บทที่ 109 โลงศพสําริดโบราณเปิดออก

จอมบงการเทพยุทธ์

เก้ามังกรลากโลงลงมาจากฟ้า เขย่าทั่วทั้งพิภพ ลึกลับอย่างที่สุด

“เก๋มังกรลากโลง? ฉากนี้เคยปรากฏในเมืองหิมะน้ําแข็งแห่งแดนางตะวันออกไม่ใช่รึ?”

“ในวันนั้นนอกจากเก้ามังกรลากโลง ยังมีจอมจักรพรรดินีในชุดขาวก้าวย่างบนโลงศพนั้นด้วย”

“จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นงั้นรึ?”

“อ่า จอมจักรพรรดิเฉียนอยู่ที่นี่แล้ว เขาสามารถควบคุมทุกอย่างในพิภพได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ต้องเป็นกังวล!”

การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันสร้างความตกใจให้กับเผ่าพันธุ์หมื่นเซียน

แต่เมื่อคิดว่าจอมจักรพรรดิเฉียนอยู่ที่นี่ ความกลัวและความตื่นตระหนกในหัวใจของสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนทั้งหมดก็สลายไป

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ด้วยการที่มีจอมจักรพรรดิเฉียนอยู่ตรงนี้ก็เพียงพอที่จะกําราบทุกสิ่งในพิภพ!

ครั้น!!

เก้ามังกรลากโลงลงมาจากฟากฟ้า และในที่สุดก็ลงถึงแดนร้างจะวันออก พสุธาสั่นสะเทือนและฝุ่นควันนับไม่ถ้วนฟังกระจาย

ศพมังกรทั้งเก้นั้นยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามเต็มไปด้วยเกล็ดที่เปรียบประดุจชุดเกราะและกระแสพลังอันเป็นนิรันดร์

ที่หางของศพมังกรทั้งเก้าตัว ถูกผูกไว้ด้วยโซ่เหล็กเย็นๆ และเชื่อมเข้าด้วยกันกับโลงศพสําริดโบราณ

โลงศพนั้นเรียบง่ายและงดงาม แกะสลักด้วยลวดลายโบราณบางอย่างความผันผวนของกาลเวลาที่ผ่านมาดูเหมือนจะคงอยู่ตลอดไป
และในขณะที่เก้ามังกรลากโลงลงมาจากฟากฟ้า เกาะขนาดมหึมาที่ปรากฏในอากาศและลอยตระหง่านเหนือสวรรค์ทั้งเก้าก็ได้หายไปในทันทีราวกับว่ามันไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

“อะไรกัน?”

จนกระทั่งสุขาวดีหายไป จอมจักรพรรดิเฉียนถึงได้อุทานออกมา พร้อมด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยในน้ําเสียงของเขา

เมื่อครู่นี้ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่สุขาวดีปรากฏออกมา หรือตอนที่เก้ามังกรลากโลงลงมาจอมจักรพรรดิเฉียนก็ไม่มีแปรปรวนทางอารมณ์ใดๆ เลย

แต่ทว่า ในตอนนี้ เมื่อสุขาวดีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ในที่สุดก็มีความผันผวนเล็กน้อยในอารมณ์ที่เย็นเฉียบของจอมจักรพรรดิเฉียน

“มันหายไปแล้ว…”

จอมจักรพรรดิเฉียนเงยหน้าขึ้นมอง เสียงของเขาค่อนข้างเบา

อาณาเขตเตที่ชื่อสุขาวดีที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นได้หายไปอย่างกะทันหัน!

และยังต่อหน้าต่อตาเขาด้วย มันไม่สมเหตุสมผลเสียจริง!

ในฐานะที่เป็นจอมจักรพรรดิหมื่นเซียน ไม่มีสิ่งใดในจักรวาลเป็นความลับต่อจอมจักรพรรดิเฉียน

เป็นธรรมดาที่จะไม่มีสิ่งใดสามารถหลบหนีจากการรับรู้ของเขาได้

แต่ในตอนนี้ สิ่งที่แสนจะแปลกประหลาดได้เกิดขึ้น

เกาะโบราณที่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า แล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยกระทั่งสัมผัสอะไรได้เลย นี่มันเป็นความเข้าใจจริงๆ

ห่างออกไปหลายพันลี้ ฉันม่ได้แต่ยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเสียงประหลาดใจของจอมจักรพรรดิเฉียน

เป็นธรรมดาที่จอมจักรพรรดิเฉียนไม่อาจพบร่องรอยของเกาะได้

แม้ว่าเขาจะค้นหาทั่วทั้งจักรวาล มันก็ไร้ประโยชน์ เนื่องจากสุขาวดีนั้นไม่ได้อยู่ในจักรวาลนี้เลย มิติดินแดนลับนั้นถูกเรียกคืนไปโดยฉันม่
มันเป็นโลกที่แยกตัวออกจากจักรวาลที่แท้จริง ตามปกติแล้วจะไม่มีผู้ใดตรวจพบได้

