บทที่ 873 ศึกแห่งความตายที่ตัดสินในเสี้ยววินาที

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

บทที่ 873 ศึกแห่งความตายที่ตัดสินในเสี้ยววินาที Ink Stone_Fantasy

ท่ามกลางความมืดระหว่างตู้หนังสือ ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนแนบชิดกันอยู่…บรรยากาศที่เดิมควรอบอวลไปด้วยกลิ่นอายโรแมนติก ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกอันตรายถึงชีวิต

“แหมะ!”

เลือดสดๆ ไหลลงตามซอกคอของหุ่นซอมบี้ แต่หญิงสาวกลับไม่ได้แทงลึกลงไปอีก

เธอเกร็งลำคอ สะโพกเหยียดตรง…และ ณ ตำแหน่งต้นขาของเธอ มีมือข้างหนึ่งจับอยู่ตรงนั้นแน่น

มือข้างนั้นกดเส้นชีพจรของเธอไว้เช่นกัน และพละกำลังที่มหาศาลจนเหมือนอาจบีบกระดูกเธอให้แหลกได้ทุกเมื่อ ทำให้เธอไม่กล้าสงสัยพลังของอีกฝ่ายส่งเดช…นอกจากนั้น มืออีกข้างหนึ่งของเขาคว้าแขนเธอไว้ วิธีการโต้กลับอย่างนี้ ราวกับว่าเขาสามารถฉีกร่างเธอเป็นสองส่วนได้ในครั้งเดียว

“อยู่ต่อหน้าความตายแต่ยังมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างนี้ได้ นายทำให้ฉันทึ่งจริงๆ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เมื่อเป็นอย่างนี้ฉันก็มั่นใจในตัวตนและจุดประสงค์ในการลักลอบเข้ามาของนาย นายคงตั้งใจพุ่งเป้ามาที่ฉันสินะ? ความเป็นไปได้ที่คนนอกจะผ่านด่านการรักษาความปลอดภัยอันเข้มงวดเข้ามาได้นั้นมีต่ำมาก ดังนั้นนายคงเป็นคนที่อยู่ในฐานทัพที่ 2 ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว…แต่ชุดเครื่องแบบของนายกลับดูเหมือนสมาชิกฟอลคอน…บอกมา ตกลงนายเป็นใครกันแน่?”

“ร้ายกาจ ในเวลาสั้นๆ กลับวิเคราะห์อะไรได้มากมายขนาดนี้!”

หลิงม่อลอบทึ่งในใจ พลางดึงกระตุกมีดออกมาถือไว้ในมือ “ฉันก็อยากถามเหมือนกัน!เธอลงมือจากการคาดเดาของตัวเองเพียงอย่างเดียว ก็แสดงว่าคิดว่าฉันเป็นโจรขโมยข้อมูลไปแล้วสินะ? มีข้ออ้างนี้อยู่ ไม่ว่าฉันจะเป็นใคร ตายไปก็คงไม่เป็นเรื่องใหญ่…ความคิดเข้าท่า…แค่กๆ!”

ผู้หญิงคนนี้ลงมือเหี้ยมมาก! ถึงแม้จะไม่ได้แทงลึกมก แต่ความจริงเท่านี้ก็ทำให้ถึงตายได้แล้ว!

“ในฐานะคนตาย นายพูดมากไปแล้ว” หญิงสาวพูดเสียงเรียบ

แค่ฟังเสียงพูดของเธอ ก็จินตนาการถึงใบหน้าไร้อารมณ์ของเธอได้ไม่ยาก

และจากการพูดคุยพบเจอกันสั้นๆ นี้ หลิงม่อได้รู้จักคนคนนี้ในระดับหนึ่งแล้ว

แทนที่จะบอกว่าเธอเป็นคน บอกว่าเธอเป็นเครื่องมือทำงานประสิทธิภาพสูงจะเหมาะกว่า…

“จะลองดูก็ได้นะ ก่อนที่เธอจะหักกระดูกสันหลังส่วนคอของฉัน ฉันต้องจัดการเธอได้ก่อนอย่างแน่นอน” หลิงม่อเองก็พูดอย่างไม่มีวี่แววของความปรานี จะทะนุถนอมและอ่อนโยนต่อสตรี…ก็ต้องดูก่อนว่าอีกฝ่ายเป็นใคร!

