ตอนที่ 291 เซียนหยั่งรู้ดวงชะตา

แม่ครัวยอดเซียน

“ในเมื่อแขกมาถึงแล้ว เหตุใดจึงไม่เข้ามา” มีเสียงดังขึ้นมาจากไกลๆ ชัดเจนและไพเราะอย่างมาก อืม ฟังจากเสียงแล้วไม่ใช่ตาแก่หรอกนะ

“พวกเราไปกันเถอะ” หลิวหลีรู้สึกว่าเซียนหยั่งรู้ดวงชะตาท่านนี้น่าจะเป็นคนที่สง่าผ่าเผยอย่างยิ่งคนหนึ่ง ดูได้จากสภาพแวดล้อมโดยรอบ พลังเซียนโอบล้อมโดยรอบ พืชเซียนถูกจัดเรียงรายอย่างสวยงาม ทั้งยังมีน้ำพุขนาดเล็ก มีเก๋งจีนอยู่ตรงกลาง มีคนกำลังนั่งชงชาหันหลังให้พวกเขา อืม ผมขาว ไม่แน่ใจเท่าไหร่

“คารวะเซียนหยั่งรู้ดวงชะตา” ทั้งสองทำความเคารพอย่างนอบน้อม

“ทั้งสองท่านไม่ต้องมากพิธี”

หลิวหลีนิ่งไป ที่แท้ก็เป็นเด็กน้อยหน้าตาสะสวย เป็นเด็กผมขาว ถูกหลอกหรือเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า จะมองอย่างไรท่านผู้นี้ก็ไม่เหมือนเซียนหยั่งรู้ดวงชะตานัก

“ดูไม่เหมือนผู้ทำนายดวงชะตา” เซียนหยั่งรู้ดวงชะตากล่าว

“อืม ดูเหมือนเป็นร่างทรง” หลิวหลีพยักหน้า ภายนอกช่างดูหลอกตาเสียจริง

“ร่างทรง คำนี้ใช้ได้เลย ไพเราะกว่าคำว่าหยั่งรู้ดวงชะตาเสียอีก” เหมือนว่าเซียนหยั่งรู้ดวงชะตาจะชอบคำว่าร่างททรงมากกว่าเสียอีก

“จักรพรรดิเซียนเหตุใดจึงคิดว่าตนเองคือผู้หยั่งรู้ดวงชะตา” คำศัพท์ของโลกมนุษย์เช่นนี้ เซียนหยั่งรู้ดวงชะตาผู้นี้ได้ยินมาจากไหน อีกอย่างจะหาคนมาทำนาย จะใช้เด็กก็คงไม่ดี เอาเถอะต่อให้จะเป็นเด็กแค่รูปลักษณ์ก็ไม่ได้อยู่ดี

“อืม ทำนายดวงแปดอักษร ดูดวงดาวก็คือการทำนายดวงชะตาเช่นกันไม่ใช่หรือ? แล้วจะเรียกจักรพรรดิเซียนอะไรกัน เรียกเล่อถง ข้านามว่าเล่อถง” เซียนหยั่งรู้ดวงชะตาเชิญให้ทั้งสองนั่งลง

“เล่อถง? ชื่อนี้ไม่เลว ขอบใจท่านมาก ชานี้ก็รสชาติดีทีเดียว” หลิวหลียื่นมือออกไปรับชาและยกขึ้นดื่ม

“อืม ดีตรงไหน” เล่อถงเปิดปากถาม

“มีดีสองอย่าง อย่างแรกคือ ข้าเพิ่งเคยเป็นแขกของจักรพรรดิเซียนครั้งแรกในชีวิต แล้วยังได้ดื่มชาที่ได้จากมือจักรพรรดิเซียนอีก อย่างที่สองคือ ข้ากระหายอยู่พอดี” หลิวหลีพูดจบก็ดื่มจนหมดแก้ว

“ดี พูดได้ดี” เล่อถงพูดจบก็เกิดการเปลี่ยนแปลง กลายร่างเป็นร่างผู้ใหญ่

หลิวหลีชะงักไป นางว่าแล้วเชียว ร่างเด็กเป็นเรื่องโกหก ผู้ที่แสนโดดเด่นน่านับถือจะเป็นเด็กได้อย่างไร ไม่ใช่แม่เฒ่าทาริกาเสียหน่อย

“รู้สึกคาดไม่ถึงใช่หรือไม่ ข้าจำเป็นต้องใช้พลัง ร่างเด็กทำให้ข้าประหยัดพลังลง เพราะแบบนั้นปกติข้าจึงอยู่ในร่างเด็ก หลิวหลี เวิ่นเทียน รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงเรียกพบแค่พวกเจ้าสองคน” จักรพรรดิเซียนเล่อถงถาม

“ไม่รู้เจ้าค่ะ แต่ก็พอจะเดาได้ น่าจะเกี่ยวข้องกับภัยร้ายที่กำลังจะมาถึง” หลิวหลีส่ายหน้าและคาดเดาคร่าวๆ

