เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1008 บูชายัญ

แปลโดย iPAT

 

ภายใต้การควบคุมของฟางหยวน คฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลระเบิดแสงสีแดงออกมา

 

แสงสีแดงปกคลุมพื้นที่ในบริเวณกว้างราวกับไฟนรกที่แผดเผา

 

พลังงานลึกลับดูดกลืนวัชระทองคำเข้าไปภายใน

 

พลังงานอมตะระดับเก้าของเทพอมตะตะวันเดือดอนุญาตให้สนามรบแห่งความโกลาหลระเบิดพลังอำนาจของมันออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

“ครืน…”

 

อย่างไรก็ตามสนามรบแห่งความโกลาหลยังได้รับผลกระทบจากวัชระทองคำบางส่วน

 

หลังจากทั้งหมดนี่คือภัยพิบัติใหญ่

 

แต่ฟางหยวนยังประสบความสำเร็จ

 

‘เราต่อสู้กันมานานแต่พลังงานอมตะของเทพอมตะตะวันเดือดกลับถูกใช้ไปไม่ถึงสามสิบส่วน อย่างไรก็ตามหลังจากดูดกลืนวัชระทองคำหนึ่งร้อยชิ้นเข้ามา พลังงานอมตะทั้งหมดของเทพอมตะตะวันเดือดกลับถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว!’

 

ค่าใช้จ่ายนี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกตกตะลึง

 

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะคำนึงถึงความสูญเสียและทำได้เพียงนำพลังงานอมตะระดับเก้าออกมาเพิ่มเท่านั้น

 

สนามรบแห่งความโกลาหลไม่เพียงสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและปลอดภัยจากภัยพิบัติ มันยังสามารถดูดกลืนวัชระทองคำเข้าไปเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวมันเองได้อีกด้วย

 

หอคอยดวงตาสวรรค์เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าที่มีวิญญาณชะตากรรมเป็นแกนกลาง ดังนั้นมันจึงสามารถป้องกันตัวมันเองจากภัยพิบัติ

 

เมื่อเวลาผ่านไป เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นฝ่ายที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด แม้พวกเขาจะใช้พลังแห่งความปรารถนา แต่มันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับสนามรบแห่งความโกลาหลและหอคอยดวงตาสวรรค์

 

ภัยพิบัติวัชระทองคำดำเนินต่อไปเป็นเวลาแปดนาทีก่อนจะหยุดลงอย่างกะทันหัน

 

โดยไม่ปล่อยให้ทั้งสามฝ่ายมีเวลาหยุดพักหายใจ ภัยพิบัติครั้งใหม่ก็มาถึง

 

แสงสว่างส่องประกายขึ้นบนท้องฟ้าขณะที่กวางยักษ์หลายตัวทะยานร่างออกมา

 

กวางเหล่านี้มีขนาดเท่าช้างแต่มีร่างกายโปร่งแสง

 

พวกมันคือสัตว์อสูรแรกกำเนิด กวางแสง!

 

นี่คือภัยพิบัติสัตว์อสูรแรกกำเนิด สัตว์อสูรแรกกำเนิดแต่ละตัวมีพลังอำนาจเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปดและตอนนี้พวกมันมีอยู่ถึงยี่สิบสองตัว

 

สัตว์อสูรระดับแปดยี่สิบสองตัว!

 

กระทั่งกวางเหล่านี้จะไม่มีวิญญาณอมตะป่าที่ดุร้ายในการครอบครอง พลังอำนาจของพวกมันก็เหนือกว่าภัยพิบัติก่อนหน้าไปไกลแล้ว

 

ฝูงกวางแสงพุ่งเข้ามาหาค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาอย่างรวดเร็วและทำให้ใบหน้าของสมาชิกนิกายเงากลายเป็นซีดเผือด

 

ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาถูกเจาะทะลวงขณะที่พวกมันสามารถเข้ามาได้อย่างสะดวกสบาย

 

“กวางแสงมีเก้าสีที่สอดคล้องกับสวรรค์ที่พวกมันอยู่อาศัย กวางแสงขาวเหล่านี้ดูเหมือนจะมาจากสวรรค์สีขาว”

 

