บทที่ 296 ทำอย่างไรถึงได้หัวใจจากเทพธิดา

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 296 ทำอย่างไรถึงได้หัวใจจากเทพธิดา

สารภาพตามตรง เดิมทีเสิ่นเทียนไม่อยากไปเลย

เมืองแห่งสุขาวดีอะไรนั่น แค่ฟังก็รู้ว่าไม่ใช่สถานที่ที่ดีอะไร

แต่สี่คุณชายก็ต้อนรับอย่างมีไมตรีมากจริงๆ ไม่ให้เกียรติก็คงไม่ดี

ดังนั้นหลังจากบอกปัดหลายครั้งไม่เป็นผล เสิ่นเทียนจึงได้แต่ตามทุกคนไปดูในเมืองแห่งสุขาวดีด้วยความจำใจ

อืม ใช่ แค่ดู

เรื่อง ‘หาหอยหาเป๋าฮื้อ’ อะไรนั่น เสิ่นเทียนจะไม่ทำเด็ดขาด!

เกาะมังกรดำเป็นขุมอำนาจชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดของทะเลเหนือ ภายในเกาะมีค่ายกลเคลื่อนย้ายมากมาย

ผ่านค่ายกลพวกนี้ไปแล้ว ชาวเกาะมังกรดำจะเดินทางไปขุมอำนาจใหญ่ของทะเลเหนือได้สะดวกสบายมาก

เจ็ดคนเปิดค่ายกลเคลื่อนย้าย ไม่นานก็มาถึงเมืองแห่งสุขาวดี

ทันทีที่ก้าวออกจากค่ายกล แม้เสิ่นเทียนจะเตรียมใจมาแล้วก็ยังตาลายไปหมด

ถ้าบอกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์คือสุดยอดของ ‘วิถีแห่งธรรมชาติ’ เกาะมังกรดำคือความสูงศักดิ์ของความจริงจังและสวยงาม

เช่นนั้นเมืองแห่งสุขาวดีก็ให้ความรู้สึกถึงความเจริญรุ่งเรืองครอบจักรวาล

เมืองแห่งสุขาวดีที่ว่าคือเมืองที่ตั้งอยู่ในส่วนลึกของก้นทะเล ใกล้กับเกาะดาราเบิกฟ้ามาก

ตั้งแต่โบราณกาลมา ทุกครั้งที่เกาะดาราเบิกฟ้าเปิด เมืองแห่งสุขาวดีจะเป็นสถานเริงรมย์ที่เหล่าโอรสสวรรค์ทุกเผ่าของทะเลจะมารวมกัน

โอรสสวรรค์มากมายจะขายโชคลิขิตที่ตนไม่ได้ใช้ให้กับพ่อค้าในเมืองแห่งสุขาวดี จากนั้นแลกเป็นโอรสบำรุงก่อนจะผจญภัยต่อ

และความมั่งคั่งมหาศาลตรงนี้ได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับเมืองแห่งสุขาวดี

เกาะดาราเบิกฟ้าอันตรายมาก ไม่ใช่แค่อำนาจคุกคามจากส่วนในเกาะดาราเท่านั้น ยังมีการซุ่มโจมตีของนักผจญภัยคนอื่นอีก

ดังนั้นเมืองแห่งสุขาวดีจึงเตรียมความสุขสบายที่หรูหราที่สุดให้กับนักผจญภัยพวกนี้ ใช้มันปลอบประโลมแรงกดดันที่พวกเขาผ่านความเป็นตายมา

กล่าวได้ว่าขอแค่เสพสำราญในทะเลเหนือได้ อยู่ในเมืองแห่งสุขาวดีก็จะเร้าใจยิ่งกว่า กระทั่งผู้ร่ำรวยที่ไม่ได้คิดจะไปเสี่ยงอันตรายในเกาะดาราเบิกฟ้ามากมาย ยังมาใช้จ่ายกันที่นี่บ่อยครั้ง

อย่างเช่นโอรสสวรรค์เผ่าปูเทพทองคำที่มีเหมืองแร่ในบ้านบางคน

แน่นอน การใช้จ่ายในเมืองแห่งสุขาวดีแห่งนี้ ราคาย่อมไม่มีถูก

ต่อให้คุณชายเซี่ยจะเป็นศิษย์แกนหลักของเผ่าปูเทพทองคำ การใช้จ่ายในที่แห่งนี้ก็ยังต้องคิดอยู่นาน