“ถูกต้อง สมแล้วที่เป็นผู้บำเพ็ญเพียรร่างผสม ประสาทสัมผัสว่องไวกว่าคนทั่วไปนัก” เล่อถงเอ่ยชม

“ท่านกล่าวเกินไป” หลิวหลีพูดอย่างหน้าไม่อาย

“หลิวหลี เจ้าเป็นร่างวิญญาณเพลิงอัคคีผสม ร่างกายย่อมแตกต่างจากคนทั่วไป ภายหน้าจะเป็นผู้ควบคุมเปลวเพลิงในใต้หล้า คาดว่าตัวเจ้าเองก็คงคาดการณ์ได้ว่าเจ้าจะบรรลุได้ภายในหมื่นปี” เล่อถงกล่าว

“ใช่แล้ว ข้ารู้สึกได้จริงๆ ภายในหมื่นปีข้าจะบรรลุได้แน่นอน” หลิวหลีมีความรู้สึกเช่นนี้มานานแล้ว ไม่ใช่การโอ้อวด แต่เป็นเรื่องจริง

“ใช่ เจ้ามีร่างผสม แม้ว่าจะใช้เพลิงเซียน แต่เจ้าก็สามารถใช้สิ่งของทุกอย่างในโลกเซียนนี้ได้ หลิวหลี ในเมื่อเจ้ารับรู้ถึงมหันตภัยแล้ว เจ้ารู้จักดาววิกลกับดาวแปรปรวนหรือไม่” เล่อถงถามด้วยสีหน้าจริงจัง

หลิวหลีปากค้างไป ดาววิกล หนานกงเวิ่นเทียนที่ฟังอยู่ตลอดก็ชะงักค้างไปเช่นกัน ดาวแปรปรวน

“ดูแล้วพวกเจ้าคงรู้ดีแก่ใจ หลิวหลี ในอนาคตเจ้าเป็นจ้าวแห่งเพลิงทั้งปวง ไร้ซึ่งมลทินแปดเปื้อน สิ่งชั่วร้ายมิอาจกล้ำกราย มงคลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะส่งผลดีกับคนที่เข้าข้างเจ้า เจ้าผู้เป็นดาววิกล หนานกงเวิ่นเทียน ชะตาเจ้าค่อนข้างเปราะบาง ชาติไหนๆก็จะไม่มีจุดจบที่ดี แต่กลับได้ดาววิกลร่วงลงข้างกายเจ้า โชคชะตาจึงแปรเปลี่ยนกลายเป็นดาวแปรเปลี่ยนที่คอยช่วยเหลือดาววิกล เจ้าสองคนไม่มีใครหรือสิ่งใดมาทำให้แยกจากกันได้ จะรักใคร่กันไปตลอดกาล จะกลายเป็นผู้มีมหามงคลที่สุดในโลก” เล่อถงมองทั้งสองคนและกล่าวแจกแจง

“ดังนั้น เล่อถงมีอะไรก็พูดมาตามตรงเถอะ ข้าสองคนฟังอยู่” รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เรื่องดี

“ได้ ไม่นานมานี้ จักรพรรดิทุกดินแดนเรียกข้าไปคำนวณดวงชะตา ได้ความออกมาว่ากำลังจะมีหายนะมาถึง อีกทั้งหลังจากเกิดหายนะครั้งนี้แล้ว โลกเซียนจะพบกับความสงบสุขไปอีกหลายร้อยล้านปี ซึ่งคนสำคัญของหายนะครั้งนี้ก็คือพวกเจ้าสองคน จะกำจัดภัยร้ายได้หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว” เล่อถงพูดอย่างเคร่งเครียด

“พวกข้าหรือ?” พวกเขาสองคนสบตากัน

“ใช่แล้ว พวกเจ้า แต่จะทำอย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องของพวกเจ้าแล้ว ข้าไม่อาจคาดการณ์ออกมาได้” เล่อถงกลายร่างเป็นเด็กอีกครั้ง ดูเหมือนจะสูญเสียพลังเซียนไปไม่น้อย ทำให้ไม่สามารถคงร่างผู้ใหญ่ไว้ได้

ท่าทางชี้นิ้วสั่งแบบนี้ทำให้พวกเขาสองคนรู้สึกไม่ดีอย่างมาก

“เล่อถงคงไม่ได้บอกเรื่องพวกนี้กับจักรพรรดิแต่ละดินแดน แต่พวกเขาต้องสงสัยแน่นอนว่าเล่อถงเรียกพวกข้ามาด้วยเหตุใด? เพราะอย่างไรเสียท่านก็ถือเป็นเซียนที่ไม่พบแขกง่ายๆ” หลิวหลีและหนานกงเวิ่นเทียนตัวค้างแข็งไปก่อนจะกลับเป็นปกติ