อีกฝ่ายนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง บอกว่า “เข้าใจแล้ว ดูเหมือนนายคงเป็นทหารพลีชีพสินะ ไม่สนใจว่าตัวเองจะตายหรือไม่ กลับเห็นภารกิจสำคัญกว่า…เป็นคนประเภทเดียวกันกับฉัน”

“ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไปนะ…” หลิงม่อขนลุก พลางอดคิดในใจไม่ได้

“แต่ภารกิจของนายไม่ใช่การฆ่าฉัน ข้อนี้ดูจากพฤติกรรมของนายก็รู้ ถ้าหากเป้าหมายคือฆ่าฉัน ตอนนี้นายคงจะโจมตีฉันอย่างไม่คิดชีวิต ขอเพียงฆ่าฉันให้สำเร็จก่อนตายก็พอ แต่นายไม่ได้ทำแบบนั้น ถึงแม้ว่าลมหายใจของนายกำลังค่อยๆ สั้นลง แต่นายกลับเลือกที่จะพูดจาไร้สาระจนถึงที่สุด” หญิงสาวพูดต่อ ได้ยินเธอพูดเรื่องที่ตัวเองอาจถูกฆ่าด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์อย่างนั้น หลิงม่อก็อดรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อเล็กน้อยไม่ได้

แต่ต้องยอมรับว่าความสามารถในการวิเคราะห์ของผู้หญิงคนนี้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ

ในสถานการณ์อย่างนี้ เธอยังสามารถนำรายละเอียดเล็กๆ พวกนี้มาวิเคราะห์จนได้ข้อมูลออกมามากมาย ก็ไม่แปลกที่เธอจะแฝงตัวอยู่ที่นี่ได้นานขนาดนี้

แต่สำหรับหลิงม่อ ตะปูตัวนี้ค่อนข้างต่างจากที่เขาจินตนาการไว้…

“เธอชื่ออะไร?” หลิงม่อถาม

“หืม?” ในที่สุดน้ำเสียงของหญิงสาวก็มีความเปลี่ยนแปลง เธอนิ่งเงียบหลังจากที่รู้สึกประหลาดใจ แล้วบอกว่า “นายน่าจะรู้ว่าอีกไม่นานนายจะตายเพราะเสียเลือดมากใช่ไหม? ถึงแม้พวกเราจะยืนอยู่ในท่านี้ไปเรื่อยๆ…เอาเถอะ ฉันชื่ออวี๋เสียน ถ้าหากนายเตรียมตัวมาดีพอ ก็น่าจะรู้ชื่อของฉันแล้ว คำถามของนาย ทำให้ฉันสงสัยการคาดเดาของตัวเอง”

“เหอะๆ…”

หลิงม่อทำได้เพียงฝืนหัวเราะ เขาจะไปรู้ชื่อพนักงานสามคนนี้จากที่ไหนกันล่ะ? หากอดทนสอบถามคนอื่นก็อาจได้คำตอบมาไม่ยาก แต่เขาไม่มีเวลามากขนาดนั้น…

“แต่ก่อนที่จะมีความเป็นไปได้อื่นปรากฏขึ้น ฉันก็ยังคงเชื่อการคาดเดาที่มีหลักเหตุผล” อวี๋เสียนพูด

“เธอกำลังถ่วงเวลาใช่ไหม?” อยู่ๆ หลิงม่อก็พูดขึ้น

อวี๋เสียนยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ใช่ นายใจเย็นเกินไปแล้ว ทำให้ฉันรู้สึกอันตราย แม้แต่การพูดคุยก็ไม่ได้ทำให้นายสมาธิไขว้เขว ฉันเดาว่านายน่าจะมีแผนอื่นซ่อนอยู่ แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ การถ่วงเวลาเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ฉันคิดออก นายเองก็เหมือนกันไม่ใช่หรอ?”

