บทที่ 208 อิทธิพลใหญ่ขนาดไหนกัน

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 208 อิทธิพลใหญ่ขนาดไหนกัน
  ฉินเทียนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

  เมื่อเห็นว่าเป็นเหลิ่งเฟิง เขาจึงรับสาย: “ฮัลโหล——”

  “พี่เทียน ไม่ใช่ว่าพี่ให้พวกผมรับคนใหม่หรือ? เมื่อครู่ผมเลือกมายี่สิบคน ทั้งหมดเป็นพวกเกษียณมาจากกองทัพ”

  “พี่จะกลับมาเมื่อไหร่ มาตรวจสอบมาตรฐานด้วยตัวเองเถอะ”

  ฉินเทียนคิดไม่ถึงว่าเจ้าหนุ่มคนนี้จะดำเนินได้อย่างรวดเร็วและเฉียบขาด คิดอะไรบางอย่างออก อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วกล่าว: “ฉันอยู่ที่ริมแม่น้ำ”

  “ลากมาให้หมดเถอะ”

  เหลิ่งเฟิงนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง กล่าว: “ครับผม!”

  เมื่อวางสายโทรศัพท์แล้ว ฉินเทียนกวาดมองหลี่เฉียงแวบหนึ่ง ยิ้มกล่าว: “คนเยอะใช่ไหม?”

  “ถ้าหากพวกแกไม่กลัว ผู้ช่วยของฉัน อีกเดี๋ยวก็มาถึงแล้ว”

  “รอก่อนเถอะ”

  “ไอ้หนุ่ม แกเรียกพวก?” ในดวงตาของหลี่เฉียงปรากฏความลุกลี้ลุกลนขึ้นมาแวบหนึ่ง

  ฉินเทียนคร้านจะสนใจ หันไปยิ้มกับชายชราที่อยู่ด้านข้าง: “คุณปู่ ปลาในแม่น้ำนี้เยอะมากเลยครับ”

  “ผมตกมาได้ไม่น้อย อีกเดี๋ยวจะมอบให้คุณปู่สักสองตัว เอากลับไปตุ๋นน้ำแกง อบอุ่นร่างกาย”

  ชายชราลังเลอยู่ครู่หนึ่ง กล่าวเสียงเบา: “พ่อหนุ่ม คนที่พ่อหนุ่มเรียกมาเป็นคนงานในแคมป์ก่อสร้างของพวกพ่อหนุ่มหรือ?”

  “ฉันจะบอกพ่อหนุ่มให้นะ ไม่มีประโยชน์!”

  “คนในแคมป์ก่อสร้างฉันรู้จัก พวกเขาจะกล้าลงมือกับคุณชายเหล่านี้ได้อย่างไรกัน”

  “ตีจนบาดเจ็บ ใช้ทรัพย์สินทั้งบ้านของพวกพ่อหนุ่มก็ไม่มีปัญญาชดใช้หรอก!”

  ฉินเทียนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นทุ่นลอยเบ็ดตกปลาก็ขยับลอยอย่างรุนแรง สายเอ็นตกปลาทั้งอันถูกลากจนตรงแน่วภายในพริบตา

  ผิวน้ำ ระลอกคลื่นกลุ่มหนึ่งขยับอย่างฉับพลัน

  “มีปลาตัวใหญ่!”

  “พ่อหนุ่ม เร็ว!”

  ดูเหมือนว่าชายชราก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบการตกปลาเช่นเดียวกัน มีปลาติดเบ็ด แม้แต่ลูกหมาป่าที่อยู่ด้านข้างก็ลืมไปแล้ว

  ฉินเทียนดีใจเป็นอย่างมาก ไม่ลุกขึ้นมาไม่ได้ ลากคันเบ็ดหนีอยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะค่อยๆนำเจ้าปลาตัวใหญ่ตัวนี้ลากขึ้นฝั่งมาได้

  ขั้นตอนทั้งหมด หลี่เฉียงและทายาทเศรษฐีสองสามคนนี้ก็ถูกดึงดูดเช่นเดียวกัน พวกเขาถือไม้เบสบอลเอาไว้เคลื่อนที่ไปตามฉินเทียน

  มองดูไป ก็ค่อนข้างน่าตลก

  “ปลากะรัง!”

