บทที่ 7 มีบางอย่างผิดปกติกับวิญญาณรับใช้ของดาร์ก เดม่อน

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี [反派少爷只想过佛系生活]

บทที่ 7 มีบางอย่างผิดปกติกับวิญญาณรับใช้ของดาร์ก เดม่อน

ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนใหม่จากบ้านขุนนาง หรือนักเรียนใหม่จากบ้านอัศวิน ทุกคนในห้องต่างอดไม่ได้ที่จะหันไปพูดคุยกันทันทีที่พวกเขาได้ยินคำว่า ‘ถ้วยต้องประสงค์’ ออกมาจากปากของศาสตราจารย์ซิลเวอร์

โรเบิร์ตดูเหมือนจะไม่รู้ตัวถึงความยุ่งยากที่เขาก่อขึ้นก่อนหน้านี้ เขายังเป็นนักเรียนใหม่ที่มีเสียงดังที่สุดของบ้านอัศวินและตะโกนด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นจนคอเปลี่ยนเป็นสีแดง

“นี่เวอร์เธอร์! นายได้ยินที่ศาสตราจารย์พูดไหม ตราบใดที่เราได้ถ้วยต้องประสงค์ ทุกคนจากบ้านอัศวินจะสามารถขอพรได้!”

“อย่าเพิ่งตื่นเต้นไปเลยโรเบิร์ต ศาสตราจารย์เพียงแค่บอกว่าเราจะมีโอกาสขอพร แต่ไม่ได้บอกว่ามันจะทำให้ความปรารถนานั้นเป็นจริงได้เสียหน่อย”

แม้ว่าเวอร์เธอร์จะตื่นเต้นมาก ทว่าเขายังคงรักษาจิตใจไว้ได้อย่างมั่นคงซึ่งตรงกันข้ามกับโรเบิร์ต

อีกด้านหนึ่งของห้อง เสียงของไดแอนนานั้นดังที่สุดในบรรดานักเรียนจากบ้านขุนนาง เธอตะโกนใส่โรสอย่างตื่นเต้น แต่ก็เห็นได้ชัดว่ายังไม่พอใจขณะที่เธอกระโจนไปยังที่นั่งของดาร์กและตะเบ็งเสียงดัง “ถ้าเราได้ถ้วยต้องประสงค์มา ฉันอยากจะขอผนังช็อกโกแลต โคมไฟแคนดี้ เตียงท็อปเค้กนุ่ม ๆ พรมเค้กน้ำตาล และบ้านขนมไก่ทอดพุดดิ้ง!”

เมื่อได้ยินไดแอนนาอธิบายลักษณะของบ้านขนมที่เธอต้องการอย่างกระตือรือร้น ดาร์กก็เกือบจะถูกครอบงำจากอารมณ์ร่าเริงสุดเหวี่ยงของเด็กหญิง

เมื่อสังเกตว่าแจ้งเตือน [โลภะ +1] ของเขายังไม่ปรากฏขึ้นมา ดาร์กก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นเขาก็ยิ้มให้ไดแอนนาและเตือนเธอว่า “ไดแอนนา ผู้ที่โลภจะไม่ได้รับอะไรเลยนะ”

หากถ้วยต้องประสงค์สามารถเติมเต็มความปรารถนาใด ๆ ได้จริง ๆ ไม่มีทางที่สิ่งของที่มีพลังอำนาจเช่นนั้นจะถูกใช้เป็นรางวัลสำหรับนักเรียนของสถาบันเซนต์แมเรียน

เมื่อพิจารณาจากคำจารึกที่เขียนบนถ้วยต้องประสงค์ ความปรารถนาส่วนใหญ่ที่บรรลุผลคงมีเฉพาะเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น

‘ไม่อย่างนั้น ฉันคงขอให้เอา ‘เลือดของจอมมาร’ ที่ไหลเวียนอยู่ภายในตัวกับระบบโง่ ๆ นี่ออกไปจากร่างด้วย!’

