ตอนที่ 538

Elixir Supplier

538 พ่อผู้เปรียบดั่งขุนเขา

 

มันเป็นเวลากลางดึก บนเนินเขาหนานชานมีแสงสีเหลืองส่องแสงสลัวลางอยู่ท่ามกลางความมืดมิด

 

ในค่ำคืนนั้นไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น

 

เช้าวันต่อมา มีเสียงร่ำไห้ดังขึ้นภายในหมู่บ้าน มีคนตายในคืนนั้น

 

เมื่อหวังเย้าลงมาจากเขาเพื่อกลับไปที่บ้าน เขาก็ได้ยินข่าวนี้ แต่ก็ไม่รู้เรื่องราวที่แน่ชัด

 

เขาไม่ได้คิดถึงหวังยี่ฟูเลยสักนิด เพราะตอนเจอกันเมื่อคืนก่อน เขาไม่พบสัญญาณใดๆเกี่ยวกับความตายเลย ถึงแม้ว่าเขาจะเมาเหล้าและส่งผลเสียต่ออวัยวะภายในของเขา มันก็ไม่ได้ร้ายแรงถึงชีวิต

 

“เป็นลุงยี่ฟูรึเปล่าครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ไม่ใช่หรอก เป็นหวังเจียนหรงน้องชายของลุงเจียนหลี่จ๊ะ” จางซิวหยิงพูด

 

“อ่อ แต่เขาดูเหมือนไม่ได้ป่วยอะไรเลยนะครับ” หวังเย้าพูด “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”

 

“ก็พวกเขาสองคนไปดื่มเหล้าด้วยกันมาเมื่อคืนน่ะสิ” หวังเฟิงฮวาพูด

 

“พ่อรู้ได้ยังไงครับ?” หวังเย้าถาม

 

“พวกเขามาชวนพ่อไปด้วย แต่พ่อไม่ได้ไป สองคนนั้นน่ะเป็นนักดื่มตัวยง แล้วก็ชอบคะยั้นคะยอให้คนอื่นดื่มเข้าไปเยอะๆ ถ้าพ่อไป พ่อก็คงจะเมาไม่รู้เรื่อง” หวังเฟิงฮวาพูด

 

“ดีแล้วที่ไม่ไป ถึงไม่ได้ทำอะไรผิดแต่ก็ต้องร่วมรับผิดชอบอยู่ดี ถ้าคนหนึ่งเมา คนที่เหลือบนโต๊ะก็ต้องรับผิดชอบด้วย” จางซิวหยิงพูด

 

“เฮ้อ ตรุษจีนเพิ่งจะผ่านไปได้ไม่กี่วัน ก็ดันมาเกิดเรื่องในหมู่บ้านของเราซะแล้ว” หวังเฟิงฮวาพูด “หลายบ้านคงจะอยู่กันไม่เป็นสุขสักเท่าไหร่”

 

พูดกันว่า ของมึนเมาเป็นตัวนำไปสู่ปัญหา นี่ไม่ใช่แค่ปัญหา แต่มันคือเหตุร้าย เมื่อชายคนหนึ่งเสียชีวิตลง ทั้งครอบครัวก็ล้มตามไปด้วย เพราะเขาเปรียบเสมือนกับเสาหลักของครอบครัว

 

“พี่ก็อย่าไปรวมกลุ่มกับคนพวกนั้นล่ะ” จางซิวหยิงยังคงรู้สึกไม่สบายใจอยู่

 

“รู้แล้ว” หวังเฟิงฮวาพูด

 

หลังมื้อเช้า หวังเย้าก็เดินไปที่คลินิก มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาที่คลินิกตอน  10 โมงเช้า เขามีอายุอยู่ในช่วงเดียวกันกับหวังเย้า ใบหน้าของเขาซีดเซียว และก้าวเดินไม่มั่นคง การพูดของเขาดูไร้เรี่ยวแรง เขาพูดว่า เขารู้สึกหูอื้อและเหมือนจะเป็นลม

 

“ช่วยแลบลิ้นออกมาด้วยครับ ฉันอยากตรวจดูหน่อย” หวังเย้าพูด

 

ชายคนนั้นแลบลิ้นออกมา เขามีกลิ่นปากที่ต่างจากคนปกติ มันคล้ายกับกลิ่นของแอมโมเนีย

 

