปกป้องสองแม่ลูกพวกเราดี ๆ นะ”

ใบหน้าชิงเฟิงคล้ายกับเถ้าที่ดับมอดไป เดินไปด้านข้างอย่างหมดอาลัยตายอยาก

กู้ชูหน่วนบิดขี้เกียจ ในมือยังหมุนเข็มเงินด้วย เป็นการกรรโชกและแจ้งเตือนอีกแล้ว

“ท่านอ๋อง ไตร่ตรองเรื่องยกทัพไปยังกองธงกล้วยไม้แห่งเผ่าปีศาจได้หรือยัง? ข้ากับลูกรอให้ท่านชี้ชะตาอยู่นะ”

ความหมายของนางก็คือ หากเขาปฏิเสธ นางก็จะพาลูกในท้องไปพบพญายม

แม้นจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนขู่เข็ญเขาอยู่ ทว่าก็รับรองยากว่านางจะไม่ทำร้ายลูกในท้อง