บทที่ 29 เมื่อคุณเจ๋ง ปัญหาก็จะเข้าหาคุณ

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

ณ ห้องหนังสือหัวหน้าตระกูลฉี

“ท่านประธานฉี งานที่ท่านมอบหมายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลและวิดีโอที่เกี่ยวข้องได้เข้ารหัสและส่งให้ท่านแล้ว หลังจากตรวจสอบและยืนยันข้อมูลแล้ว โปรดชำระเงินส่วนที่เหลือให้เราด้วย”

ฉีเย่ว์เอ่ย “ทำได้ดีมาก สมแล้วที่เป็นเฟิงเหนี่ยว เป็นข้อมูลที่ไร้ที่ติจริงๆ กลยุทธ์ยืมดาบฆ่าของพวกคุณนี่มันยอดเยี่ยมนัก ไม่มีคนตาย ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และไม่ต้องใช้กำลังคนแม้แต่คนเดียว อาศัยแค่เรื่องราวในอดีต แต่ฉันต้องเสียเงินถึงห้าสิบล้านหยวนเลยทีเดียว”

เฟิงเหนี่ยวส่งเสียงหัวเราะ “ฮ่าๆ คำพูดของประธานฉีไม่รื่นหูเอาซะเลย จะเป็นเรื่องราวในอดีตได้ยังไงกัน เห็นได้ชัดว่าเลือดยังคงสดใหม่อยู่ อัศวิน A จัดการเขาได้ถึงอกถึงใจจริงๆ”

ฉีเย่ว์ตอบรับ “หืม ฉันจะเพิ่มค่าตอบแทนส่วนที่เหลือให้พวกคุณอีกเท่าตัว พวกคุณควรรักษากฎที่ตัวเองตั้งขึ้นด้วยนะ ฉันไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่ออกไป”

เฟิงเหนี่ยวพยักหน้า “หึๆ ในเมื่อท่านจ่ายเงินมาแล้ว เรื่องเหล่านั้นก็จะหายไปตั้งแต่ตอนนี้ แต่ผมไม่รู้ว่าประธานฉีต้องการขายข้อมูลบางอย่างให้เราไหม? ราคาต่อรองกันได้ และสามารถหักออกจากค่าตอบแทนส่วนที่เหลือที่ท่านต้องจ่ายได้โดยตรง”

ฉีเย่ว์ขมวดคิ้วพลางเอ่ยถาม “พวกคุณต้องการข้อมูลอะไร”

เฟิงเหนี่ยวกล่าว “การที่อัศวิน A ฆ่าฉีเทา ไม่รู้ว่าญาติเพียงคนเดียวของเขาซึ่งก็คือปู่ของเขาฉีหยุนเซิงหมอเทวดามากฝีมือจะจัดการกับอัศวิน A อย่างไร? ผมได้ยินมาว่าฉีหยุนเซิงพะเน้าพะนอฉีเทามากจนยอมให้ทุกอย่างที่เขาต้องการ และจัดการทุกเรื่องที่ฉีเทาก่อ ชายชราคนนี้ยังมีความเกี่ยวพันกับระดับบนค่อนข้างมาก และว่ากันว่าเขามีความสามารถมากด้วย”

ฉีเย่ว์ตอบกลับ “ถ้าหมอเทวดาไม่รักษาตัวเอง ปู่กับหลานก็จะได้พบกันในอีกไม่ช้า…”

เฟิงเหนี่ยวหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆๆ คุณชายฉีเย่ว์ ท่านสมควรได้รับสมญานามว่า ‘ผู้มีความเมตตากรุณา’ ผมชอบข้อมูลนี้ ผมจะช่วยสนองความสัมพันธ์ปู่หลานของพวกเขาเอง ดีล่ะ สำหรับข้อมูลของท่าน เงินส่วนที่เหลือนั้นท่านจ่ายเพียงครึ่งหนึ่งก็พอ”

ฉีเย่ว์เลิกคิ้ว “หืม คุณต้องการใช้ข้อมูลนี้เพื่อดึงอัศวิน A มาเป็นพวกใช่ไหม”

เฟิงเหนี่ยวผุดยิ้ม “ฉลาดมาก แต่ไม่สามารถบอกได้หรอกว่าจะนำไปใช้อย่างไร”

ฉีเย่ว์ถามต่อไป “หลังจากเรื่องนี้ พวกคุณควรอัปเดตข้อมูลของเขาแล้วไม่ใช่เหรอ บอกได้หรือเปล่า?”