“ตอนตรุษจีน นายไปทำอะไรมาบ้าง?” หวังเย้าถาม

 

“ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ นอกจากจะออกไปกินดื่มกับพวกญาติพี่น้องและเพื่อนๆ” ชายหนุ่มพูด

 

“บอกความจริงมาดีกว่านะ” หวังเย้าจ้องตาเขา

 

“ทำไมฉันจะต้องโกหกนายด้วย?” ชายหนุ่มถาม

 

ปกติชายหนุ่มคนนี้มักไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้าน เขามีงานทำอยู่ในตัวเมือง และได้ซื้อบ้านเอาไว้ที่นั่นหลังหนึ่ง ถ้าพ่อแม่ไม่คะยั้นคะยอ เขาก็คงไม่มาหาหมอ

 

เขาอายุพอๆกับหวังเย้า ซึ่งจบมาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง แต่กลับมาเปิดคลินิกอยู่ที่หมู่บ้านกลางเขาแบบนี้ ชายหนุ่มจึงคิดว่า หวังเย้านั้นไม่ได้เก่งอะไรเลยสักนิด ถ้ามีความสามารถจริง จะมาอยู่ในป่าในเขาแบบนี้ทำไม? ทุกคนพากันเข้าไปในเมืองใหญ่กันหมด หวังเย้าที่เรียนชีววิทยามา แต่กลับเปลี่ยนสายอาชีพ มันจึงทำให้เขารู้สึกดูถูกหวังเย้าอยู่ส่วนหนึ่ง

 

ในสังคมนี้ บางคนก็มีนิสัยที่แปลกอย่างหนึ่ง ทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่กลับดูถูกคนที่รวยกว่า พวกเขารู้สึกว่า คนรวยเหล่านั้นรวยได้ก็เพราะมีโอกาสที่ดีเข้ามา ถ้าหากพวกเขาได้โอกาสแบบนั้นบ้าง พวกเขาก็คงจะรวยกว่าเศรษฐีพวกนั้นไปแล้ว พวกเขาดูถูกคนที่เรียนสูงกว่า เพราะพวกเขาคิดว่าคนเหล่านั้นเป็นแค่พวกหนอนหนังสือ หากอยู่ในสังคม คนเหล่านั้นก็เป็นได้แค่คนไม่สำคัญคนหนึ่ง

 

หวังเย้าหัวเราะ “งั้นก็กลับไปเถอะ”

 

ชายหนุ่มคนนั้นคิดว่าหวังเย้านั้นไร้มารยาท กลับไปงั้นเหรอ? “นี่?” ชายหนุ่มอึ้ง

 

อยู่ๆประตูด้านนอกก็เปิดออก หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาในคลินิก

 

“สวัสดีครับ” หวังเย้าพูด

 

“เสี่ยวเย้า เสี่ยวคุณป่วยเป็นอะไรจ๊ะ?” เธอคนนี้คือแม่ของชายหนุ่ใ

 

“แม่มาที่นี่ทำไม?” เมื่อเห็นแม่ของเขาเดินเข้ามา ชายหนุ่มก็มีท่าทีสำรวมมากขึ้น

 

“อ่อ เขาไม่ต้องหาหมอหรอกครับ” หวังเย้าพูด “ให้เขากลับบ้านได้เลย”

 

“ทำไมล่ะ?” ผู้เป็นแม่ถาม เธอหันหน้าไปจ้องหน้าลูกชายของเธอ “ลูกทำตัวไม่ดีอีกแล้วใช่ไหม?”

 

“เปล่านะ ผมไม่ได้ทำ!” ชายหนุ่มไม่ได้แสดงท่าทางไร้มารยาทเหมือนก่อนหน้านี้

 

“กลับไปเดี๋ยวนี้เลย!” ผู้เป็นแม่ตะคอกใส่เขา ชายหนุ่มจึงรีบออกไป “เสี่ยวเย้า เสี่ยวคุณเป็นอะไรเหรอจ๊ะ?”