“กวางแสงมีนิสัยอ่อนโยน ตามตำนาน พวกมันจะนำดวงวิญญาณของมนุษย์ไปสู่สวรรค์ แต่ผู้ใดจะคิดว่าด้วยเจตจำนงแห่งสวรรค์ กวางแสงที่อ่อนโยนจะกลายเป็นดุร้ายและเต็มไปด้วยจิตสังหารเช่นนี้”

 

กระทั่งผู้อมตะของวังสวรรค์ยังไม่ต้องการเข้าร่วมในสถานการณ์นี้

 

ฟางหยวนนำสนามรบแห่งความโกลาหลหลบไปอยู่ที่ขอบรอบนอกของการต่อสู้

 

กวางแสงเป็นสิ่งมีชีวิต เขาไม่สามารถใช้สนามรบแห่งความโกลาหลดูดกลืนพวกมัน

 

การโจมตีที่สนามรบแห่งความโกลาหลสามารถใช้วิธีการบนเส้นทางแห่งกาลเวลาปิดผนึกคือสสารประเภทดิน น้ำ ลม ไฟ แต่ไม่ใช่สัตว์อสูร

 

โชคดีที่ฟางหยวนดูดกลืนวัชระทองคำมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นเขาจึงใช้มันโจมตีกวางแสงที่เข้ามาใกล้และบังคับให้พวกมันจากไป

 

เผชิญหน้ากับภัยพิบัติครั้งนี้ สถานการณ์ของวังสวรรค์ดีที่สุด รองลงมาคือฟางหยวน ขณะที่นิกายเงาถูกกดดันมากที่สุดและตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต

 

ในช่วงเวลาสำคัญผีดิบอมตะโป้ชิงก้าวออกมา

 

เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่มีชื่อเสียง ดาบห้าดัชนี

 

กวางแสงส่วนใหญ่เสียชีวิตภายใต้พลังอำนาจของท่าไม้ตายนี้ กระทั่งพวกมันจะครอบครองวิญญาณอมตะป่าบางดวง แต่มันยังไร้ประโยชน์

 

โป้ชิงตายไปแล้วแต่ร่างกายของเขายังเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบ พลังอำนาจของมันแตกต่างจากดาบห้าดัชนีของฉินไป่เฉิงอย่างสิ้นเชิง

 

ด้วยการคงอยู่ของโป้ชิง นิกายเงาจึงสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติครั้งนี้

 

อย่างไรก็ตามกลุ่มเมฆสีดำส่วนใหญ่สูญสลายไปแล้วและเผยให้เห็นร่างผีดิบอมตะสุดยอดกายาทั้งสิบอีกครั้ง

 

“ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาอ่อนแอลงแล้ว!” ฟางหยวนอุทาน

 

ด้วยความตั้งใจของเขา สนามรบแห่งความโกลาหลยิงวัชระทองคำออกไปเพื่อทำลายค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาทันที

 

ในเวลาเดียวกันเจ้าวังสวรรค์ก็ฉวยโอกาสนี้บังคับหอคอยดวงตาสวรรค์พุ่งเข้าโจมตีค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาจากอีกด้านหนึ่ง

 

“เราจะทำอย่างไร?” ในเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ อิงอู๋เซี่ยยกมือขึ้นกุมศีรษะและกรีดร้อง

 

สมาชิกคนอื่นๆของนิกายเงาแสดงออกด้วยความเคร่งเครียด

 

มันเป็นช่วงเวลาสำคัญในการตัดสินแพ้ชนะ

 

หากค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาถูกทำลายในเวลานี้ ทุกอย่างจะจบสิ้นลง นิกายเงาจะพบกับความพ่ายแพ้

 

“ไม่มีสิ่งใดที่พวกเราทำได้นอกจากบูชายัญกองกำลังพันธมิตรผีดิบ!” ผีดิบอมตะเทพเจ็ดดาราถอนหายใจยาวก่อนตัดสินใจ

 

ความจริงก็คือกองกำลังพันธมิตรผีดิบที่กระจายอยู่ทั้งห้าภูมิภาคเป็นกองกำลังย่อยภายใต้การปกครองของนิกายเงาเช่นเดียวกับนิกายโบราณทั้งสิบที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของวังสวรรค์

 

มันเป็นเพียงแค่นิกายเงาปกปิดตัวตนเอาไว้ลึกมาก กระทั่งตัวตนระดับสูงหลายคนของกองกำลังพันธมิตรก็ยังไม่รู้เรื่องนี้

 