เฟิงเหนี่ยวท่าทีลังเลเล็กน้อย แต่แล้วก็กล่าวออกมา “ผมจะแบ่งปันสิ่งนี้ให้ท่านฟรีๆ ก็แล้วกัน คนของสำนักสัจธรรมความจริงแล้วก็คือกลุ่มคนหน่วยพิเศษตัวจริง แรกเริ่มพวกเขาจัดอัศวิน A อยู่ในระดับพลัง F และมีศักยภาพในการพัฒนาที่จำกัด เจ้าหน้าที่กลุ่มนั้นทำให้เราต้องขาดทุนจากลูกค้าหลายราย การขาดทุนเป็นเรื่องเล็ก แต่ชื่อเสียงเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าไม่มีใครเชื่อเราอีก เราจะหาลูกค้ารายใหญ่อย่างคุณชายฉีเย่ว์ได้ยังไง?”

ฉีเย่ว์เอ่ยต่อ “ตราบใดที่คุณรักษาสัญญา ลูกค้ารายใหญ่จะต้องมาหาถึงที่เอง”

เฟิงเหนี่ยวพยักหน้าเห็นด้วย “ขอบคุณสำหรับคำอวยพรของท่าน สำหรับข้อมูลของเขานั้น เราได้อัปเดตแล้ว ‘ระดับพลัง B+ บุคลิกเปิดเผยและโปร่งใส ไม่เคยรังแกผู้อ่อนแอ ข้อเสียอย่างเดียวคือเขาชอบความมืดและชอบล่อลวง นอกจากนี้ มีศิลปะการต่อสู้ดีเยี่ยม จิตใจแน่วแน่อย่างยิ่ง เชี่ยวชาญในการจัดการกับสิ่งเหนือธรรมชาติ และมีทักษะเฉพาะในการปราบวิญญาณ การตั้งฉายาให้เขาเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะเขาไร้ชื่อเสียงเรียงนาม จึงหารากเหง้าของเขาไม่ได้ อัศวิน A นั้นราคาตกเกินไป เพราะฉะนั้นเรียกเขาว่า ‘วีรบุรุษแห่งเมืองฉี’ ไปก่อนแล้วกัน”

ฉีเย่ว์แย้มยิ้ม “วีรบุรุษแห่งเมืองฉี ฉายานี้ดี และพวกคุณก็จะมีดาบดีๆ เพิ่มขึ้นด้วย แถมยังไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นแผนที่ดีทีเดียว”

“เหอะๆ คุณชายฉีเย่ว์ฉลาดจริงๆ ผมได้ยินมาว่ามีสาวงามตระกูลฉีของคุณสนิทกับเขามาก และได้ร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้แปลกประหลาดจากเขาด้วย คนของเราเห็นแล้วต่างรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ทราบถึงที่มา ด้วยความสัมพันธ์นี้ คุณชายฉีเย่ว์อยากจะลองดึงเขาเข้ามาเป็นพวกดูไหม?”

“ฉันไม่เชื่อว่าคุณจะมีเจตนาดีขนาดนั้น ถึงขนาดให้ดาบดีๆ แบบนี้กับฉันเลยเหรอ?”

“หึ ฉลาดจริงๆ ด้วย ผมแนะนำให้คุณชายฉีเย่ว์อยู่ห่างจากดาบเล่มนี้จะดีกว่า ผมขอแบ่งปันข้อมูลให้ฟรีๆ อีกหนึ่งอย่าง แววตาของเขาดุร้ายมาก คนของเราแค่ส่งบางสิ่งที่เกี่ยวกับฉีเทาให้เขา เขาก็ยืนยันว่าคนคนนี้มีโทษมหันต์ และเข้าไปจัดการเขาโดยไม่ลังเล”

“คุณไม่จำเป็นต้องหนักใจในเรื่องนั้นกับผมหรอก ผมเป็นคนโปร่งใสและเที่ยงธรรมมาโดยตลอด ไม่จำเป็นต้องกลัววีรบุรุษแห่งเมืองฉีคนนี้” ฉีเย่ว์รับรอง

เฟิงเหนี่ยวพยักหน้า “เป็นเรื่องดีที่ประธานฉีมีความมั่นใจแบบนี้ เอาเถอะ ไม่พูดมากแล้ว ตอนนี้สภาวการณ์ความเป็นไปของตลาดกำลังเป็นไปในทางที่ดี ธุรกิจทุกหนแห่งกำลังเฟื่องฟู เราต่างดูแลตัวเองให้ดี และอวยพรให้มีโชคมีลาภกันและกันเถอะ!”

