ตอนที่ 547

Elixir Supplier

547 มันขึ้นอยู่กับหมอว่าจะรักษาหรือไม่รักษา

 

“ผมต้องขอโทษที่เพื่อนร่วมงานของผมทำตัวเสียมารยาทด้วยนะครับ ผมหวังว่าคุณจะให้อภัยเขาได้” ชายหนุ่มคนนี้ทำตัวสุภาพกว่าชายอีกคนมาก

 

“ผมว่า พวกคุณควรกลับไปได้แล้วนะ” หวังเย้าพูดด้วยท่าทีสงบนิ่ง

 

กระจกรถคันแรกถูกเลื่อนลงเล็กน้อย คนที่อยู่ภายรถจึงสามารถได้ยินบทสนทนาระหว่างหวังเย้าและชายหนุ่ม

 

“คุณก็เห็นนี่ครับ ที่ผมมาที่นี่ก็เพราะได้ยินมาว่าคุณเป็นหมอที่เก่งมาก แล้วเราก็รอคุณมาตลอดทั้งเช้าเลย ผมรู้ว่าคุณเป็นคนจิตใจดี ดังนั้นช่วยเห็นใจเราด้วยเถอะนะครับ” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“อืม” ชายที่นั่งอยู่ภายในรถพยักหน้า

 

“ผมบอกไปแล้ว ว่าผมจะไม่รักษาเขา เชิญกลับไปเถอะครับ” หวังเย้าพูด

 

“ฉันขอถามหน่อยได้ไหม ว่าทำไม?” ผู้อำนวยการลงมาจากรถ

 

“พวกคุณทำผิดกฎของผม คุณไม่ควรไปที่บ้านของผม” หวังเย้าพูด “แล้วผมก็เขียนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วด้วย”

 

‘ผมไม่อยู่ที่คลินิก โปรดอย่าไปรบกวนครอบครัวของผม’

 

“นี่ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอครับ?” หวังเย้าชี้ไปที่ป้าย

 

“แต่เธอก็อยู่ที่นี่และไม่ได้ไปไหนนี่” ผู้อำนวยการพูด

 

“ตราบใดที่ผมไม่ได้อยู่ที่นี่คลินิก ก็ถือได้ว่าผมไม่อยู่ ผมคือคนที่ติดสินใจ ว่าผมจะอยู่หรือไม่อยู่” หวังเย้าพูดอย่างสงบ

 

“อืม” ผู้อำนวยการวัย 40 มองหน้าหวังเย้า เขาคิดว่า หมอหนุ่มคนนี้ไร้มารยาทมาก ถ้าหากไม่ใช่เพราะเพื่อนของเขาแนะนำมาละก็ เขาก็คงไม่มาถึงที่นี่ การมาในที่ที่ห่างไกลแบบนี้ มันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย และเขาก็ไม่คิดว่า หวังเย้าจะเป็นคนที่มีความคิดแปลกประหลาดแบบนี้

 

หวังเย้าไม่ได้พูดอะไรอีก เขาหมุนตัวและเดินกลับขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน

 

“นี่ นายน่ะ!” หนึ่งในคนของผู้อำนวยการตะโกนเรียกเขา

 

“จะมาที่นี่ให้มันได้อะไรกัน? กลับกันเถอะ” ผู้อำนวยการกลับขึ้นไปนั่งบนรถ

 

เขาไม่คิดว่า การที่เขาจะต้องโมโหเพราะเรื่องนี้มันเป็นอะไรที่ไร้สาระอย่างมาก รถเคลื่อนตัวออกจากคลินิก หวังเย้าไม่ได้หันกลับไปมอง และเดินขึ้นไปบนเนินเขาหนานชานโดยไม่คิดจะหยุด

 

อยู่ๆรถก็หยุดลงที่กลางหมู่บ้าน

 

“ท่านครับ?” คนของผู้อำนวยการเอ่ยถาม

 

“เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” ผู้อำนวยการมองผ่านหน้าต่างรถออกไป และเห็นร่างของคนที่คุ้นเคยเดินอยู่บนถนน คนคนนั้นก็คือ หลินซือเทา

 

“ไปเรียกเขามาที่นี่หน่อยซิ” ผู้อำนวยการพูด “ทำตัวสุภาพด้วยล่ะ”

 

“ครับ” หนึ่งในคนของเขาพูด

 

เขาลงไปจากรถและเดินตรงไปหาหลินซือเทา เขายืนคุยกับหลินซือเทาครู่หนึ่ง จากนั้น หลินซือเทาก็เดินตรงมาที่รถ

 

“สวัสดีครับ ผู้อำนวยการซวี” หลินซือเทาพูด

 

“เป็นคุณจริงๆด้วย” ผู้อำนวยการซวีพูด “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน? แล้วประธานซุนอยู่ที่นี่ด้วยรึเปล่า?”

