ฟออ!!!
งหลามเกล็ดด่าส่งเสียงข่มขู่ใส่เสียวจน เนื่องจากมันจดจ่าเสียวจนได้เป็นเสี่ยวจินที่ก่อกวนมันเมื่อไม่กี่วันก่อนและทุบตีมันจนเจ็บปวดมันรู้สึดเกลียดเสียวจนเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเมื่อมันพบเจอกับเสี่ยวจินอีกครั้ง จึงช่วยไม่ได้ที่มันจะโจมตีเข้ามา
เย่เทียนมองไปที่ร่างขนาดใหญ่ของงูหลามเกล็ดดําและยิ้มพร้อมกล่าวว่า
“ร่างกายใหญ่โตขนาดนี้ คงจะทําให้ข้าได้รับเลือดของสัตว์อสูรระดับสูงหลายร้อยชุดหนังของมันยังสามารถนําไปสร้างเป็นเครื่องป้องกันได้ดังนั้นวันนี้ข้าคงต้องขอโทษด้วย! ”
กล่าวจบเย่เทียนก็เคลื่อนไหวในขณะที่เปิดใช้งานพรสวรรค์ด้านความเร็วทําให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นเหนือเสียง 20 เท่าบวกกับพรสวรรค์ด้านพละกําลังการโจมตีครั้งนี้จึงรุนแรงเป็นอย่างมาก
พรูด!!!
เย่เทียนใช้ดาบฟันไปพึ่งเหลือมเกล็ดดําเกิดรอยแผลลึกเจ็ดนิ้ว ในสายตาของเสี่ยวจินเกล็ดของงูหลามมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งมากจนไม่อาจทําลายได้แต่กลับถูกเย่เทียนสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในพริบตา
พลังโจมตีของเย่เทียนไม่ใช่สิ่งที่เสียวจนจะเทียบได้ มันเป็นพลังโจมตีในระดับปรมาจารย์ไม่ว่าพลังป้องกันของงูหลามเกล็ดดําจะแข็งแกร่งเพียงใดมันก็ยังเทียบได้กับพลังป้องกันของปรมาจารย์เท่านั้น
แม้แต่ปรมาจารย์เหยาเย่ก็ยังไม่สามารถต้านทานการโจมตีของเย่เทียนได้งูหลามเกล็ดดํายักษ์ตัวนี้จะต้านทานได้อย่างไร
ภายในไม่กี่วินาที เย่เทียนไม่รู้ว่าเขาฟันซ้ําๆ ไปยังจุดเดิมกี่ครั้งแล้ว
เพียงพริบตาเดียวร่างของงูหลามเกล็ดดําเกิดรูขนาดใหญ่ที่ลึกจนถึงหัวใจพลังชีวิตค่อยๆจางหายไป
ตูม !!!
ร่างของงูหลามเกล็ดด่าซวนเซล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง
ในเวลาเดียวกัน เสี่ยวจินเบิกตากว้างมองเจ้านายตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อเห็นได้ชัดว่ามันจําได้ว่าแม้ว่าเจ้านายของมันจะแข็งแกร่งกว่ามันแต่ความแข็งแกร่งของเจ้านายมันก็ยังคงห่าง ไกลจากความน่ากลัวในปัจจุบันมาก
เพียงผ่านไปไม่นาน ขนาดงูหลามเกล็ดดํายักษ์ที่ตัวมันเองไม่สามารถทําอะไรได้เย่เทียนกลับสามารถสังหารมันได้ง่ายๆ
“สมแล้วที่เป็นเจ้านายของข้า!”
เสียวจนพูดอย่างภาคภูมิใจ
หลังจากฆ่างูเหลือมเกล็ดดําเย่เทียนรีบรวบรวมเลือดจากหัวใจของมันเพราะเลือดหัวใจเป็นเลือดที่บริสุทธิ์ที่สุดของสัตว์อสูร มันมีพลังงานและความบริสุทธิ์มากกว่าเลือดปกติหลายเท่า
เมื่อเลือดหัวใจถูกเก็บรวบรวมเสร็จสิ้น เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเลือดไหลออกมาโดยเปล่าประโยชน์เย่เทียนจึงก็รวบรวมเลือดสัตว์อสูรระดับสูงอีกหลายสิบชุดก่อนที่จะบอกให้เสียวจนลากศพของงูเกล็ดดํากลับไป
ผ่านไปไม่นาน เย่เทียนและเสี่ยวจินก็พาศพของงูหลามเกล็ดดํามาถึงอาณาเขตของเสียวจนจากนั้นเสี่ยวจินก็นําเลือดของงูหลามเกล็ดดําใส่ลงไปในบ่อ
“เสี่ยวจิน ศพของงูหลามเกล็ดดําตัวนี้เป็นของเจ้าแล้ว แต่อย่าลืมทิ้งหนังของมันไว้ข้าต้องใช้มัน!”เย่เทียนสั่ง
“ข้าเข้าใจแล้ว!” เสี่ยวจินพยักหน้าตอบ
ถึงอย่างไรเสี่ยวจินก็ไม่ต้องการกินหนังงูหลามเกล็ดดําอยู่แล้วเพราะมันแข็งเกินฟันของมันไม่มีทางที่จะเจาะทะลหนังนี้ได้ถึงแม้ว่าเย่เทียนจะไม่สั่งมันก็จะไม่กินหนังงูหลามเกล็ดดําอยู่ดี
เมื่อเสี่ยวจนเริ่มลิ้มรสเนื้องหลามเกล็ดดํา เย่เทียนก็เริ่มผสานนครสวรรค์ด้านการป้องกันระดับกลาง
“หลอมรวม!”