 

“เขามีเซ็กซ์มากเกินไปครับ” หวังเย้าพูด

 

“หา?” ผู้เป็นแม่ตกใจ เธอรู้สึกแปลกๆที่ได้ยินคำพูดนี้ แต่มันก็ดูเหมือนจะไม่ใช่คำอธิบายอาการลูกชายของเธอเลย

 

“เธอคิดว่ายังไง? เสี่ยวคุณมีแฟนอย่างนั้นเหรอ?” เธอถาม

 

“เอ่อ ก็อาจจะครับ แล้วก็อาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้เหมือนกัน” หวังเย้าพูด

 

“ลูกชั่ว!” สีหน้าของผู้เป็นแม่เปลี่ยนกลายเป็นโมโหมากขึ้นกว่าเดิม “แล้วมีอะไรอีกไหม?ไ

 

“เขาดื่มหนักมากครับ” หวังเย้าพูด

 

“ดื่มงั้นเหรอ ป้าคงจะต้องกลับไปคุยกับเขาเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะเป็นเหมือนหวังเจียนหรงได้” เธอพูด

 

เธอเริ่มพูดเรื่องของหวังเจียนหรงที่เสียชีวิตจากการดื่มเหล้ากับหวังเย้า เธอเล่าออกมาอย่างละเอียดยิบ ราวกับว่าเธอไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยตัวเอง

 

การตายของหวังเจียนหรงนั้น เกิดจากการที่เขาดื่มเหล้ากับชาวบ้านในคืนก่อนมากเกินไป เมื่อเขากลับบ้านไป เขาก็ไม่ได้มีท่าทางผิดปกติอะไรเลย เพียงแค่เอะอะจากอาการเมาเท่านั้น เมื่อเขาตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำ เขาก็ล้มลงไปที่ลานบ้านและไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย ส่วนภรรยาก็โมโหเขาอยู่ เธอจึงไปนอนอีกห้องหนึ่ง และไม่ได้สนใจอะไรเขา พอตอนเช้า เธอก็เห็นเขานอนอยู่ที่ลานบ้าน พร้อมกับร่างกายที่เย็นเฉียบ

 

หวังเย้าคิดถึงสาเหตุการเสียชีวิตของชายคนนี้ เขาคาดเดาว่า ชายคนนี้ดื่มหนักมากเกินไปจนส่งผลให้เกิดเลือดคั่งในสมอง หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ได้ จนเป็นเหตุให้เขาหมดสติและเสียชีวิต

 

“นี่ เสี่ยวเย้า ตอนบ่ายเธอจะยังอยู่ที่คลินิกไหมจ๊ะ?” เธอถาม

 

“เอ่อ อยู่ครับ” หวังเย้าพูด

 

“ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวตอนบ่ายป้าจะพาเสี่ยวคุณมาหานะจ๊ะ” เธอพูด

 

“ได้ครับ” หวังเย้าพูด

 

“ยกโทษให้เขาด้วยนะ บางครั้งเขาก็ชอบทำตัวไม่มีมารยาทแบบนี้ แต่เขาเป็นเด็กดีมากนะ” เธอพูด

 

“อ่อ ไม่เป็นไรครับ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม ถ้าหากลูกเชื่อฟังพ่อแม่ เขาก็ถือว่าเป็นลูกที่ดีคนหนึ่ง

 

แล้วเธอก็จากไปพร้อมกับรอยยิ้ม

 

หวังเย้ายิ้มและส่ายหน้า ชายหนุ่มเป็นคนที่น่าสนใจมาก เขาพูดไม่เพราะกับคนนอก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าแม่ของเขา เขาก็เปลี่ยนเป็นอีกคนในทันที

 

ผู้เป็นแม่กลับไปที่บ้าน ลูกชายของเธอนั้นทำตัวดีอยู่ที่บ้าน แถมยังทำงานบ้านอยู่ด้วย

 

“เดี๋ยวนี้ลูกเปลี่ยนไปแล้วนะ แม่รู้ว่าลูกชอบดื่มเหล้า แต่เรามาพูดเรื่องที่ลูกมีสาวๆอยู่ข้างนอกกันก่อนดีกว่า” ผู้เป็นแม่พูดด้วยท่าทีขึงขัง

 

“ใคร? แฟนใคร? เจ้าหนูของฉันเหรอ? เยี่ยมไปเลย!” ผู้เป็นพ่อรีบวิ่งออกมาจากห้อง

 

“คุณเงียบไปเลย!” เธอเหลือบมองหน้าสามี

 

“แม่ ผมไม่ได้มีแฟน” ลูกชายของเธอพูด

 