คราวนี้ ศาสตราจารย์ซิลเวอร์ไม่ได้ใช้การ์ด [เงียบสงัด] แต่รอให้ทุกคนลดเสียงลงก่อนจะพูดว่า “นอกจากการตัดสินผู้ชนะของถ้วยบ้านแล้ว คะแนนยังเป็นสกุลเงินของสถาบันเซนต์แมเรียนด้วย ส่วนการใช้คะแนนเหล่านี้ เธอสามารถไปที่ถนนนักเดินทางเพื่อซื้ออะไรก็ได้ตามที่เธอต้องการ แล้วยังสามารถใช้มันเป็นวิธีในการแลกเปลี่ยนกับครูหรือนักเรียนจากสถาบันเซนต์แมเรียนได้ แน่นอนว่าทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกไว้ด้วยการ์ดคัดสรร สถาบันจะยอมรับการทำธุรกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น เพื่อให้เข้าใจชัดเจน ทุกคนในที่นี้ ใครรู้วิธีได้รับคะแนนบ้าง?”

ศาสตราจารย์ซิลเวอร์วางมือบนโต๊ะขณะกวาดสายตาไปทั่วห้องด้วยใบหน้าแสนจริงจัง

ในฐานะลูกครึ่งเอลฟ์แล้ว ศาสตราจารย์ซิลเวอร์จึงได้สืบทอดความงามอันเกินจริงและอายุขัยที่ยืนยาวของเอลฟ์มา

แม้ว่าท่าทีจะดูจริงจังอยู่เสมอ แต่ในตอนที่อยู่คนเดียวเธอก็ยังมีความอ่อนแอให้เห็นอยู่

และเพราะอย่างนั้นมันจึงกลายมาเป็นจุดขายของเธอ

ใน ‘ดูเอล! เซนต์แมเรียน ซูเปอร์ XX อะคาเดมี!’ ศาสตราจารย์ซิลเวอร์เป็นอาจารย์ที่โด่งดังที่สุดในหมู่ผู้เล่น และแน่นอนว่าเธอเป็นตัวละครที่จีบได้ด้วย

ถ้าเธอไม่ได้สร้างความประทับใจแรกด้วยภาพลักษณ์ที่จริงจังและเข้มงวดซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เสน่ห์และความน่าชื่นชอบของเธอลดลงเช่นนี้ ‘พลังอันยิ่งใหญ่’ ของดาร์กอาจระเบิดอีกครั้ง

และถ้ามันเกิดขึ้นจริง ก็ไม่สำคัญแล้วว่าตอนนั้นเขาจะเข้าชั้นเรียนของเธอได้หรือไม่ แต่ถามว่าตายแล้วหรือยังจะดีกว่า

เมื่อได้ยินคำถามของศาสตราจารย์ซิลเวอร์ นักเรียนจากทั้งสองบ้านก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นเหมือนกับดาร์ก คือไม่สนใจกฎของสถาบันมากนัก

หลังจากนั้นไม่นาน นักเรียนหญิงคนหนึ่งก็ยกมือขึ้น

ศาสตราจารย์ซิลเวอร์หันไปทางนักเรียนและเรียกชื่อเธอโดยตรงว่า “เอ็มม่า มอร์ติส เชิญเธอตอบได้”

เอ็มม่า มอร์ติสเป็นเด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาลที่มีใบหน้าเกลี้ยงกลมเหมือนเด็ก เธอดูเติบโตช้ากว่าคนรอบข้างแต่อย่างน้อยก็ยังสูงกว่าไดแอนนา

เด็กหญิงรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อยืนขึ้นจนเผลอกัดลิ้นตัวเอง หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ตอบเรียบ ๆ ว่า “มีหลายวิธีที่จะได้รับคะแนนค่ะ วิธีที่ง่ายที่สุด คือการตั้งใจเรียน ซึ่งในแต่ละคาบคุณจะได้รับสิบคะแนน การตอบคำถามของอาจารย์ถูกต้องก็สามารถทำให้ได้รับคะแนนพิเศษอีกด้วย นอกจากนี้ ผลการสอบปลายภาคยังสามารถแปลงเป็นคะแนนได้… และ เอ่อ… ใช่แล้ว ยังได้โดยการเข้าร่วมในการประลองเวทมนตร์ด้วยค่ะ!”