‘ไปตายซะ…’ ฉีเย่ว์คิดในใจ

สองวันหลังจากการเสียชีวิตของฉีเทา ในที่สุดฟางหนิงก็ฟื้นตัวและพร้อมที่จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว ประธานจ้าวเปลี่ยนมาใช้รถโรลส์-รอยซ์และขับมันมารับเขาพร้อมกับลูกสาว

ฟางหนิงนั่งเบาะข้างคนขับ เบาะหลังคือหลิ่วเหยาที่นั่งนิ่งราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ

ก่อนหน้านี้เพื่อจัดการกับฉีเทาผู้ซึ่งทำเหมือนต้องการคู่นัดบอดของตนแต่ความจริงแฝงไปด้วยเจตนาร้าย เพื่อให้ระบบสามารถจัดการปีศาจอย่างมันได้ ฟางหนิงจึงต้องแกล้งทำเป็นสลบเพื่อกระตุ้นความโหยหา

แต่จากมุมมองของคนอื่นๆ ที่ไม่รู้ความจริง ก็คือการโกรธจนเป็นลมหมดสติไป ซึ่งนั่นทำให้เขาเสียหน้าไม่น้อย

แต่สำหรับโอตาคุที่ไม่ออกไปไหนเป็นเดือนๆ อย่างเขา เขาไม่ใช่ชายแข็งกร้าวพวกนั้น ภาพลักษณ์จึงไม่จำเป็นเท่าชีวิต

ถึงแม้เขาจะเสียหน้าไปบ้าง แต่ฉีเทาผู้ต้องการล่อลวงเขาโดยการทำให้เขาอับอาย เจ้าหมอนั่นที่ลุ่มลึก ทรงพลังไร้เทียมทาน และในอนาคตข้างหน้าอาจมีศักยภาพที่น่าสะพรึงกลัวนั้น กลับถึงขั้นต้องเสียชีวิต

ด้วยสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจนี้ เดิมทีฟางหนิงคิดว่าประธานจ้าวอาจไม่สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่า ในช่วงที่เขาแกล้งป่วยนี้ ประธานจ้าวกลับพาลูกสาวหลิ่วเหยามาเยี่ยมไข้เขาทุกวัน โดยไม่มีความเย่อหยิ่งของนักธุรกิจแม้แต่น้อย และยังนำซุปที่ทำเองกับมือมาให้เขาเพื่อฟื้นกำลังวังชา ถึงแม้ว่ารสชาติสู้เทพแห่งระบบไม่ได้ แต่ก็ยังเทียบชั้นกับพ่อครัวยอดฝีมือได้เลยทีเดียว ที่สำคัญคือมีส่วนผสมของน้ำใจในนั้น ซึ่งข้อนี้ไม่ใช่สิ่งที่เทพแห่งระบบสามารถสู้ได้

เมื่อพิจารณาจากท่าทีของเขา ดูเหมือนว่าเขาต้องการลูกเขยแต่งเข้าบ้านเช่นเดิม และยังรู้สึกอับอายกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้

แต่น่าเสียดาย เพราะว่าระบบจะปลดล็อกโมดูลแต่งงานได้ที่ระดับ 100 เท่านั้น ฟางหนิงคิดพลางใช้มุมมองของระบบแกล้งทำเป็นยืดตัวตรงและจัดเสื้อผ้า อันที่จริงเขากำลังเหลือบมองหลิ่วเหยาผู้ซึ่งนั่งอยู่เบาะหลัง หญิงสาวนั่งนิ่งไม่ไหวติง ใบหน้าอันสะสวยของเธอทำให้คนมองเห็นรู้สึกสบายใจ