“บอกความจริงกับแม่มา” เธอพูด

 

“มีคนหนึ่งครับ” ลูกชายพูด

 

ภายใต้การจับจ้องของผู้เป็นแม่ เขาจึงทำได้เพียงบอกทุกอย่างกับเธอไป

 

“เธอพักอยู่ที่ไหน? เธอสวยไหม? แล้วมีรูปของเธอรึเปล่า?” ผู้เป็นพ่อพูดอย่างมีความสุข

 

“พลทหารหวัง นี่มันเที่ยงแล้ว ได้เวลากินข้าวแล้ว” เธอพูด

 

“ไม่มีปัญหา วันนี้ฉันจะทำกับข้าวเอง บอกมาเลยว่าเธออยากจะกินอะไร”

 

ในขณะเดียวกันนั้น หวังเจ๋อเชิงยังคงรู้สึกแปลกใจไม่หาย หลายวันมานี้ เขาเผลอทำตัวเองเจ็บถึงสามครั้ง เมื่อเขาแปรงฟันในตอนเช้า เขาก็รู้สึกปวดฟันและมีเลือดไหลออกมา เมื่อเขาตื่นนอน เขากินบะหมี่ไปหนึ่งชาม และรู้สึกไม่สบายท้อง ทำให้เขาต้องเข้าห้องน้ำถึงสี่ครั้งในตอนเช้า และตอนนี้เขาก็แทบจะไม่มีแรงแล้ว

 

“เชื่อฉันนะ ไปหาเสี่ยวเย้าเถอะ” ภรรยาของเขาพูด

 

“ไม่ไป” หวังเจ๋อเชิงพูด

 

“ก็ตามใจ ถ้าอย่างนั้นก็ทนทรมานต่อไปเถอะ” ภรรยาของเขาพูด

 

มีเสียงเปิดประตูดังขึ้น

 

“พ่อจะไปไหน?” เมื่อเห็นว่าพ่อของเขากำลังจะออกไปข้างนอก หวังเจ๋อเชิงจึงถามออกไป

 

“พ่อว่าจะไปเดินเล่นน่ะ” ชายชราพูด

 

“พ่อกินข้าวก่อนแล้วค่อยออกไปก็ได้” ลูกสะใภ้ของเขาพูด

 

“ไปเดี๋ยวเดียวก็กลับแล้ว” ชายชราพูด

 

ชายชราเดินโขยกเขยกไปที่ประตู เขาเดินตรงไปยังคลินิกของหวังเย้า ในระหว่างนั้น เขาก็บังเอิญเจอหวังเย้าที่เพิ่งเดินออกมาจากคลินิกเพื่อกลับไปกินข้าวที่บ้านเข้าพอดี “เสี่ยวเย้า”

 

“คุณลุง มีอะไรเหรอครับ?” หวังเย้ารีบถามในทันที

 

“โอ้ ก็มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ” ชายชราพูด

 

“อยากจะเข้าไปนั่งคุยข้างในไหมครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ไม่ต้องหรอก เราคุยกันตรงนี้ก็ได้” ชายชราพูด “สองวันมานี้ เจ๋อเชิงเจอปัญหาหลายอย่างมาก ลุงได้ยินจากลูกสะใภ้ว่า เธอบอกว่าเจ๋อเชิงจะเจอเรื่องร้าย”

 

ลูกชายอาจจะไม่ได้กตัญญูต่อเขามากนัก แต่เขาก็ยังห่วงลูกชายของเขามาก

 

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกครับ” หวังเย้าพูด “อีกไม่นานก็จะดีขึ้นเองครับ”

 

“จริงเหรอ?” ชายชราถาม

 

“ทำไมผมจะต้องโกหกคุณลุงด้วยล่ะครับ?” หวังเย้าถาม

 

“โอ้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็เบาใจ” ชายชราพูด

 

“ส่วนคุณลุง ถ้ารู้สึกไม่สบาย ก็อย่าออกมาข้างนอกเลยนะครับ คุณลุงควรจะพักผ่อนอยู่ที่บ้านดีกว่า” หวังเย้าพูด

 

ร่างกายของชายชราอยู่ในสภาพที่แย่มาก ถ้าหากเขาล้มขึ้นมา เขาก็อาจจะไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกเลย