บทที่ 330
บทที่ 330

ตงเฉิงมีสีหน้าที่อึดอัดก่อนจะพูด “ฝ่าบาท ข้าน้อยคิดว่าเรื่องราวในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับตำแหน่งผู้สืบทอดบัลลังก์”

เช่าติงกะพริบตาปริบ ๆ

ตงเฉิงไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ “ฝ่าบาท ท่านคิดว่าถ้าองค์ชายเช่าฟ๋างถูกทำร้าย ใครกันที่จะได้ผลประโยชน์มากที่สุด ?”

เช่าฟ๋างเป็นองค์ชายรองแคว้นโม เป็นคนที่มีโอกาสจะได้เป็นอ๋องมากที่สุดรองลงมาจากองค์ใหญ่ที่ตาบอด เช่าติงตะลึงก่อนจะส่ายหัว “เป็นไปไม่ได้ เช่าโป๋วไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่ เขาเป็นคนดีจะตาย”

ตงเฉิงถอนหายใจ “ฝ่าบาท ท่านยังไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง ตำแหน่งอ๋องนั้นสามารถทำให้ใจคนเปลี่ยนได้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว”

พวกองค์ชายโตขึ้นมาในตำหนักของตนข้างนอกราชวัง เช่าติงจึงแทบไม่ค่อยได้เจอกับลูกชายตัวเองสักเท่าไหร่ เขาแทบไม่รู้จักลูกของตัวเองจริง ๆ เลยด้วยซ้ำ

…ทำให้ท่านอ๋องที่ได้ยินแบบนั้น เขาก็พลันก้มหัวแล้วพึมพำกับตัวเอง

ตงเฉิงรู้ว่าเช่าติงกำลังคิดหนัก จึงได้พูดต่อ “แม้ว่าข้าน้อยจะไม่รู้ว่าท่านเลือกใครในดวงใจ แต่ข้าขอเตือนท่านไว้ก่อนเลยว่าท่านต้องตัดสินใจให้ดี ๆ ไม่งั้นแล้วอาจเกิดการนองเลือดในราชสำนักก็เป็นได้”

ตงเฉิงไม่ได้พูดถึงใครเป็นพิเศษ แต่คำพูดนี้ก็มีความหมายในตัวของมันเองอยู่แล้ว ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้เช่าติงช็อกหนักกว่าเดิม เขาเริ่มคล้อยตามความคิดที่คิดว่าเช่าโป๋วจัดการลอบสังหารเช่าฟ๋างขึ้นมาบ้างแล้ว

ตงเฉิงรีบพูดต่อ ”ฝ่าบาท คนที่จัดการลอบสังหารครั้งนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่แน่ ฝ่าบาทต้องระวังตัวเองเอาไว้ให้ดี”

“เขากล้าขนาดนั้นเชียวหรือ ?” คำพูดนี้ทำให้เช่าติงโกรธจัดจนกำหมัดแน่น

ตงเฉิงพูดอย่างช้า ๆ “หากเป็นเมื่อก่อนข้าก็ไม่คิดว่าจะมีใครทำแบบนี้ได้ แต่ตอนนี้ข้าได้เห็นมันด้วยตาตัวเองแล้ว ข้าจึงคิดได้ว่าฝ่าบาทเองก็ไม่ค่อยลดการระวังตัวลง”

เมื่อได้ฟังแบบนี้ เช่าติงก็ยิ่งโกรธหนักขึ้นไปอีก

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับราชสำนักของเรา ที่ได้มีองค์ชายบางคนทำการตั้งกลุ่มเพื่อหวังชิงผลประโยชน์หลังจากที่ท่านตายลง เรื่องนี้อันตรายมากเกินไป”

“ทำไมเจ้าไม่รีบบอกข้าก่อนหน้านี้กัน ?” เช่าติงถาม

“ข้าแกล้งทำเป็นไม่เห็นอะไร เพราะคิดว่ามันยังไม่เลวร้ายมาก แต่ตอนนี้ …เมื่อเริ่มมีการลงมือฆ่ากันแล้ว ข้าน้อยจึงไม่อาจนิ่งเฉยได้อีก !” ตงเฉิงกล่าวอย่างกังวล

เช่าติงทุบเก้าอี้อย่างฉุนเฉียว “นี่มันชักจะเกินไปแล้ว ! ท่านตง เช่าฟ๋างมีปัญหากับใครในราชสำนักบ้างกัน ?”

ชายแก่รีบกล่าว “ตามที่ข้าน้อยรู้ องค์ชายเช่าฟ๋างไม่เคยสนิทหรือมีปัญหากับใครเลย”

“แล้วเช่าโป๋วเล่า ?”