ฉินม่ได้สร้างเกาะสุขาวดีนี้ขึ้นมา นอกเหนือจากเป็นการเปิดตัวเก้ามังกรลากโลงอย่างสมเหตุสมผลแล้วยังมีอีกเหตุผลที่สําคัญยิ่งกว่านั้น นั่นคือเกาะสุขาวดีนี้จะเกี่ยวข้องกับตัวตนถัดไปที่เขาจะสร้างขึ้นเพื่อตัวเอง!

การปรากฏตอนนี้เป็นเพียงการวางรากฐานสําหรับตัวตนถัดไป

ก่อนหน้านี้ฉินมู่ยังคิดจะใช้แต้มตกใจทั้งหมดที่เขามีเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง

ด้วยจํานวนห้าสิบล้านแต้มตกใจ ในการประเมิณของฉันมู่ เขาน่าจะพัฒนาตัวเองไปจนเกือบถึงระดับเขตแดนพลังยุทธ์จอมจักรพรรดิได้

แต่ความคิดนี้อยู่ในหัวของฉันมู่ได้ไม่นานก็ถูกปัดตกไป

การสร้างตัวตนขึ้นมานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

ก่อนหน้านี้ เขาปรากฏตัวเป็นราชันสวรรค์ในชุดขาวเพราะเขตแดนพลังยุทธ์นั้นไม่สูงเกินไปและไม่ได้ดึงดูดความสนใจของมหาอานาจบางคนจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

แต่ครั้งนี้ ถ้าจู่ๆเขาปรากฏตัวต่อสายตาชาวโลกด้วยระดับเขตแดนจอมจักรพรรดิเกรงว่าเขตต้องห้ามทั้งหมดในพิภพจะต้องตื่นตาตื่นใจ!

สายตาทั้งหมดของยอดยุทธ์สูงสุดโบราณจะต้องจับจ้องไปที่เขา!

คงจะจินตนาการได้ไม่ยากว่า ตัวตนระดับจอมจักรพรรดิที่ไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ของจักรวาลเมื่อจู่ปรากฏขึ้นจะทําให้เกิดความรู้สึกมากมายขนาดไหน

เกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นสิ่งที่เรียกว่าตัวตนของเขาคงไม่อาจหยุดได้

มันไม่ใช่เรื่องดีเลยที่จะตกเป็นที่สนใจของยอดยุทธ์สูงสุดโบราณมากมาย

แต่ถ้าฉันม่สามารถเตรียมพื้นฐานล่วงหน้าสําหรับตัวตนถัดไปของเขา และในคราเดียวเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาจนเหนือกว่ายอดยุทธ์สูงสุดทั้งหมดก็คงเพียงพอที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดได้

เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะทําให้ตัวตนที่สองของเขาเป็นที่รู้จัก!

ห้าสิบล้านแต้มตกใจทําได้เพียงยกระดับเขตแดนพลังยุทธ์ของฉันม่ไปถึงระดับสุดยอดเช่นเดียวกับจอมจักรพรรดิหมื่นเซียนเขาต้องการแต้มตกใจมากกว่านี้เพื่อยกระดับเขตแดนพลังยุทธ์ให้เหนือกว่าขอบเขตของพลังยุทธ์ระดับสุดยอด!

ประการแรก เนื่องจากไม่มีที่มาอันเหมาะสมเกี่ยวกับตัวตนที่สองจึงตกเป็นที่สงสัยของยอดยุทธ์สูงสุดได้โดยง่าย

ประการที่สอง แต้มตกใจที่เขามีนั้นไม่เพียงพอที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาไปสู่ระดับที่ไม่ต้องเกรงกลัวการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใดๆ

นี่คือเหตุผลที่ฉันม่ไม่ใช้แต้มตกใจเพื่อปรับปรุงความแข็งแกร่งของตัวเองแต่เลือกที่จะสร้างดินแดนลับที่เก้าแทน

หากแข็งแกร่งพอที่จะกราบทุกสิ่งได้ ก็จะเป็นการแสร้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสื้อ

หากไม่แข็งแกร่งพอก็เพียงต้องรีบหลบหนีออกมาโดยไว

ใจเย็นและระมัดระวังนี่คือลักษณะนิสัยของฉัน

หากไม่มีวิธีการและความสามารถในการควบคุมทุกอย่างไว้ได้ แล้วจะมีคุณสมบัติเป็นจอมบงการได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม…

“แต้มตกใจถูกใช้ไปจนหมด ดินแดนลับที่เก้าได้ถูกสร้างขึ้น จอมจักรพรรดิเฉียนข้าหวังว่าเจ้าจะพร้อมรับของขวัญสุดพิเศษนี้”

ฉันม่พึมพํากับตัวเองขณะที่มองดูเก๋มังกรลากโลง ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง

เขาตั้งตารอสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป!