ให้ตาย…ติดแหง็กอยู่ในสถานการณ์นี้ซะแล้ว

แต่สิ่งที่อวี๋เสียนไม่รู้คือ ตอนนี้เลือดและเนื้อตรงบาดแผลของหุ่นซอมบี้ กำลังปั่นป่วนอย่างต่อเนื่อง…

ถึงแม้ใกล้จะแหลกสลาย แต่ลักษณะเด่นด้านการฟื้นตัวของซอมบี้กลับยังคงสำแดงฤทธิ์อยู่ ในสถานการณ์ที่ไม่ตายทันที อัตราการรอดชีวิตของซอมบี้ก็สูงกว่ามนุษย์มาก…แม้อวี๋เสียนจะวิเคราะห์เก่งอีกแค่ไหน แต่ในสถานการณ์ที่ไร้ต้นสายปลายเหตุอย่างนี้เธอไม่มีทางคาดเดาได้ถึงตัวตนที่แท้จริงของหุ่นซอมบี้ได้แน่นอน

“และนี่…ก็เป็นความผิดพลาดที่หนึ่งของเธอ!”

ทันใดนั้นหลิงม่อคำราม ขณะเดียวกัน ประกายแสงสีแดงสายหนึ่งพลันปรากฏตัวที่ส้นเท้าอวี๋เสียน และพุ่งขึ้นข้างบนอย่างรวดเร็ว

หลิงม่อพลันบิดตัว และพุ่งเข้าใส่อวี๋เสียน ดันร่างเธอให้ถอยไปกระแทกกำแพงข้างหลังพร้อมกันเต็มแรง

อวี๋เสียนตะลึงงัน เธอรีบกดมีดลงไปทันที แต่เธอก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าภายในของบาดแผลนั้น…สมานตัวกันแล้ว!

อุปสรรคเพียงเสี้ยววินาทีส่งผลอันตรายถึงชีวิต อวี๋เสียนยังไม่ทันได้คิดลงมืออีกครั้ง อาวุธสังหารในมือเธอก็ถูกบิดหักดัง “แกร่ก” …

แม้ถืออาวุธหักครึ่งท่อนไว้ในมือ แต่อวี๋เสียนก็ยังไม่ลังเลที่จะแทงมันไปที่ขมับของหลิงม่อทันที

นี่เป็นช่วงเวลาที่ต้องแข่งกันเรื่องความเร็ว ภายใต้การควบคุมโดยพลังจิต ดวงตาทั้งสองข้างของหุ่นซอมบี้พลันกลายเป็นสีแดง กล้ามเนื้อขาทั้งสองข้างปูดขึ้นมา แทบจะในเสี้ยววินาทีถัดมา ร่างของทั้งสองลอยไปกระแทกกำแพงอย่างแรง

“อั๊ก!”

อวี๋เสียนที่กลายเป็นเบาะรองกระแทกในร่างคนร้องครวญ ข้อศอกที่กระแทกกำแพงพลันอ่อนแรง ส่งผลให้อาวุธในมือหลุดจากมือตกลงบนพื้น

ของเหลวอุ่นๆ สายหนึ่งไหลลู่ลงตามแนวกรอบหน้าของหุ่นซอมบี้ และหยดลงบนพื้น

“เกือบไปแล้ว…”

หลิงม่อถอนใจ เกือบไปแล้วจริงๆ…

มนุษย์ผู้หญิงที่ลงมือโหดเหี้ยมขนาดนี้ เขาเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก…

เหมือนกับที่อวี๋เสียนบอก วิธีการทำงานของเธอไม่ต่างจากหุ่นซอมบี้เลย ถึงแม้ตัวเองจะตกอยู่ในอันตรายแล้ว แต่ก็ยังคงคิดฆ่าอีกฝ่ายอย่างสุดกำลัง…ต้องเป็นผู้หญิงที่จิตแข็งขนาดไหนกันเนี่ย!