  “พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มโชคไม่เลวเลยนะ!”

  “ปลากะรังธรรมชาติตัวใหญ่ขนาดนี้ พบได้น้อยมากแล้ว อืม น่าจะประมาณสักเจ็ดแปดชั่ง”

  ชายชราหยิบสวิงขึ้นมาด้วยตนเอง ช่วยฉินเทียนนำปลากะรังตักขึ้นมา ใส่ลงไปในถังน้ำ

  ฉินเทียนหัวเราะชอบใจ!

  ปลากะรังนึ่งซีอิ๊ว รสชาติสดอร่อย มีเมนูนี้ จะต้องสามารถทำให้คุณภรรยากินได้อย่างยิ้มแย้มร่าเริง

  เนื่องจากมีความสุข แม้กระทั่งหลี่เฉียงและคนอื่นๆที่อยู่ด้านข้าง มองดูไปหน้าตาก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดขนาดนั้นแล้ว

  “กล่องใบนี้ใส่ไม่ได้แล้ว บนรถผมยังมีกล่องอีกใบ”

  “แก ไปช่วยหยิบลงมาให้ฉัน”

  ฉินเทียนชี้ไปที่เหล่าไป๋แล้วกล่าว

  “โอเค” เหล่าไป๋ตอบรับทันทีตามสัญชาตญาณ เตรียมที่จะไปเปิดท้ายกระบะของรถแลนด์ครุยเซอร์

  ทันใดนั้นก็ตระหนักขึ้นได้ว่า แม่งเอ๊ยไม่ใช่ซิ!

  ฉันเป็นคนที่จะตีคนตาย นึกไม่ถึงว่าไอ้บ้านี่จะกล้าชี้นิ้วสั่งฉัน?

  เมื่อเห็นว่าฉินเทียนนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง ใส่เหยื่อตกปลา นำเบ็ดเหวี่ยงลงไปในแม่น้ำ

  เขาใช้ไม้เบสบอลชี้ไปที่ฉินเทียน กัดฟันกล่าว: “ไอ้เวรเอ๊ย!”

  “แกแน่ใจว่าจะแข็งข้อกับฉันไหม?”

  ถูกต้อง นี่คือการทะเลาะวิวาท ควรจะต้องจริงจังสักหน่อย

  หลี่เฉียงและคนอื่นๆ รีบร้อนนำฉินเทียนล้อมเอาไว้อีกครั้ง ต่างก็พากันด่ากราด

  แต่ว่า ก็คือการวางมาดใหญ่โตเพื่อขู่ขวัญ ฉินเทียนยิ่งเงียบสงบ พวกเขาก็ยิ่งไม่กล้าลงมืออย่างเปิดเผย

  “คุณชายหลี่ ปลากะรังตัวนั้นสดมากเลยนะ”

  “ฉันอยากกิน” เวยเวยเอ่ยกล่าวอย่างออดอ้อน

  หลี่เฉียงเอ่ยด่า: “พวกคนงานก่อสร้างขาเปื้อนโคลน จะคู่ควรกินปลากะรังได้อย่างไรวะ!”

  “รู้ไหมว่าปลากะรังต้องกินอย่างไร?”

  “พี่น้องทั้งหลาย หยิบไป!”

  ทันทีที่เขาออกคำสั่ง ทายาทเศรษฐีสองคนก็วางไม้เบสบอลลง กำลังจะไปหยิบปลากะรังตัวนั้นจากในถังน้ำ

  สายตาของฉินเทียนแข็งกร้าวทันที

  ปลากะรังที่รักตัวนี้ เขาไว้ใช้สำหรับต้อนรับภรรยาสุดที่รัก

  กล้าแตะต้องปลากะรังของเขา ยังยากที่จะรับได้เกินกว่าตีเขาด้วยไม้เสียอีก

  เขาคิดอยากจะลงมือ ชายชราด้านข้างกล่าวอย่างรีบร้อน: “เอาละเอาละ ให้พวกเขาเอาไปเถอะ”

  “ก็ถือซะว่าเป็นของขวัญขอโทษแก่พวกเขา”

  “ปลากะรังตัวหนึ่งแลกกับการไม่โดนตี ก็ถือว่าคุ้มค่า!”

