Ep.587 – แม่มารสวรรค์

 

“ข้าไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะรับฟังเรื่องยาวๆ”

 

หญิงใหญ่ชุดดำยกมือขึ้น ส่งสัญญาณให้กู่ฉิงซานหยุดพูด

 

“ปัญหาเดียวที่ข้ากังวลก็คือ มารสวรรค์มิเคยมอบทรัพย์สินใดๆของพวกนางให้แก่สิ่งมีชีวิตเผ่าอื่นมาก่อนเลย แล้วเหตุใดนางจึงมอบมันให้เจ้า?”

 

เธอจิกสายตามองกู่ฉิงซานและกล่าว

 

“พวกเราเป็นหุ้นส่วน และกำลังร่วมมือกันอยู่” กู่ฉิงซานพยายามอธิบาย

 

“นั่นเป็นไปไม่ได้ ข้าเฝ้ารอการสั่นไหวของกระดิ่งอยู่นาน เพราะข้าต้องการจะสำรวจดูว่าผู้ใดกัน ที่จะสามารถรับสิ่งของจากนางได้”

 

เมื่อตระหนักถึงทัศนคติที่แท้จริงของหญิงใหญ่ในชุดดำ กู่ฉิงซานก็ตอบสนองทันที

 

เขาเร่งอธิบาย “ท่านผู้ทร .. ไม่สิท่านป้า! ท่านเข้าใจผิดแล้ว อันที่จริงที่ข้าเรียกนางมาในครั้ง ส่วนใหญ่แล้วเป็นในเรื่องของการจ่ายหนี้”

 

“จ่ายหนี้? งั้นก็ดี ไหนลองบอกมาซิว่าเจ้าจะมอบอะไรให้กับนาง” หญิงใหญ่ชุดดำเอ่ยถาม

 

“ข้าจะมอบโลกใบนี้ให้แก่นาง” กู่ฉิงซานกล่าว

 

“โลกใบนี้ ….. ” หญิงใหญ่ชุดดำยิ้มอย่างเงียบๆ สุดท้ายก็ส่ายหัว “กลับกลายเป็นว่าแท้จริงแล้ว เจ้ามันก็แค่คนหลอกลวง”

 

“เจ้าไม่เพียงลวงบุตรสาวข้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตนเอง แต่ยังคิดจะหลอกข้าด้วยกระนั้นหรือ ขอบอกเลยว่าในรอบหมื่นปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครหน้าด้านหรือหาญกล้าเช่นเดียวกับเจ้าปรากฏขึ้นมาก่อนเลย”

 

เสียงของเธอค่อยๆเริ่มกลายเป็นเย็นชา “เจ้าเคยจินตนาการหรือไม่ว่า พวกที่เล่นตลกกับมารสวรรค์ มันจะพบจุดจบเช่นไร?”

 

ร่างเงาดำอันคลุมผุดออกมาจากกายเธอ ค่อยๆกระจายไปทั่วจตุรัส

 

อำนาจในกายเพิ่มเริ่มทะยานสูงขึ้นทีละขั้น ทีละขั้นอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดมันก็กลายเป็นดุร้ายและน่าหวาดกลัว

 

กู่ฉิงซานถอนหายใจ พยายามอธิบายอย่างใจเย็น “ข้าจะจ่ายหนี้จริงๆ ตราบใดที่ท่านให้โอกาสข้า ข้าจะจ่ายหนี้ทันที”

 

“โอ้? เจ้าคิดว่าตัวข้าไม่ทราบจริงๆหรือว่าโลกใบนี้มันคืออะไร?”

 

หญิงใหญ่ชุดดำราวกับพึ่งได้ยินเรื่องขบขัน ทันใดนั้นแรงกดดันบนร่างกายของเธอก็ถูกเก็บกลับคืน

 

น้ำเสียงของเธอยกสูงขึ้น “ดี! ข้าจะแสดงให้พวกนางทั้งหมดได้เห็นเอง ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันจะเป็นอย่างไรหากถูกผู้ฝึกยุทธหลอกลวง!”