 

“ไม่ครับ แค่ผมคนเดียว” หลินซือเทาพูด

 

“อ้อ” ผู้อำนวยการซวีพูด

 

ในตอนนั้นเอง ซุนหยุนเชิงก็เดินเข้ามาหา “ลุงหลินครับ”

 

“นี่คือ?” ผู้อำนวยการซวีมองไปที่ซุนหยุนเชิง ซึ่งมีหน้าตาละม้ายซุนเจิ้งหรง “เธอคือลูกชายของประธานซุนเหรอ?”

 

“ครับ แล้วคุณคือ?” ซุนหยุนเชิงถาม

 

“นี่คือ ผู้อำนวยการซวี จากกรมขนส่งครับ” หลินซือเทาแนะนำ

 

“โอ้ สวัสดีครับ ผู้อำนวยการซวี” ซุนหยุนเชิงพูด

 

“สวัสดี” ผู้อำนวยการซวีพูด

 

เขารู้สึกงุนงงมาก เพราะเขาเคยได้ยินมาว่า ซุนหยุนเชิงนั้นป่วยด้วยโรคร้ายและใกล้ตาย แต่เมื่อได้มาเห็นว่า ซุนหยุนเชิงสบายดีแบบนี้ มันจึงทำให้เขารู้สึกแปลกใจอย่างมาก

 

พวกเขาคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้คุยลงลึกมากนัก จากนั้น รถของผู้อำนวยการซวีก็ขับออกไปจากหมู่บ้าน

 

“ผมว่า ผู้อำนวยการซวีคงจะมาหาหมอหวังแน่ๆ” ซุนหยุนเชิงพูด

 

“ก็อาจจะ” หลินซือเทาพูดออกมาและหันไปมองทางทิศใต้ของหมู่บ้าน “ลุงคิดว่า เขาอาจจะไม่ได้รักษากับหมอหวังก็ได้”

 

“ทำไมล่ะครับ?” ซุนหยุนเชิงถาม

 

“ตอนที่ลุงออกไปเดินเล่นมาเมื่อเช้า ลุงเห็นมีป้ายแขวนเอาไว้ที่ประตูน่ะสิ” หลินซือเทาพูด

 

“ถ้าดูจากท่าทางของพวกเขาแล้ว พวกเขาอาจจะไปที่บ้านของหมอหวังมาก็ได้นะครับ” ซุนหยุนเชิงพูด

 

เมื่ออยู่ในตัวจังหวัด คนกลุ่มนี้มักจะไม่ทำตัวเด่นเกินไป แต่เมื่อพวกเขามาอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ พวกเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในทันที

 

“เธอพูดถูก” หลินซือเทาพูด

 

“ผมไม่แน่ใจว่า ผู้อำนวยการซวีจะรู้สึกไม่พอใจด้วยรึเปล่านะครับ” ซุนหยุนเชิงพูด

 

“เขาต้องไม่พอใจแน่” หลินซือเทาพูด

 

“แล้วเขาจะสร้างปัญหาให้กับหมอหวังไหมครับ?” ซุนหยุนเชิงถาม

 

“หมอหวังจัดการได้อยู่แล้วล่ะ” หลินซือเทาพูด

 

ถ้าหากเขาอยากจะจัดการเรื่องของผู้อำนวยการซวี หวังเย้าเพียงแค่กดโทรหากั๋วซือหรงหรือไม่ก็ซงรุ่ยปิงก็เป็นอันเรียบร้อย แม้แต่ซุนเจิ้งหรงก็สามารถจัดการเรื่องนี้ได้เช่นกัน

 

ตู้เฟิงเดินทางมาที่คลินิกในเช้าของวันถัดมา เขาดูสุขภาพดีขึ้นและมีเนื้อมีหนังมากขึ้นด้วย

 

“ช่วงนี้ คุณเป็นยังไงบ้างครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ผมสบายดีมาก ขอบคุณมากนะครับ” ตู้เฟิงพูด ตั้งแต่มารักษากับหวังเย้า เขาก็ไม่ได้กินยารักษาโรคหัวใจราคาแพงอีกต่อไป ร่างกายของเขาตอบสนองกับการรักษาของหวังเย้าได้ดีมาก และเขาก็รู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ

 

เขายังรู้สึกด้วยว่า หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ ที่เขาต้องพึ่งยาเพื่อทำให้หัวใจที่อ่อนแอของเขาเต้นต่อไป

 

