ตอนที่ 595 สงสัยเรื่องเกราะรบ Ink Stone_Fantasy
จักรพรรดินีหลี่อันจ้องมองมาไปยังกู่ฉิงซาน
เธอต้องการจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นของอีกฝ่าย เธอก็กลืนมันลง แต่ก็ไม่คิดถอนตัวจากไป
แม่มารถอนหายใจ ก่อนจะลากตัวเธอออกมาไปหยุดในจุดที่ห่างออกไป
“ลืมมันเถอะ หากเป็นผู้ที่ไม่คำนึงถึงชีวิตและความตายของตัวเองแล้ว ต่อให้เป็นพวกเรามารสวรรค์ ก็คงจะไม่มีวิธีใดช่วยเหลือเขาได้” แม่มารกล่าว
สายตาของหลี่อันยังคงตรึงอยู่บนร่างของกู่ฉิงซาน ขณะเดียวกันก็ยังคงถูกฉุดดึงออกไปข้างนอก
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีผู้ใดอยู่ในระยะพิสัยของทัณฑ์สวรรค์อีกต่อไป
กู่ฉิงซานจึงเริ่มทำการโจมตีขอบเขตทันที
เขากระตุ้นพลังวิญญาณในตันเถียน ขับเคลื่อนมันกระแทกเข้าใส่จุดลมปราณแรก
ด้วยการกระแทกนี้ ส่งผลให้พลังวิญญาณจากทั่วทั้งร่างกายถูกกระตุ้น และร่วมกันไหลไปโจมตีจุดต่อไป
กฎแห่งฟ้าดินตระหนักถึงสัญญาณการตัดผ่านของเขาทันที
ท่ามกลางเมฆหมอก สายฟ้าปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระเบิดสาดแสงและเงาออกมาอย่างไม่รู้จบ
เห็นแค่เพียงมังกรสายฟ้าที่เจาะมวลเมฆและน้ำที่ขวางกั้นออกมา คู่ดวงตาสายฟ้าสีม่วงของมันจ้องเขม็งมายังกู่ฉิงซานชนิดหัวชนฝา
โฮก!
มังกรสายฟ้าอ้าปากกว้าง ว่ายตัดสายลมลงมายังเบื้องล่าง
กู่ฉิงซานสัมผัสได้ถึงมัน เขาลืมตาขึ้น และกระโจนออกจากฟูกทันที
เขากวาดมือไปคว้าดาบพิภพจากในความว่างเปล่า ทั้งคนทั้งร่างแปรเปลี่ยนเป็นรังสีดาบสีนวลผ่องพุ่งเข้าหามังกรสายฟ้า
เทคนิคลับแห่งดาบ ตัดจันทรา!
รังสีดาบและมังกรสายฟ้าปะทะกันกลางอากาศในทันใด
ปัง!
รังสีดาบสามารถกระแทกมังกรสายฟ้าให้กระเด็นออกไป จนตัวมันเองสูญเสียการควบคุม ถูกเบนทิศทางไปฟาดเข้าใส่ตึกนอกจัตุรัส
ขณะเดียวกัน ทันทีที่ตัวตึกสัมผัสกับมังกรสายฟ้า ตัวตึกก็สลาย หายวับไปทันทีมิอาจมองหาร่องรอยได้อีกเลย
มังกรสายฟ้ายักษ์ส่ายหัวไปมา และเริ่มโผบินอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน บนท้องฟ้า รังสีดาบสีนวลผ่องกระจัดกระจายออก เผยให้เห็นถึงร่างของกู่ฉิงซาน
บนร่างกายเขา บัดนี้ไหม้เกรียม ปรากฏถึงสีดำอยู่หลายจุด
รังสีดาบน่ะเป็นที่รู้จักกันดีว่ามันสามารถต้านทานได้ตลอดทั้งหมื่นกฎเกณฑ์ แต่แท้จริงแล้วบัดนี้กลับมิอาจต่อต้านผลกระทบจากมังกรสายฟ้าได้!
กู่ฉิงซานตบลงในถุงสัมภาระ และหยิบเม็ดยารักษาออกมากิน
เขาดูจะประหลาดใจ ปากบ่นพึมพำ “มันร้ายกาจขนาดนี้ได้อย่างไร?”