 

“ด้วยวิธีนี้ ในภายภาคหน้าจะได้ไม่มีผู้ใดถูกพ่นวาจาโฉ้ฉลให้สับสนอีก!”

 

หญิงใหญ่ในชุดดำกล่าว และเหยียดชุดแขนยาวของเธอไปในอากาศที่ว่างเปล่า

 

ทันใดนั้นแขนเสื้อสีดำก็กลายเป็นถ้ำลึก ที่มีขนาดความสูงเท่ากับคนสองคนต่อติดกัน

 

พร้อมด้วยแสงอันมืดมิด ที่แผ่เล็ดลอดออกมาจากภายในถ้ำ

 

เสียงคำรามนับไม่ถ้วน ผสมผสานไปกับเสียงกรีดร้อง ครวญคราง โหยหวน ร่ำไห้ และสบถไปด้วยคำสาปแช่งดังออกมาจากถ้ำ

 

หญิงใหญ่ในชุดดำเหยียดมือออกไปและสะบัดมันเบาๆในอากาศ พริบตานั้น นอกเหนือไปจากท่วงทำนองเพลง ทุกสรรพเสียงภายในถ้ำก็เงียบสงบลงทันที

 

กู่ฉิงซานที่เฝ้ามองฉากนี้เลิกคิ้วสูง

 

หากมองเพียงผิวเผิน นั่นใช่เป็นการเชื่อมต่อระหว่างโลกต่อโลกโดยตรงใช่หรือไม่? จำต้องครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่เพียงใดกันจึงจะสามารถกระทำเช่นนั้นได้

 

หญิงใหญ่ชุดดำตะโกนเข้าไปภายใน “บุตรสาวทั้งหลายของข้า จงออกมา แสดงตัวให้ข้าเห็น ณ ที่นี่”

 

เสียงเพลงที่ดังขับขานจากภายในถ้ำหยุดลงทันที

 

ก่อนจะปรากฏหลายร่างโบยบินออกจากถ้ำ ด้วยท่วงท่าที่งดงาม ใบหน้าของพวกนางสามารถดึงดูดได้ทุกๆสิ่งมีชีวิต

 

ตามตัวของพวกเธอสวมใส่ชุดคลุมขนนกหลากสีสัน มันงดงามไร้ซึ่งเศษฝุ่นใดๆมาเกาะอิง เพียงจ้องมองก็สามารถลวงล่อผู้ฝึกยุทธได้อย่างง่ายดาย แตกต่างจากมารสวรรค์โดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง

 

การเคลื่อนไหวของหญิงทรงเสน่ห์เหล่านี้ ช่างแสนนุ่มนวลและอ่อนโยน ทั้งมือเท้าที่จีบออกของแต่ละคน ร่ายรำด้วยท่วงท่าแตกต่างกันออกไป ยากที่จะอธิบายได้

 

กู่ฉิงซานเลื่อนสายตามอง และพบกับเด็กหญิงชุดดำอย่างรวดเร็ว

 

เด็กสาวชุดดำชำเลืองมองมาที่เขาวูบหนึ่งอย่างไร้อารมณ์ และหันหัวของเธอไปอีกทาง

 

“ระวังตัวด้วย ท่านแม่ข้าคิดว่าเจ้ากำลังลวงหลอกข้า  คิดใช้ประโยชน์จากข้าทำงานให้แก่เจ้า”

 

เธอส่งเสียงผ่านความคิดมาอย่างเงียบๆ

 

“แต่พวกเรามีหลักฐานนี่ เจ้าน่าจะนำจิตวิญญาณของผู้ฝึกยุทธขีดสุดความว่างเปล่าไปแล้วมิใช่หรือ นางจะต้องเข้าใจสิ” กู่ฉิงซานส่งความคิดกลับไปถาม

 

