ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 110

อาฟาเห็นต้าฉวนติดตามนางไปตามริมแนวทะเลสาบ เขาก็ติดตามไปเช่นกัน

บริเวณนี้มีร่มเงาของต้นไม้ที่เจริญงอกงามกลายเป็นป่า ซึ่งมันก็เป็นโล่กำบังอย่างดี เพื่อไม่ให้ทางด้านของพระตำหนักซีเหวยรู้เรื่อง พวกเขาจึงต้องหลบซ่อนอย่างระมัดระวัง

เดินไปรอบ ๆ และข้ามไปฝั่งตรงข้าม

ที่นี่เป็นพระตำหนักที่ถูกทิ้งร้างไว้ แทบไม่มีคนเข้าออก มีแต่ข้าหลวงในวังเข้ามาทำความสะอาดทุกเดือน แต่เนื่องจากไม่มีคนอาศัยอยู่ คนทำความสะอาดจึงมาแค่เดือนละครั้งเท่านั้น

อาฟาสังเกตว่าที่ในพุ่มดอกโบตั๋นมีเงาคนเคลื่อนไหวลื่อนไหวอยู่ เขาไม่คิดอะไรเลย หยิบคันธนูและลูกธนูที่อยู่ด้านหลังออกมา เขาหมอบลงแล้ว ง้างคันธนู ยิงลูกธนูออกไป

หัวลูกธนูตัดผ่านอากาศพุ่งตรงไปที่พุ่มดอกไม้นั้น

ได้ยินเพียงเสียงโลหะที่ปักลงในผิวหนังเท่านั้น และมีคนล้มลงไปที่พื้นดังตุบ

อาฟาเดินไปตรงนั้น เห็นเพียงคน ๆนึงในพุ่มดอกไม้นอนจมกองเลือดอยู่ อาฟาพลิกตัวเขาขึ้นมา เมื่อเห็นใบหน้าแล้ว อาฟาก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ที่แท้เขาก็คือเซี่ยหลินบุตรชายคนเดียวของท่านมหาเสนาบดีเซี่ย

เซี่ยหลินกระตุกไปทั้งตัว เลือดไหลทะลักออกจากหน้าอก ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ใบหน้าบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส

เมื่อต้าฉวนเห็นดังนั้น ก็พลิกตัวเซี่ยหลินกลับไป ดึงลูกธนูที่ปักอยู่ที่หลังออกมา แล้วกล่าวกับอาฟา “ไปกันเถอะ พวกเราไม่เคยมาที่นี่”

มือและเท้าของอาฟาเย็นมาก “แย่แล้ว มหาเสนาบดีเซี่ยให้ข้าฆ่าบุตรสาว ไม่ได้ให้ข้าฆ่าบุตรชายของเขา”

“ไปเร็ว!” ต้าฉวนมองไปรอบ ๆ และเห็นว่าคนที่เขานำมากำลังจะตามมาทัน เขาพูดอย่างฉุนเฉียว “หุบปาก เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น”

พูดจบเขาก็ลากอาฟาออกไป

จื่ออานที่ซ่อนตัวอยู่ในเขาหินประดับ เมื่อเห็นฉากนี้จากระยะไกล นางก็กระโดดลงไปในน้ำว่ายน้ำข้ามไปเหมือนคนบ้า

เมื่อนางปีนขึ้นถึงฝั่ง อาฟาและต้าฉวนก็ได้พาพวกทหารออกไปแล้ว

จื่ออานวิ่งโซซัดโซเซไปที่เซี่ยหลิน มองไปที่เขาซึ่งตอนนี้รูม่านตาได้ขยายใหญ่ขึ้น นางใช้มือข้างหนึ่งปิดหน้าอกของเซี่ยหลินไว้ แต่ไม่สามารถหยุดเลือดที่ไหลออกมาเรื่อย ๆได้

เซี่ยหลินคว้าข้อมือของนางไว้และใช้แรงทั้งหมดดันร่างตัวเองขึ้น เขากระอักเลือดออกมา และจับข้อมือนางไว้แน่น “พี่ใหญ่…พี่ใหญ่…”

“หลินหลินไม่ต้องกลัว พี่ใหญ่อยู่นี่แล้ว! “จื่ออานฉีกเสื้อผ้าของนางออก แล้วนำมาพันที่บาดแผล มือทั้งสองของนางทำอะไรไม่ถูกได้แต่ลูบไปที่ใบหน้าของเซี่ยหลิน เสียงสั่นเครือ “ไม่เป็นอะไรแล้วนะ พี่ใหญ่อยู่นี่ พี่ใหญ่อยู่นี่แล้ว!”