“แค่กๆ…”

หลังจากร่างกายถูกกระแทกอย่างจัง อวี๋เสียนดูอ่อนแอลงมากอย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงร่างกายกระตุกสั่น แต่ยังไออย่างต่อเนื่องด้วย

เมื่อหลิงม่อหันกายกลับไป ก็เห็นเธอนั่งพิงกำแพงอย่างอ่อนแรง แขนขาทั้งสี่ข้างเหมือนกำลังสั่นเทาเล็กน้อย

“นาย…” หน้าตาของอวี๋เสียนถือว่างามละเอียด เพียงแต่สีหน้าค่อนข้างกระด้างแข็ง สายตาก็ดูเลื่อนลอยเล็กน้อย แต่ตอนนี้ เพราะความเจ็บปวด เธอจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย นั่นกลับทำให้เธอดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา

“เธอไม่ใช่ผู้มีความสามารถพิเศษ” หลิงม่อถามจี้ใจดำ ดวงตาของเขากลับกลายเป็นปกติแล้ว แต่ยังคงหอบหายใจอยู่เล็กน้อย

อวี๋เสียนจ้องหน้าเขา บอกว่า “แค่เคยได้รับการฝึกฝนมา…” เธอบอกตรงๆ “หากเป็นผู้มีความสามารถพิเศษอาจถูกสงสัยได้ง่าย คนธรรมดาไม่เป็นที่สะดุดตา แต่ว่านาย…” เธอหันไปมองบาดแผลของหลิงม่อ “นายเป็น…”

ในเวลาสั้นๆ บาดแผลกลับเริ่มมีการสมานตัวกันเกิดขึ้น แถมกล้ามเนื้อยังสามารถหดตัวได้อย่างน่าทึ่ง นี่เป็นสิ่งที่อวี๋เสียนคาดไม่ถึง ความจริงหากเธอรู้ว่าเจ้าของร่างกายนี้เป็นซอมบี้ เธอคงไม่ตกใจอย่างนี้ อาศัยพละกำลังอย่างเธอปะทะกับซอมบี้ระดับสูง เกรงว่าแค่จะทำให้ผิวหนังของอีกฝ่ายถลอกก็ยังทำไม่ได้…

หลิงม่อยกมือลูบคอตัวเอง และก้มหน้ามองพื้น

เขาก้มลงหยิบดินสอหักครึ่งขึ้นมา บอกว่า “เธอนี่เป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆ…”

“ฆ่าฉันเถอะ นายไม่มีทางได้อะไรไปจากฉันหรอก” จู่ๆ อวี๋เสียนก็พูดขึ้น

“อย่าใจร้อนสิ…ความจริงฉันเริ่มสงสัยตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว…” หลิงม่อจ้องหน้าอวี๋เสียนแล้วถามว่า “แค่งานงานหนึ่ง ทำไมเธอต้องยอมแลกชีวิตด้วย? หรือถามอีกแบบก็คือ ยอมแลกชีวิตเพื่อคนอื่น คุ้มกันหรอ? ฆ่าคนเพื่อผู้อื่น คุ้มหรอ?”

“ฆ่า…” อวี๋เสียนทวนคำ แล้วเธอก็เบิกตาจ้องหน้าหลิงม่อ จากนั้นก็ส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้ ฐานทัพที่ 2 ยังไม่ได้รับแจ้งข่าวสารที่เกี่ยวข้อง…”

“เธอหมายถึงหลิงม่อสินะ?”

