ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 118
จื่ออานคิดอยู่ครู่นึงแล้วกล่าว “อย่างนี้ดีหรือไม่ ข้าจะไปหาผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ ดูว่าเขาจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง”
หยวนซื่อกล่าวอย่างแผ่วเบา “ลำบากเจ้าแล้ว หลินหลินก่อนหน้านี้ก็ดีกับจื่ออานมาโดยตลอด ข้าไม่อาจมองดูเขาล่องลอยอยู่ในวังเพียงลำพังโดยที่ไม่ช่วยอะไรเลยได้”
“เป็นเพราะข้าเขาถึงได้ตาย…” เสียงของจื่ออานสะอื้นเล็กน้อย พูดไม่ออก หันหลังแล้วกล่าว “ข้าเปลี่ยนชุดแล้วจะไปเลย”
แม่นมหยางก็อยากจะติดตามนางไปด้วย แต่ว่าจื่ออานกลับบอกนางว่า”ต่อจากนี้ไปเมื่อข้าออกไปข้างนอก ให้แม่นมช่วยดูแลท่านแม่กับเสี่ยวซุนด้วย เพื่อที่ข้าจะได้ไม่ต้องคอยพะวงว่าจะเกิดเรื่องร้าย ๆ กับพวกเขาขึ้นที่จวน”
“เพียงแต่ว่าตอนฟ้าก็มืดแล้ว ท่านไปจวนอ๋องคนเดียว แบบนี้…” ความหมายของแม่นมหยางก็คือกลัวคนจะนินทา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตอนนี้น้ำสกปรกที่สาดมาบนตัวนางมีเยอะมากเกินพออยู่แล้วด้วย”
แม้ว่าแม่นมหยางจะไม่ได้พูดออกมา แต่ว่าจื่ออานกลับเข้าใจสิ่งที่นางเป็นกังวล และกล่าว “แม่นมไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของข้าเลย ข้าไม่มีอะไรต้องให้เสียอีกแล้ว”
แม่นมหยางพยักหน้า “มันก็จริงเช่นที่ท่านกล่าวมา งั้นก็ไปเถิด”
จื่ออานออกจากประตูไปยามค่ำ โดยจะใช้รถม้าของจวน
คนขับรถม้ารู้ดีว่าจื่ออานไม่เป็นที่โปรดปรานของคนในจวน ดังนั้นจึงไม่เต็มใจจะส่งนางออกไปข้างนอกในยามค่ำคืนเช่นนี้ อีกอย่างนางก็ไม่ได้พาบ่าวรับใช้ไปด้วย
จื่ออานก็ไม่ได้ขอร้องเขา นางจูงม้าออกมาจากคอก เบี่ยงตัวขึ้นนั่งบนหลังม้า และควบม้าออกไป
คนขับรถม้ามองนางอย่างประหลาดใจ คุณหนูใหญ่ขี่ม้าเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่? เขาเห็นท่วงท่าการขึ้นหลังม้าของนาง ดูแล้วจะเชี่ยวชาญยิ่ง
จื่ออานมาถึงจวนของผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ ขอเข้าพบมู่หรงเจี๋ย แต่คนที่อยู่ในจวนกลับบอกนางว่า มู่หรงเจี๋ยออกไปข้างนอกจนถึงวันนี้ยังไม่ได้กลับมาเลย
จื่ออานแอบแปลกใจ เขาออกไปข้างนอกตั้งแต่เมื่อวานนี้ตอนกลางคืน จนถึงค่ำของวันนี้ยังไม่กลับมาอีกเหรอ?
นึกถึงตอนที่เขาออกไป ตอนนั้นที่หนี่หรงสวมใส่ชุดเกราะ…
นางถามคนเฝ้าประตู “ท่านอ๋องจะกลับมาเมื่อไหร่?”
คนเฝ้าประตูส่ายหัว “อันนี้ก็บอกไม่ได้ แต่ว่าปกติแล้วเมื่อท่านอ๋องออกไปข้างนอก ส่วนมากสามถึงห้าวันถึงจะกลับจวนมา”
สามถึงห้าวัน ร่างของหลินหลินคงจะเน่าเหม็นแล้ว พระตำหนักร้างนั้นดูเหมือนว่าจะไม่มีใครพักอาศัยอยู่เลย ปกติแล้วน่าจะไม่มีใครไปที่นั่น หากรอจนกว่าจะมีคนมาพบหลินหลิน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวได้ผ่านไปกี่วันแล้ว
จื่ออานขึ้นม้าและควบออกไป ในใจเศร้าโศกเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
อีกทั้งนางเองก็ไม่อาจเข้าไปในวังเพื่อพาร่างของหลินหลินออกมา เรื่องนี้ มีเพียงผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิเท่านั้นที่จะช่วยได้
ทว่า หากเขาจะกลับมาในอีกสองสามวัน ยังไงก็ไม่อาจรอได้อย่างแน่นอน
ข้อแรก คิดว่าอยู่ในยุคนี้ถ้าไม่มีความสัมพันธ์กับใครเลยก็คงจะอยู่ไม่ได้แน่ ๆ
นางนึกถึงคนผู้หนึ่ง แต่ว่านางไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีท่าทีอย่างไร ถ้าหากเหมือนกับที่มู่หรงเจี๋ยบอกมา เรื่องนี้เขาจะต้องช่วยได้แน่
แต่ว่าวันนั้นดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจใยดีท่านแม่ แม้กระทั่งภาพวาดภาพนั้นยังไม่มองดูเลย แค่ถามไถ่เล็กน้อยว่านางสบายดีไหม
ถามทางคนมาตลอดทาง จนมาถึงจวนของอ๋องอัน นางลังเลเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรจะเข้าไปดีหรือไม่
ในขณะที่กำลังสองจิตสองใจ ก็เห็นคนสองคนควบม้ามาอย่างเร็ว จื่ออานก็บังคับม้าถอยกลับมาอยู่ข้างๆเพ่งสายตามองดูดี ๆ ก็เห็นว่าเขาคืออ๋องอันกับสตรีนางหนึ่ง
สตรีผู้นี้นี้อายุราว ๆ ยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปี ใบหน้าสวยงามหมดจด สวมชุดแพรต่วนปักลายดอกเบญจมาศที่ช่างวิจิตรงดงาม นางดูลึกลับ มีเสน่ห์ มีส่วนคล้ายกับเฟิงหลิวเซียงที่เยาะเย้ยถากถางสังคม
นางกับอ๋องอันควบม้ามาพร้อมกัน พอควบมาถึงที่ด้านหน้าจื่ออาน ก็ดึงบังเหียนให้ม้าหยุด สตรีผู้นี้หวดม้าด้วยแซ่ มันเงยหัวขึ้นร้องลั่น จื่ออานยังนิ่งเฉยไม่เคลื่อนไหว เงยหน้าขึ้นช้า ๆ