เย่เทียนคิด
ไม่นานร่างกายของเย่เทียนก็เริ่มร้อนขึ้น เหงื่อของเขาเริ่มไหลออกมาเล็กน้อยผิวหนังของเขาเริ่มรู้สึกเจ็บปวดทั่วทั้งร่างกายของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง
นี่คือกระบวนการหลอมรวมพรสวรรค์ด้านการป้องกัน
สิบนาทีผ่านไป กระบวนการหลอมรวมพรสวรรค์ด้านการป้องกันก็เสร็จสิ้น
เมื่อความคิดของเขาเคลื่อนไหว พรสวรรค์ของเขาก็ปรากฏขึ้นบนจอประสาทตาของเยเทียน
[มนุษย์: เย่เทียน
พรสวรรค์ในการบ่มเพาะ : สูงสุด
พรสวรรค์ด้านความเร็ว : สูงสุด
พรสวรรค์ด้านดาบ : ปานกลาง
พรสวรรค์เงาทมิฬ : เริ่มต้น
พรสวรรค์ด้านการรักษา : สูงสุด
พรสวรรค์ด้านความแข็งแกร่ง : สูง
พรสวรรค์ด้านความอดทน : ปานกลาง
พรสวรรค์ด้านการป้องกัน : ปานกลาง]
“นอกเหนือจากพรสวรรค์ในการบ่มเพาะแล้วเรายังมีพรสวรรค์พิเศษอีก 7 อย่างเกรงว่าบนโลกใบนี้คงมีแต่เราเพียงคนเดียว!”
เย่เทียนพึมพําอย่างภาคภูมิใจ
“มาลองผลของพรสวรรค์กลางการป้องกันระดับกลางเลยดีกว่า!”
เย่เทียนหยิบดาบเวทย์ระดับกลางออกมาและฟันไปที่แขนซ้ายของเขา
ปัง!
ดาบเวทย์ระดับกลางถูกดีดออก
เขาจะยังไม่ได้ใช่พลังเต็มที่ อย่างมากก็แค่ไม่กี่หมื่นจนเท่านั้น มันเป็นเรื่องปกติที่ดาบจะไม่สามารถทิ้งรอยบาดแผลบนผิวหนังของเขาได้
ดังนั้นเย่เทียนจึงเพิ่มพลังโจมตีของเขาเป็น 150,000 ชิ้น แต่ก็ยังไม่สามารถทําลายการป้องกันของผิวหนังได้
“พรสวรรค์ด้านพละกําลัง!”
เย่เทียนเปิดใช้งานพรสวรรค์ด้านพละกําลัง ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นในพริบตา
หลังจากนั้นเขาก็ทดสอบด้วยพละกําลัง 200,000 จิน แต่ก็ยังไม่สามารถทําลายการป้องกันของร่างกายได้ เย่เทียนจึงเพิ่มระดับพลังเข้าไปอีก
เมื่อเขาเพิ่มพลังของเขาเป็น 250,000 จิน ผิวหนังของเขาจึงเกิดรอยบาดแผลเล็กๆ
แต่นั่นเป็นเพียงผิวหนังอย่างเดียวเท่านั้นยังสามารถทนต่อการโจมตีที่รุนแรงขนาดนี้ได้โดยปกตินักรบผู้เชี่ยวชาญใช้พลังปราณเพื่อสร้างเกราะป้องกันร่างกายเกราะป้องกันที่ถูกสร้างขึ้นมา เกี่ยวข้องกับพลังปราณในร่างกายโดยตรง
“ปราณคุ้มกาย!”