ระหว่างนั้นเอง ในอากาศที่ว่างเปล่า เสียงของผู้หญิงได้ดังขึ้น “นายน้อย ใช้ข้าสิ”
“หืม?” เจ้ามีวิธีรับมือกับมันหรือ?
“ข้าสามารถทำลายสายฟ้าได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อสายฟ้าระเบิด ช่วงระยะโจมตีของมันจะกว้างเกินไป ท่านต้องระวังให้ดี”
“เข้าใจแล้ว”
กู่ฉิงซานพยักหน้า เขาเก็บดาบพิภพเข้าไปในความว่างเปล่า และดึงดาบขุนเขาเทวะหกโลกามาแทน
ใต้ท้องฟ้าเบื้องล่าง มังกรสายฟ้าทะยานตัวกลับมาหาเขาอีกครั้ง
กู่ฉิงซานจี้ปลายดาบลง
เทคนิคลับแห่งดาบ ฝ่าวารีเชี่ยวแปดครั้งซ้อน!
เสียงกระหึ่มของรังสีดาบพวยพุ่งออกมาจากปลายดาบขุนเขาเทวะ ร่วงตกลงมาราวกับสายธารหลากจากฟากฟ้า
มังกรสายฟ้ามิคิดหลีกเลี่ยง มันเลือกปะทะกับรังสีดาบโดยตรง เกิดเสียงระเบิดดังต่อเนื่อง ทั้งตัวมันยังทะยานขึ้นมาเหนือท้องฟ้าที่กู่ฉิงซานยืนอยู่อย่างบ้าคลั่ง
จนกระทั่งในที่สุดเมื่อมันอยู่ห่างจากกู่ฉิงซานไม่ถึงสองร้อยเมตร มังกรสายฟ้าก็ส่งเสียงครวญน่าอนาถ ทั้งร่างของมันแตกกระจาย ปรากฏถึงเส้นสายฟ้า คล้ายงูเล็กแหวกว่ายไปทั่ว ก่อนที่ทั้งหมดจะทยอยกันกลับไปยังเมฆที่เป็นแหล่งกำเนิดโทษทัณฑ์
กู่ฉิงซานจึงค่อยคลายใจลง
ด้วยรังสีดาบที่แฝงไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ ‘แหกกฎ’ ของฉานนู่ มังกรสายฟ้าก็พ่ายแพ้ลงในที่สุด
ในช่วงเวลาว่างเว้นให้พักหายใจ เขาก็เร่งหยิบเม็ดยาอื่นออกมา และโยนมันเข้าปากทันที
เบื้องบนท้องฟ้ายังคงเงียบ
เมฆแหล่งกำเนิดโทษทัณฑ์เงียบงัน ไม่ตอบสนองสิ่งใดในเวลานี้
“ยอดไปเลย! ไปได้สวยนี่นา ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องทำได้กู่ฉิงซาน!” ลอร่าถอนหายใจโล่งอก เธอตะโกนด้วยรอยยิ้ม
“ไม่หรอกลอร่า สถานการณ์จริงๆ แล้วไม่ได้ดีอย่างที่ท่านคิด” อีเลียกล่าวด้วยสีหน้าหนักอึ้ง
“อ้าว? ทำไมถึงไม่ล่ะ ก็เห็นได้ชัดว่าเขาล้มมังกรสายฟ้าลงได้แล้วนี่” ลอร่าเอ่ยถาม
“มังกรสายนั่นเป็นเพียงกึ่งสิ่งมีชีวิตที่มีจิตนึกคิด มันถูกสร้างขึ้นโดยการตอบสนองต่อฟ้าดิน แต่แท้จริงแล้วนี่คือจุดเริ่มต้นของทัณฑ์สวรรค์” อีเลียอธิบาย
จักรพรรดินีหลี่อันที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งพยักหน้าและกล่าว “เป็นดังนั้น แท้จริงแล้วอำนาจของสายฟ้าสวรรค์มิได้ถดถอยลงเลย”
“มันกำลังรวบรวมพลัง และอย่างน้อยก็คงจะแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้อีกหลายเท่า! ยิ่งนาน อำนาจทัณฑ์สวรรค์ก็ยิ่งทะยานสูงขึ้น” หลี่อันกล่าว
แม่มารช่วยเสริม “มังกรสายฟ้านั่นเป็นเพียงอารัมภบทของทัณฑ์สวรรค์ จากนี้ไปต่างหากจึงจะเป็นของจริง”
เธอถอนหายใจและส่ายหัว “สถานการณ์นี้ ด้วยการตัดสินใจของเขา ข้าเกรงว่าเขาจะไม่สามารถผ่านมันไปได้”
