ตอนที่ 85 การคัดเลือกรอบแรกรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’

Perfect Superstar

ตอนที่ 85 การคัดเลือกรอบแรกรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’

วันที่ 20 เดือนมิถุนายน เมฆมาก สภาพอากาศดี

เวลา 9 โมงเช้า ในสนามกีฬาแห่งหนึ่งในเมืองหลวงขึ้นป้ายไฟสีสันโดดเด่น บรรยากาศคึกคัก การแข่งขันรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ ซีซั่นสองทางสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน การรับสมัครและคัดเลือกรอบแรกเริ่มต้นขึ้นที่นี่

ในสนามกีฬามีการตั้งเต็นท์มากกว่าร้อยหลัง ผ้าใบเหล่านั้นถูกกำหนดให้เป็นสีเหลืองส้มซึ่งเป็นสีตัวแทนสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน ป้าย Logo ของรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ สีดำขาวติดอยู่ด้านบนอย่างโดดเด่น เหนือศีรษะของผู้สมัครมากมาย มีป้ายโฆษณาขนาดยักษ์แขวนอยู่ทั่วทุกที่ ตัวหนังสือ ‘ร่ำรวย’ สองตัวโบกสะบัดไปมา

ในฐานะเจ้าแห่งวาไรตี้โชว์ของช่องในประเทศ รายได้จากค่าโฆษณาของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานมากเกือบเทียบเท่าสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ อีกทั้งอัตราการใช้เงินลงทุนมากกว่า ไม่เคยขาดแคลนทุนทรัพย์ จึงกล้ามาจัดเวทีประกวดถึงเมืองหลวง

ตอนลู่เฉินรีบมาถึงสนามกีฬา จำนวนคนที่เบียดเสียดกันอยู่ด้านในก็เป็นหมื่นคนแล้ว

เพราะกังวลว่าถนนจะรถติด ลู่เฉินจึงนั่งรถไฟใต้ดินมา ในรถไฟขบวนเดียวกันมีคนจำนวนไม่น้อยที่แบกกีตาร์มาสมัครรอบคัดเลือกรอบแรก และยังมีคนที่อายุน้อยกว่าเขาอีกหลายคน

มาถึงสนามกีฬาถึงรู้ว่าคนมากมายมหาศาลเป็นอย่างนี้นี่เอง ถ้าไม่ได้เจ้าหน้าที่ที่สวมเสื้อกั๊กสีเหลืองมากมายคอยบอกทาง ลู่เฉินคงหาสถานที่ประกวดรอบแรกไม่เจอ

การประกวดรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ เพิ่งเริ่มจัดขึ้นเป็นวันแรก การรับสมัครทางออนไลน์เริ่มต้นมานานแล้ว ลู่เฉินลงทะเบียนสมัครทางเว็บไซต์ โชคดีที่เขาถูกจัดให้เข้าร่วมการประกวดคัดเลือกในวันแรก

การคัดเลือกรอบแรกใช้เวลาสามวันถึงจะเสร็จสิ้น ถึงวันที่ 25 จึงจะเป็นการคัดเลือกถ่ายทอดสด

เลขประจำตัวผู้เข้าแข่งขันของลู่เฉินคือ 17690 แสดงว่ามีผู้สมัครอีกหมื่นกว่าคนอยู่ก่อนหน้าเขา ไหนจะผู้สมัครหลังเขาอีกหลายวัน รวมกันแล้วน่าจะมากถึงสามสี่หมื่นคน หรือสี่ห้าหมื่นคน

จำนวนตัวเลขดูมากเกินความจริง แต่นี่เป็นเพียงจำนวนผู้สมัครเฉพาะในเขตเมืองหลวง และมาตรฐานการคัดเลือกเข้ารายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ ค่อนข้างสูง จะต้องได้นักร้องที่ร้องเพลงเพราะและเขียนเพลงได้ อย่างน้อยต้องเคยมีประสบการณ์ทางดนตรี ไม่อย่างนั้นจะเป็นจุดอ่อน

