ตอนที่ 195: หลบหนีจากภัยพิบัติ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 195: หลบหนีจากภัยพิบัติ

เจี้ยนเฉินพยายามลืมตาที่หนักอึ้งและได้เห็นเงารางเลือนก็เริ่มชัดเจนขึ้น สิ่งที่เขาเห็นเป็นอย่างแรกคือกระเบื้องมุงหลังคาเหลือหัวของเขา มีรอยแตกบนกระเบื้องนี้และมีแมงมุมคลานไปทั่ว พวกมันสนุกกับแมลงที่เข้ามาในติดใยของพวกมัน

เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจการเคลื่อนไหวของแมงมุม ขณะที่เขาหันไปมองรอบ ๆ ตัวเอง สิ่งที่เขาได้เห็นทั้งหมดคือเครื่องเรือนภายในห้องที่เขานอนที่เห็นได้เพียงเงาเป็นจุด ๆ อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้ได้อย่างแน่ชัดว่ามันเป็นห้องเล็ก ๆ

ห้องพักค่อนข้างเรียบง่าย นอกเหนือจากโต๊ะไม้และเก้าอี้ไม้เก่า ๆ ก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นอีก บนพื้นถ้ามันไม่ได้ถูกปูด้วยหินก็อาจจะเป็นอิฐ

นี่มันที่ไหนกัน ? เมื่อเห็นสภาพแวดล้อมที่เขาอยู่ เจี้ยนเฉินก็เริ่มสงสัยมากขึ้นแม้ว่าจะเหนื่อยมากก็ตามที ทันทีที่รู้สึกเจ็บปวด ความทรงจำก็หวนกลับเข้ามาในหัวเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมา ก่อนที่เขาจะทรุดลงอีกครั้ง ในใจของเขาราวกับมีคลื่นยักษ์โหมกระหน่ำเข้ามา

เจี้ยนเฉินจำได้ว่าเขาถูกกระแทกตกหน้าผาจากฝีมือของเซียนปฐพี เขาตกลงมาที่น้ำและหมดสติไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเขาไม่รู้

ข้ายังไม่ตาย ดังนั้นที่ข้ารอดได้เพราะว่าใครบางคนยื่นมือเข้ามาช่วย เจี้ยนเฉินสรุปอย่างมีความสุขเล็กน้อย ตอนแรกเขาคิดว่าเขาตายแล้ว เขาไม่คิดว่าเขาจะมีชีวิตอยู่หลังจากที่ตกหน้าผา

ตระกูลฮาริโด้และตระกูลอื่น ๆ ที่โจมตีข้าที่เมืองฟินิกซ์ ข้า เจี้ยนเฉินจะไม่ยอมให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ความทรงจำของเขายังคงไหลเข้ามาในหัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เขาเกิดความโกรธแค้นและชิงชังจนแสดงออกผ่านสายตา มือทั้งสองของเขากำแน่นขณะที่ย้ำชื่อเหล่านั้นซ้ำ ๆ อยู่ในใจ

ขณะที่เจี้ยนเฉินยืดตัว ความรู้สึกเจ็บปวดก็ไหลเข้ามาในร่างกายของเขาและเขาก็ไม่อาจทำอะไรได้ ทำได้เพียงปล่อยให้ความเจ็บปวดเหล่านั้นแล่นผ่านทั่วร่างกายของเขาไป

เมื่อความเจ็บปวดผ่านไป เจี้ยนเฉินก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เขานอนอยู่บนเตียง เขาจดจ่ออยู่กับร่างกายของเขาและรู้ว่าเขาแค่สวมเสื้อผ้าที่เรียบง่าย นอกจากนั้นเขาก็ยังสามารถรู้สึกได้ว่าบาดแผลบนร่างกายของเขานั้นได้ถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลอย่างดี

จากนั้นสายตาของเจี้ยนเฉินก็มองไปที่บริเวณเอว เข็มขัดมิติของเขาหายไป

เข็มขัดมิติของข้าหายไปไหนแล้ว ? เจี้ยนเฉินเริ่มตื่นตระหนกเล็กน้อย ข้าวของทั้งหมดของเขารวมถึงมรดกตระกูลไป๋ที่มารดาของเขามอบให้ รวมทั้งแหวนมิติที่บิดาของเขาให้มาก็ถูกเก็บอยู่ในนั้น นอกจากนี้เขายังมีเหรียญม่วงเป็นหมื่น ๆ เหรียญเก็บอยู่ในเข็มขัดมิติของเขา ถ้าเขาทำเข็มขัดมิติหายไป ชีวิตของเขาก็แย่เช่นกัน

นอกจากนี้ในเข็มขัดมิติยังมีแกนอสูรระดับ 4 และ 5 ของเขาด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการฝึกฝนของเขา

ดวงตาของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกขณะที่เขาพยายามแผ่การรับรู้ของเขาไปทั่วห้องเพื่อหาเข็มขัดมิติของเขา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รออยู่คือความผิดหวังเพียงอย่างเดียว เนื่องจากเขาไม่อาจหาร่องรอยของเข็มขัดมิติได้

ก่อนที่เขาจะได้คิดอะไรเกี่ยวกับเข็มขัดมิติ สักพักเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาที่ห้องของเขา ประตูไม้เลื่อนเปิดออกและเห็นชายที่สวมกางเกงขาสั้น

ชายผู้นี้ดูเรียบง่าย ทำให้เขาดูค่อนข้างธรรมดา ในขณะที่ชายวัยกลางคนก้าวเข้ามาในห้อง เขาก็มองไปที่เจี้ยนเฉินพร้อมกับรอยยิ้ม ในที่สุดเจ้าก็ตื่นเสียที เจ้าหลับไปสองคืนเต็ม ๆ หากไม่ใช่เพราะว่าเจ้ายังหายใจอยู่ ข้าคงคิดว่าเจ้าตายแล้ว

เจี้ยนเฉินมองไปที่ชายคนนั้นและถามว่า เข็มขัดมิติของข้าอยู่ที่ไหน ?