“เหตุใดท่านแม่ถึงแน่ใจนัก?” หลี่อันเร่งถาม
“เพราะแม้กระทั่งในตอนจัดการกับมังกรสายฟ้า เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บเลย ฉะนั้นมิต้องกล่าวถึงทัณฑ์สายฟ้าที่กำลังจะรุนแรงมากขึ้นยิ่งกว่านี้ เจ้าคงจะรู้แล้ว ว่าหากถูกโจมตีเต็มๆ แม้เพียงหนึ่งครั้งโดยสายฟ้าดับจิตเทวะ จิตวิญญาณของคนผู้นั้นจะดับสูญ และโอกาสที่จะไปเกิดใหม่อีกครั้งจะไม่มีอีกต่อไป”
แม่มารกล่าวต่อ “หลังจากที่จิตวิญญาณดับสูญโดยสายฟ้าดับจิตเทวะแล้ว สายฟ้าก็จะเปลี่ยนรูปไปอีกแบบ และพลังของมันที่อยู่ในโลกใบนี้ก็จะรุนแรงกว่าปกติถึงหลายเท่า”
“กระทั่งข้าเองก็ยังมิอาจจินตนาการได้เลย ว่าทัณฑ์สายฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไปจะกลายเป็นอะไร”
หลี่อันเมื่อได้ยินมาถึงจุดนี้ เธอก็ค้นพบว่าอีกฝ่ายแทบจะไม่มีโชคเลย
เธอกัดฟัน และเหวี่ยงบางสิ่งจากแขนเสื้อขึ้นสู่ท้องฟ้า
มันเป็นกล่องเล็กๆ สีดำที่ดูประณีต เมื่อมันถูกโยนออกไป ก็ดึงดูดความสนใจจากมารสวรรค์ทั้งปวง
“นั่นเจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ! ต้องการจะถูกสังหารลงโดยทัณฑ์สายฟ้าหรือไร?”
แม่มารตวาดเสียงแหลม
“มิใช่ นั่นเป็นเพียงชุดเกราะรบเท่านั้น การกระทำนี้ของข้า ทัณฑ์สวรรค์ย่อมไม่คิดใส่ใจ” หลี่อันตอบ
“เป็นเพียงเกราะรบ?” แม่มารถอนหายใจ น้ำเสียงของเธออ่อนลง “หากเป็นสิ่งที่ทัณฑ์สวรรค์อนุญาตก็แล้วไป แต่เรื่องนี้มันก็น่าแปลก เจ้าหนูนั่นเป็นผู้ฝึกดาบแท้ๆ ต่อให้ห้าวหาญเพียงใด แต่การที่ไม่มีเกราะรบอยู่บนร่างกายมันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย”
“ใช่ หากเขามีเกราะรบ เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยจนกระทั่งถึงตอนนี้ ดังนั้นข้าเลยมอบชุดเกราะรบมารสวรรค์ให้แก่เขา อย่างน้อยก็น่าจะช่วยเขาต้านทานสายฟ้าสวรรค์ได้” หลี่อันกล่าว
ขณะที่หลายคนกำลังสนทนา กลับได้ยินเพียงเสียง ‘พลั่ก’ จากด้านหลังของพวกเขา
เป็นลอร่าที่ล้มลงกับพื้น
อีเลียเพียงก้มลงมองอีกฝ่ายที่กำลังสั่นสะท้าน เธอก็ตระหนักได้ทันทีว่ามีสถานการณ์บางอย่างผิดปกติ
“ฝ่าบาท เกิดอะไรขึ้นกับท่าน?” เธอเร่งถาม
“เกราะรบ…” ลอร่างึมงำ
อีเลียพอได้ฟังก็นึกออกทันที
เธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง “ฝ่าบาท การข้ามผ่านโทษทัณฑ์ในครั้งนี้มิใช่เรื่องตลก เวลานี้ไม่สนุกแล้ว ท่านจงเรียกเกราะรบล่องหนของท่านกลับคืนเสีย เขาจะได้สวมใส่เกราะรบของจักรพรรดินีมารสวรรค์ไปใช้ต้านทานสายฟ้าสวรรค์”
“…ไม่ เราไม่สามารถเรียกมันกลับมาได้” ลอร่าก้มหน้าและกล่าว
ไม่สามารถเรียกกลับมาได้?
