บทที่ 9 ดาร์ก เดม่อนบังเอิญเข้าไปในถ้ำปีศาจ

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี [反派少爷只想过佛系生活]

บทที่ 9 ดาร์ก เดม่อนบังเอิญเข้าไปในถ้ำปีศาจ!

ศาสตราจารย์วิชาเวทมนตร์พื้นฐาน คือศาสตราจารย์เคเซอร์ นักเล่นแร่แปรธาตุที่มีสายเลือดก็อบลิน!

ในยุคที่เทคโนโลยีเวทมนตร์ค่อย ๆ เข้ามาแทนที่การเล่นแร่แปรธาตุแบบโบราณ สถานะของศาสตราจารย์เคเซอร์ก็ดูอึดอัดเล็กน้อย

ถึงกระนั้น มันก็ไม่ได้ขัดขวางไม่ให้เขามีทักษะเวทมนตร์ที่เทียบเท่ากัน

ในคาบเรียนแรกของเขา ศาสตราจารย์เคเซอร์ไม่ได้กล่าวถึงข้อมูลที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับเวทมนตร์ แต่แนะนำข้อเท็จจริงพื้นฐานบางประการเกี่ยวกับการ์ดเวทมนตร์ให้กับนักเรียนเท่านั้น

การ์ดเวทมนตร์แบ่งออกเป็นห้าประเภท ได้แก่ การ์ดวิญญาณ การ์ดเวทมนตร์ การ์ดไอเท็ม การ์ดเวทสนาม และการ์ดพลังอาร์คานา

นอกจากนี้ยังมีการ์ดศักดิ์สิทธิ์และการ์ดลี้ลับอีกด้วย!

การ์ดศักดิ์สิทธิ์คือการ์ดที่มี ‘พลังศักดิ์สิทธิ์’

ส่วนการ์ดลี้ลับหมายถึง ‘การ์ดเร้นลับ’!

ศาสตราจารย์เคเซอร์พูดถึงการ์ดวิญญาณเป็นหลักในคาบเรียนนี้

การ์ดวิญญาณเป็นประเภทหนึ่งของการ์ดเวทมนตร์ที่สามารถอัญเชิญสปิริตได้!

การ์ดวิญญาณส่วนใหญ่มีข้อมูลเจ็ดชุด

หนึ่งคือ ‘ชื่อจริง’ เป็นชื่อเฉพาะเมื่อมีการเรียกชื่อจริงเท่านั้นถึงจะสามารถอัญเชิญสปิริตได้

สองคือ ‘เลเวล’ โดยเลเวลของวิญญาณจะถูกแสดงด้วยจำนวนดวงดาว การอัญเชิญแบบปกติสามารถอัญเชิญสปิริตที่มีหนึ่งถึงสี่ดาวเท่านั้น ส่วนสปิริตที่มีจำนวนดาวมากกว่านั้นจำเป็นต้องใช้การอัญเชิญแบบพิเศษ

สามคือ ‘เผ่า’ การ์ดวิญญาณมีทั้งหมดสิบห้าเผ่าพันธุ์ เผ่ามนุษย์ เผ่าอมนุษย์ เผ่ามังกร เผ่านางฟ้า เผ่าปีศาจ เผ่าอันเดด เผ่าธาตุ เผ่าภูต เผ่าจักรกล เผ่าแมลง เผ่าสัตว์เลื้อยคลาน เผ่านกและสัตว์ เผ่าพืช เผ่าปลา และเผ่าเทพ

สี่คือ ‘คุณสมบัติ’ การ์ดวิญญาณจะมียี่สิบคุณสมบัติ ซึ่งได้แก่ปกติ ไฟ น้ำ ไฟฟ้า หญ้า น้ำแข็ง ต่อสู้ พิษ ดิน บิน พลังจิต แมลง หิน ผี มังกร มืด เหล็ก ภูต แสง และเงา

ห้าคือ ‘พลังเวทมนตร์’ ในที่นี้หมายถึงทั้งค่าพลังชีวิตและพลังงานที่ใช้สำหรับกระบวนท่าพิเศษ เมื่อพลังเวทมนตร์กลับไปเป็นศูนย์ สปิริตจะหายไป และไม่สามารถอัญเชิญได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ จนกว่าพลังเวทจะเต็ม

หกคือ ‘พลังโจมตีและพลังป้องกัน’ โดยความสามารถในการโจมตีและป้องกันของสปิริตสามารถแสดงได้ด้วยค่าตัวเลข

เจ็ดคือ ‘ท่าไม้ตาย’ หรือสกิลวิญญาณ เนื่องจากการปลดปล่อยสกิลจำเป็นต้องใช้พลังเวทมนตร์ การ์ดสีขาวจึงนับว่าไม่มีสกิล การ์ดสีน้ำเงินมีหนึ่งสกิล การ์ดสีม่วงมีสองสกิล และการ์ดสีส้มมีสามสกิล

เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ศาสตราจารย์เคเซอร์จึงหยิบการ์ดวิญญาณออกมาสาธิตให้ดู

ด้านหน้าของนักเรียนใหม่ที่ไร้ซึ่งความกระตือรือร้นมีงูหลามสีขาวที่ปล่อยไอเย็นยะเยือกถูกอัญเชิญออกมา!

