บทที่ 3 ดาร์ก เดม่อนไม่เข้าใจว่าความริษยาคืออะไร

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี [反派少爷只想过佛系生活]

บทที่ 3 ดาร์ก เดม่อนไม่เข้าใจว่าความริษยาคืออะไร

“ฉันชื่อไดแอนนา เกรท เบเยอร์ แล้วนายล่ะ?”

“ดาร์ก เดม่อน”

เกรท เบเยอร์ หมีแห่งราชอาณาจักร!

ทุกคนในตระกูลเกรท เบเยอร์จะเกิดมาพร้อมกับพลังเหนือธรรมชาติ ทั้งชายและหญิงต่างก็แข็งแกร่งราวกับหมีสีน้ำตาล!

ว่าแต่โลลิตัวน้อยตรงหน้าฉันนี่มันอะไรกันเนี่ย?

ไดแอนนา เกรท เบเยอร์ซึ่งเพิ่งเข้าสู่วัยเรียน มีความสูงน้อยกว่าเพื่อนของเธอเล็กน้อย หลังจากปีนขึ้นมาบนเก้าอี้แล้ว เท้าเล็ก ๆ ไม่แม้แต่จะแตะพื้นได้ ใบหน้าที่กลมมนของเธอก็ดูอ่อนโยนและนุ่มนิ่ม

ดาร์กแทบอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปบีบแก้มเด็กผู้หญิงตรงหน้า…

[ราคะ +1]

[โลภะ +1]

“เดี๋ยวก่อน!”

จู่ ๆ ดาร์กก็นึกอะไรบางอย่างออก

‘เธอเป็นตัวละครที่เหมือนกับผู้ติดตามสองคนของ <เจ้าลูกแหง่ผมทองเลือดบริสุทธิ์> ในเกมนี้หรือเปล่า’

มีพวกซื่อบื้อไม่กี่คนหรอกที่กล้าเข้าใกล้บุตรชายของดัชเชสทันทีที่เข้ามาในสถาบันศึกษา!

แต่ให้ตายเถอะ ในเกมขยะนี่ทุกคนเป็นตัวละครหญิงหมดเลย!

ดาร์กสงบลงและตัดสินใจที่จะรักษาระยะห่างจากไดแอนนาและติดต่อเท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาชีวิตของเขาเอง

สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกม ‘ดูเอล! เซนต์แมเรียน ซูเปอร์ XX อะคาเดมี’ เหมือนกับเกมจีบสาวทั่วไปที่มีวางขายในตลาด นั่นคือตราบใดที่เป็นตัวละครผู้หญิงน่ารัก ๆ สักหน่อย พวกเขาทั้งหมดก็เป็นตัวละครที่จีบได้

จากมุมมองของผู้เล่น การเอาชนะใจสาวสวยข้างกายตัวร้ายนั้นเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจมาก

นอกจากนี้โลลิก็ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของเกมจีบสาว

แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับดาร์ก

เขาไม่มีความคิดใด ๆ กับไดแอนนานอกจากอยากบีบหน้านิ่ม ๆ ของเธอ

การรักษาระยะห่างก็เป็นการป้องกันตัวเองจากความอยากบีบด้วย

ในระยะเริ่มต้นของการฝึกฝนตนเอง การอยู่ห่างจากสิ่งล่อตาล่อใจนับว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด

และด้วยประสบการณ์สิบนาทีนี้ ดาร์กได้สูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง!

การหลีกเลี่ยงอัตตานั้นไมค่อยเท่าไหร่ แต่เขาจะหลีกเลี่ยงโทสะ โลภะ และราคะได้อย่างไร?

ความโลภเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังความก้าวหน้าของมนุษย์!

การขยายพันธุ์ก็เป็นการกระทำที่จำเป็นสำหรับการคงอยู่ของเผ่าพันธุ์!

ดาร์กจึงรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา

“เอ็มม่า มอร์ติส!”

“บ้านอัศวิน!”

“ซาร่า สวาติ!”

“บ้านนักปราชญ์!”

“ไคลน์ โมเร็ตติ!”

“บ้านคนเขลา!”

เมื่อเวลาผ่านไป ในที่สุดก็เหลือเพียงนักเรียนใหม่คนสุดท้ายที่ยังไม่ได้เข้าร่วมพิธีคัดสรร!