อีกอย่างหนึ่งคือ ในเมืองหลวงเท่านั้นถึงจะมีผู้เข้าสมัครมากมายขนาดนี้

เพราะในเมืองหลวงเป็นศูนย์รวมของเหล่านักร้องหลงกรุง ไหนจะมหาวิทยาลัยทางด้านดนตรีอีกมากกว่าสามแห่งและกลุ่มอบรมด้านดนตรีอีกนับไม่ถ้วน ค่ายเพลงทั้งเล็กใหญ่ บริษัทเอเจนซี่…ผู้สมัครมีจำนวนมากเป็นเรื่องธรรมดา

จากเลขรหัสผู้เข้าประกวด ลู่เฉินถูกแบ่งไปสถานที่ประกวดหมายเลข 19

สถานที่ประกวดหมายเลข 19 ความจริงแล้วเป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ ผู้เข้าคัดเลือกทั้งหลายเข้าไปแสดงตามลำดับ หากผ่านการคัดเลือกจะเข้าไปสู่ห้องออกอากาศหมายเลข 25 หากไม่ผ่านการคัดเลือกก็กลับบ้านไปได้เลย

การเตรียมงานของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานต้องสมบูรณ์แบบ แม้ผู้เข้าประกวดจะมากมาย แต่ทั้งหมดเป็นระเบียบเรียบร้อย นอกเต็นท์สถานที่ประกวดรอบแรกตั้งกันสาดไว้ มีเก้าอี้พลาสติกวางไว้ให้ผู้เข้าประกวดนั่งพัก ทั้งยังมีน้ำแร่ให้ดื่มฟรี

ผู้ที่นั่งรวมอยู่กับลู่เฉินมีประมานหนึ่งถึงสองร้อยคน ผู้เข้าประกวดบางคนยกมาทั้งครอบครัว!

อย่างเช่นสาวน้อยที่นั่งอยู่ทางฝั่งซ้ายของลู่เฉิน มองดูก็รู้ว่าอายุเพียงสิบสี่สิบห้าปี แต่งตัวเหมือนเจ้าหญิง ถูกห้อมล้อมด้วยพ่อแม่ ปู่ย่า ดูแลเธอราวกับเป็นองค์ไทเฮาในวังหลวง

เด็กสาวเย่อหยิ่งมาก ในอ้อมอกกอดกีตาร์สีชมพูเอาไว้ เหมือนสังเกตเห็นสายตาของลู่เฉิน เธอหันมามองลู่เฉินแล้วเหลือกตามองบนใส่เขา เบะปากโค้งจนสามารถแขวนขวดนมได้

ลู่เฉินอดส่ายหัวไม่ได้ เขาลุกขึ้นยืน พูดกับคุณย่าของเด็กสาวว่า “คุณย่าครับ ที่นั่งตรงนี้ให้คุณนั่งนะครับ ระวังสุขภาพด้วย”

เก้าอี้ในเขตนั่งรอจัดไว้เพื่อผู้เข้าประกวด ไม่ได้เผื่อครอบครัวผู้สมัคร ลู่เฉินเห็นหญิงชรายืนเหน็ดเหนื่อย ด้วยเหตุนี้จึงลุกขึ้นสละที่นั่งของตนให้

คุณย่าที่รู้สึกคาดไม่ถึงกับพ่อแม่ของสาวน้อยพากันขอบคุณเขา ลู่เฉินยิ้มและยืนอยู่ด้านข้าง

น่าสนใจ สาวน้อยคนนั้นไม่รู้เป็นอะไร จู่ๆ ก็ขอบตาแดง น้ำตาแวววาวเม็ดใหญ่หยดลงมาเป็นสาย ทำให้คนในครอบครัวตกใจ

ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอกระโดดลุกขึ้นจากเก้าอี้ ดึงแขนของคุณปู่ บอกว่า “คุณปู่คะ ให้คุณปู่นั่ง!”

ปู่ของเธอรีบโบกมือปฏิเสธ “ปู่ไม่นั่งหรอก เสี่ยวฉีนั่งเถอะ”

เทวดาตัวน้อยแผลงฤทธิ์ทันที “ให้ปู่นั่งก็นั่งไปเถอะ ถ้าไม่นั่งหนูจะกลับบ้านแล้ว ไม่เล่นแล้ว!”