งูหลามยักษ์สี่ดาวประเภทสัตว์เลื้อยคลาน มีน้ำค้างเกาะเป็นน้ำแข็ง ทำให้นักเรียนเหล่านี้ตกใจเป็นอย่างมาก!

เมื่อจบคาบเรียนเวทมนตร์พื้นฐาน นักเรียนใหม่จึงรีบออกจากห้องเรียนราวกับว่าพวกเขาได้รับอิสรภาพและวิ่งตรงไปที่โรงอาหารกันเป็นกลุ่ม

สำหรับนักเรียนในวัยนี้ คาบวิชาเวทมนตร์พื้นฐานค่อนข้างน่าเบื่อ

แต่ดาร์กตั้งใจฟังมาก!

ก่อนที่คาบเรียนจะจบลง เขาเห็นแจ้งเตือน [โลภะ +1] แล้ว!

แต่ต่อมาเขาพบว่า

สิ่งที่เรียกว่าความโลภนั้นคล้ายกับความรู้สึกในใจ ซึ่งเกินกว่าจะเป็นความปรารถนาธรรมดา!

‘ความปรารถนาที่จะบรรเทาสถานการณ์ปัจจุบัน’ ของเขาถือเป็น [โลภะ]

แม้ว่าเขาจะจงใจทำเป็นไม่ตั้งใจเรียน มันก็ยังใช้ไม่ได้ผล!

เรื่องนี้ได้ล้มล้างความคิดที่จะหย่อนยานเป็นครั้งคราวแต่เดิมของเขาลง

และในคาบเรียนนี้เขาก็ได้รู้เกี่ยวกับบางสิ่งอย่าง

การ์ดเวทมนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ์ดวิญญาณที่สามารถอัญเชิญสปิริตที่มีหลายเผ่าพันธุ์และคุณสมบัติที่เหนือจินตนาการของเขาออกมาได้!

ในหมู่พวกมัน ประเภทนางฟ้าและเทพเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์

“เผ่าเทพนั้นกล่าวกันว่ามีเฉพาะการ์ดศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น และบนโลกก็มีจำนวนไม่มาก ขณะที่การ์ดเผ่านางฟ้ามีเยอะกว่ามาก หากฉันหาการ์ดวิญญาณประเภทนางฟ้าได้หนึ่งหรือสองใบละก็…”

การยับยั้งพลังของจอมมารด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ไม่ว่าจะเป็นโลกไหนก็ตาม

ดาร์กคิดว่าเขาอาจพบหนทางแล้ว

แต่ศาสตราจารย์เคเซอร์บอกพวกเขาอย่างชัดเจนว่าในสถาบันเซนต์แมเรียน ทั้งครูและนักเรียนจะใช้ได้เฉพาะการ์ดเวทมนตร์ที่พวกเขาทำขึ้นเองเท่านั้น

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าเขาต้องการชำระตัวเองด้วยการ์ดวิญญาณประเภทนางฟ้า เขาก็ทำได้เพียงแค่ต้องสร้างมันขึ้นมาเองเท่านั้น

จะยากเกินไปแล้ว!

ดาร์กเดินไปที่โรงอาหารพร้อมความกังวล ทานอาหารกลางวันที่เรียบง่าย แล้วกลับไปที่ห้องนอนเพื่องีบหลับเติมพลังให้กับคาบเรียนปรุงยาช่วงบ่าย

เพราะไดแอนนามีโรสเป็นเพื่อนแล้ว เธอจึงไม่มายุ่งกับเขาอีก ซึ่งมันทำให้ดาร์กโล่งใจหน่อย

ทว่าหลังจากหลับไปได้เพียงครึ่งชั่วโมง เขาก็รู้สึกหัวใจกระตุกและตื่นขึ้น

เสียงแจ้งเตือนของ [เกียจคร้าน +1] เล็ดลอดออกมาอย่างเงียบ ๆ

“ฮะ!”

[โทสะ +1]

“ฉันจะงีบสักหน่อยไม่ได้เลยเหรอ?”

ดาร์กเหลือบมองนาฬิกาแขวนและอดยิ้มไม่ได้ “ดูเหมือนว่าต่อจากนี้ฉันจะต้องตั้งนาฬิกาปลุกเวลางีบซะแล้ว งีบนานกว่าครึ่งชั่วโมงก็ไม่ได้แถมยังต้องตื่นตอนหกโมงเช้าอีกสินะ?”