  เมื่อเห็นว่าใบหน้าของฉินเทียนเต็มไปด้วยความเดือดดาล ชายชรากล่าวขึ้นอีกครั้ง: “ไม่ใช่เรื่องใหญ่ กลับไปฉันตกปลากะรังแล้ว จะส่งไปให้พ่อหนุ่ม”

  ฉินเทียนยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง บริเวณริมโขดหินที่อยู่ไกลๆ เสียงรถดังสะเทือนเลื่อนลั่น

  รถเอสกาเลดสองคัน รถตู้สองคันด้านหลัง ขับกรูกันเข้ามา

  ฉินเทียนยิ้มแล้วกล่าว: “คนของฉันมาแล้ว”

  “พวกแกแน่ใจว่ายังจะเอาไปไหม?”

  หลี่เฉียงและคนอื่นๆนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก็เห็นประตูรถเปิดออก คนเริ่มกระโดดลงมาจากด้านในรถ

  คนที่อยู่ด้านหน้าสุด เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ในเสื้อสีดำ แต่ละคนดวงตาจ้องเขม็ง ราวกับท่านพญายมที่ยืนตระหง่าน

  ด้านในรถตู้ด้านหลังสองคัน คนประมาณยี่สิบคนพอดี สวมชุดลายพราง มองดูไปอายสังหารพวยพุ่งเช่นเดียวกัน

  ทายาทเศรษฐีสองสามคนตกใจจนหน้าซีดเผือดในทันที

  เหลิ่งเฟิงมองดูท่าทางนี้ ดวงตาจ้องมอง กล่าวเสียงดัง: “พี่เทียน นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

  “ถ้าหากผมมองไม่ผิด มีลูกหมาป่าตาบอด ต้องการจะแตะต้องพี่งั้นหรือ?”

  ฉินเทียนยิ้มกล่าว: “ถูกต้อง”

  นี่มันใช้ได้ที่ไหนกัน!

  เหลิ่งเฟิงตะโกนเสียงดัง: “จัดการมันเดี๋ยวนี้!”

  ชายหนุ่มเหล่านี้ เรียกง่ายๆก็คือหมาป่าฝูงหนึ่ง แผดเสียงก้องแล้วก็กรูกันเข้ามา

  “อย่า!”

  “ไว้ชีวิตด้วย!”

  ทายาทเศรษฐีสองสามคนแผดร้องเสียงแหลม โยนไม้เบสบอลทิ้งทันทีทันใด คุกเข่าลงบนพื้น

  เน็ตไอดอลสาวสองสามคนก็สีหน้าซีดเผือด คุกเข่าอยู่ด้านหลังตัวสั่นระริก

  “กล้าล่วงเกินพี่เทียน ดูท่าพวกแกคงใช้ชีวิตจนเบื่อแล้ว” ทันทีที่เหลิ่งเฟิงโบกมือ: “โยนลงในแม่น้ำเป็นอาหารตะพาบเถอะ”

  “ครับผม!” ลูกน้องตอบรับคำหนึ่ง กำลังจะลงมือ

  “หยุด!” ในที่สุดชายชราก็ได้สติกลับคืนมา รีบขัดขวางเอาไว้ กล่าวอย่างประหม่า: “พวกเธอเป็นคนงานแคมป์ก่อสร้างที่ไหน?”

  “ทะเลาะเบาะแว้งกันยังพอได้ แต่อย่าให้ถึงชีวิตเลย!”

  “พวกเขาล้วนเป็นทายาทเศรษฐี! ครอบครัวมีเงินมีอิทธิพล พวกเธอหาเรื่องได้งั้นหรือ?”