ปู่ของเธอจึงยอมนั่งลงแต่โดยดี

สาวน้อยถึงได้พอใจ แล้วส่งสายตาหาเรื่องให้ลู่เฉิน

ลู่เฉินยิ้มออกมา ยกนิ้วโป้งให้เธอ

สาวน้อยไม่เล่นด้วย แค่นเสียงหึแล้วสะบัดหน้ากลับไปไม่สนใจเขาอีก

เวลาค่อยๆ ผ่านไป เมฆหมอกบนฟ้าจางไปแล้ว แสงอาทิตย์ส่องสว่าง แสงแดดร้อนแรงส่องทั่วไปทั้งสนามกีฬา อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ อากาศอบอ้าวแผ่กระจายไปทั่ว

ลู่เฉินรอจนสติเลอะเลือน เขาดื่มน้ำแร่หมดไปสองขวดแล้ว

“ผู้เข้าประกวดหมายเลข 17688 หมายเลข 17689 เชิญมาเตรียมตัวทางนี้!”

ตอนนั้นเอง ในสถานที่ประกวดรอบแรกหมายเลข 19 มีพนักงานคนหนึ่งเดินออกมา ในมือถือโทรโข่งประกาศเสียงดังว่า “เชิญผู้เข้าประกวดหมายเลข 17688 หมายเลข 17689 เข้ามาเตรียมตัวครับ!”

ทันใดนั้นก็มีผู้สมัครสองคนลุกขึ้นยืน เดินตามพนักงานเข้าไปในเต็นท์

ลู่เฉินปลุกสติของตัวเองขึ้นมา เขารออยู่ที่นี่เปล่าๆ มาสองชั่วโมงแล้ว ในที่สุดก็ถึงคิวเสียที!

การทำงานของฝ่ายผู้จัดมีประสิทธิภาพสูง เต็นท์ที่คัดเลือกผู้สมัครในรอบแรกมีประตูเข้าออกทั้งซ้ายขวา ผู้เข้าประกวดเข้าไปทางด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งก็มีคนออกมา ด้านนอกมีคนใหม่รอเตรียมตัวเข้าไป

เมื่อครู่มีหญิงสาวใส่ชุดกระโปรงสีขาวเดินออกมา เธอร้องไห้สะอึกสะอื้น เครื่องสำอางเปรอะหน้าไปหมด วิ่งออกไปจากสถานที่นั้นอย่างไม่สนใจสิ่งใด คาดว่าเธอน่าจะพลาดโอกาสไปตั้งแต่รอบแรก

ผู้ที่รออยู่ในเขตที่นั่งรอต่างมองตาม เห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

ผู้เข้าร่วมประกวดรอบแรกเป็นพันเป็นหมื่นคน คัดออกไปอย่างน้อย 90% การแข่งขันในรายการการประกวดแบบนี้ช่างโหดร้ายนัก ไม่ว่าที่ผ่านมาจะพยายามมามากแค่ไหน ได้รับการชมเชยมากแค่ไหน สุดท้ายก็จะถูกไล่ออกทางประตูเหมือนเดิม

การคัดเลือกในรายการแข่งขันของสถานีโทรทัศน์เซียงหนานมีคำวิจารณ์ต่างๆ มากมาย แต่ไม่สามารถหยุดยั้งอัตราการเข้าชมของผู้ชมที่สูงมากได้!

ดังนั้นการเป็นผู้สมัครคนหนี่ง ก็ต้องทำใจยอมรับความพ่ายแพ้ไว้ด้วย

เมื่อเปรียบเทียบกัน ลู่เฉินค่อนข้างผ่อนคลายมากกว่า…ชนะก็ดีใจ แพ้ก็ไม่เป็นไร

เขาแค่มาทดลองสนาม ทำความคุ้นเคยกับวิธีการและบรรยากาศในการคัดเลือก

ถ้าการคาดการณ์ของเฉินเจี้ยนหาวถูกต้อง

ผ่านไปประมาน 5 นาที มีผู้สมัครอีกสองคนเดินออกมาอีก จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เดินตามออกมา

“หมายเลข 17690 หมายเลข 17691 เชิญเข้ามาเตรียมตัว!”