เขากลายเป็นบุคคลที่ถูกจับตามองมากที่สุดจากบรรดานักเรียนทั้งหมดของเซนต์แมเรียน

ดาร์กก็อดที่จะมองไปไม่ได้เช่นกัน

นักเรียนใหม่คนสุดท้ายก้าวขึ้นไปบนเวที เขามีผมสั้นสีดำ ใบหน้าไม่ได้หล่อเหลามากนัก แต่นับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยคนทั่วไป และเครื่องหน้าของเขาก็ดูดีทีเลยเดียว

จะว่าไปแล้ว ดาร์กเองก็เป็นเด็กผมบลอนด์ที่หล่อเหลา ซ้ำยังมีทุกคุณลักษณะที่แสดงถึงความประณีตรังสรรค์จนเกินบรรยาย

ในฐานะตัวร้ายประจำเกม เขาจึงถูกผู้เล่นเรียกด้วยเสน่หาว่า ‘หนุ่มผมทอง’ และถูกเรียกหาว่าเป็นพี่ชายของ ‘เจ้าเด็กหัวเหลือง’

“เวอร์เธอร์ กาวด์!”

เล่นคำกับเวอร์เธอร์ ก็อธหรือ?

ชื่อนี้มันอะไรกัน?

ดาร์กพูดไม่ออก

อืม แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วล่ะ… หมอนี่ต้องเป็นพระเอกแน่นอน!

“กาวด์? ตระกูลของวีรบุรุษคนนั้นหรือ?”

ด้วยการปรากฏตัวของเวอร์เธอร์ กาวด์ นักเรียนในห้องโถงก็เริ่มอดไม่ได้ที่จะพูดคุยกัน

เมื่อเทียบกับตระกูลเดม่อนซึ่งอยู่ในสายตาของสาธารณชนมาตลอดแล้ว ตระกูลกาวด์นั้นได้เงียบหายไปหลังจากการเสียสละของวีรบุรุษ

พอมีคนถามถึง ผู้เผยพระวจนะก็มักจะพูดประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมาเสมอ ว่านับตั้งแต่สมัยโบราณ เมื่อใดก็ตามที่วีรบุรุษปรากฏตัวขึ้น เมื่อนั้นมักจะเป็นตอนที่มนุษยชาติต้องการเขา!

ดังนั้น หากถามว่าภัยพิบัติและวีรบุรุษ สิ่งไหนเกิดก่อนกัน?

มันย่อมเป็นการมาถึงของหายนะที่ทำให้วีรบุรุษปรากฏตัว

หรือกลับกัน การปรากฏตัวของวีรบุรุษจะทำให้เกิดหายนะ?

ไม่ว่าจะเป็นผู้ทำนายหรือนักปราชญ์ พวกเขาล้วนต่างก็ต้องการหาคำตอบ

“ดาร์ก นายคิดว่าลูกชายวีรบุรุษจะมาที่บ้านเราไหม?” ไดแอนนาถามด้วยดวงตาเป็นประกาย

ไม่เพียงแค่เธอเท่านั้น แต่หลายคนในบ้านขุนนางต่างก็ตั้งตารอที่จะรับเวอร์เธอร์ กาวด์เข้ามา!

ถึงตระกูลกาวด์จะเป็นตระกูลที่ต่ำต้อย แต่ก็เป็นตระกูลที่มีเกียรติมาตั้งแต่สมัยโบราณ แม้จะถูกกำหนดให้เข้าบ้านขุนนางก็ยังเป็นที่เข้าใจได้!

“ถ้าเวอร์เธอร์ กาวด์เข้าร่วมสถาบันของเราด้วย ‘ดาบคู่แห่งอาณาจักร’ เขาจะไม่อยู่ด้วยกันเหรอ?”

นักเรียนของบ้านขุนนางพูดโดยมีความตื่นเต้นซ่อนอยู่ในน้ำเสียงของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม ความปรารถนาของพวกเขาถูกกำหนดให้ต้องผิดหวัง

ดาร์กมองไปที่ [โทสะ -1] ซึ่งปรากฏอยู่ในสายตาของเขา จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

‘ดูเหมือนว่าตราบใดที่ฉันต้องการ มันก็ยังทำได้อยู่สินะ?’

“เวอร์เธอร์ กาวด์!”

“บ้านอัศวิน!”

ดอกไม้ไฟที่ปล่อยออกมาจากการ์ดคัดสรรก่อตัวเป็นหอกขนาดใหญ่ในอากาศ

เวอร์เธอร์ กาวด์เดินไปที่โต๊ะอาหารท่ามกลางเสียงเชียร์ของบ้านอัศวิน

“เรามีกาวด์ล่ะ!”

“เราได้กาวด์ล่ะ!”

ชื่อ ‘เวอร์เธอร์ กาวด์’ กู่ก้องไปทั่วห้องโถง ในสุ้มเสียงมีความกระตือรือร้นและคลั่งไคล้มากกว่าเสียงเชียร์ของดาร์กตอนที่เขาเสร็จสิ้นพิธีคัดสรรเสียอีก!

[ริษยา +1]

‘บ้าเอ๊ย!’

[โทสะ +1]

ดาร์กระงับอารมณ์ของเขาอย่างรวดเร็ว

เขาแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้อิจฉาเลย

แต่ทำไมค่า [ริษยา] ถึง +1

ระบบโง่เง่านี่คงมีปัญหาแน่!