“ผู้ฝึกยุทธขีดสุดความว่างเปล่า … อ่า ตามกฏแล้วจิตวิญญาณของผู้ฝึกยุทธที่มีค่าและแสนหายากจักต้องรอให้ท่านแม้ของข้าสูบกินก่อนเป็นคนแรก แน่นอนว่าข้าเองก็มีคุณสมบัติได้สูบกินมันเช่นกัน – แต่ข้าดันอดใจไม่ไหว แอบไปสูบกินวิญญาณของเขาอยู่คนเดียวลับหลังนาง” เด็กสาวชุดดำรู้สึกอายเล็กน้อย ตอบเสียงกระซิบกลับมา

 

กู่ฉิงซานถอนหายใจ เขาไม่มีอะไรจะพูดอีก

 

–นี่มันหายนะชัดๆ ช่างน่าสิ้นหวังโดยแท้

 

“แล้วข้าควรจะทำอย่างไรดี?” เขาถาม

 

“ไม่รู้สิ แต่เจ้าต้องจัดการเรื่องนี้ให้ดี มิฉะนั้นเจ้าคงจะต้องตายที่นี่”

 

“เจ้าไม่มีคำแนะนำอะไรดีๆเลยหรือ?”

 

“ท่านแม่ของข้าเป็นมารกลุ่มแรกๆในโลกมารดึกดำบรรพ์ และยังเป็นมารสวรรค์ที่ก่อกำเนิดขึ้นมาเมื่อสวรรค์และโลกถูกเปิดออกอีกด้วย”

 

“แล้วอะไรอีก?”

 

“ที่จะสื่อก็คือ เจ้าจะต้องอธิบายให้ดีที่สุด ทำให้ได้แบบเดียวกันกับตอนที่โน้มน้าวใจข้า มิฉะนั้นจุดจบของทั้งข้าและเจ้าคงไม่สวยแน่” เด็กสาวชุดดำกล่าว

 

“ … ” กู่ฉิงซาน

 

เขาไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว

 

ณ ขณะนี้ เหล่ามารสวรรค์หญิงได้มาหยุดยืนอยู่ต่อหน้าแม่มารของพวกนาง

 

“ท่านแม่กล่าวว่าจะแสดงสิ่งดีๆให้พวกเราได้รับชมหรือเจ้าคะ?” ผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยถาม

 

“ใช่ ข้าได้ค้นพบมนุษย์ที่พยายามจะหลอกใช้มารสวรรค์ เดิมทีนี่เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ แต่มารสวรรค์บางตนกลับโง่เง่า หลงกลมันจริงๆซะได้” แม่มารสวรรค์กล่าว

 

มารสวรรค์หญิงคนอื่นๆตกใจ

 

“ในบรรดาพวกเรา มีคนรับฟังวาจาของมนุษย์อยู่ด้วยกระนั้นหรือ?”

 

“นี่มันน่าสนใจจริงๆ โดยปกติแล้วจะเป็นพวกเราที่หว่านเสน่ห์มนุษย์ ล่อลวงพวกเขาอยู่เสมอๆ แต่วันนี้กลับเป็นพวกเขาที่ลวงหลอกมารสวรรค์อย่างพวกเรา?”

 

“มนุษย์เป็นเผ่าพันธ์ที่ไร้ยางอายมากที่สุดในตลอดทั้งหมื่นโลกา ผู้ใดเล่าจะไปทันคาดคิด ว่าแท้จริงแล้วจักถูกกลยุทธ์ลวงหลอก”

 

“ท่านแม่ น้องสาวผู้ไร้เดียงสาคนใดกันที่โง่งมถึงเพียงนั้น?”

 

แต่ละคนต่างพ่นคำที่แสนเจ็บแสบออกมา

 

เด็กสาวชุดดำก้มหน้าลง

 

แม่มารสวรรค์ กล่าว “หลี่อัน เงยหน้าขึ้นมาซะ”

 

เด็กสาวชุดดำที่ชื่อหลี่อันยกศีรษะขึ้น ขานรับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เจ้าค่ะท่านแม่”

 

“เอาล่ะ ไหนเจ้าลองอธิบายมาซิ ว่าเขาโน้มน้าวใจเจ้าได้อย่างไร?”