กองกำลังพันธมิตรผีดิบเป็นแผนการใหญ่ของนิกายเงา พวกเขาสร้างมันขึ้นมาด้วยทุกสิ่ง

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเสียสละกองกำลังพันธมิตรผีดิบเพื่อกอบกู้สถานการณ์

 

แผนสำรองถูกใช้งาน ผีดิบอมตะเริ่มปรากฏตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

พวกเขาก็คือผีดิบอมตะของกองกำลังพันธมิตรผีดิบจากทุกสาขา ผีดิบอมตะระดับหก ระดับเจ็ด และระดับแปดจำนวนมากปรากฏขึ้น

 

“นี่คือ?” ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล ไห่ลั่วหลัน ไท่เป่ยหยุนเฉิง และคนอื่นๆเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง

 

“ฮืม นิกายเงาอยู่เบื้องหลังกองกำลังพันธมิตรผีดิบจริงๆ!” เจ้าวังสวรรค์ขมวดคิ้วลึก สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบและเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร “ดี เช่นนั้นเราก็จะกวาดล้างผู้ก่อการร้ายทั้งหมดในครั้งเดียว ทุกคนที่ต่อต้านเจตจำนงแห่งสวรรค์จะต้องถูกลงโทษ!”

 

อย่างไรก็ตามผีดิบอมตะเหล่านี้แสดงออกราวกับหุ่นเชิดที่ไม่รู้สึกตัว

 

ก่อนที่เจ้าวังจะสามารถทำสิ่งใด ผีดิบอมตะเหล่านี้ก็เสียสละตนเองและหลอมรวมเข้ากับค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาเรียบร้อยแล้ว

 

“พี่ใหญ่!” เทพธิดาหลี่ซานกรีดร้องด้วยความโศกเศร้า

 

ท่ามกลางผีดิบอมตะเหล่านั้นมีนางมารผลาญสวรรค์รวมอยู่ด้วย

 

กระทั่งผีดิบอมตะระดับแปดผู้นำกองกำลังพันธมิตรผีดิบของภาคเหนือก็ยังอยู่ในสภาพที่ไม่รู้สึกตัว

 

ภายใต้การเฝ้ามองของเทพธิดาหลี่ซานกับไห่ลั่วหลัน นางมารผลาญสวรรค์เปลี่ยนตนเองกลายเป็นวัสดุในการหลอมรวมและผสานเข้ากับค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา

 

เมื่อได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจากร่างของผีดิบอมตะรวมถึงมิติช่องว่างอมตะจำนวนมาก ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาจึงยกระดับขึ้นถึงจุดที่ไม่เคยเป็นมาก่อนขณะที่เมฆสีดำปกคลุมท้องฟ้าเอาไว้ทั้งหมด

 

เทพธิดาหลี่ซานยังกรีดร้องด้วยความเสียใจ

 

ไห่ลั่วหลันจมลงสู่ความเงียบ

 

ฟางหยวนขมวดคิ้ว กำลังเสริมระดับแปดที่เขาคาดหวังกลับตกตายไปต่อหน้า ผู้ใดจะคิดว่านิกายเงาจะมีความสัมพันธ์กับกองกำลังพันธมิตรผีดิบอย่างลึกซึ้งถึงเพียงนี้ กระทั่งได้เห็นกับตาก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ

 

‘ก่อนหน้านี้กองกำลังพันธมิตรผีดิบได้รับภารกิจให้สร้างค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ ดูเหมือนมันจะเป็นหนึ่งในแผนการของนิกายเงา’ หัวใจของไท่เป่ยหยุนเฉิงราวกับถูกแช่แข็งเมื่อคิดถึงแรงจูงใจที่น่ากลัวของนิกายเงา

 

การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นไม่น่ามอง

 

‘ข้าคาดเดาความสัมพันธ์ระหว่างนิกายเงาและกองกำลังพันธมิตรผีดิบไว้แล้ว แต่ข้าไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ความทรงจำในชีวิตก่อนหน้าของข้าทำให้ข้าเข้าใจผิด หลังจากทั้งหมดในสงครามห้าภูมิภาค กองกำลังพันธมิตรผีดิบยังคงอยู่…’

 

‘บูชายัญผีดิบอมตะเกือบทั้งหมดของห้าภูมิภาคเพื่อค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา พวกเขาต้องการหลอมรวมสิ่งใด? เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกเขาต้องการหลอมรวมวิญญาณในตำนานเพื่อชีวิตอันเป็นนิรันดร์!?’