ดาร์กเรียกระบบออกมาดูค่าเจ็ดบาป

[อัตตา 93 หน่วย]

[ริษยา 42 หน่วย]

[โทสะ 95 หน่วย]

[เกียจคร้าน 72 หน่วย]

[โลภะ 74 หน่วย]

[ตะกละ 54 หน่วย]

[ราคะ 75 หน่วย]

โดยทั่วไปแล้วทุกค่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะค่า [โทสะ]!

แม้ว่าค่า [โทสะ] จะเพิ่มขึ้นง่ายที่สุดในบรรดาบาปทั้งเจ็ด แต่เมื่อความโกรธสงบลง มันก็จะลดลงเล็กน้อย

แต่ก็ยังมากกว่าค่าเริ่มต้นไปสองหน่วยแล้ว

นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีแน่นอน!

ดาร์กเพียงลุกขึ้น ยัดตำราเรียนวิชาปรุงยาลงในกระเป๋าแล้วเดินไปอ่านหนังสือที่ห้องนั่งเล่นส่วนกลาง

เดิมทีเขาต้องการไปที่ห้องสมุดเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรุกกี้เดวิมอนสำหรับการบ้านคาบวิชาอัญเชิญ

แต่เมื่อคิดว่าเหลือเวลาก่อนคาบเรียนช่วงบ่ายเพียงชั่วโมงเดียว ในที่สุดก็ตัดสินใจรอให้คาบเรียนวิชาปรุงยาจบก่อนแล้วค่อยไปห้องสมุด

บางทีเขาอาจจะต้องไปห้องสมุดเพื่อตรวจสอบการบ้านที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ในวิชาปรุงยาด้วย

“เดี๋ยวนะ ถ้าฉันหาข้อมูลเป็นเวลานานจนไม่เสร็จสักที แล้วอยากทำต่อให้มันเสร็จเลยหาข้อมูลต่อไป… ค่า [โลภะ] จะเพิ่มขึ้นเยอะเลยมั้ยเนี่ย?” ดาร์กเป็นกังวล

“หวังว่าจะไม่นะ…”

ในใจเขากังวลเล็กน้อย แล้วก็มาถึงคาบเรียนที่สามของวันนี้

ดาร์กทำได้ดีในคาบที่สามเนื่องจากอ่านล่วงหน้ามาพอประมาณ

ศาสตราจารย์ทอมป์สันในคาบเรียนวิชาปรุงยานั้นไม่เหมือน <ศาสตราจารย์วิชาปรุงยาในภาพยนตร์เวทมนตร์เรื่องหนึ่ง> ไม่เพียงยกย่องเขาแต่ยังให้คะแนนอีกด้วย

การสร้างการ์ดเวทมนตร์จำเป็นต้องใช้การปรุงยาเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงต้องมีสมาธิ!

แต่ศาสตราจารย์ทอมป์สันไม่ได้กล่าวถึงประเภทการปรุงยาที่เขาสนใจ ดังนั้นค่า [โลภะ] จึงไม่ได้เพิ่มขึ้น

หลังจากผ่านทั้งสามคาบเรียนไป ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์หรือนักเรียน ทุกคนก็เริ่มมองเขาไม่เหมือนเดิม

ดาร์กลดการสื่อสารกับเพื่อนร่วมชั้นของเขาให้น้อยที่สุดและไปห้องสมุดหลังเลิกเรียน

บรรณารักษ์ประจำห้องสมุดเป็นผู้หญิงหุ่นจ้ำม่ำร่างเล็กชื่อว่า เบลล่า ทว่าบรรณารักษ์รายวันนั้นเป็นรุ่นพี่ผู้หญิง

เธอมีรูปร่างผอมเพรียว เส้นผมสีอีกาและเรียวขาคู่นั้นก็ทรงเสน่ห์มาก มากเสียจนดาร์กไม่กล้ามองรุ่นพี่สาวคนนี้อีก หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้วเขาก็รีบเข้าไปในห้องสมุด

“เป็นเด็กใหม่ที่น่ารักอะไรอย่างนี้นะ”

แพนดอร่ามองดูเด็กชายตัวน้อย ‘ขี้อาย’ ที่มีหน้าตางดงาม เธอไม่สามารถควบคุมเสียงหัวเราะเบา ๆ ได้หลังจากมองเขาวิ่งหนีไปขณะที่มือก็ปิดปากตัวเองไว้

หญิงสาวไม่รู้เลยสักนิดว่าหลังดาร์กไปซ่อนตัวอยู่หลังชั้นหนังสือ เขาจับหน้าอกตัวเองไว้และหอบหายใจ

แจ้งเตือนว่า [ราคะ +1] ทำให้เขาติดป้ายห้องสมุดแห่งนี้ว่าเป็นถ้ำปีศาจในทันที!

คล้อยหลังจากดาร์กไม่นาน เอ็มม่า มอร์ติสก็เข้ามาในห้องสมุดด้วย