“เสี่ยวฟาง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” ประธานจ้าวยังคงอบอุ่นและเป็นกันเอง ไม่ได้ดูถูกฟางหนิงเพราะเขาเป็นลมก่อนหน้านี้ แต่ยังใส่ใจเขามากขึ้นกว่าเดิม

ฟางหนิงรีบถอนมุมมองของระบบออก และตอบอย่างจริงจังว่า “ผมไม่เป็นอะไรครับ ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของท่าน ผมก็แค่จัดการกับความโกรธไม่ได้จึงได้หมดสติไป ในอนาคตข้างหน้าน่าจะไม่เป็นแบบนี้อีก”

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีแล้ว หมอเองก็บอกว่าร่างกายของคุณไม่มีปัญหาอะไร เพราะได้รับการบำรุงอย่างดี ทำให้ร่างกายแข็งแรงมาก ไว้วันไหนคุณช่วยสอนวิธีบำรุงให้ผมบ้างนะ” ประธานจ้าวใบหน้าเปี่ยมยิ้ม เขาขับรถไปพูดไป

แน่นอนว่าในเวลานี้ฟางหนิงรู้ว่าไม่สามารถปฏิเสธประธานจ้าวได้ ถ้าไม่เห็นแก่ที่ประธานจ้าวไปเยี่ยมไข้เขาทุกวัน ก็ต้องเห็นแก่เรื่องที่เขาช่วยเรียกรถพยาบาลก่อนหน้านี้ และยังพาเขาไปส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเองด้วย เขาควรจะเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่เพื่อเป็นการตอบแทน อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับประธานจ้าวเลย

ดังนั้นเขาจึงตอบตกลง “ผมยังไม่ทันได้ตอบแทนท่านเรื่องก่อนหน้านี้เลยครับ ผมขอเวลาเตรียมตัวสักหน่อย แล้วผมจะเชิญครอบครัวของท่านมางานเลี้ยงโดยการลงมือทำอาหารเอง และผมจะไม่กั๊กอะไรในงานเลี้ยงเลย”

เมื่อประธานจ้าวได้ยินดังนั้น เขาดูดีใจและเห็นด้วยอย่างยิ่ง จากนั้นก็ขับรถด้วยความสบายใจและไม่พูดอะไรอีก

ฟางหนิงจึงตอบตกลงอย่างไม่รีรอ แต่ไม่นานก็มีคนไม่เห็นด้วย

ระบบ “โฮสต์เป็นคนตอบตกลง แต่ระบบเป็นคนทำอาหารมาโดยตลอด”

ฟางหนิงเอ่ยตอบ “เห็นแก่การร่วมงานกันอย่างมีความสุขในหลายเดือนที่ผ่านมานี้ แกช่วยฉันหน่อยเถอะ บุญคุณต้องทดแทน แค่ทำอาหารสำหรับสองคน พวกเขากินกันไม่เยอะหรอก”

ระบบตอบกลับ “ไม่ใช่แค่สองคน แต่เป็นสามคนต่างหากล่ะ ประธานจ้าวมีภรรยาด้วย หล่อนต้องมาด้วยแน่นอน หล่อนมีรูปร่างผอมเพรียว แต่กินเยอะกว่าสองพ่อลูกซะอีก…”

‘เทพแห่งระบบก็รักเราเหมือนกันนะ’ ไม่ทันไรเขาก็รวบรวมข้อมูลทั้งหมดของแม่ยายในอนาคตมาให้…

ฟางหนิงเอ่ยปาก “ถ้าอย่างนั้นให้ฉันช่วยแกจัดการปีศาจใหญ่อีกสักตัวไหม? ถ้าหนึ่งตัวไม่พอ สองตัวก็ได้”

ระบบกลับปฏิเสธ “ยังไม่ต้องหรอก แต่ถ้าโฮสต์มีวิธีแก้ปัญหาสล็อตความโกรธไม่เพียงพอ ระบบจะตกลงช่วยโฮสต์หนึ่งครั้ง”

ได้ยินแบบนั้น ฟางหนิงก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าระบบไม่ช่วยทำอาหารเพิ่ม เขาเองก็อยากแก้ปัญหานี้เหมือนกัน