ไม่อย่างนั้นหากใช้จ่ายหมดบ้านในคืนเดียว ก็อาจจะโดนผู้อาวุโสที่บ้านตีก้นเอาได้

……

เมืองแห่งสุขาวดีตั้งอยู่ในทะเลลึก ถูกน้ำทะเลแรงดันสูงห่อหุ้ม

แต่ป้ายคำสั่งมังกรดำที่เอ๋าเย่ให้แกะสลักตราเวทกันน้ำไว้ ทำให้เสิ่นเทียนหายใจได้เองในน้ำทะเล

ผู้มีกลอุบายทั้งตัวอย่างเขา นอกจากคัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้จริงแล้ว ทุกวิชาต่างได้รับผลกระทบบ้างมากบ้างน้อยในทะเล อานุภาพลดลงไปไม่น้อย

โดยเฉพาะกุมอัสนีของคัมภีร์จักรพรรดิเทพสวรรค์ ถูกน้ำตีแตกได้ง่ายมาก

หากควบคุมไม่ดี กระทั่งสายฟ้าผ่าตัวเองได้เลย

ในทางตรงข้าม ‘เถากลืนกินเซียนนิพพาน’ ควบคู่กับ ‘แส้มังกรเฉือนกาย’ กลับมีอานุภาพเพิ่มขึ้นไม่น้อยในทะเลลึก

เถากลืนกินเซียนไหลไปตามคลื่นอย่างปราดเปรียวราวกับงูทะเล เวลานี้กลายเป็นหนึ่งในวิชาโจมตีที่แกร่งที่สุดในทะเลของเสิ่นเทียน

แน่นอน นี่ไม่สำคัญ

ถึงอย่างไรเขาก็มาเป็นแขกในเมืองแห่งสุขาวดี ไม่ได้มาทะเลาะวิวาท

อีกทั้งกฎของเมืองแห่งสุขาวดีนี้ยังกำหนดไว้ชัดเจนว่าโอรสสวรรค์ของทุกเผ่าห้ามทะเลาะวิวาทกันในเมือง

ไม่อย่างนั้นจะส่งผลถึงความกลมเกลียวในเมือง และจะโดนคณะผู้คุมกฎที่รวมกลุ่มขึ้นจากผู้แข็งแกร่งทุกเผ่าขับไล่ออกจากเมือง กระทั่งห้ามเข้ามาอีกตลอดชีวิต

“สหายเสิ่น เมืองแห่งสุขาวดีของเราเป็นอย่างไรบ้าง”

คุณชายเซี่ยเดินวางอำนาจอยู่ด้านหน้า พลางแกว่งก้ามปูไปมา

ชื่อเสียงอยู่ภายนอก ไม่มีใครขวางทางหาเรื่อง เพียงแค่ระหว่างทางจะมีคนมองมาบ่อยครั้ง

หืม เหมือนจะเป็นเผ่ามนุษย์!

เด็กหนุ่มเผ่ามังกร และยังมีบุรุษเผ่ามนุษย์

ซี้ด บุรุษอีกคนหน้าตาหล่อเหลามาก เผ่ามนุษย์เหตุใดถึงหล่อเหลาเช่นนี้!

โอ้ไม่ หลงเสียแล้ว

‘เมืองแห่งสุขาวดีสมกับเป็นเมืองแห่งสุขาวดี รุ่งเรืองจริงๆ’

เสิ่นเทียนถอนหายใจอยู่ภายในใจ

ขณะที่เดินบนถนนของเมืองแห่งสุขาวดี เขาเห็นทิวทัศน์งดงามสีสันหลากหลายเต็มไปหมด เผ่าทะเลลึกทุกเผ่ากลมเกลียวกัน ร้องเล่นเต้นระบำกันอยู่ทุกที่

ว่านแปลกดอกไม้อัศจรรย์ในทะเลพลิ้วไหวตามสายน้ำ ดูงดงาม ดูกลมกลืนและเป็นธรรมชาติกันมาก

