ตอนที่ 261 ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ตอนที่ 261 ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร!
“ครับ!”

หวังจื้อเฉียงรีบโทรหาหวังเจียเหยา แต่ว่าคนรับสายกลับเป็นซูหลาน

“อ้อ ซูหลานเองเหรอเนี่ย แม่อยากคุยกับเจียเหยาน่ะ เอาโทรศัพท์ให้เจียเหยาที”

ตอนนี้ตระกูลหวังกำลังสูญเสียคู่ค้าไปเป็นจำนวนมากเพราะหวังเจียเหยา ธุรกิจน่าจะเสียหายอย่างน้อยๆ หลายร้อยล้าน หวังเจียเหยาจึงได้เริ่มวางก้ามกับครอบครัวน้องชายขึ้นมา

ซูหลานกล่าว “พี่คะฉันกับเจียเหยาอยู่ที่โรงพยาบาล หวังเจียเหยาเป็นลมกำลังให้น้ำเกลืออยู่ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญเดี๋ยวค่อยคุยได้ไหมคะ?”

หวังจื้อเฉียงตะคอก “ไม่มีเรื่องสำคัญอะไรงั้นเหรอ? ตระกูลหวังของเราจะล่มจมเพราะลูกสาวเธออยู่แล้ว! ยังมีหน้ามาบอกว่าหล่อนเป็นลมอีก คนที่เป็นลมน่าจะเป็นเย่เฉินมากกว่าล่ะมั้ง? ลูกสาวเธอทำอะไรเอาไว้น่าจะรู้ดีที่สุด เย่เฉินต่างหากที่คงจะเสียใจจากกระทำของลูกสาวเธอ! เลิกพูดเหลวไหล รีบส่งโทรศัพท์ให้หวังเจียเหยาได้แล้ว!”

ตอนนี้ซูหลานและหวังเจียเหยากำลังอยู่ในห้องพักฟื้น ไม่ได้กำลังหยอดน้ำเกลือเสียหน่อย

เมื่อครู่ที่เป็นลมหญิงสาวก็แค่แกล้งทำเท่านั้น นั่นเพราะหล่อนไม่สามารถจะอธิบายเรื่องนี้ให้เย่เฉินฟังได้เมื่อตกอยู่ในเหตุการณ์เช่นนั้น

“ฮัลโหล” แล้วเสียงของหวังเจียเหยาก็ดังขึ้นที่ปลายสาย

หวังจื้อเฉียงรีบร้อนส่งโทรศัพท์ให้คุณนายหวัง

คุณนายหวังรับโทรศัพท์แล้วดุด่า “หวังเจียเหยา! ในหัวแกมีอะไรอยู่บ้างน่ะ! ถ้าแกบอกว่าแกไปนอนกับฟางเชาตอนที่ไม่รู้ว่าเย่เฉินเป็นใครก็ไม่เป็นไรหรอกนะ! แต่ตอนที่อยากมีลูกกันน่ะ รู้ทั้งรู้ว่าเย่เฉินเป็นใคร ทำไมยังเลอะเลือนทำเรื่องโง่ๆ ได้!”

หวังเจียเหยากล่าวอย่างเสียใจ “ขอโทษด้วยนะคะคุณย่า…”

“ขอโทษเหรอ? แกรู้ไหมว่าแกทำเย่เฉินโกรธเข้า ตอนนี้เขาเลยหาเรื่องตระกูลเรา! บริษัทพาร์ทเนอร์ทุกแห่งของเรายกเลิกสัญญากันหมดแล้ว เราใกล้จะถังแตกแล้วแกรู้ไหม?!” คุณนายหวังกล่าวเสียงดัง

หวังเจียเหยาได้ยินแบบนี้ก็ตกใจ “อะไรนะคะ? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้”

หวังเจียเหยาไม่ได้รู้เลยว่าเย่เฉินสามารถทำให้สถานะเศรษฐีนีสองหมื่นล้านของตนเองลอยละลิ่วหายไป จนกลับไปมีสภาพเดิิมได้อย่ารวดเร็ว!

เพราะทรัพย์สินทั้งหมดที่หล่อนมีไม่ใช่เงินสดและอสังหาริมทรัพย์

คุณนายหวังกล่าว “เรื่องนี้แกจะต้องจัดการให้เรียบร้อย ไปคุกเข่าขอโทษเย่เฉิน แล้วอธิบายให้เขาฟังแกต้องทำให้เขาให้อภัยแกให้ได้ ไม่อย่านั้นแกก็ไสหัวไปเลยไป!”