“ดีมาก มอร์ติส ฉันให้เธอห้าคะแนน”

ศาสตราจารย์ซิลเวอร์ปรบมือและบอกให้เอ็มม่านั่งลง “แน่นอนว่าถ้าพวกเธอตอบคำถามของอาจารย์ถูกต้องก็จะได้คะแนนพิเศษไป แต่ถ้าพวกเธอคนไหนประพฤติตัวไม่ดีในชั้นเรียน อาจารย์ก็มีสิทธิ์ที่จะหักคะแนนบางส่วนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการประลองเวทมนตร์ในสถาบันเซนต์แมเรียนที่ถือว่ามีความสำคัญมาก ตรงนี้ทุกบ้านที่เข้าร่วมจะได้รับคะแนนจำนวนมหาศาล ส่วนวิธีการเข้าร่วมนั้น ศาสตราจารย์ที่ดูแลการประลองจะเป็นคนบอกเธอเอง เอาล่ะ ตอนนี้มาเริ่มคาบเรียนของเราอย่างเป็นทางการกันเถอะ เปิดตำราคู่มือการอัญเชิญเบื้องต้นของพวกเธอซะ”

“คุณสาวน้อยผู้รู้ทุกเรื่องงั้นเหรอ?”

ดาร์กเหลือบมองแผ่นหลังของเอ็มม่าอีกครั้ง แล้วก็นึกได้ว่าเธอน่าจะเป็นนางเอกคนสุดท้ายในกลุ่มฮาเร็มของตัวเอก

แต่เพราะเส้นผมสีน้ำตาลนุ่มฟูของเอ็มม่า และใบหน้าที่เหมือนเด็กนั้นไม่ได้ทำให้ดาร์กรู้สึกสนใจ

อีกอย่างเขาไม่อยากติดต่อกับสมาชิกฮาเร็มเท่าไหร่ แต่ก็ก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องหลีกเลี่ยงพวกเขาโดยเจตนา

โดยเฉพาะกับความจริงที่ว่าเขาไม่ถูกความเป็นนางเอกดึงดูดให้เข้าหาเลย

หลังจากนั้น ศาสตราจารย์ซิลเวอร์ก็เริ่มสอนเกี่ยวกับเทคนิคการอัญเชิญขั้นพื้นฐานที่สุด

การอัญเชิญเป็นสิ่งที่สร้างจากการ์ดเวทมนตร์ ซึ่งสามารถอัญเชิญสิ่งต่าง ๆ ที่ถูกผนึกอยู่ภายในการ์ดออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณ ไอเทม ยาพิษหรือยารักษาและอื่น ๆ

และว่ากันว่ายังมีเทคนิคการอัญเชิญอีกมากมาย เช่น การอัญเชิญด้วยวิธีบูชายัญ การอัญเชิญด้วยวิธีการหลอมรวม การอัญเชิญด้วยพิธีกรรม และการอัญเชิญแบบย้อนกลับ

การ์ดเวทมนตร์บางใบถึงกับมีคาถาอัญเชิญแบบพิเศษด้วย!

ความชำนาญของเทคนิคอัญเชิญจะกำหนดจากจำนวนการ์ดเวทมนตร์ที่จอมเวทสามารถใช้พร้อมกันได้

พูดง่าย ๆ ก็คือถ้าคุณต้องใช้ห้าวินาทีในการร่ายคาถาอัญเชิญ ส่วนคู่ต่อสู้ของคุณใช้เวลาแค่เพียงสามวินาที เขาก็จะโจมตีได้เร็วกว่าคุณได้สองวินาที

และถ้าถึงเวลาคูลดาวน์ คาถาอัญเชิญของคุณจะใช้เวลานานถึงสามสิบวินาที นั่นหมายความว่าคุณไม่มีโอกาสใช้การ์ดเวทมนตร์ใบที่สามภายในเวลาหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ

เช่นเดียวกับที่โรมัน ฟอมีน็อค ปรมาจารย์จอมเวทชื่อดังเคยกล่าวไว้ว่า ‘การอัญเชิญสามารถกำหนดขีดจำกัดสูงสุดและต่ำสุดของคู่ต่อสู้ได้’

แบบฝึกหัดที่นักเรียนต้องทำในบทเรียนนี้ คือใช้เทคนิคการอัญเชิญเรียกวิญญาณรับใช้ซึ่งถูกผนึกไว้ในการ์ดคัดสรรออกมา

ศาสตราจารย์ซิลเวอร์ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการอธิบายเกี่ยวกับระเบียบข้อบังคับของสถาบัน อีกครึ่งชั่วโมงสอนทฤษฎีเบื้องต้นของการอัญเชิญ และอีกครึ่งที่เหลือก็ให้นักเรียนได้ลองปฏิบัติ

