ตอนที่ 193: เผชิญหน้ากับเซียนปฐพี
ท่าน เป็นไปได้หรือไม่ที่ท่านมาหาข้าเพราะแกนอสูรระดับ 5 ทั้ง 2 อัน ? เสียงของเจี้ยนเฉินดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ
เห้อ แกนอสูรระดับ 5 มันมีค่ามากจริง ๆ นั่นแหละ ข้ายังคงไม่สนใจมัน วู่หยุน ข้าต้องการทักษะการต่อสู้ของเจ้า มอบมันให้กับข้าและข้าจะไม่ตามรังควานเจ้าอีกต่อไป ชายชราตอบกลับมาจากด้านหลังของเขา เสียงของเขายังคงได้ยินอย่างชัดเจน
เพียงแค่สองลมหายใจ ชายชราที่อยู่ด้านหลังห่างจากเจี้ยนเฉิน 5 กิโลเมตรก็ย่นระยะทางลงมาเหลือ 4 กิโลเมตร
เมื่อเห็นว่าชายชรานั้นรวดเร็วแค่ไหน ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็เริ่มที่จะเคร่งเครียดมากขึ้นขณะที่เขาลังเล เขากระโดดลงจากพาหนะและเริ่มหนี แม้ว่าสิ่งนี้จะใช้พลังของเขา แต่เขาก็เร็วขึ้นมากกว่าเดิม การขี่สัตว์อสูรนั้นยังช้ากว่าวิ่งด้วยตัวเองมาก ถ้าเขายังคงขี่สัตว์อสูร ชายชราคนนี้จะตามเขาทันในที่สุด
เจี้ยนเฉินยังคงวิ่งต่อไปอย่างเต็มที่ แม้ว่าเขาจะรู้สึกแสบบาดแผลที่หลังของเขา เขาก็ยังคงวิ่งต่อไป หัวใจของเขาเต้นกระหน่ำ กล้ามเนื้อของเขาก็กระตุกอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาซีดจางลง บนหน้าผากของเขาเริ่มมีเหงื่อไหลอาบ
หากมันเป็นบาดแผลถาก ๆ ที่ด้านหลังของเขา เจี้ยนเฉินจะไม่รู้สึกเจ็บมากเท่าไรนัก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ร่างกายของเขากำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว บาดแผลของเขาจึงฉีกขาดอย่างรุนแรงและส่งความเจ็บปวดออกมาอย่างต่อเนื่อง
เจี้ยนเฉินไม่อาจทำอะไรได้ ความรู้สึกเจ็บปวดที่อยู่ด้านหลังยังส่งมาเรื่อย ๆ ขณะที่เขายังคงวิ่งตรงไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ต่อสู้กับชายชราผู้นี้ แต่เขาก็มีความรู้สึกว่าชายผู้นี้เป็นอันตรายอย่างที่ไม่รู้สึกมาก่อน
ชายชราที่อยู่ด้านหลังเขานั้นแข็งแกร่งกว่าทุกคนก่อนหน้านี้แน่นอน
เมื่อเห็นเจี้ยนเฉินวิ่งเร็วขึ้น ชายชราก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ วู่หยุน เจ้ากำลังเสียแรงเปล่า เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก ด้วยเหตุนี้ชายชราจึงเริ่มเร่งความเร็วขึ้นและเหาะเข้ามาใกล้เจี้ยนเฉินเรื่อย ๆ
4 กิโลเมตร…
3 กิโลเมตร…
2 กิโลเมตร…
ชายชรานั้นรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ในเวลาสั้น ๆ เขาได้ลดระยะทางจาก 5 กิโลเมตรเหลือเพียง 1 กิโลเมตร แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะวิ่งเร็วแค่ไหน มันก็ยังไม่พอที่เขาจะสลัดชายชราทิ้งไปได้
ด้วยความที่พลังเซียนได้ถูกใช้ออกไปมากขณะหลบหนี พลังของเขาจึงมีน้อยอย่างยิ่ง ในที่สุดชายชราก็อยู่ห่างจากเขาไม่ถึง 500 เมตร สุดท้ายเจี้ยนเฉินก็หยุดลงและหันไปเผชิญหน้ากับชายชรา
เมื่อเห็นเจี้ยนเฉินหยุด ชายชราก็ลดความเร็วลงและหยุดห่างออกไป 20 เมตร ใบหน้าของเขายังคงยิ้มอยู่แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและประหลาดใจเมื่อมองมาที่เจี้ยนเฉิน
อ๊า! วู่หยุนอาจจะไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงของเจ้า แต่นั้นไม่สำคัญสำหรับข้า อย่างไรก็ตามการที่สามารถฆ่าเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 30 คนได้ด้วยความแข็งแกร่งในขอบเขตเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสุดยอด ทำให้ข้าแปลกใจจริง ๆ ชายชรายิ้มเล็กน้อย
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่สดใสของชายชรา เจี้ยนเฉินขมวดคิ้ว น้ำเสียงของเขาฟังดูคุ้นหูแต่เขาไม่รู้ว่าเขาเคยได้ยินมาจากที่ไหน