สุขาวดีอันลึกลับได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับว่าร่องรอยทั้งหมดถูกกําจัดออกจากจักรวาลอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าจักรพรรดิเฉียนจะทําเช่นไรเขาก็ไม่พบอะไร

ท้ายที่สุด เขายังล้มเลิกความตั้งใจและหันมาสนใจเก้ามังกรลากโลง

เก้ามังกรลากโลงลงมาจากสุขาวดีอันลึกลับ

ภายในโลงศพสําริดที่มีกระแสพลังนิรันดร์นี้ มีสิ่งใดอยู่กันแน่?

เก้ามังกรลากโลงกับสุขาวดีอันลึกลับเกี่ยวข้องกันอย่างไร?

“น่าสนใจ ไม่คิดว่าเทพผู้นี้จะพบเจอสิ่งที่น่าสนใจเช่นนี้เมื่อเขาตื่นขึ้น”

จอมจักรพรรดิเฉียน กระซิบเบาๆ น้ําเสียงของเขาเย็นชา

ทันทีที่เขาคิดวิถีฟ้าดินก็ค่าราม คลื่นใหญ่พุ่งออกมาและกดไปที่เก้ามังกรลากโลง

เขาต้องการเปิดโลงศพสําริดโบราณนี้และเผยความลับทั้งหมด!

ตุ้ม!

โลงศพสําริดโบราณสั่นสะเทือน เมื่อเผชิญกับการลงมือจากจอมจักรพรรดิเฉียนนี้คือโลงศพโบราณที่สร้างจากวัตถุดิบปริศนา มันไร้รอยขีดข่วนใดๆมีเพียงฝาโลงที่เปิดออกตรงมุมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายมหาศาล

มุมของโลงศพโบราณถูกเปิดออก

ในทันใดนั้น กระแสพลังนิรันดร์อันโกลาหลก็ออกมาจากโลงศพสําริดโบราณแผ่ไปทั่วทั้งฟ้าดิน

ทั่วทั้งฟ้าดินราวกับจะแปรเปลี่ยนเป็นแดนนิรันดร์ในต่านานในทันใดด้วยกระแสพลังอันสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลผ่าน!

ในมิติ บุปผาแห่งนิรันดร์บานสะพรั่ง ทวยเทพอับเฉา ร่างจําแลงของสัตว์เทพทั้งสี่และวิญญาณทั้งหลายปรากฏ

จากโลงศพสําริด มีกระแสพลังอันสูงส่งค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ราวกับว่าเป็นการตื่นขึ้นของตัวตนอันสูงส่ง!

โลงศพสําริดโบราณสั่นสะเทือน และครั้งนี้ฝาโลงศพเลื่อนออกเองและตกลงไปด้านข้าง

กระแสพลังนิรันดร์จํานวนมากที่หมุนเวียนอยู่ที่นี่ ได้กลายเป็นศูนย์กลางของจักรวาลทั้งปวง ที่เจิดจรัสและงดงามอย่างที่สุด

แม้แต่จอมจักรพรรดิเฉียน ซึ่งไร้ใจเปี่ยมไปด้วยความเย็นชาและแน่วแน่มาแต่เดิม

ในทางกลับกัน บัดนี้สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ!
แม้แต่จอมจักรพรรดิเฉียนก็ยังตกใจ แล้วสรรพชีวิตทั้งหมดในโลกนี้จะเหลืออะไร

เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการเปิดโลงศพโบราณนั้นช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก

ท่ามกลางกระแสพลังนิรันดร์อันโกลาหล มีร่างที่เหมือนกับหญิงสาวในชุดสีขาวลุกขึ้นจากโลงศพร่างที่เลือนลางของนางค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ความนิรันดร์อันศักดิ์สิทธิ์ กระแสพลังอันสูงส่งกระจายออกรอบตัวนาง

เป็นดั่งจอมจักรพรรดินีผู้ไร้เทียมทาน ยืนอยู่ใต้หมู่ดาวอันเป็นนิรันดร์ เกรียงไกรในผืนพิภพ!

PS: กรี้ดดดด อ่านดึกๆ สยองได้นะเนี่ยยย

PS2: วันนี้เร่งรีบมาก ตอนบ่ายต้องออกไปธุระ ไม่แน่ใจว่าจะทันอีกตอนหรือไม่