มีสิ่งเดียวที่ทำให้เสิ่นเทียนจนปัญญาคือ เขาเดินบนถนนอยู่ดีๆ ก็มักจะมีคนปาของมาทางเขา

ช่อดอกไม้ที่รวมจากดอกไม้ทะเลบ้าง จี้หยกปะการังสีสันแวววาวบ้าง กระทั่งยังมีผ้าแพรที่มีกลิ่นคาวทะเลอ่อนๆ…

นี่มันบ้าอะไรกัน เด็กสาวเผ่าทะเลอ้าแขนรับเช่นนี้เชียวหรือ

“สมกับเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ไม่อยากเชื่อว่าจะได้รับความชื่นชอบจากเด็กสาวเผ่าทะเลเราเช่นนี้”

คุณชายไป๋แห่งเผ่าเทพหมึกยักษ์พูดด้วยรอยยิ้ม “ดูท่าสหายอวิ๋นเฟิงเทิดทูนเจ้าไม่เกินจริงไปเลย”

สหายอวิ๋นเฟิง?

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย “คุณชายไป๋หมายถึงศิษย์น้องหลี่อวิ๋นเฟิงอย่างนั้นหรือ”

คุณชายไป๋เผยรอยยิ้มเชิงซุบซิบนินทา “ถูกต้อง แซ่ไป๋ชอบไปเที่ยวเล่นที่ดินแดนบูรพา เจอกับสหายอวิ๋นเฟิงของฝ่ายท่านครั้งเดียวก็เหมือนรู้จักกันมานมนาน

แซ่ไป๋น่ะนับถือในความสามารถด้านการหาข่าวกรองของสหายอวิ๋นเฟิงมากจริงๆ แค่กๆ ก่อนหน้านี้ได้ยินสหายอวิ๋นเฟิงบอกว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เป็นบุรุษรูปงามที่สุดแห่งยุคที่ยากจะพานพบได้ในพันปี

ปรากฏตัวไม่กี่เดือน เทพธิดาแห่งดินแดนบูรพามากมายรวมถึงสตรีศักดิ์สิทธิ์ยังคลั่งไคล้ท่าน กระทั่งสตรีศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางอวิ๋นซียังยินยอมซบอกท่าน เดิมทีแซ่ไป๋ยังไม่ค่อยเชื่อ แต่วันนี้ได้พบบุตรศักดิ์สิทธิ์ ถึงได้รู้ว่าเป็นความจริง”

เสิ่นเทียนพูดไม่ออกแล้ว

อะไรคือศิษย์พี่หญิงอวิ๋นซีถวายกายซบอกข้า!

เจ้าหลี่อวิ๋นเฟิงพูดไว้ดิบดีว่าปิดปากดั่งขวด ไฉนเรื่องถึงดังมาถึงทะเลเหนือล่ะ

รอก่อนเถอะ รอข้ากลับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เมื่อไร หากไม่เย็บปากดั่งขวดไร้ก้นของเจ้า ข้าจะไม่ขอชื่อเสิ่นเอ้าเทียน!

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเค้นรอยยิ้มออกมา “นี่ศิษย์น้องอวิ๋นเฟิงเป็นคนพูดจริงๆ รึ”

คุณชายไป๋พยักหน้า “ใช่ สหายอวิ๋นเฟิงเทิดทูนบุตรศักดิ์สิทธิ์มาก ได้แบ่งปันเรื่องราวความสำเร็จอันรุ่งโรจน์ของท่านกับแซ่ไป๋ไว้มากมายเลย แต่สหายเสิ่นวางใจเถอะ แซ่ไป๋ปิดปากดั่งขวด ไม่เคยแพร่งพรายความสำเร็จของท่านเลย”

เสิ่นเทียนพูดไม่ออก

เมื่อเห็นคุณชายไป๋กับเสิ่นเทียนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน คุณชายเซี่ยก็อิจฉา

เขาใช้ก้ามปูคีบหนวดหมึกของคุณชายไป๋ไว้และลากเขาไปข้างๆ

“ไปๆๆ เจ้าปลาแปดเส้นขี้นินทาไร้รสนิยม วันๆ เอาแต่สืบข่าวคุยโม้อยู่นั่น”