จะให้เซี่ยหลินตายไม่ได้ ให้เขาตายไม่ได้ นางไม่สนว่าความรู้สึกที่มีต่อเซี่ยหลินเป็นของเจ้าของร่างคนเดิมที่เหลือทิ้งไว้หรือเป็นของนางที่รู้สึกสงสารเด็กคนนี้ นางรู้เพียงแต่ว่า ไม่อาจให้เซี่ยหลินตายได้

“พี่ใหญ่…ท่านพ่อจะฆ่าท่าน หนี…หนีไป…” เสียงพูดของเขาค่อย ๆเบาลง “ข้าหนาว หนาว…”

จื่ออานหลั่งน้ำตาออกมา ก้มลงไปกอดเขา ใบหน้าที่เปียกชุ่มนาบไปบนใบหน้าที่เย็นยะเยือกของเขา “ไม่เป็นอะไรนะ หลินหลิน พี่ใหญ่อยู่นี่แล้ว”

“พี่ใหญ่ ข้ากลัว ข้ากลัวท่านพ่อ…” เซี่ยหลินสั่นไปทั้งตัว ใบหน้าที่ไร้เดียงสาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว อยากจะเอื้อมมือไปจับนางไว้ แต่พอมือทั้งสองของเขายกขึ้นไป มือนั้นก็ร่วงลงมาทันที

จื่ออานจับมือของเขามาแนบไว้ที่อก และปลอบโยนเขาอยู่ตลอดเวลา “ไม่ต้องกลัว มีพี่ใหญ่อยู่ ไม่ต้องกลัวนะ”

เซี่ยหลินยิ้ม รอยยิ้มของเขาบริสุทธิ์ราวกับท้องฟ้าที่ไร้เมฆ นัยน์ตาสีฟ้าคราม ริมฝีปากของเขายังมีรอยยิ้ม ทว่าดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น เบิกกว้างขึ้น…

จื่ออานทรุดลงไปนั่งที่พื้น ความเจ็บปวดในหัวใจแทบจะฉีกนางออกเป็นชิ้น ๆ

หัวใจของนางกรีดร้องไปด้วยความเศร้า แต่นางก็จำต้องยอมรับผลนี้

มือที่สั่นของนาง แกะผ้าที่พันแผลตรงหน้าอกของเซี่ยหลินออก มามัดไว้ที่บนแขนของตนเอง ก้มหน้าลง จูบประทับไปบนดวงตาของเซี่ยหลิน น้ำตาไหลอาบไปบนแก้มของเขา จื่ออานจ้องมองเซี่ยหลินนิดนึงจากนั้นนางก็ปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นยืน

หลินหลิน พี่ใหญ่คนนี้จะต้องล้างแค้นให้เจ้าแน่นอน!

หลังจากที่จื่ออานจากไป ประตูของพระตำหนักร้างก็เปิดออก และมีชายชราในชุดสีเทาเดินออกมาจากข้างใน ในมือของเขาถือกล้องสูบยาเส้นไว้อยู่ หลังจากเขาสูบไปแล้วก็กวักมือเรียก “เจ้าอ้วนน้อย พาเด็กน้อยคนนั้นเข้าไปด้านใน”

เด็กชายอ้วนเตี้ยและฟันหลอคนหนึ่งเดินออกมาจากพระตำหนักร้าง เขามองแล้วมองอีก “ท่านอาจารย์ เขาตายแล้วนี่”

ชายชราบิดขี้เกียจแล้วเคาะกล้องสูบยาเส้นไปที่เชิงกำแพง “อยู่ในมือของชายชราคนนี้แล้ว จะมีคนตายได้อย่างไร? พาตัวเขาไปสิ”

พูดจบ ก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปด้านใน

เด็กชายแบกเซี่ยหลินไว้บนหลังแล้วตามเขาเข้าไป “ท่านอาจารย์ ท่านแน่ใจหรือว่าเซี่ยจื่ออานเป็นผู้สืบทอดทักษะการฝังเข็มทอง?”