  ดวงตาของเหลิ่งเฟิงครุ่นคิด มองไปทางฉินเทียน

  ชายชรารีบเอ่ยกล่าวกับฉินเทียนอีกครั้ง: “วันนี้ก็พอแค่นี้ พวกเธอรีบไปเถอะ”

  ฉินเทียนยิ้ม หันหน้ากลับไปกวาดตามองหลี่เฉียงแวบหนึ่ง กล่าว: “ครอบครัวของพวกแกล้วนมีเงินมีอิทธิพลงั้นหรือ?”

  “ลองว่ามา ว่ามีเงินเท่าไหร่ มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ขนาดไหน?”

  ทายาทเศรษฐีสองสามคนสงบสติลงแล้ว

  ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาตีไม่ชนะคนไม่มีความรู้เหล่านี้ แต่ว่าพวกเขามีเงินมีอิทธิพลนี่!

  เอาเงินออกมานิดหน่อยแบบสบายๆ ใช้เส้นสายแบบสบายๆ ไม่ใช่ว่าก็สามารถจัดการพวกขาเปื้อนโคลนเหล่านี้จนตายได้แล้วหรือ!

  หลี่เฉียงน้ำเสียงดูถูก กำลังจะลุกขึ้นยืน

  “ให้แกลุกขึ้นมาแล้วหรือ? คุกเข่าพูด” เหลิ่งเฟิงตบเข้าไปบนบ่าของเขาฉาดหนึ่ง

  หลี่เฉียงฟึดฟัด หัวเข่าทั้งสองข้าง กระแทกบนหิน เสียงดังตึง เจ็บจนเขากัดฟันแยกเขี้ยว

  เขากัดฟันกล่าว: พวกแกตายแน่!”

  “พ่อของฉันคือหลี่เฉิงหนานแห่งร้านยาเฉิงหนาน”

  “เขาเป็นสมาชิกสมาคมหลงเจียง รู้จักกับหัวหน้าแก๊งทั้งหมดของหลงเจียง!”

  “ส่วนเงินของครอบครัวฉัน ฮึ่ พูดออกมาพวกแกต้องตกใจแน่!”

  ชายหนุ่มคนอื่นๆอีกสองสามคนต่างก็พากันเปิดเผยตัวตนของบิดา เปิดเผยทรัพย์สินของครอบครัว

  ที่แย่ที่สุด ก็เป็นคนที่มีฐานะหลายร้อยล้าน

  เมื่อได้ยินประโยคนี้ ชายชราก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น กล่าวเสียงเบา: “ยังไม่รีบปล่อยพวกเขาไปอีก!”

  “ร้านยาเฉิงหนานฉันรู้จัก นั่นไม่ใช่ที่คนธรรมดาจะสามารถหาเรื่องได้!”

  แท้ที่จริงแล้วเป็นลูกของครอบครัวคนพวกนี้เอง ฉินเทียนไม่ใช่ไม่คุ้นเคย

  วันนี้เล่นสนุกอย่างมีความสุข เขาไม่รีบร้อนที่จะไป ยิ่งไปกว่านั้นยังคิดอยากจะตกปลากะรังได้อีกสักตัว

  ดังนั้นจึงหันไปยิ้มกับเหลิ่งเฟิง กล่าว: “ให้พวกเขาโทรศัพท์หาพ่อของพวกเขา”

  “ให้เวลาครึ่งชั่วโมง พ่อของใครมาไม่ทัน ก็นำคนนั้นโยนลงไปในแม่น้ำ”

  “ครับผม!” เหลิ่งเฟิงรู้ว่าฉินเทียนต้องการเล่นสนุก เขาก็ยินดีที่จะมีส่วนร่วม

  “พวกแกจะจับตัวเรียกค่าไถพวกฉันจริงๆ ขู่กรรโชกเอาทรัพย์สินเงินทอง?”

  “ยอดเยี่ยมมาก! พวกแกคอยดู!” หลี่เฉียงและคนอื่นๆนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง รีบโทรศัพท์หาพ่อของพวกเขาแต่ละคน