ชั้นของพลังปราณจางๆปกคลุมผิวของเย่เทียนทันที จากนั้นเขาก็ใช้ดาบฟันเข้าใส่อีกครั้ง
คราวนี้เย่เทียนเพิ่มพละกําลังโจมตีถึง 1.5 ล้านจิน และในที่สุดก็สามารถทําลายการป้องกันของร่างกายได้
“1.5 ล้านจีนคือขีดจํากัด พูดให้ถูกก็คือร่างกายของเรามีพลังป้องกันมากพอที่จะทนต่อการโจมตี 1.5 ล้านจนได้ นักรบผู้เชี่ยวชาญทั่วไปไม่มีทางทําลายการป้องกันนี้ได้และนี่เป็นเพียงจุด เริ่มต้นเท่านั้นเมื่อการบ่มเพาะของเราเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดของนักรบผู้เชี่ยวชาญเกรงว่าแม้เราจะยืนอยู่เฉยๆให้นักรบผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุดโจมตีก็ยังไม่สามารถทําอะไรเราได้!”
เย่เทียนพอใจกับพลังป้องกันของร่างกายในปัจจุบันมาก
ด้วยพลังป้องกันระดับนี้ บวกกับพรสวรรค์ในการรักษาระดับสูงสุด ความสามารถในการเอาชีวิตรอดของเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว!
หนึ่งเดือนถัดมา เย่เทียนใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ป่าใบไม่โปรย และบางครั้งเขาก็กลับไปที่ฐานหลินไห่
ในช่วงที่อยู่ในป่าใบไม้โปรยเย่เทียนได้ฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง และร่วมมือกับเสี่ยวจินออกล่าสัตว์อสูรระดับสูงหลายสิบตัว และได้รับเลือดจากสัตว์อสูรระดับสูงจํานวนมาก
ภายใต้สภาวะการฝึกฝนที่บ้าคลั่งเช่นนี้ไม่ว่าจะเป็นเย่เทียนหรือเสียวจนความแข็งแกร่งของหนึ่งคนหนึ่งสัตว์อสูรก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดวันนี้เย่เทียนก็สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายเขาเป็น 200,000 จีนแต่เสี่ยวจินก็ไม่น้อยหน้า มันอยู่ในระดับสูงสุดของสัตว์อสูรระดับสูงขั้นต้นแล้วความเร็วของมันเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่งซึ่งเกือบ 25 เท่าของความเร็วเสียงในขณะที่ความเร็วของเยเทียนก็สูงถึง 23 เท่าของ ความเร็วเสียง
อย่างไรก็ตามการกระทําอันบ้าคลั่งของเยเทียนและเสี่ยวจนทําให้จํานวนสัตว์อสูรระดับสูงในพื้นที่ลดลงอย่างมากและในที่สุดก็ดึงดูดความสนใจของสัตว์อสูรชั้นยอดในป่าใบไม่โปรย
วานรขาวยักษ์!!!!
ร่างสูงกว่า 50 เมตร เดินออกมาจากส่วนลึกของป่าใบไม่โปรยและเริ่มสํารวจพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เสี่ยวจีนอาศัยอยู่
เดิมที่พื้นที่นี้เป็นอาณาเขตของมัน และสัตว์อสูรระดับสูงที่ถูกเย่เทียนและเสียวจนล่าเหล่านั้นก็อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของมัน พวกมันต้องเครื่องบรรณาการเป็นอาหารเลือดจํานวนมากเพื่อที่จะได้รับการคุ้มครองจากราชาวานรขาว
แต่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีสัตว์อสูรระดับสูงเหล่านั้นก็เริ่มหายตัวไปส่งผลให้มันโกรธมากดังนั้นมันจึงมุ่งหน้าออกจากส่วนลึกของป่าเพื่อจะมาจัดการสัตว์อสูรระดับสูงเหล่านั้นด้วยตนเอง
แต่หลังจากที่มันมาถึงที่นี่มันต้องตะลึงงัน
มันไม่พบหรือสัมผัสถึงกลิ่นอายของสัตว์อสูรระดับสูงที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของมันแม้แต่ตัวเดียว!
“หรือว่าพวกมันจะหนีไป?”
วานรขาวคิด
ดูม !!!!
ร่างอันใหญ่โตของวานรยักษ์สีขาวค่อยๆก้าวออกไปอย่างช้าๆ ต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้นถูกมันกระแทกจนล้มระเนระนาด
ทันใดนั้นมันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสัตว์อสูรระดับสูง และมุ่งหน้าไปยังทิศทางของกลิ่นอายนั้นอย่างรวดเร็ว
สัตว์อสรระดับสูงตัวนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเสี่ยวจิน