บทที่ 221
ฉู่เหวินสงเชิญเฉินโม่กับเจ้าสัวคนอื่นๆมาที่ถึงคฤหาสน์ในทะเลสาบกลับคืนรัง
เฉินโม่เขียนรายชื่อสมุนไพรใบหนึ่งออกมาและส่งให้เจ้าสัวทันที
“รายชื่อสมุนไพรที่อยู่ในนี้ อายุยิ่งเยอะก็ยิ่งดี พวกคุณต้องหามันมาให้ฉันให้ได้ ถ้าใครสามารถหาสมุนไพรพวกนี้ได้เยอะ ฉันจะให้รางวัลกับคนๆนั้น”
“รางวัลจากเฉินไต้ซือ!”
ทำให้เจ้าสัวทั้งหลายตื่นเต้นดีใจทันที
“เฉินไต้ซือโปรดวางใจ ภายในสามวัน พวกเราจะทำอย่างสุดความสามารถและหาสมุนไพรพวกนี้ให้ได้”
เจ้าสัวคนอื่นๆก็พูดอย่างมั่นใจ ถึงแม้สมุนไพรที่เฉินโม่ต้องการจะหาเจอได้ยาก แต่อาศัยความสัมพันธ์และอิทธิพลของเจ้าสัวทั้งสิบเจ็ดเมือง สมุนไพรพวกนี้ไม่ได้หายากอยู่แล้ว
เฉินโม่พยักหน้า เขามองฉู่เหวินสง:”คุณต้องดูแลเฉินซงจื่อให้ดีๆ ฉันจะไปจัดการปัญหาบางอย่างที่หลินโจวก่อน ฉันจะไปแค่สามวันเท่านั้น”
ฉู่เหวินสงโค้งคำนับและพูด:”รับทราบ!”
“ตอนนี้เฉินไต้ซือจะไปที่หลินโจวเลยไหม? ฉันจะหารถยนต์ไปส่งคุณ!”ฉู่เหวินสงพูดประจบทันที
เฉินโม่พยักหน้า:”ใช่!”
เมื่อได้ยินว่าเฉินโม่จะไปด้วย เจี่ยจิ้งอานที่อยู่ข้างๆและกำลังครุ่นคิดอยู่ก็เอ่ยปากพูดทันที:”เฉินไต้ซือ อีกไม่กี่วันก็จะจัด’การประชุมสูงสุดฮ่านหยาง’ของทุกๆปีขึ้นแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นคนมีชื่อเสียงของฮ่านหยางก็จะมารวมตัวกันที่นั่น คุณจะพาพวกเราไปร่วมงานนี้เหรอ?”
ชาติที่แล้วเฉินโม่ก็รู้จักการประชุมสูงสุดฮ่านหยางอยู่แล้ว หลังจากที่เขาเข้าบริหารเหม่ยหวากรุ๊ปแล้ว เขายังเคยร่วมงานนี้มาแล้วหนึ่งครั้ง อันที่จริงมันเป็นงานปาร์ตี้ของคนมีชื่อเสียงมากๆในมณฑลฮ่านหยาง ทำให้เจ้าสัวทุกคนมีโอกาสได้คุยกันและทำธุรกิจร่วมกัน
ชาติที่แล้ว เฉินโม่ภูมิใจมากๆที่ตัวเองมีสิทธิ์เข้าร่วมการประชุมสูงสุดฮ่านหยาง แต่ชาตินี้ เฉินโม่ไม่ได้สนใจงานเลี้ยงปาร์ตี้ที่น่าเบื่อแบบนี้อีก
“พวกคุณไปเองเลย ฉันไม่อยากเข้าร่วมงานนี้”
เจี่ยจิ้งอานถามทันที:”เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราสามารถใช้ชื่อของคุณเข้ารวมงานนี้ได้ไหม?”