 

ใบหน้าของเจ้าวังสวรรค์ก็กลายเป็นน่าเกลียดเช่นกัน

 

สมาชิกวังสวรรค์ต่างแสดงออกด้วยความกังวล

 

แม้พวกเขาจะเป็นตัวตนระดับสูงและเต็มไปด้วยประสบการณ์ แต่พวกเขาก็ยังตกใจกับการเคลื่อนไหวที่คาดไม่ถึงของนิกายเงาในครั้งนี้

 

นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กองกำลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในห้าภูมิภาค กองกำลังพันธมิตรผีดิบถูกทำลายและสลายหายไปในสายลมเรียบร้อยแล้ว

 

“ฟิ้ว…ฟิ้ว…ฟิ้ว…”

 

เสียงดังเข้าหูของทุกคน

 

ภัยพิบัติใหญ่ครั้งที่สามร่วงหล่นลงมาอีกครั้ง

 

เจตจำนงแห่งสวรรค์ดุร้ายมาก ไม่ว่านิกายเงาจะพยายามหลอมรวมสิ่งใด ชัดเจนว่ามันเป็นการท้าทายสวรรค์และทำให้สวรรค์โกรธมาก

 

สวรรค์พิภพไม่อนุญาตให้พวกเขาสร้างสิ่งนี้!

 

ภัยพิบัติใหญ่ครั้งที่สามรุนแรงกว่าสองภัยพิบัติก่อนหน้านี้รวมกัน

 

สายฝนเริ่มร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า ฝนทุกสายมีขนาดเพียงครึ่งนิ้วแต่มันกลับแหลมคมราวกับสามารถเจาะทะลวงทุกสิ่งบนโลกใบนี้

 

ภัยพิบัติใหญ่ ฝนเจาะทะลวง!

 

ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาพึ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่ แต่เมฆสีดำที่หนาแน่นกลับได้รับผลกระทบที่รุนแรงภายใต้ฝนเจาะทะลวง

 

ฟางหยวนทำซ้ำสิ่งเดิมโดยการใช้พลังงานอมตะระดับเก้าของเทพอมตะตะวันเดือดกระตุ้นการทำงานของคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลเพื่อดูดซับฝนเจาะทะลวง

 

อย่างไรก็ตามสนามรบแห่งความโกลาหลยังได้รับผลกระทบ วิญญาณจำนวนมากตกตายลงอย่างต่อเนื่อง

 

“หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป คฤหาสน์วิญญาณอมตะจะอยู่ได้ไม่เกินสิบห้านาที” ไห่ลั่วหลันกระตุ้นฟางหยวน

 

แต่ฟางหยวนไม่มีวิธีอื่น

 

แม้เขาจะพยายามดูดซับฝนเจาะทะลวงแต่เขายังไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด

 

แน่นอนว่านิกายเงาได้รับความทุกข์ทรมานจากฝนเจาะทะลวงมากที่สุด

 

นี่คือความน่าสะพรึงกลังของภัยพิบัติใหญ่ที่กระทั่งผู้อมตะระดับแปดยังพบกับความยากลำบาก

 

เมื่อภัยพิบัติใหญ่ครั้งที่สามผ่านพ้นไป เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์และสนามรบแห่งความโกลาหลแตกออกเป็นชิ้นๆ ขณะที่วิญญาณอมตะถูกพวกเขาเก็บเอาไว้

 

หอคอยดวงตาสวรรค์ก็เต็มไปด้วยรอยแตกหัก เหลี่ยมมุมต่างๆของหอคอยดวงตาสวรรค์พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง

 

“ทุกอย่างจบลงแล้ว ผู้ชนะก็คือวังสวรรค์!” เจ้าวังหัวเราะเสียงดังก่อนจะกระตุ้นใช้การโจมตีของหอคอยดวงตาสวรรค์

 

มันเป็นการโจมตีโดยพลังอำนาจแห่งโชคชะตาที่ไม่สามารถหลบเลี่ยง!

 

ในเวลาต่อมา เจ้าวังจึงมองเห็นค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาที่ถูกแยกออก ผู้อมตะนิกายเงาจำนวนมากได้รับบาดเจ็บล้มตาย ฟางหยวนและคนอื่นๆตายไปพร้อมกัน