 

“เขากล่าวว่าจะมอบโลกให้แก่ข้าเป็นสิ่งตอบแทน”

 

มารสวรรค์หญิงคนอื่นๆระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที

 

“ที่แท้ก็เป็นพี่สาวที่ทรงอำนาจมากที่สุดของพวกเรานี่เอง ที่ดันไปหลงเชื่อวาจามนุษย์!”

 

“ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพี่สาวของข้า จะทำอะไรอย่างอื่นกับอาหารด้วย นอกจากสูบกินมัน”

 

“ฮะ ฮี่ฮี่ฮี่ นี่มันเรื่องจริงงั้นหรือ ไม่คาดฝันเลยจริงๆ ว่าพี่สาวจะมีความปรารถนาในโลก เหมือนกับพวกมนุษย์”

 

แม้จะถูกบรรดาน้องๆลอบก่นด่า แต่เด็กสาวชุดดำกลับยังคงสงบ และไม่เอ่ยสิ่งใดออกมาเลย

 

แม่มารสวรรค์ถอนหายใจ เธอดูเหมือนจะผิดหวังมาก

 

เธอกล่าว “หลี่อัน เจ้าเป็นถึงจักรพรรดินีที่คอยควบคุมมารสวรรค์จากในเงามืด แต่กลับถูกลวงหลอกโดยมนุษย์ ดันไปใช้อำนาจในมือช่วยเหลือพวกเขา เกรงว่าเรื่องตำแหน่งจักรพรรดินีของเจ้า ข้าคงจะต้องนำมันเก็บไปคิดทบทวนอีกครั้งเสียแล้ว”

 

เมื่อได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของเด็กสาวชุดดำก็ซีดลงทันที

 

ทว่าบรรดาน้องสาวของเธอ กลับปรากฏแววตาที่เปล่งประกาย

 

หากมีใครคนหนึ่งร่วงหล่นลง ก็ย่อมต้องมีคนหนึ่งขึ้นไปแทนที่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านแม่จะจัดสรรตำแหน่งที่ว่างนั่นให้กับใคร

 

“นั่น – ข้าคงต้องขอขัดเสียแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าวขึ้นในทันใด

 

เหล่ามารสวรรค์เงียบลงทันที

 

พวกเธอหันหน้ามามองเขา … มองเขาด้วยสีหน้าอันคลุมเครือที่ยากจะอธิบาย

 

แม่มารสวรรค์กล่าว “ขัดจังหวะการสนทนาของผู้อื่นตามอำเภอใจ เจ้านี่มันช่างหยาบคายเสียจริง แม้กระทั่งมารยาทง่ายๆเช่นนี้ก็ยังไม่เข้าใจหรือ?”

 

“เพราะข้าเป็นต้นตอในการเรียกขานในครั้งนี้ ดังนั้นโปรดอนุญาตให้ข้าได้ทำเรื่องราวให้มันจบลงก่อนเถอะ แล้วหลังจากนั้นท่านต้องการจะทำอะไร ข้าจะไม่ขัดอีกแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างต่อเนื่อง

 

แม่มารสวรรค์ “แล้วเจ้าต้องการจะทำสิ่งใด?”

 

กู่ฉิงซาน “พอดีว่าข้ายังมีหนี้เล็กๆน้อยที่ยังมิได้ชำระกับจักรพรรดินีหลี่อัน ฉะนั้นโปรดให้ข้าได้ชำระกับนางก่อนจะได้หรือไม่ จากนั้นพวกท่านจะเอ่ยสิ่งใดก็แล้วแต่เลย”

 

แม่มารสวรรค์แสยะรอยยิ้มเย็น “ก็ได้ เช่นนั้นไหนเจ้าลองพูดมาสิ พวกเราจะตั้งใจฟังวาจาของเจ้าเอง แม้ว่ามันจะยาวก็ตาม”