คุณชายเซี่ยเผยรอยยิ้มหื่นกาม “สหายเสิ่น สหายฉี วันนี้ใน ‘หอเสียงสวรรค์’ ของเมืองแห่งสุขาวดี มีการแสดงขององค์หญิงเงือกที่ยากจะพานพบได้ในร้อยปีด้วย

เสียงเพลงขององค์หญิงเงือกคนนี้เป็นที่ยอมรับในห้าดินแดนว่าเป็นเสียงสวรรค์ หากได้ฟังนางร้องเพลง ต่อให้อายุขัยลดลงเป็นร้อยเป็นพันปีก็ยินยอม แซ่เซี่ยจ่ายหนักจองห้องพิเศษไว้ให้แล้ว หากทั้งสองท่านสนใจ ก็จะพลาดไม่ได้เด็ดขาดเชียว”

เมื่อได้ฟังคำพูดของคุณชายเซี่ย คุณชายไป๋จากเดิมที่มีสีหน้าสุภาพเรียบร้อยก็กลายเป็นมาเป็นคนขี้นินทาทันที

เขาพูดต่อว่า “ถูกต้องที่สุด องค์หญิงเงือกอวี้เผียนเซียน เป็นหญิงงามอันดับหนึ่งที่เผ่าเงือกยอมรับ ‘เพลงแห่งอสูรทะเล’ ที่นางร้อง เล่าลือว่ากระตุ้นความงดงามตรงส่วนลึกสุดของจิตใจทุกคนได้ เป็นเพลงเสียงสวรรค์ที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งของทะเลเหนือ

อีกทั้งแซ่ไป๋ยังได้ยินมาว่าองค์หญิงเงือกมาถึงช่วงอายุออกเรือนแล้ว อยากจะเสาะหาคู่ครองรู้ใจสักคนในการผจญภัยของเกาะดาราเบิกฟ้า”

คุณชายอู่เด็กหนุ่มกระดองเต่าสองด้านทำหน้าเฝ้าใฝ่ฝัน “หากได้รับความชื่นชอบจากองค์หญิงเงือก ให้อายุขัยลดไปพันปีข้าก็ยอม!”

คุณชายซาโอรสสวรรค์เผ่าฉลามโลหิตหัวเราะเยาะ “เต่าอย่างเจ้าอายุขัยไร้ค่าที่สุดแล้ว เจ้าคิดว่าองค์หญิงอวี้จะถูกใจเจ้ารึ นางเงือกน่ะ ก็ต้องคู่กับผู้แข็งแกร่ง!”

ขณะพูดอยู่นั้น ดาบใหญ่ฟันเลื่อยข้างหลังเขาเปล่งประกายเย็นเยือกออกมา

คุณชายเซี่ยแห่งเผ่าเทพปูทองคำส่ายหน้ายิ้มๆ “ไม่ใช่ๆ พวกเจ้าน่าจะรู้จักคำว่า ‘ยอมนั่งร้องไห้ในรถหรูปะการัง แต่ไม่นั่งยิ้มบนหินโสโครก’ อยากได้รับความอ่อนโยนจากหญิงงามก็ต้องมีก้ามปูใหญ่”

คุณชายไป๋ยิ้มพลางหยิบพัดคลี่ออกมา พัดเบาๆ “หากอยากได้ใจของหญิงงาม ก็ต้องเข้าใจหัวใจของหญิงงาม พวกเจ้าไม่เข้าใจประเพณี อยากจะได้รับความชื่นชอบจากเงือกรึ อาจจะน่าขำเกินไปหน่อย”

เมื่อเห็นพี่ชายทั้งสี่ยังไม่ทันพบองค์หญิงเงือกก็เริ่มปะทะกันแล้ว เอ๋าอูถึงกับปาดเหงื่อเย็นๆ

แม้อายุจริงของเขาจะไม่น้อยกว่าฉีเซ่าเสวียน แต่เป็นชาวเผ่ามังกรดำ ตอนนี้เขายังอยู่ในช่วงเยาว์วัย

ความจริงไม่ได้รู้สึกกับเรื่องของปีศาจโตเต็มวัยพวกนั้นเท่าไร

เขามองเสิ่นเทียน “พี่เสิ่นเทียน ท่านคิดว่าพวกเขาใครพูดมีเหตุผลกว่ากัน”