คราวนี้อวี๋เสียนนิ่งเงียบไป ดูออกว่าเธอไม่ได้ลนลาน แต่ทันทีที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับข้อมูล เธอจะเงียบไม่ยอมปริปาก

“ผู้บัญชาการหวัง…เป็นอะไรกับเธอ? เอาไว้ตอนที่ฉันฆ่าเขา ฉันจะบอกคำสั่งเสียของเธอให้เขาได้รู้แล้วกัน” หลิงม่อไม่พูดอ้อมค้อม เขาบอกกับเธอตรงๆ

ในที่สุด สายตาของอวี๋เสียนก็มีคลื่นอารมณ์เกิดขึ้น เธอลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็ส่ายหน้า แต่ในตอนนั้นเอง แสงสีแดงตรงท้ายทอยของเธอพลันส่องประกาย จากนั้นร่างกายของเธอก็กระตุกสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

หลิงม่อสับต้นคอเธออย่างไม่ลังเล ขณะเดียวกันก็พยุงเธอให้นอนลงกับพื้น

“ขอโทษด้วย ในเมื่อเธอไม่ยอมพูด ฉันคงต้องอ่านความจำเธอเองแล้วล่ะ…”

การอ่านความทรงจำโดยพึ่งเจ้ามาสเตอร์บอลเป็นตัวกลาง ย่อมมีอันตราการสูญหายของข้อมูลสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็สร้างภาระให้หลิงม่อไม่น้อย…

ท่ามกลางป่ารกร้าง ในสมองของหลิงม่อมีภาพความทรงจำมากมายที่ไม่ใช่ของตัวเองผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง…

“จะให้ฉันไปจริงๆ หรอ?” ภายใต้แสงไฟบิดเบี้ยว หญิงสาวคนหนึ่งถามขึ้น

ชายตรงหน้าเธอถอนหายใจ ยื่นมือมากุมฝ่ามือเธอไว้ บอกว่า “ฉันไม่เชื่อใจคนอื่น”

“อย่างนี้เอง…” หญิงสาวพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็ได้”

เขาเชื่อฉันคนเดียว เชื่อใจฉันแค่คนเดียวเท่านั้น…ถึงจะกลัว แต่ก็ดีใจมาก…ขอเพียงทำให้เขาประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าอุปสรรคอะไรขวางทาง ฉันจะกำจัดมันด้วยมือของตัวเอง คนที่เข้ามาขวางทาง ฆ่าทิ้งให้หมด…

“แต่เพื่อความปลอดภัยของเธอ พวกเราต้องเริ่มการฝึกฝนพิเศษโดยเร็วที่สุดถึงจะได้ มันอาจลำบากอยู่บ้าง…”

“ไม่ต้องห่วงเรื่องพวกนี้ คุณทำให้ดี ถ้าสำเร็จเมื่อไหร่…”

ภาพตัดความทรงจำมากมายไหลผ่าน เป็นภาพที่เธอถือข้อมูลที่เก็บรวบรวมเรียบร้อยแล้วไว้ในมือ และกำลังหยิบเครื่องมือสื่อสารแบบพิเศษขึ้นมา…

“…น่าจะเกี่ยวข้องกับหลิงม่อ…เข้าใจแล้ว…ฉันจะจับตาดูไว้ เดี๋ยวก่อน!…ขอให้ทุกอย่างราบรื่นนะ”

“ฮู่ว!”

หลิงม่อพลันลืมตา หุ่นซอมบี้ก้มหน้ามองอวี๋เสียนที่ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะ “น่าเสียดาย ภารกิจล้มเหลวซะแล้ว ฉันยังมีชีวิตอยู่ ส่วนพวกเธอ…ช่างเหมาะสมกันอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ…”

อวี๋เสียนที่ยังคงดิ้นรนอยู่ขยับตัวเล็กน้อย แต่ดวงตาไร้จุดโฟกัสของเธอคู่นั้นกลับเป็นสิ่งที่บ่งบอกชัดเจนว่าเธอไม่มีโอกาสฟื้นคืนสติอีกแล้ว…

—————————————————————————–