เจ้าสัวสิบเจ็ดเมืองในฮ่านหยางต่างนับถือเฉินโม่เป็นหัวหน้า พวกเขากลายเป็นลูกน้องของเฉินโม่ เมื่อเข้าร่วมงานปาร์ตี้แบบนี้ แน่นอนว่าต้องใช้ชื่อของเฉินโม่อยู่แล้ว
“ใช้ชื่อของตนเองเข้าร่วมจะดีกว่า”เฉินโม่ไม่อยากจะทำตัวหยิ่งผยอง ถ้าให้คนอื่นๆรู้ว่าเจ้าสัวสิบเจ็ดเมืองในฮ่านหยางยอมสวามิภักดิ์ต่อเขา อาจจะทำให้คนมีชื่อเสียงพวกนั้นตกใจมากๆ
“รับทราบ!”เจี่ยจิ้งอานพยักหน้าทันที
เฉินโม่มองหน้าฉู่เหวินสง:”ส่งฉันไปที่หลินโจวเลย”
……
เวลาตีสาม เฉินโม่มาถึงคฤหาสน์ตระกูลหลิน
เมื่อเด็กเฝ้าประตูสองคนมองเห็นเฉินโม่ พวกเขาก็รีบเดินขึ้นมาทันที จากนั้นก็โค้งคำนับ:”ยินดีต้อนรับคุณเฉิน!”
สองคนนี้เคยเป็นคนรับใช้ของตระกูลหลิน พวกเขาเคยเห็นเฉินโม่สังหารคนของตระกูลหลินมาแล้ว ถึงแม้เฉินโม่จะให้หลินเสวี่ยบริหารตระกูลหลิน แต่สองคนรู้ดีว่าเฉินโม่คือเจ้าของตระกูลหลินที่แท้จริง
“หลินเสวี่ยอยู่ไหน?”เฉินโม่ถามด้วยน้ำเสียงเบาๆ
สองคนสบตากัน สีหน้าของพวกเขาแย่มากๆ:”คุณเฉิน หลายวันก่อนมียอดฝีมือลึกลับพาตัวเจ้าบ้านหลินเสวี่ยไปแล้ว ก่อนที่คนๆนั้นจะจากไป เขาบอกว่าจะรอคุณเฉินอยู่ที่หุบหายชีพ!”
“หุบหายชีพอยู่ตรงไหน?”เฉินโม่ถาม
“อยู่ทิศตะวันตกห่างออกไปสามสิบกิโลเมตร ตรงนั้นเป็นที่กันดารและไม่มีคนอยู่ สามารถหาสถานที่นั้นได้อย่างง่ายดาย”
เมื่อเด็กเฝ้าประตูสองคนพูดจบ ก็เงยหน้าขึ้นมามองเฉินโม่ทันที แต่พวกเขาพบว่าเฉินโม่หายตัวไปแล้ว
คฤหาสน์ของตระกูลหลินอยู่ห่างไกลจากผู้คน เวลาตีสามแล้ว เฉินโม่หารถแท็กซี่ไม่ได้เลย เขาทำได้แค่เดินเท้าไปหุบหายชีพเท่านั้น
เฉินโม่เดินเร็วมากๆ เมื่อเขาก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าว ระยะเท้าประมาณห้าถึงหกเมตร ระยะทางสามสิบกิโลเมตร เขาเดินไม่นานก็ถึงแล้ว
เมื่อมองเห็นภูเขาเตี้ยๆที่เต็มไปด้วยหญ้ารกๆ เฉินโม่รู้ได้ทันที:”น่าจะเป็นตรงนี้แหละ”
ทิศตะวันออกเริ่มมีแสงแดดอ่อนๆแล้ว เท้าของเฉินโม่ไม่ได้เหยียบโดนพื้นดินเลย เขาเหยียบอยู่บนหญ้าและบินเข้าไปในหุบเขาหายชีพทันที
ตำหนักใหญ่ของหุบหายชีพ เพลิงไฟกำลังแผดเผาอยู่ในกระถางอันใหญ่อย่างร้อนแรง ทำให้อุณหภูมิในตำหนักใหญ่อุ่นมากๆราวกับฤดูใบไม้ผลิ มีหนังจิ้งจอกอันสวยงามและหรูหราปูอยู่ที่พื้น มีผู้หญิงเจ็ดแปดคนที่ใส่เสื้อผ้าบางๆและนอนอยู่บนพื้น
สีหน้าของพวกเธอแดงผิดปกติและก็อิดโรยมากๆ ราวกับพึ่งผ่านการมีสัมพันธ์อันลึกซึ้งมา
เก้าอี้ที่อยู่ด้านหน้าสุด กุยโหย่กวงไม่ใส่เสื้อผ้าอะไรเลย เขาเป็นผู้ชายหน้าตาดี เขากำลังจับแก้วไวน์อยู่ และกำลังดื่มไวน์แดงที่อยู่ในแก้วอย่างมีความสุข