“ผมขอตรวจดูหน่อยนะครับ” หวังเย้าพูด เขาตรวจดูร่างกายของตู้เฟิงอย่างละเอียด “อืม อาการของคุณดีขึ้นมากแล้ว ผมคิดว่า หลังจากกินยาต่อไปอีกสักสองโดส คุณก็น่าจะหายดีแล้วนะครับ”

 

“นั่นมันเยี่ยมไปเลยครับ!” ตู้เฟิงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

 

“พรุ่งนี้ ให้คุณกลับมาเอายาด้วยนะครับ” หวังเย้าพูด

 

“ได้ครับ” ตู้เฟิงเดินออกไปจากคลินิกด้วยอารมณ์ที่ดีอย่างมาก

 

ทันทีที่เขาเดินพ้นประตูคลินิกไป ซุนหยุนเชิงก็เดินเข้ามา

 

“สวัสดีครับ หมอหวัง” ซุนหยุนเชิงพูด

 

“เชิญเข้ามานั่งข้างในก่อนสิ” หวังเย้าพูด “มีอะไรให้ผมช่วยเหรอ?”

 

“เมื่อวาน ผู้อำนวยการซวีมาหาคุณใช่ไหมครับ?” ซุนหยุนเชิงถาม

 

“เมื่อวานผมไม่ได้เปิดคลินิก แต่ใช่ครับ มีคนมาหาผมที่นี่” หวังเย้าตอบ “ผมก็เลยขอให้เขากลับไป เธอถามทำไมเหรอ?ไ

 

“คุณบอกให้เขากลับไปเหรอ?” ซุนหยุนเชิงถาม ฉันคิดถูกจริงๆด้วย หมอหวังไม่คิดจะสนใจเจ้าหน้าที่รัฐพวกนั้นเลยสักนิด

 

“ผู้อำนวยการซวีถือเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงอยู่ในกรมการขนส่งน่ะครับ” ซุนหยุนเชิงพูด

 

“นายกำลังจะบอกว่า เขาอาจจะสร้างเรื่องให้ผมใช่ไหม?” หวังเย้าเข้าใจความหมายของซุนหยุนเชิงได้ในทันที

 

“มันก็ไม่แย่เท่าไหร่ ถ้าจะระวังตัวเอาไว้ก่อนน่ะครับ” ซุนหยุนเชิงพูด

 

มันเป็นเรื่องง่ายมาก ที่คนระดับผู้อำนวยการซวีจะสร้างความลำบากให้กับใครสักคน ถึงแม้ว่าเข้าจะไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับสาธารณสุข แต่เขาก็สามารถขอให้ผู้อำนวยการสาธารณสุขลงมือแทนเขาได้

 

“ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ก็บอกผมได้เลยนะครับ” ซุนหยุนเชิงพูด

 

“โอเค ขอบคุณมากเลยนะ” หวังเย้าพูด

 

ซุนหยุนเชิงรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่หวังเย้าทำให้เขาอย่างมาก และมิตรภาพระหว่างพวกเขาก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ

 

“ด้วยความยินดีครับ” ซุนหยุนเชิงพูด

 

“ช่วงหลังมานี้ นายได้ฝึกมวยจีนด้วยใช่ไหม?” หวังเย้าถาม

 

“ใช่ ผมเรียนพวกพื้นฐานมาจากลุงหลินน่ะ” ซุนหยุนเชิงตอบ เขารู้สึกสนุกกับการเรียนมาก

 

“นั่นเป็นเรื่องที่ดีมาก ตอนนี้ ดูเหมือนว่าการไหลเวียนของพลังฉีและโลหิตของนายจะพัฒนาขึ้นด้วยนะ” หวังเย้าพูด

 

เขากับซุนหยุนเชิงอยู่คุยกันได้สักพัก จากนั้นซุนหยุนเชิงก็ขอตัวกลับ

 

ปัญหาเหรอ? หวังเย้าไม่ได้ใส่ใจเรื่องของผู้อำนวยการซวีมากนัก แต่เขาก็จำเป็นต้องระวังเอาไว้ก่อน

 

ในตอนบ่าย มีคนไข้มาที่คลินิกอีก พวกเขาทั้งหมดคือคนที่อยู่หมู่บ้านใกล้ๆ และส่วนใหญ่ก็มาด้วยปัญหาในกระเพาะและลำไส้

 

ในช่วงระหว่างตรุษจีน ผู้คนส่วนใหญ่จะใช้เวลาไปกับการกินดื่มสังสรรค์ และเข้านอนดึกกว่าปกติ ดังนั้น จึงมีปัญหาเรื่องสุขภาพเกิดขึ้นมากมายในช่วงตรุษจีน