“เอ่อ…”

“มีอะไรก็พูดมา !”

“คนที่กุมอำนาจมากที่สุดรองจากท่านในตอนนี้ก็คือองค์ชายเช่าโป๋ว”

เช่าติงแทบไม่เชื่อในหูของตัวเอง ลูกชายคนนี้ของเขาชักจะเอาใหญ่แล้วที่จัดตั้งกลุ่มอำนาจของตัวเองแบบนี้

ตงเฉิงถอนหายใจ “มันเรื่องจริงฝ่าบาท ลองสังเกตพวกขุนนางทั้งหลายที่คล้อยตามเช่าโป๋ว เวลามีการประชุมในราชสำนักดูสิฝ่าบาท”

ด้วยการเตือนนี้ เช่าติงก็พลันตัวสั่นเทา เพราะเช่าโป๋วคือคนที่มักได้รับการสนับสนุนจากคนในวังมาโดยตลอด !

เช่าติงเต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนจะตัวอ่อน นั่งลงจากเก้าอี้ เขานั่งเงียบอยู่แบบนั้นเป็นเวลานาน

การสังหารเช่าฟ๋างทำให้เขาเข้าใจลูกชายตัวเองเปลี่ยนไปทันที ลูกชายที่เขาเกลียดที่สุดกลายเป็นคนดี แทนที่ลูกชายที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นคนดีที่สุดไป ทำให้เขาไม่รู้ว่าจะต้องเชื่อใจใครดี

ตงเฉิงสังเกตได้จากสีหน้าของอ๋อง ก็เดาได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ “ไม่ว่าจะเป็นยังไง คนที่รอดครั้งนี้ก็คือเช่าฟ๋าง เขาคือคนที่ท่านต้องเชื่อใจมากที่สุดในเวลานี้ ท่านต้องปรับความเข้าใจกับเขาใหม่”

“ท่านตงพูดถูก” เช่าติงพยักหน้า

เพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งอันสูงส่ง พวกองค์ชายต่างก็ต้องเร่งคว้าตัวขุนนางเอาไว้ข้างกายเพื่อเพิ่มอำนาจให้กับตนเอง แต่คำพูดของตงเฉิง มันกลับสามารถกลบเรื่องที่ว่าได้ภายในชั่วพริบตา !

เช่าฟ๋างดูเหมือนจะบาดเจ็บหนักแต่ก็ไม่เป็นอะไรเลย เขาตื่นเช้าขึ้นมาด้วยกำลังวังชาเต็มเปี่ยม ทว่าเขาก็พยายามทำเป็นว่ามีบาดแผลร้ายแรงแล้วแกล้งนอนสลบต่อไป

เวลาผ่านไป 3 วัน

ในช่วงเวลานี้เช่าติงกระวนกระวายมาก พวกหมอหลวงถูกเรียกตัวมาดูแลอาการไม่เว้นวัน ทำให้พวกหมอนไม่เข้าใจ ว่าแผลก็หายดีแล้วไม่ใช่หรือ แต่ทำไมองค์ชายยังไม่ฟื้นกัน ?

อีกด้านหนึ่ง เหยาเปินที่หานักฆ่าในเมืองก็ยังไม่เจอร่องรอยใด ๆ ทั้งนั้น เขาคิดว่าจะต้องถูกลงโทษเสียแล้ว ถ้าไม่ติดที่ว่าท่านอ๋องเลือกปล่อยประเด็นนี้ไปก่อน

ตอนนี้เช่าฟ๋างพักอยู่ที่ราชวังแล้ว ส่วนท่านอ๋องในขณะนี้ก็กำลังทำการสืบเรื่องนี้ให้ลึกลงไปอีก แน่นอนว่าเพราะได้หน่วยลับของถังหยินเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย เลยทำให้ทุกอย่างไปเป็นได้ด้วยดี และก็เพราะแบบนี้ ที่ทำให้ตงเฉิงลดความระวังตัวต่อถังหยินลงไปเยอะ

ในเย็นวันที่สาม ถังหยินพาซงหยวนกับพี่น้องฉางกวงไปที่จวนของเสนาบดีเพื่อไปพบกับตงเฉิงในห้องหนังสือ ถังหยินประกบมือแล้วพูดเข้าประเด็นทันที “ท่านตง ฝ่าบาทรู้สึกตัว ‘วันนี้’ หรือ ?”