“ปล่อยพวกเขาสงสัยต่อไปเถอะ แต่ในบรรดาพวกเขาก็ไม่ได้มีแต่คนโง่” อย่างเช่นบรรพชนหงส์ท่านนั้นก็ฉลาดอย่างเหลือเชื่อ คาดว่าคนเหล่านั้นคงรู้แล้วว่าหมายถึงใคร

“ช่างเถอะ พวกข้าเข้าใจแล้ว” หลิวหลีเข้าใจได้ทันที จริงๆแล้ว จักรพรรดิหลายท่านก็มีคนที่เข้าใจอยู่

“แต่ทว่า ให้พวกเจ้ามาที่นี่ไม่ได้จะเพื่อพูดแค่เรื่องนี้เท่านั้น หลิวหลี เวิ่นเทียน ข้าขอมอบของให้พวกเจ้าแต่ละคน พวกเจ้าต้องชอบมากอย่างแน่นอน” เล่อถงตั้งใจพูดให้ดูลึกลับ

“เอ๊ะ? ข้าเกรงใจมาก” แม้หลิวหลีจะพูดเช่นนี้ แต่สีหน้ากลับไร้ซึ่งวี่แววของความเกรงใจ

“ฮ่าๆ หลิวหลี เพลิงเซียนของเจ้ายังไม่บรรลุอีกกี่ประเภท” เล่อถงถาม

“สองประเภท? ธาตุดินและไฟ” หลิวหลีพูด คงไม่ได้มอบเพลิงเซียนให้นางกระมัง

“อืม ข้ามีเพลิงเซียนธาตุดินเก็บเอาไว้ ข้าจะยกให้เจ้าเพื่อให้เพลิงอัคคีได้บรรลุขั้น” เล่อถงพูด

“ขอบคุณ” หลิวหลีตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ อย่างไรก็ตามหลิวหลีก็ไม่ได้ดึงดันปฏิเสธ มาดึงดันตรงนี้ก็คงจะดูแสร้งทำอย่างมาก

“อืม ยังมีของอีกอย่างมอบให้เวิ่นเทียนไว้บำเพ็ญฝึกฝนร่างกาย เวิ่นเทียนเจ้าเพิ่งจะฝึกฝนร่างกายอยู่ในขั้นแรก ไม่มีทางเอาชนะนังหนูที่ฝึกฝนร่างกายมาตั้งแต่ต้นได้ โลกแห่งนั้นลำบากยากเย็น จนเกือบตาย หากเจ้าสามารถกัดฟันผ่านมันไปได้ ร่างกายก็จะไม่อ่อนแอไปกว่าของหลิวหลี เจ้าจะยอมไปหรือไม่?” เล่อถงถามหนานกงเวิ่นเทียน

“ข้ายอมไป” เขาย่อมยินยอมจะไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รู้ว่าโชคชะตาของตนเปลี่ยนไปเพราะเหตุใด เขายิ่งเชื่อมั่นในโชคชะตามากขึ้น โชคชะตาของเขาเปลี่ยนไปเพราะฮูหยินของเขา ดังนั้นเขาย่อมยินยอมจะพยายามเพื่อนาง

“ข้าไปด้วยได้ไหม?” ฟังแล้วเหมือนจะไม่ใช่สถานที่ที่ดีนัก นางไม่ไว้ใจ

“ไม่ได้ เพลิงเซียนกับที่แห่งนั้น เลือกได้เพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้น”

“นางเลือกเพลิงเซียน วางใจเถอะ ข้าไม่เป็นไร ผลลัพธ์ของมันสำคัญกับเจ้ามากกว่า” หลิวหลียังไม่ทันได้พูด หนานกงเวิ่นเทียนก็เลือกแทนนางแล้ว ทำไมเขาจะไม่รู้ใจนังหนู แต่เพลิงเซียนสำคัญกับนางมากจริงๆ เคล็ดวิชาของนางจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับเพลิงเซียน เขาอยากให้นางทำสำเร็จ

“ท่านพี่” หลิวหลีกระทืบเท้าน้อยๆ จริงๆเลย

“น้องหญิง ข้าไม่กลัว เจ้ารอข้านะ” เป็นเพราะเจ้าเปลี่ยนโชคชะตาชีวิตของข้า ข้ายอมจะปกป้องเจ้าไปชั่วชีวิต

เล่อถงมองดูคู่รักที่ทำเหมือนโลกนี้มีเพียงสองเรา ช่างสมกับเป็นคู่สวรรค์สร้าง ไม่เสียแรงที่เขาสูญเสียพลังไปมากมายขนาดนี้เพื่อทำนาย คู่ควร คู่ควรจริงๆ หากผู้คนทั่วหล้าเป็นดั่งสามีภรรยาคู่นี้ก็คงดี แต่หากเป็นเช่นนั้นหมด คงจะน่าเบื่อเอามากๆ ทีเดียว