 

หวังเย้ารักษาพวกเขาด้วยการนวดและแนะนำเรื่องอาหารการกิน เขาพยายามจะไม่จ่ายยาให้คนไข้เหล่านี้ มีคนไข้สองรายที่มีเลือดออกในกระเพาะเพราะดื่มเหล้าหนัก

 

“ทำไมถึงไม่มาให้เร็วกว่านี้ล่ะครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ก็ฉันคิดว่า หารมาหาหมอตอนช่วงตรุษจีนมันเป็นเรื่องไม่มงคลน่ะสิ แต่ตอนนี้ฉันทนเจ็บไม่ไหวแล้ว” ชายวัยกลางคนพูด

 

ใบหน้าของเขาเหลืองราวกับเทียนไข และริมฝีปากเป็นสีม่วงคล้ำ

 

“ตอนนี้ คุณมีปัญหาที่ตับ ถ้ายังดื่มหนักแบบนี้ต่อไป สุขภาพร่างกายของคุณจะพังเอานะครับ” หวังเย้าพูด

 

“เอ่อ แต่ฉันเลี่ยงไม่ดื่มตอนช่วงตรุษจีนไม่ได้น่ะสิ” คนไข้พูดด้วยท่าทีเศร้าหมอง เขาไม่อยากจะดื่มในบางโอกาส แต่สุดท้ายเขาก็ปฏิเสธไม่ได้ ยิ่งเขาดื่มมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายมากเท่านั้น

 

“โชคยังดีที่คุณมาวันนี้ ผมจะจ่ายยาให้คุณเอากลับไปกินที่บ้านนะครับ ในช่วงนี้ คุณต้องห้ามดื่มเหล้าเด็ดขาด ถ้าคุณดื่มแล้วอาการไม่ดีขึ้น ก็ไม่ต้องกลับมาหาผมแล้วนะครับ” หวังเย้าพูด

 

“แน่นอน ขอบคุณนะ” คนไข้พูด

 

“คุณก็เหมือนกันสินะ” หวังเย้าพูดกับคนไข้ที่รอคิวอยู่ คนไข้รายนี้มีอาการขาดน้ำ ซึ่งเกิดจากการอาเจียนและท้องเสีย และสาเหตุก็มาจากการดื่มแอลกอฮอล

 

“โอเค โอเค” คนไข้พูด หวังเย้าตรวจดูอาการของเขา

 

“อาการของคุณแย่ยิ่งกว่าคนเมื่อกี้อีกนะครับ” หวังเย้าพูด “ทำไมถึงได้ดื่มเหล่าตอนท้องว่างล่ะครับ?”

 

“หมอรู้ได้ยังไงน่ะ?” คนไข้ถามด้วยความแปลกใจ

 

“นั่นไม่ใช่ประเด็นครับ ผมจะจัดยาให้คุณสองตัว ตั้งแต่นี้ไป คุณต้องห้ามดื่มเหล้าเด็ดขาด และเลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ด้วยนะครับ” หวังเย้าพูด

 

“ได้ๆ ฉันจะทำ” คนไข้วัยประมาณ 30 พูด

 

หวังเย้าจ่ายยาให้คนไข้ทั้งสอง เขาเขียนวิธีการต้มยาและข้อควรระวังเอาไว้ด้วย

 

“ให้กินยาตรงตามเวลา จำไว้ว่า อย่าดื่มเหล้าอีก”หวังเย้าพูด

 

“ได้ๆๆ” คนไข้ทั้งสองพูด

 

คนไข้ทุกรายต่างก็รับปากจะทำตามคำแนะนำของหวังเย้า แต่พวกเขาส่วนใหญ่ ก็ไม่มีใครทำตามได้เลย

 

หวังเย้ายุ่งอยู่กับการตรวจคนไข้ตลอดทั้งบ่าย หลังจากที่คนไข้ไปหมดแล้ว เขาก็จดบันทึกรายละเอียดการรักษาของวันนี้ลงไปในสมุด คนไข้ที่มาในตอนกลางวันล้วนแล้วแต่ป่วยด้วยโรคทั่วๆไป หวังเย้าจึงใช้สมุนไพรธรรมดารักษาพวกเขา ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ซื้อมาจากร้านด้านนอก มันคุ้มค่าที่เขาได้พัฒนาวิธีการรักษาไปด้วย เขาจึงจดบันทึกทุกอย่างลงไปให้ละเอียดที่สุด และเขายังมีสมุดอีกเล่มที่แยกไว้สำหรับโรคที่รักษาได้ยากและต้องใช้สมุนไพรรากในการรักษาด้วย