ลู่เฉินรีบถือกีตาร์เดินเข้าไป

เรื่องบังเอิญก็คือ คนที่ตามเขาเข้าไปติดๆ หมายเลข 17691 คือสาวน้อยผู้เย่อหยิ่งคนนั้น

ครอบครัวของเธอเดินตามเข้าไปกันหมด แต่ถูกเจ้าหน้าที่ขวางไว้

“ครอบครัวเข้าไปไม่ได้ครับ!”

ลู่เฉินหันกลับไปมองท่าทีร้อนรนของพวกเขาตรงหน้าประตู “พวกคุณไม่ต้องกังวลครับ ผมจะช่วยดูแลน้องให้เอง อีกครู่เดียวก็ออกมาแล้ว”

ลู่เฉินยกที่นั่งให้ในตอนแรก ทำให้ครอบครัวของสาวน้อยรู้สึกดีกับเขา ดังนั้นจึงพอวางใจลงได้

สาวน้อยทำเสียงฮึ่มฮึ่มอยู่ในลำคอ ตอบกลับว่า “หนูไม่ต้องการให้ใครมาดูแล หนูไม่ใช่น้องสาวคุณสักหน่อย”

ลู่เฉินไม่สนใจเธอ มองสภาพภายในเต็นท์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ตำแหน่งที่เขายืนอยู่ตอนนี้น่าจะเป็นหลังเวที เพียงแต่พื้นที่เล็กไปหน่อย ด้านหน้ายังมีนักร้องอีกสองคนรออยู่ นั่งอยู่ตรงนี้ได้ยินเสียงร้องเพลงบนเวทีได้อย่างชัดเจน แล้วยังได้ยินเสียงการประเมินของกรรมการอีกด้วย

ตอนที่เขาเข้ามา ผู้สมัครคนหนึ่งเพิ่งร้องเพลงจบ

ได้ยินเพียงกรรมการพูดว่า “มีสองท่อนที่เขียนได้ดี ร้องก็เพราะ ผ่านก็แล้วกัน”

กรรมการอีกคนพูดต่อว่า “อืม ฉันเห็นด้วย”

กรรมการคนที่สาม “ผ่าน!”

รวดเร็วมาก ไม่มีการเสียเวลาเยิ่นเย้อ กรรมการของการคัดเลือกรอบแรกมีสามคน หากสองคนให้ผ่านถือว่าผ่านเข้ารอบ

เวลาที่ผู้เข้าประกวดขึ้นร้องเพลงบนเวทีเพียงแค่นาทีกว่า อยากจะร้องนานกว่านี้ก็ไม่ได้ ถ้ากรรมการรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง เพิ่งอ้าปากร้องได้ไม่กี่คำจะถูกขัด แล้วโดนไล่ออกไปทันที!

ผู้เข้าประกวดสองคนก่อนหน้าลู่เฉินไม่ผ่านทั้งคู่

“หมายเลข 17690!”

ได้ยินเสียงเรียกหมายเลขของตัวเอง ลู่เฉินเดินถือกีตาร์เข้าไปอย่างไม่ตื่นเต้น

การตกแต่งด้านในธรรมดามาก กรรมการชายสองหญิงหนึ่งนั่งอยู่หลังโต๊ะตัวยาว พื้นที่ว่างด้านหน้ามีเก้าอี้พับได้ตั้งอยู่ แม้แต่ไมโครโฟนก็ยังไม่มี ด้านข้างมีกล้องบันทึกวิดีโอเล็กๆ ตั้งอยู่เครื่องหนึ่ง

ลู่เฉินเพิ่งยืนมั่นคง กรรมการผู้หญิงก็ประกาศทันที “เริ่มได้”

คำพูดประโยคเดิมๆ เธอพูดเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหมดแรง

ลู่เฉินโค้งตัวลงเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ แล้วเริ่มบรรเลงกีตาร์ด้วยท่าทางสบายๆ

เพลงที่เขาเล่นคือ ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’

…………………………………………………………………………………………..