หลังจากที่ดาร์กแน่ใจแล้วว่าค่า [โลภะ] ไม่ได้เพิ่มขึ้น เขาก็พยายามใช้เทคนิคการอัญเชิญโดยทำตามขั้นตอนที่เขียนไว้ในตำราเรียน

เป็นเพราะในห้องเล่นตอนเช้า ดาร์กจึงได้เตรียมตัวมาก่อนแล้ว ตอนนี้ความก้าวหน้าจึงเร็วกว่านักเรียนใหม่ส่วนใหญ่

อีกอย่างการ์ดคัดสรรยังเป็นไอเทมสำหรับผู้เริ่มต้น การตั้งค่าเปิดใช้งานการอัญเชิญจึงง่ายกว่าการ์ดเวทมนตร์ทั่วไป

แล้วก็บึ้ม! ดาร์กอัญเชิญวิญญาณรับใช้ซึ่งถูกผนึกไว้ในการ์ดคัดสรรสำเร็จตอนเวลาเก้าโมงครึ่ง!

การ์ดคัดสรรเป็นการ์ดเวทมนตร์ชนิดหนึ่งซึ่งพิเศษมาก มันมีฟังก์ชันในตัวที่ทรงพลังค่อนข้างมาก

เพราะตัวนักเรียนจะเป็นคนที่ทำขั้นตอนสุดท้ายของการผลิตการ์ดคัดสรรได้สำเร็จ วิญญาณรับใช้ที่แต่ละคนอัญเชิญออกมาจึงแตกต่างกัน

“ในนามของดาร์ก เดม่อน ขออัญเชิญวิญญาณรับใช้!”

การใช้การ์ดคัดสรรเพื่ออัญเชิญช่วยลดความยากได้อย่างมาก เนื่องจากฟังก์ชันคาถาอัญเชิญพิเศษของการ์ด

ขณะที่ดาร์กร่ายคาถาอย่างถูกต้อง พลังเวทมนตร์ในร่างกายก็ถูกถ่ายเทลงไปในการ์ดคัดสรรผ่านปลายนิ้วของเขา

ฉับพลัน การ์ดคัดสรรส่องแสงจ้าขึ้นมาดึงดูดความสนใจของนักเรียนทุกคนในห้อง

เอ็มม่าซึ่งดูเนื้อหาเรียนล่วงหน้ามาก่อนแล้วแต่ก็ยังคงล้มเหลว แม้เธอจะพยายามอัญเชิญครั้งแล้วครั้งแล้วก็ยังอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง

หลังแสงสีขาวส่องประกายสงบลง เธอก็มองเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาและแววตาที่สงบของดาร์ก เมื่อเห็นภาพนั้นไปเด็กสาวก็อดทอดถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เพราะมันสร้างความประทับใจให้กับเธอได้อย่างลึกซึ้ง

เอ็มม่ากัดฟันเลิกมองดาร์ก เพราะไม่อยากเห็นสิ่งที่เขาอัญเชิญ เธอพลิกดูตำราอย่างรวดเร็ว ค้นหาจุดที่อาจพลาดไปก่อนจะลองอัญเชิญอีกครั้ง

นิสัยชอบแข่งขันของเธอถูกเปิดเผยออกมาอย่างสมบูรณ์

ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เอ็มม่าคิด ดาร์กกำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก

เขาทันสังเกตเห็นว่าพลังเวทมนตร์ที่ถูกถ่ายเทลงในการ์ดคัดสรรนั้นพุ่งเร็วและเร็วขึ้นราวกับว่ามันกำลังดูดซับพลังเวทมนตร์ทั้งหมดของเขา!

พลังเวทมนตร์ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการตื่นของสายเลือดจอมมารนั้นใกล้จะหมดแล้ว

และในขณะเดียวกันวงแหวนเวทมนตร์รูปหกเหลี่ยมก็ปรากฏขึ้นบนการ์ดคัดสรร!

“นี่มัน…!”

เมื่อเห็นวิญญาณรับใช้ที่เขาอัญเชิญผ่านการ์ดคัดสรรมาได้ ดาร์กก็รู้สึกว่าปัญหาใหญ่ของเขาเพิ่งเริ่มขึ้น

สิ่งที่ปรากฏออกมานั้นเป็นปีศาจตัวน้อยที่มีลักษณะเหมือนค้างคาว

อีกทั้งยังไม่ใช่ปีศาจตัวน้อยธรรมดาเสียด้วย!