เมื่อเห็นสีหน้าที่ย่ำแย่ของเจี้ยนเฉิน ชายคนนั้นก็หัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะเดินไปข้างห้องที่มีตู้อยู่ เขาเอื้อมมือออกไปเปิดตู้และเอาเข็มขัดมิติธรรมดา ๆ อันหนึ่งและเดินกลับมาที่เจี้ยนเฉิน เข็มขัดมิติของเจ้าอยู่นี่แล้ว เจ้าหนู เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้แตะต้องสิ่งของของเจ้าเลย จากนั้นชายคนนั้นก็โยนเข็มขัดมิติให้กับเขา

เมื่อได้รับเข็มขัดมิติกลับมา เจี้ยนเฉินมองสำรวจสิ่งของที่เขาเก็บไว้ในเข็มขัดมิติทันที เมื่อเขาตระหนักได้ถึงของสำคัญไม่ได้หายไป เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

มองกลับไปยังชายคนนั้น เจี้ยนเฉินก็พูดกับเขาเบา ๆ ว่า ท่านเป็นคนที่ช่วยข้างั้นหรือ ?

ชายคนนั้นนั่งลงบนเตียงเจี้ยนเฉินและหัวเราะ เมื่อสองวันก่อนข้าไปที่แม่น้ำเพื่อหาปลา แต่ก็สังเกตเห็นว่าเจ้าได้ลอยตามน้ำมา เมื่อเห็นว่าเจ้ายังไม่ตาย ข้าก็แค่พาเจ้ากลับมา

ข้าต้องขอบคุณที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้ เจี้ยนเฉินรู้สึกขอบคุณอย่างมากและเขาก็พูดด้วยความซาบซึ้งอย่างแท้จริง

ชายคนนั้นหัวเราะพลางส่ายหน้า ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า เจ้าหนู เจ้ามีบาดแผลร้ายแรงอย่างมาก เมื่อเห็นบาดแผลที่หนักหนาอย่างนั้น ข้าก็คิดว่าเจ้าต้องตายแน่ ๆ บาดแผลที่หลังมันลึกจนเห็นกระดูก ข้าใช้ชีวิตมานาน แต่ข้าไม่เคยเห็นใครที่มีอาการบาดเจ็บเช่นนี้หายใจอยู่

อ่าใช่ เจ้าหนู เจ้านอนหลับมาสองวันแล้ว เจ้าต้องหิวแน่ ๆ ให้ข้าออกไปเอาอาหารมาให้เจ้ากินก่อน ชายคนนั้นพูดออกมา

เจี้ยนเฉินพยักหน้า อย่างนั้นต้องรบกวนท่านลุงแล้ว หลังจากสองวันที่ไม่ได้กินอาหารมา เจี้ยนเฉินค่อนข้างหิวมาก

หลังจากชายคนนั้นได้เอาอาหารมาให้เจี้ยนเฉิน หลังจากเจี้ยนเฉินกินอาหารจนอิ่มแล้วเขาก็รู้สึกเหนื่อย ดังนั้นชายคนนั้นจึงปล่อยให้เขาพักผ่อน

หลังจากที่ชายคนนั้นออกไป เจี้ยนเฉินก็หลับตาและค่อย ๆ พยายามฟื้นฟูจิตวิญญาณที่เขาใช้จนหมด เมื่อเขาถูกไล่ล่าจากชายชราผู้นั่น เจี้ยนเฉินได้ใช้จิตวิญญาณกระบี่ออกไปค่อนข้างมาก แม้ว่าเขาจะได้พักมาสองวันแล้ว แต่เจี้ยนเฉินก็ฟื้นฟูได้เล็กน้อยเท่านั้น มันไม่มีอะไรสำคัญเลย

ตอนนี้เขาต้องการที่จะฟื้นฟูจิตวิญญาณให้อยู่ในจุดที่สูงที่สุด ก่อนที่เขาจะสามารถใช้พลังเซียนธาตุแสงเพื่อรักษา

ขณะที่เจี้ยนเฉินฟื้นฟูจิตวิญญาณ ชายผู้นั้นก็เข้ามาเยี่ยมเจี้ยนเฉินสองสามครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อเจี้ยนเฉิน หลับ เขาก็ไม่รบกวนเจี้ยนเฉินอีกต่อไป

กลางคืนเข้ามาอย่างรวดเร็ว เจี้ยนเฉินนอนอยู่บนเตียงนั้นนานกว่า 2 ชั่วยามโดยที่ไม่ได้ขยับเลย จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นเจี้ยนเฉินสามารถหลับตาและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อฟื้นฟูจิตวิญญาณของเขา

หลังจากฟื้นฟูมาทั้งคืน จิตวิญญาณของเขาก็ฟื้นฟูได้ประมาณ 80% ของทั้งหมด อย่างไรก็ตามบาดแผลของเขาที่เขาได้รับเมื่อสองวันก่อนถ้ามันไม่ถูกรักษาอย่างดี มันคงยากที่จะฟื้นฟูจิตวิญญาณจำนวนมากในคราวนี้

หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินพลังเซียนธาตุแสงเพื่อรักษาบาดแผลของเขา