ดาร์กรู้สึกว่าบุคลิกของเขาถูกดูแคลน!

เสียงอันแผ่วเบาของอาจารย์ใหญ่อาร์เต้กลบเสียงเชียร์ที่ดังทั่วห้องโถง “นักเรียนใหม่ เก็บการ์ดคัดสรรของตัวเองไว้ มันจะคอยให้คำแนะนำสำหรับชีวิตนักเรียนของเธอไปอีกหกปี!”

ที่สถาบันเซนต์แมเรียน พิธีคัดสรรยังเป็นกระบวนการออกการ์ดคัดสรรอีกด้วย

น้องใหม่ทุกคนจะได้รับการ์ดคัดสรรระหว่างทำพิธี

การ์ดคัดสรรนี้ไม่เพียงแสดงถึงตัวตนของนักเรียนเท่านั้น แต่ยังเป็นการ์ดเวทมนตร์ใบแรกที่นักเรียน ‘ทำด้วยมือ’ หลังจากเข้าศึกษาอีกด้วย!

พวกมันเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตในสถาบันและจะอยู่คู่กับนักเรียนเป็นเวลาทั้งหมดหกปีการศึกษา!

ดาร์กมองไปที่การ์ดคัดสรรของเขา

ในฐานะบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูลดยุก เขาจึงได้รับการศึกษาระดับสูงจากตระกูลขุนนางก่อนเข้าเรียน ดังนั้นจึงมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับพลังเวทมนตร์ จอมเวท และการ์ดเวทมนตร์

ในราชอาณาจักร ผู้ที่ได้รับใบตอบรับจากสถาบันเซนต์แมเรียนนั้นต้องมีความสามารถด้านเวทมนตร์ และยังจะเป็นจอมเวทในอนาคต

พลังเวทมนตร์ของจอมเวทนั้นเติบโตขึ้นตามอายุ การใช้พลังเวทมนตร์ซ้ำ ๆ จะช่วยพัฒนาความแข็งแกร่งของพลังเวทมนตร์ แต่ความช่วยเหลือในการเติบโตของพลังเวทมนตร์นั้นมีจำกัดมาก

เนื่องจากไม่มีวิธีลับในการเพิ่มพลังเวทมนตร์อย่างการทำสมาธิ มนุษย์ในอดีตจึงไม่สามารถเอาชนะปีศาจที่เกิดมาพร้อมกับพลังเวทมนตร์อันทรงพลังได้

จนกระทั่งการปรากฏตัวของเมอร์ลิน จอมเวทที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ สงครามก็เกิดการพลิกผัน

เมอร์ลินขัดเกลาความรู้เกี่ยวกับพลังเวทมนตร์ จินตนาการ การปรุงยา และองค์ประกอบอื่น ๆ ให้กลายเป็นการ์ด และได้สร้างการ์ดเวทมนตร์ที่อยู่เหนือกาลเวลาขึ้นมา!

ทั้งยังเผยแพร่ความรู้นี้อย่างไม่เห็นแก่ตัว!

ตั้งแต่นั้นมา จอมเวทก็ละทิ้งไม้กายสิทธิ์ แล้วก็หันไปสร้างการ์ดเวทมนตร์อันทรงพลังอย่างต่อเนื่องเพื่อกวาดล้างเหล่าปีศาจที่ล่วงลับไปแล้ว!

การ์ดคัดสรรที่เดิมให้มาโดยสถาบันเป็นการ์ดเวทมนตร์กึ่งสำเร็จรูป นักเรียนจำเป็นต้องทำขั้นตอนสุดท้ายให้เสร็จเพื่อสร้างการ์ดคัดสรรที่สมบูรณ์ขึ้นมา

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้กล่าวปิดพิธีด้วยคำพูดสั้น ๆ จากนั้นเธอก็ดึงการ์ดเวทมนตร์ชุดอาหารออกมา

ด้วยการโบกเพียงครั้งเดียวของเธอก็แจกจ่ายอาหารโอชะอันวิจิตรงดงามไปทั่วทั้งโต๊ะ

ต่อหน้าอาหารอร่อยนับไม่ถ้วน นักเรียนทุกคนหยุดทำเรื่องอื่นไว้ชั่วคราวและกินอาหารกันอย่างมีความสุข

มีเพียงดาร์กเท่านั้นที่จ้องไปที่อาหารตรงหน้าและตัวแข็งทื่อ!

“หือ? ดาร์ก นายไม่ชอบขาแกะเคลือบน้ำผึ้งเหรอ? ให้ไดแอนนาช่วยกินมันเอง!”

ไดแอนนารีบคว้าขาแกะย่างราดซอสน้ำผึ้งของดาร์กไปอย่างรวดเร็ว

[ริษยา +1]

[ตะกละ -1]