จากนั้นครู่เดียวเขาก็คิดออก เจี้ยนเฉินจำคนผู้นั้นได้ เขาพูดเสียงต่ำออกมาว่า ผู้อาวุโส ถ้าข้าเดาไม่ผิด ท่านมาจากตระกูลฮาริโต้ของเมืองลูซ เจี้ยนเฉินมีความประทับใจอย่างลึกซึ้งกับตระกูลฮาริโต้ เนื่องจากเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกของตระกูลที่ปรากฏในโรงประมูลฟินิกซ์สวรรค์ ตระกูลฮาริโต้เป็นตระกูลที่ซื้อร่างสัตว์อสูรระดับ 5 ตัวแรกโดยที่ไม่มีใครเข้ามาแย่ง ท้ายที่สุดตระกูลฮาริโต้ก็จ่ายเพียง 10,000 เหรียญม่วงสำหรับซากอสูร
จากเวลานั้น เจี้ยนเฉินก็รู้อย่างแน่ชัดว่าตระกูลฮาริโต้มีพลังที่น่าสะพรึงกลัว อย่างน้อย ๆ ตระกูลอื่น ๆ ก็ยังคงต้องหลบเมื่อเจอกับตระกูลฮาริโต้
ชายชราพยักหน้า ถูกต้อง ตาเฒ่าคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลฮาริโต้ วู่หยุน ข้าแค่ต้องการทักษะการต่อสู้ที่เจ้ามี แกนอสูรระดับ 5 ทั้งสองอันนั้นข้าไม่สนใจหรอก
มองเข้าไปในตาของเจี้ยนเฉิน ชายชราก็แค่นเสียงว่า วู่หยุน เจ้าควรมอบทักษะการต่อสู้ ตาเฒ่าอย่างข้าไม่ใช้คนที่เจ้าจะจัดการได้ง่าย ๆ เหมือนกับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ข้าคือเซียนปฐพี เจ้าไม่มีหวังที่จะหลบหนีไปจากข้าได้ด้วยความแข็งแกร่งแค่เซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสุดยอด
เซียนปฐพี ! เมื่อเจี้ยนเฉินได้ยินเขาก็อ้าปากค้าง แม้ว่าเขาจะคาดเดาความแข็งแกร่งของชายชราได้แล้วว่าน่าจะเป็นเซียนปฐพีก่อนหน้านี้ แต่นั่นก็เพียงแค่การคาดเดาเท่านั้น ตอนนี้ชายชราตรงหน้าเขาเป็นเซียนปฐพีจริง ๆ
เจี้ยนสูดลมหายใจอีกครั้งก่อนที่จะทำใจให้สงบ ผู้อาวุโส ถ้าข้าบอกท่านว่าข้าไม่มีทักษะต่อสู้ ท่านจะเชื่อข้าหรือไม่ ?
ทันใดนั้นรอยยิ้มของชายชราก็แข็งค้าง ดวงตาของเขาเย็นชาและจิตสังหารก็แผ่ออกมาน้อย ๆ วู่หยุน ความอดทนของข้ามีขีดจำกัด ข้าไม่มีเวลาโต้เถียงกับเจ้านานนัก ดังนั้นรีบส่งมอบทักษะการต่อสู้มา ไม่เช่นนั้นข้าจะบังคับเอาออกมาเอง เขาเงียบอยู่เพียงชั่วครู่ ขณะที่มีรอยยิ้มที่เย็นชากระตุกน้อย ๆ บนใบหน้าของเขา ถ้าเจ้าไม่มีทักษะการต่อสู้ มันก็ไม่ต่างกันมาก เจ้าต้องไปกับข้า ไปยังตระกูลฮาริโต้และเขียนมันให้กับข้า เจ้าจะต้องเขียนเกี่ยวกับวิธีที่เจ้าใช้ในการควบคุมอาวุธเซียนให้ลอยไปลอยมากลางอากาศได้
เมื่อได้ยินชายชราพูดเช่นนั้น หัวใจเจียนเฉินก็เต้นแรง มันไม่มีทางที่จะประนีประนอมกัน เว้นแต่ว่าเขาจะส่งมอบทักษะการต่อสู้ให้กับเขา ชายชราผู้เป็นเซียนปฐพีผู้นี้ก็จะไม่ยอมให้เขาออกจากบริเวณนี้ เช่นนั้นก็เหลือเพียงการต่อสู้เสี่ยงตายที่น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เขาจะเอาชีวิตรอดไปได้
ในใจเจี้ยนเฉินก็รู้ว่าแม้ว่าชายชราคนนี้ต้องการฆ่าเขา เขาก็ไม่กล้าที่จะลองทำแบบนั้น แน่นอนก่อนที่เขาจะได้รับทักษะการต่อสู้ นี่ทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกหมดหนทางอย่างแท้จริง เขาไม่มีทักษะการต่อสู้ใด ๆ คนอื่น ๆเข้าใจว่าบัญญัติกระบี่นภาเป็นทักษะการต่อสู้
เมื่อต้องตัดสินใจ เจี้ยนเฉินก็ไม่มีความลังเลอีกต่อไป ขาของเขายันพื้นและเหาะถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นการกระทำของเจี้ยนเฉิน ชายชราก็ทำท่าดูถูกเหยียดหยาม ในขณะที่เขาบินไปยังทิศทางที่เจี้ยนเฉินถอยและยื่นมือออกมาเพื่อเตรียมที่จะคว้าคอของเจี้ยนเฉิน
กระบี่วายุโปรยปรากฏขึ้นมาในมือของเจี้ยนเฉิน ต่อหน้าเซียนปฐพีเขาไม่อาจถอยหลังได้ เขาจะต้องใช้ไพ่ลับ-จิตวิญญาณกระบี่
กระบี่วายุโปรยกลายเป็นประกายแสงสีเงิน มีเสียงแหวกอากาศดังออกมาขณะที่มันพุ่งเข้าหาเซียนปฐพี