“อะไรนะ เจ้าว่าอะไรนะ”

อะไรคือใครมีเหตุผลกว่ากัน พูดอะไร

เสิ่นเทียนอึ้งไป สารภาพตามตรง เขาไม่ได้ยินพวกสี่คุณชายทะเลาะกันชัดเจนนัก

เพราะระหว่างเดินบนถนน ไม่ทันไรก็มีหญิงงามเผ่าทะเลโยนพวกดอกไม้ ปะการังแ ละหอยทะเลสื่อสารให้เขาตลอด

เสิ่นเทียนกังวลว่าหากตนเหม่อ ก็อาจโดนของขวัญพวกนั้นปาใส่ศีรษะได้ นั่นจะไม่น่าอายหรือ

เฮ้อ เดิมทีคิดว่าหญิงเผ่ามนุษย์ก็ยุ่งยากพอแล้ว ไม่นึกเลยว่าเผ่าปีศาจก็เช่นกัน

อีกทั้งยังกล้าหาญยิ่งกว่า นี่ยังอยู่บนถนนใหญ่แท้ๆ! ยังปาของใส่คนอื่น ไปเรียนนิสัยแย่ๆ เช่นนี้มาจากที่ใดกัน

เอ๋าอูเหม่อมองเสิ่นเทียนที่มีของขวัญอยู่เต็มอก ดูใจลอยนิดๆ “ข้ากำลังถามว่า ท่านคิดว่าพวกเขาใครพูดมีเหตุผลกว่ากัน”

มีเหตุผลหรือ

เมื่อเห็นใบหน้าสี่คุณชายเต็มไปด้วยความเฝ้ารอคอยแล้ว เสิ่นเทียนก็ครุ่นคิด “สี่คุณชายล้วนเป็นบุคคลยิ่งใหญ่ในรุ่นเยาว์เผ่าทะเล ความคิดความอ่านล้วนมีจุดเด่นของตน แซ่เสิ่นได้รับความรู้อะไรมาไม่น้อยเลย”

ใครจะสน!

ไม่ว่าอย่างไร แค่ชมก็จบ!

เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ เมื่อเสิ่นเทียนพูดจบ สี่คุณชายก็เผยรอยยิ้ม

แต่ไม่นานก็มีมาลัยดอกไม้อีกกองโยนมาจากบนตึกข้างทาง ลงบนตัวเสิ่นเทียนอย่างแม่นยำ

สี่คุณชายมองเสิ่นเทียนด้วยความมึนงงไปชั่วขณะ ข้ามีความรัก ความแข็งแกร่ง เงินทอง เข้าใจความคิดสตรีขนาดนี้ แต่กลับไม่มีสาวโยนมาลัยดอกไม้ให้ข้าเลย!

หรือว่าเผ่ามนุษย์มาโลกก้นทะเลแล้วจะได้รับการต้อนรับเช่นนี้กัน

ตรงนี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงบางคนที่หลังจากเข้าเมืองแห่งสุขาวดีแล้วไม่ได้อะไรเลยนั้น ได้แต่บอกว่า ‘ไร้สาระ!’

…..

“สหายทุกท่าน พวกเราเถียงกันเช่นนี้ไม่ได้บทสรุปหรอก”

คุณชายไป๋เสนอ “เอาอย่างนี้แล้วกัน! ได้ยินว่าในหอเสียงสวรรค์วันนี้มีรายการ ‘เซียนหอยระบำเมฆ’ ด้วย ถึงตอนนั้นพวกเราต่างงัดวิชาของตนออกมา ดูว่าใครจะได้รับหัวใจของเทพธิดาหอยมากกว่ากัน ใครทำผลงานได้ดีกว่า แสดงว่าคนนั้นมีเสน่ห์มากกว่า!”