ชายแก่พยักหน้าให้ “ถูกต้อง ฝ่าบาทได้บอกข้าว่าพระองค์จะ ‘รู้สึกตัว’ วันนี้”

ถังหยินถาม “แล้วท่านอ๋องเล่า ทรงว่าไงบ้าง ?”

“ท่านดีใจและตื่นเต้นมากเลยล่ะ”

ถังหยินพยักหน้าให้ เรื่องนี้ไม่เกินความคาดหมายของเขา “ถ้างั้นแล้วเรื่องตำแหน่งรัชทายาท ?”

ตงเฉิงกล่าวอย่างจริงจัง “ตอนนี้ท่านอ๋องเริ่มลังเลเกี่ยวกับเช่าโป๋วแล้ว แต่การจะให้เลือกเช่าฟ๋างนั้น …ยังต้องใช้เวลา”

ถังหยินครุ่นคิดก่อนจะพูด “ด้วยการช่วยเหลือของท่านตง ทุกอย่างจึงสำเร็จได้ การเดินทางของข้ามายังที่นี่คุ้มค่าแล้ว ข้าจึงมาขอลากับท่านและฝ่าบาทเพื่อกลับไปยังแคว้นเฟิง”

ได้ยินว่าถังหยินกำลังจะกลับไป ตงเฉิงก็ใจหาย เพราะถ้าเกิดว่าถังหยินกลายเป็นภัยต่อแคว้นโม นี่ก็ถือเป็นเวลาที่เหมาะแก่การกำจัดเขามากที่สุดแล้ว แต่ชายชราก็ปฏิเสธความคิดนี้ทิ้งไป ด้วยถังหยินจะตายไม่ได้ ทางที่ดี อีกฝ่ายควรจะต้องมีชีวิตต่อไป เพื่อเอาไว้ใช้ประโยชน์ต่อในภายหลัง

คิดได้แบบนั้น ชายแก่ก็ลุกขึ้นแล้วพยายามยื้อเอาไว้ “เจ้าอยู่ต่ออีกสักหน่อยไม่ได้หรือ ?”

ถังหยินส่ายหัว “ข้ารอได้ แต่สถานการณ์ในบ้านเมืองของข้ามันรอไม่ได้หรอก”

ตงเฉิงพยักหน้าเห็นด้วย “ถ้าเป็นเรื่องนั้น ข้าก็ไม่ฝืนใจเจ้าก็แล้วกัน แล้วเจ้าจะไปวันไหนล่ะ ?”

“มะรืนนี้เลย” ถังหยินตอบ

“เยี่ยมเลย ข้าจะไปส่งเจ้าแน่นอน”

“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ท่านตง”

“เจ้าไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า”

ถังหยินบอกว่าจะเดินทางวันมะรืนนี้ก็จริง แต่หลังจากออกมาจากจวน เขาก็พลันดีดนิ้วเรียกเฉิงจินและเจียงโมออกมา “นายท่านต้องการสิ่งใด ?”

“เก็บของ เราจะออกเดินทางพรุ่งนี้”

ทั้งสองตอบรับคำสั่งพร้อมกันแล้วหายไปในทันที

ซงหยวนถามอย่างงุนงง “นายท่านบอกว่าเราจะเดินทางวันมะรืนนี้ไม่ใช่หรือ ?”

ถังหยินถอนหายใจ “ไอ้แก่เจ้าเล่ห์นั่นเห็นข้าเป็นศัตรูตัวฉกาจ ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาจะเล่นลูกไม้อะไรใส่ข้าอีก”

ซงหยวนหัวเราะอย่างเรียบเฉย “นายท่านก็คิดมากเกินไปแล้ว ตอนนี้พวกเราเป็นภัยน้อยกว่าพวกหนิงเสียอีก พวกโมต้องให้ความร่วมมือกับเราอยู่แล้ว ตงเฉิงคงไม่คิดร้ายกับท่านหรอก”

“ที่เจ้าพูดมามันก็ถูก แต่ระวังตัวไว้หน่อยก็ดี” ถังหยินยักไหล่

ซงหยวนไม่พูดอะไรต่อ เขาเลือกที่จะเงียบ

ชายหนุ่มออกเดินทางในรุ่งเช้าวันถัดมา โดยปลอมตัวเป็นชาวเมืองธรรมดาเช่นเดียวกับตอนที่เขาเข้ามาปะปนไปกับกองคาราวานของเจาจู ทว่าถึงจะเป็นแบบนั้น เขาก็ได้จัดวางสายลับเอาไว้ในเมืองเพื่อให้รายงานเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับพวกโม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข่าวที่เกี่ยวกับเช่าฟ๋าง !