อีเลียช็อก
เดิมทีแล้วทุกสิ่งของราชวงศ์หนามจะมีตราของรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์ประทับอยู่ และยามใดที่ราชวงศ์ต้องการที่จะได้รับสิ่งนั้นกลับคืน พวกเขาสามารถสื่อสารกับรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์แห่งหนาม และเรียกมันกลับคืนมาได้เลยโดยตรง
นี่เป็นความลับที่รู้กันเฉพาะคนในราชวงศ์และสองนายพล
อย่างไรก็ตาม ลอร่ากลับบอกว่าเธอไม่สามารถเรียกมันกลับคืนมาได้
แต่เธอยังไม่ทันที่จะได้คิดเกี่ยวกับมัน จู่ๆ ในหูของเธอก็ได้ยินเสียงตะโกนดังแว่วเข้ามา “ทำไมจึงเป็นเช่นนี้!”
อีเลียหันขวับไปมอง
เห็นแค่เพียงชุดเกราะของมารสวรรค์ที่ลอยขึ้นไป แยกออกเป็นสัดส่วน ว่ายวนรอบตัวกู่ฉิงซาน แต่มันกลับไม่ประกบร่างให้เขาสวมใส่
สถานการณ์ในตอนนี้ เป็นเช่นเดียวกันกับในตอนที่อีเลียมอบชุดเกราะรบนายพลหนามให้แก่กู่ฉิงซาน
ชุดเกราะรบมารสวรรค์บินกลับมาอีกครั้ง กลับคืนสู่กล่องใบเล็ก และตกลงบนเท้าของจักรพรรดินีหลี่อัน
เมื่อเห็นแบบนั้น อีเลียก็ยิ่งสับสนมากขึ้น
ปากเอ่ยพึมพำกับตัวเอง “บางที…ชุดเกราะรบนั่นมันอาจจะมีจิตสำนึกหรือเปล่า? บางทีมันอาจจะยอมรับเขาเป็นเจ้าของแล้ว? ไม่น่าจะใช่ เพราะหากเป็นในกรณีนั้นเกราะรบสมควรถูกเปิดใช้งานแล้ว”
“ชุดเกราะรบอื่นๆ ไม่สามารถสวมทับบนร่างกายเขาได้…นี่มันเรื่องอะไรกัน…”
แต่ในตอนนั้นเอง ประกายแสงก็ได้วาบผ่านเข้ามาในจิตใจของเธอ
อีเลียตระหนักได้ถึงความจริงบางอย่างที่ทำให้เธอสั่นสะท้าน
คงไม่หรอกมั้ง
ช่วงเวลานั้นเอง ใครบางคนก็ได้กระตุกมือเธอ
อีเลียก้มลงมอง และพบว่าเป็นลอร่า
“อีเลีย เจ้าจำได้ไหมว่าในครั้งอดีต เคยมีกษัตริย์หนามที่สามารถปลุกลี้ภัยแห่งหมื่นโลกาได้เช่นเดียวกันกับข้า และครั้งหนึ่ง เขาเคยได้ย่างกรายเข้าไปในโลกที่ล่มสลาย และได้นำเกราะรบชุดหนึ่งกลับมา”
“กระหม่อมจำได้” หัวใจของอีเลียเต้นถี่ขึ้น รัวขึ้น
เป็นอย่างที่คิดจริงๆ
ไม่ มันเป็นไปไม่ได้!