ก่อนหน้านี้ก็เคยเจอผี แต่โชคดีที่เจอแค่ตนเดียว แต่ครั้งนี้โชคดี ผ่านมาแค่ไม่กี่วัน คิดไม่ถึงว่าปีศาจที่เขาเจอจะเป็นถึงผู้คุมวิญญาณที่มาพร้อมวิญญาณน้อยกลุ่มหนึ่ง อนาคตช่างน่ากลัวจริงๆ อย่าว่าแต่แต่งเมียสร้างครอบครัวเลย แม้แต่อยากจะนั่งเล่นอยู่ที่บ้านอย่างสบายใจก็ยังกังวล เขาที่มีเทพแห่งระบบคอยให้ความช่วยเหลือยังกลัวขนาดนี้ ลองจินตนาการได้ว่าคนธรรมดาในอนาคตจะมีชีวิตอยู่อย่างไร อันที่จริงมีคนธรรมดาหลายคนถูกฆ่าอย่างลับๆ…

หากสล็อตความโกรธมีมากเกินไป ระบบก็จะใช้ทักษะลับในการจัดการวิญญาณได้ง่ายขึ้น เขาก็จะสบายใจมากขึ้น แต่สำหรับสล็อตพลังปราณที่เต็มไปแล้วในตอนนี้ ถึงจะเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่สามารถปกป้องชีวิตของเขา แต่ก็ไม่สามารถนำมาใช้เหมือนอาวุธธรรมดาได้

ฟางหนิง “มันเป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้ว ผีเยอะขนาดนี้ น่ากลัวจริงๆ ต้องสะสมสล็อตความโกรธให้เยอะเข้าไว้เพื่อจัดการกับพวกมัน”

ระบบตอบกลับ “ผีไม่มีอะไรให้ต้องกลัว และส่วนใหญ่พวกมันก็ไม่มีตัวตน ทำได้แค่โจมตีทางจิตใจเท่านั้น ซึ่งไม่มีผลกับระบบ แต่ถ้าครั้งนี้สิ่งที่ฉีเทานำมาด้วยไม่ใช่ผี แต่เป็นคนที่มีความแข็งแกร่งพอๆ กับเขา ค่าความโกรธของเราจะหมดลงอย่างแน่นอน ไม่สามารถจัดการด้วยทักษะเดียวแน่ และเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อสู้กันถึงสี่ชั่วโมง ไม่งั้นพวกเขาได้เหนื่อยตายก่อนพอดี?”

เทพแห่งระบบน่าจะกำลังระลึกถึงเหตุการณ์ที่กินเวลายาวนานถึงสี่ชั่วโมงอีกเป็นแน่ ซึ่งมันเกลียดชังสิ่งที่อาจทำให้มันลดประสิทธิภาพในการจัดการปีศาจเข้ากระดูกดำ แม้เขาจะไม่เชี่ยวชาญในด้านอื่นๆ แต่กับอาชีพของเขาเองนั้น ระบบถือว่าช่ำชองกันเลยทีเดียว

ฟางหนิงหมดคำพูด ‘เทพแห่งระบบไม่ได้เป็นไปในทางเดียวกันกับเราเลย มันไม่สนว่าผีจะน่ากลัวไหม มันกังวลแค่ว่าปีศาจจะฟาร์มง่ายหรือเปล่า’

ฟางหนิงเอ่ยปาก “เอาล่ะ แกพูดถูก ในอนาคตต้องมีการจัดการกลุ่มปีศาจเกิดขึ้นแน่นอน จะต้องเตรียมสล็อตความโกรธไว้ให้พร้อม แต่กฎเกณฑ์กำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่า จะได้รับหนึ่งสล็อตเมื่อเพิ่มขึ้นทุกๆ ห้าระดับ ตอนนี้ระดับ 11 แล้ว ก็มีแค่สามสล็อตเหมือนเดิม”

“นี่จึงเป็นเหตุผลที่ระบบเรียกหาโฮสต์ โฮสต์เคยกระตุ้นการตั้งค่าลับมาแล้วสองครั้ง หาวิธีกระตุ้นอีกสักครั้งสิ…”

ฟางหนิงแทบกระอักเลือด เมื่อคุณเจ๋ง ปัญหาก็จะเข้าหาคุณ ‘ฉันเป็นคนคิดก็ได้’

……………………………………………………..