คุณชายเซี่ยเบ้ปาก “เหอะๆ อย่าคิดว่าแซ่เซี่ยไม่รู้ เจ้าคิดจะเกาะห้องพิเศษของแซ่เซี่ยล่ะสิ ฝันไปเถอะ! สหายเสิ่น สหายฉีเป็นแขกจากแดนไกล เสี่ยวอูยังไม่โตเป็นหนุ่ม แซ่เซี่ยจะเลี้ยงพวกเขาเอง ส่วนพวกเจ้าถ้าอยากจะไปด้วยกัน ก็ต้องยอมรับว่าแซ่เซี่ยพูดถูก หรือไม่ก็จ่ายค่าห้องให้แซ่เซี่ยมาเสียดีๆ”

เหอะๆ โอรสสวรรค์เผ่าปูเทพทองคำผู้ยิ่งใหญ่ ทำการค้าสร้างตัวขึ้นมาเอง คิดจะเอาเปรียบเถ้าแก่ปูอย่างข้ารึ

สุดท้าย สี่คุณชายก็ไม่ได้ตัดสินสูงต่ำกันอีก

คุณชายเซี่ยพาทุกคนมาถึงหอเสียงสวรรค์ที่เป็นเขตใจกลางของเมืองแห่งสุขาวดี

ทุกส่วนของหอเสียงสวรรค์ก่อขึ้นจากปะการังยักษ์ ขยับแสงหลากสีภายใต้แสงวิญญาณส่องสะท้อน

ข้ามผ่านผนึกในกองปะการังไป จะได้ยินเสียงเพลงที่มีและเหมือนไม่มีแว่วมาจากหอเสียงสวรรค์ สั่นสะท้านใจคน

นี่ก็เป็นจุดที่เหนือชั้นของหอเสียงสวรรค์

ความจริงแล้วหากหอเสียงสวรรค์ยินดีก็จะกันไม่ให้เสียงออกไปข้างนอกได้ทั้งหมด

แต่นี่ไม่มีความจำเป็น ในทางตรงข้ามเสียงที่ดังออกไปข้างนอกนิดหน่อยจะดึงดูดยิ่งกว่า…ดึงให้คนเข้ามาฟังกันใกล้ๆ ได้

ความอ่อนและแข็งของผนึกยังเปลี่ยนแปลงไปตลอด บางครั้งจะได้ยินเสียงเพลงชัดเจน บางครั้งกลับเลือนรางกระทั่งไม่ได้ยินเลย

ดังนั้น คนส่วนใหญ่ที่ไม่คิดจะมาชมรายการของหอเสียงสวรรค์ก็อาจจะเลือดหัวใจสูบฉีดและเลือกซื้อตั๋วเข้ามาชมได้

…..

เห็นได้ชัดว่าคุณชายเซี่ยเป็นแขกประจำของหอเสียงสวรรค์ เพิ่งเข้าหอเสียงสวรรค์ก็มีหญิงร่างท้วมที่ออกเรือนแล้วคนหนึ่งออกมาต้อนรับ นางดูอายุราวๆ สิบห้าสิบหกปี มีความหลากหลายของสตรี

“โอ้ว นี่ไม่ใช่คุณชายเซี่ยรึ! ไม่เจอกันหลายวัน พี่สาวคิดถึงเจ้ามากจริงๆ วันนี้สหายมาเยอะเชียว โอ้ คุณชายไป๋ คุณชายอู่ คุณชายซา ยินดีต้อนรับนะเจ้าคะ!

อู้ว แม้แต่องค์รัชทายาทมังกรลำดับเจ็ดเอ๋าอูยังมาด้วย องค์รัชทายาทมังกรลำดับเจ็ดสมกับเป็นองค์รัชทายาทมังกรที่มีพรสวรรค์ที่แกร่งที่สุดจริงๆ มาเที่ยวย่านเริงรมย์เร็วกว่าพวกพี่ๆ เสียอีก!

ฮวาเอ๋อร์ เยว่เอ๋อร์ เสวี่ยเอ๋อร์ ปิงเอ๋อร์ หลางเอ๋อร์ แล้วก็เสี่ยวเหมยเหม่ย รีบออกมาต้อนรับแขกพิเศษทุกท่านเร็ว!”

เมื่อเห็นหญิงที่ออกเรือนแล้วกระตือรือร้นเช่นนี้ เสิ่นเทียนถึงกับปาดเหงื่อ

ที่นี่ เหตุใดถึงทำให้เขารู้สึกเหมือนมาเที่ยวซ่องโสเภณีเลยล่ะ

แต่ดูจากท่าทางชำนาญของสี่คุณชายแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มาเป็นครั้งแรก

โดยเฉพาะคุณชายอู่อู๋ตี๋เต่าดำนั่น เมื่อเห็นปีศาจหญิงทะเลบางคนแล้วถึงกับตาโต เลียริมฝีปากอย่างชั่วร้าย

“โอ้ ไม่คุ้นหน้าคุณชายทั้งสองท่านเลย!”

หญิงที่ออกเรือนแล้วมองเสิ่นเทียนแล้วเล่นหูเล่นตาทันที “ไม่นึกเลยว่าเผ่ามนุษย์จะมีบุรุษรูปงามเหนือธรรมดาเช่นนี้ พี่สาวเจอเจ้าครั้งแรกก็รู้สึกสนิทสนมเหมือนกับเจอน้องชายแท้ๆ ต่างพ่อต่างแม่กัน เฮ้อ บางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตาในตำนานกระมัง!

เอาเช่นนี้แล้วกัน! วันนี้ข้าจะออกค่าห้องพิเศษให้ทุกท่าน หากคุณชายต้องการอะไรอย่างอื่น ก็เรียกพี่สาวได้ตลอดเลย!”

เมื่อพูดจบแล้ว หญิงที่ออกเรือนแล้วส่งสายตาหยาดเยิ้มให้เสิ่นเทียน ก่อนจะเดินไปอย่างเชื่องช้า

ทิ้งหมายเลขหอยให้เสิ่นเทียน เหมือนจะใช้สื่อสารได้

“บ้าจริง สหายเสิ่นเป็นยอดฝีมือเรื่องอย่างว่าจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าขนาดพี่สาวอวิ๋นเตี๋ยยังบุกก่อนเช่นนี้”

คุณชายไป๋เผยแววตาอิจฉา “นั่นคือนางระบำอันดับหนึ่งของเผ่าหอยในอดีต โอรสสวรรค์มากมายตามจีบนางยังไม่ทำให้นางยอมมอบกายให้ได้

สหายเสิ่นเจ้าแอบพูดคุยอะไรกับนางหรือไม่ เหตุใดถึงเหมือนว่านางจะยินยอมเป็นของเจ้าทุกเมื่อเลย”

……..

ไม่ใช่ว่าคุณชายเซี่ยตื่นตูมไปเอง แต่เซียนหอยนามอวิ๋นเตี๋ยคนนี้ไม่ใช่หญิงนางโลมธรรมดา

นี่ก็คล้ายๆ กับเผ่าทะเลมากมาย ปีศาจเผ่าหอยก็มีแบ่งตระกูลผู้ดีกับชาวบ้านเช่นกัน

ถึงชาวบ้านในนั้นจะชำนาญการเต้นระบำเหมือนกับตระกูลผู้ดี แต่พรสวรรค์การบำเพ็ญแย่มาก

พวกนางแทบจะเป็นนางระบำ หญิงรับใช้กันทั้งหมดในเมืองแห่งสุขาวดี มีฐานะต่ำมาก ต้องคอยอยู่รับแขก

แต่ตระกูลผู้ดีของปีศาจเผ่าหอยต่างกัน ปกติพวกนางจะมีพรสวรรค์การบำเพ็ญไม่ธรรมดา ศักยภาพไม่ถือว่าอ่อนแอ

เซียนหอยเช่นนี้มีสิทธิ์เลือกคู่ครอง คนอื่นไม่อาจบังคับได้

อีกทั้งเทพธิดาอวิ๋นเตี๋ยยังเคยเป็นนางระบำอันดับหนึ่งของเผ่าหอยในอดีต และยังเป็นศิษย์แกนหลักของเผ่าหอย

หลายปีมานี้มีโอรสสวรรค์มากมายเฝ้าใฝ่หา หวังจะได้หัวใจของเทพธิดาอวิ๋นเตี๋ย แต่นางกลับไม่มองแม้แต่หางตา

ไม่นึกเลยว่าตอนที่เทพธิดาอวิ๋นเตี๋ยถอยออกจากเรื่องอย่างว่า หันมาเป็นชนชั้นปกครองหอเสียงสวรรค์แห่งนี้แล้ว กลับยังให้ความสำคัญกับเสิ่นเทียนเช่นนี้ ช่างน่าอิจฉาริษยาจริงๆ

…………………………………………………