ทว่าแม้จะคิดแบบนั้น แต่ลอร่ากลับพยักหน้าให้แก่เธอ
“ใช่ เป็นเราเอง ที่มอบชุดเกราะนั่นให้แก่เขา”
ลอร่าสารภาพเสียงแผ่วเบา คล้ายกับเด็กที่กำลังทำผิด ด้วยน้ำเสียงที่เธอไม่เคยใช้มาก่อน
“ฝ่าบาท…แบบนี้มัน…”
อีเลียช็อกไปแล้วโดยสิ้นเชิง
ลอร่าส่ายหัว “ไม่จำเป็นต้องพูดแล้ว เราเข้าใจดี ว่านี่มันเป็นความผิดของเราเอง”
“ท่านรู้ใช่ไหมว่าไม่ควรให้เขายืมชุดเกราะนั่น?”
“ใช่ เราไม่ควรมอบมันให้กับเขา…ไม่ควรมอบให้ทั้งๆ ที่ยังไม่สามารถปลุกมันให้ตื่นขึ้นมา ดังนั้นเราจะปลุกมัน แล้วมอบมันให้แก่กู่ฉิงซาน!”
“เวลานี้ ไม่ใช่สถานการณ์ที่เราจะมามัวซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเขาแล้ว!”
“ตอนนี้ คือช่วงเวลาที่เราจะต้องเอาชนะความหวาดกลัวในจิตใจ!”
ลอร่ากล่าว และลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ
ทุกคำพูดของเธอ ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
“อีเลีย”
“กระหม่อมอยู่นี่”
“บอกทุกคนให้มาเฝ้าดูพิธี”
“น้อมรับคำสั่ง”
อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นที่จะต้องให้อีเลียเอ่ยสั่ง ทหารพิทักษ์ทั้งหมดที่ล้อมรอบตัวลอร่าพลันคุกเข่าลงข้างหนึ่งทันที
พวกเขามิเอ่ยคำใด เพียงเฝ้ารออย่างเงียบๆ สำหรับช่วงเวลาที่กำลังจะมาถึง
ช่วงเวลาที่ลอร่าหลบเลี่ยงมันตลอดมา
ลอร่าดึงกริชเล็กๆ ขึ้น และเฉือนลงบนปลายนิ้วของเธอ และยกนิ้วที่เปื้อนเลือดขึ้นมาแปะบนหน้าผาก
“พระแม่แห่งรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์ เราพร้อมแล้ว…ที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ใหญ่!” ลอร่าพึมพำ
ทันทีที่เสียงของเธอตกลง รัศมีแสงสดใสพลันสาดออกมาจากระหว่างคิ้วของเธอ พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
นี่คือแสงสดใสอย่างหาที่ใดเปรียบ มันเหนือล้ำยิ่งกว่าอำนาจของโลก กระทั่งทัณฑ์สวรรค์ก็ยังถูกบดบังด้วยรังสีของแสงนี้
แสงที่ราวกับไม่ว่าสิ่งใดก็สามารถทะลวงผ่านได้
อำนาจอันยิ่งใหญ่ถ่ายเทออกมาจากแสงสว่าง
ทหารพิทักษ์ต่างเผยถึงสีหน้าตื่นเต้น ทั้งตนทั้งร่างสั่นไหว ปากสรรเสริญเป็นเสียงเดียวกัน “องค์กษัตริย์ทรงพระเจริญ!”
อีเลียที่กำลังมองลอร่า ยิ้มด้วยความสุข “ฝ่าบาท ท่านต้องเข้มแข็งเข้าไว้นะ พระแม่แห่งรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์สัมผัสได้ถึงท่านแล้ว และมันกำลังจะมายังโลกใบนี้!”
ลอร่าพยักหน้ารับเบาๆ
เธอแหงนหน้าขึ้นไปมองแสงที่สาดทอลงมาจากสถานที่ไกลแสนไกล ปากเปล่งเสียงกระซิบ “พระแม่แห่งรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์ เราขอให้คำมั่นสาบานว่าเราจะไม่หวาดกลัวพิธีกรรมนี้อีกต่อไป”
“เพราะท้ายที่สุดนี้ มีเพียงวิหคหนามที่ก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เท่านั้น จึงจะสามารถถือครองราชบัลลังก์ที่แท้จริงได้”
“และมีเฉพาะเพียงกษัตริย์แห่งหนามเท่านั้น…ถึงจะสามารถปลุกเกราะรบแห่งกษัตริย์ให้ตื่นขึ้นมาได้!”
……………………………………….