หวังเจียเหยาวางสายแล้วร้องไห้บนเตียงผู้ป่วย

ซูหลานรีบร้อนเดินมานั่งกับลูกสาว ลูบหลังหล่อนเบาๆ อย่างปลอบโยน

หวังเจียเหยากล่าวพลางร้องไห้ “คุณย่าก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลย ไม่ว่าอะไรก็โทษหนู ตั้งแต่เล็กจนโตหนูรู้สึกไม่ปลอดภัยเลย ถ้าคุณย่ารักหนูตั้งแต่เด็กๆ แล้วให้ความสำคัญกับครอบครัวเราบ้างหนูก็คงจะไม่มีชู้! เป็นความผิดคุณย่าแท้ๆ!”

ซูหลานคิดไม่ถึงเลยว่าหวังเจียเหยาจะโทษย่าตนเอง

ซูหลานถาม “งั้นผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่? ทำไมลูกปิดบังแม้แต่แม่ล่ะ?”

แต่จนตอนนี้หวังเจียเหยาก็ยังคงไม่คิดจะบอกความจริงกับมารดา

หล่อนเช็ดน้ำตาลวกๆ แล้วโทรหาเย่เฉิน

“เป็นลมหายแล้วเหรอ?”

ทันทีที่รับสายเขาก็เหน็บแนมหญิงสาวทันที

ทุกคนอาจจะเห็นผลตรวจแล้วเกิดเป็นลมหมดสติได้ แต่หวังเจียเหยาไม่มีทางเป็นแบบนั้น เพราะเรื่องที่หล่อนเคยทำหล่อนย่อมรู้ดีแก่ใจ!

หวังเจียเหยากล่าว “อืม ดีขึ้นมากแล้ว ตอนนี้กำลังให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล”

ผู้หญิงคนนี้จนป่านนี้แล้วยังแสร้งทำตัวเป็นคนบอบบางอยู่อีก!

ตอนสวมเขาให้กันทำไมใจกล้าอะไรขนาดนั้น!

เย่เฉินกล่าวว่า “ตอนนี้ผมจะไปพบคุณที่โรงพยาบาล ทางที่ดีบอกความจริงผมมา!”

เย่เฉินรู้ทั้งเลขที่ห้องพักและโรงพยาบาลที่หล่อนพักอยู่ พอวางสายแล้วเขาก็ตรงไปที่นั่นทันที

เพิ่งจะถึงหน้าห้องพักฟื้น ซูหลานก็เป็นฝ่ายเดินไปต้อนรับเย่เฉิน คาดว่ากลัวเย่เฉินจะตบหวังเจียเหยาแล้วโน้มน้าวอีกฝ่าย “เสี่ยวเฉินเอ้ย ใจเย็นเถอะนะ คิดในแง่ดีเถอะ เธอดูลูกชายเธอสิ ว่าเขาน่ารักขนาดไหน หน้าเหมือนเธอขนาดไหน!”

แล้วเย่เฉินก็พบว่าที่แท้ฝาแฝดที่มักจะนอนด้วยกัน บัดนี้โดนจับแยกเสียแล้ว

เจียเยว่เด็กชายอยู่ที่ประตู ส่วนเด็กหญิงกลับถูกวางไว้มุมด้านในสุดของห้อง

คาดว่าเพราะกลัวเย่เฉินจะโกรธถึงได้ตั้งใจทำแบบนี้

เย่เฉินมองเจียเยว่ นี่คือลูกชายแท้ๆ ของเขา ในใจพลันรู้สึกอิ่มเอมอย่างประหลาด

แต่ว่าเด็กผู้หญิงที่น่ารักเหลือเกินอย่างเจียอินก็ควรจะเป็นลูกสาวเขาเช่นกัน!

เย่เฉินอยากมีลูกสาวมาโดยตลอด!

ฝาแฝดชายหญิงแบบนี้สมบูรณ์แบบ เป็นที่น่าริษยา!

แต่ว่าพวกเขากลับเป็นเด็กต่างพ่อไปได้!

เย่เฉินไม่อาจให้อภัยหวังเจียเหยาได้!

“เย่เฉิน…”

หวังเจียเหยานอนบนเตียงผู้ป่วย กำลังหยอดน้ำเกลือแล้วเรียกเย่เฉินด้วยน้ำเสียงอ่อนแอที่หล่อนแสร้งทำ

เย่เฉินสาวเท้าเดินไปแต่ก็ไม่อาจตบหล่อนได้ ตอนที่เห็นผลตรวจนั้นบางทีเขาอาจจะพลาดพลั้งไปแต่ตอนนี้ไม่มีทางอีกแล้ว

หวังเจียเหยามองเย่เฉินแล้วกล่าวด้วยใบหน้าอ่อนหวาน “เย่เฉินนายชอบชื่อเจียเยว่ไม่ใช่เหรอ? หรือไม่ก็ให้คุณปู่ของนายช่วยตั้งชื่อให้ส้ ลูกชายเหมือนนายจริงๆ โตมาเขาต้องหล่อเหมือนนาย เอาใจเก่งเหมือนนายแน่ๆ”

หวังเจียเหยาลองใช้ลูกชายแท้ๆ ของเขามาทำให้เขาใจเย็นลง

แต่เย่เฉินกลับไม่อยากพูดเรื่องพวกนี้กับหวังเจียเหยา แต่เข้าประเด็นทันที “บอกผมมา ว่าพ่อเด็กคนนั้นคือใคร? เลิกบอกว่าฟางเชาที ก่อนหน้านี้ผมส่งคนไปเค้นถามเขามาแล้ว เขาบอกว่าช่วงนั้นเขาไม่ได้มาอวิ๋นโจวเลยด้วยซ้ำไป ส่วนที่นอนกับคุณที่โรงแรมเขาก็ป้องกันอย่างดี”

หวังเจียเหยากล่าว “ไม่ใช่ฟางเชาจริงๆ ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าเป็นฟางเชาก็เพื่อยั่วโมโหนาย”

“งั้นเป็นใคร? ตอนนั้นคุณยังไม่รู้จักหลิ่วอวี่เจ๋อด้วย นอกจากผม ฟางเชา หลิ่วอวี่เจ๋อแล้วคุณยังมีผู้ชายคนที่สี่อีกเหรอ? คุณนี่ปิดปากเงียบดีจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะปิดหูปิดตาผมได้แนบเนียนเชียว!”

เย่เฉินสะอีก ถ้าไม่ใช่เพราะผลตรวจครั้งนี้เขาก็คงจะไม่รู้ว่าหวังเจียเหยามีผู้ชายคนอื่นอีก!

หากว่าโชคดี เด็กสองคนนี้เป็นลูกของเย่เฉินทั้งสองคน

งั้นแล้วเย่เฉินก็อาจจะไม่ได้รู้เลยว่าหวังเจียเหยายังมีผู้ชายคนอื่นในตอนที่เขารักเจ้าหล่อนอย่างที่สุดด้วย!

“เขาคือ…” หวังเจียเหยาอ้ำอึ้ง

“เขาคือใคร!” เย่เฉินตะโกน เด็กสองคนตกใจจนร้องไห้กระเจิง

หวังเจียทนเห็นลูกๆ ร้องไห้ไม่ได้ รีบร้อนกล่าว “เขาคือรักแรกของฉัน!”

“รักแรกเหรอ?” เย่เฉินชะงัก

เขาแต่งงานกับอีกฝ่ายมาสามปี จึงรู้เรื่องความรักในทุกครั้้งของหญิงสาวเป็นอย่างดี

ตอนที่เย่เฉินรู้จักหวังเจียเหยา หล่อนเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ผู้หญิงที่สวยขนาดหล่อน ไม่มีทางที่ไม่เคยมีความรักมาก่อน

หวังเจียเหยกล่าว “ผู่ชายคนนั้นเป็นเพื่อนนักเรียกที่ฉันเคยชอบตอนม.ปลาย เรียนมหาวิทยาลัยที่เดียวกัน”

เย่เฉินแค่นเสียง “ที่แท้ตลอดสามปีที่คุณแอบคบกับรักแรกของคุณมาตลอดเวลาสามปีที่เราแต่งงานกันสินะ”

“ไม่นะ ไม่ใช่ สามปีที่แต่งงานกับนาย พวกเราไม่เคยติดต่อกัน” หวังเจียเหยารีบปฏิเสธ

ผลคือเย่เฉินโกรธกว่าเดิม “แปลว่าที่แต่งงานกับผมมาสามปีพวกคุณไม่เคยติดต่อกัน แต่ตอนจะมีลูกดันติดต่อกันเสียได้แบบนี้น่ะหรอ?!”

ที่เขาพูดก็เป็นเพียงแค่โทสะเท่านั้น

แต่คิดไม่ถึงว่าหวังเจียเหยาจะตอบเขาว่า “ใช่!”