แดร์ริลรีบลุกขึ้นแต่งตัว คว้ากรรไกรมาตัดเชือก
โมนิก้า ไม่ได้กล่าวอะไรและรีบหลบไปแต่งตัว
แดร์ริลเขยิบไปยืนด้านข้างอาการสำรวมราวกับเด็กน้อยที่ทำผิดพลาดไป
บรรยากาศภายในห้องนั้นค่อนข้างตรึงเครียดและละเอียดอ่อน
โมนิก้าหลังจากสวมเสื้อผ้าเสร็จเธอกัดริมฝีปากแน่น “แดร์ริล ฉันจะทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้ แต่ถ้าหากฉันรู้ว่านายปล่อยเรื่องนี้หลุดออกไป… ฉันจะฆ่าครอบครัวของนายทั้งหมด”
ผู้คนจะคิดอย่างไรหากได้ล่วงรู้ว่านายหญิงนั้นมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอ?
โมนิก้าต้องการจะฆ่าแดร์ริล แต่ถึงอย่างไรเขาก็ได้ช่วยชีวิตเธอไว้
“ไม่ต้องเป็นห่วง นายหญิง ผมจะไม่ปริปากเด็ดขาด” แดร์ริลรีบผงกศรีษะและทำสีหน้าจริงจัง
ฟิ้ว
แดร์ร์ลรู้สึกซาบซึ้งกับการตัดสินใจของโมนิก้า ไม่เช่นนั้นคืนนี้เขาคงกลายเป็นศพถูกฝังทิ้งไว้ที่เกาะสราญรมย์แน่
โมนิก้าไม่ได้กล่าวคำใด ๆ อีกและกลับสู่กริยาเดิมของนายหญิง ผายมือไปที่แดร์ริล “ทั้งหมดคงมีเท่านี้ เริ่มจะดึกแล้ว ขอให้นายกลับห้องไปพักผ่อนต่อเถอะ”
“ตามบัญชาขอรับ นายหญิง” แดร์ริล รับทราบและถอยห่างออกนอกห้องไปทันที
ขณะเขานอนเอนหลังอยู่บนเตียง เขาก็อดคิดถึงฉากเหตุการณ์ของเมื่อคืนไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เนื่องจากความอ่อนล้า เขาก็ผล็อยหลับไป
แดร์ริล หลับสนิทปุ๋ยในคืนนั้น
เช้าวันต่อมา
“หาววว!”
แดร์ริลถูกปลุกด้วยเสียงดังร้องตะโกนอย่างต่อเนื่อง เขาสะลึมสะลือ ลืมตาตื่นและมองออกไปนอกหน้าต่าง เขาได้ยินเหล่าลูกศิษย์กำลังฝึกฝนอยู่ที่ลานไม่ไกลจากห้อง พวกเขาตะโกนฝึกซ้อมการต่อสู้กันดังกึกก้องและสม่ำเสมอ
‘แ-่งเอ๊ย ฉันหลับไม่ลงแล้วเพราะไอ้การฝึกยามเช้าตรู่นี่’ แดร์ริลคิด
ความจริงก็คือเหล่าลูกศิษย์ชั้นเลิศพวกนี้ขยันขันแข็งกันเป็นอย่างมาก
แดร์ริล ลุกออกจากเตียงยืดเส้นยืดสาย
ทันใดนั้น โมนิก้าก็เปิดประตูและเข้ามาในห้องของเขา
หน้าตาอันสวยสดงดงามของเธอดูสงบเรียบร้อยเหมือนทุกครั้ง
เหมือนกับว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แ-่งเอ๊ย
นายหญิงจะมาที่นี่ทำไม?
แดร์ริลจ้องมองอย่างกังวลเมื่อเห็นเธอเข้ามาในห้อง เขากลัวว่าเธอจะมาจัดการปิดปากของเขาไปตลอดกาล
โมนิก้า สวมใส่ชุดสีม่วงอาภรณ์เสริมกับเรือนร่างอันโฉมฉายของเธอทำให้ดูสง่าผ่าเผยเข้ากันเป็นอย่างดี
การปรากฏตัวของเธอช่างมีเสน่ห์ชวนให้หลงใหลอย่างถึงที่สุด
แดร์ริล จ้องมองอย่างเคลิบเคลิ้มก่อนจะหลบสายตาเพราะความเกรงใจ เขากล่าวช้า ๆ “อะไรนำพานายหญิงมาถึงที่นี่เสียเช้าตรู่?”
โมนิก้าก้าวเดินไปนั่งที่เก้าอี้ “แดร์ริล ฉันขอเตือนนายอีกครั้ง นายต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับจนวาระสุดท้ายของชีวิตนาย ไม่อย่างนั้น ทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้องกับนายจะต้องตาย นายเข้าใจไหม?”
“ขอรับ นายหญิงแน่นอนที่สุด อย่าได้เป็นห่วง ผมขอสาบาน” แดร์ริลกล่าวพร้อมพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
โมนิก้าผงกศรีษะตอบรับด้วยความพึงพอใจหลังจากได้ยินคำกล่าวของแดร์ริล เสียงของเธอเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น “และอีกอย่าง อย่าลืมงานที่ฉันมอบหมายเมื่อคืนให้นายไปทำ เมื่อนายถึงเมืองตงไห่ ทำอย่างไรก็ได้เพื่อไปเอาคัมภีร์นั่นมาให้ฉัน”
“ผมจะทำตามสั่งทันที ขอรับ” แดร์ริล พยักหน้ารับทราบแต่ในใจของเขานั้นช่างสิ้นหวังและเศร้าหมอง
การขโมยคัมภีร์นั้นไม่ง่ายเหมือนปากว่า
โมนิก้าเคยบอกไว้ว่าคนที่ครองตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน เฮกเซด นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญมาจากสำนักบู๊ตึ๊ง
แดร์ริลเป็นเพียงแค่ปรมาจารย์ขั้นที่ห้า ความแตกต่างระหว่างขั้นยังห่างชั้นกันเกินไปโอกาสจะสำเร็จแทบเป็นไม่ได้ แดร์ริลใช้ชีวิตมากว่า 20 ปี ก็ไม่เคยขโมยของอะไรเลยนอกจากโทรศัพท์มือถือครั้งนั้นครั้งเดียว
โมนิก้าหัวเราะและหยิบคัมภีร์โบราณออกมาเล่มหนึ่ง
“ฉันรู้ดีว่างานที่มอบหมายนี้ค่อนข้างจะท้าทายสำหรับนาย ฉันจึงตัดสินใจจะมอบคัมภีร์โบราณนี้ให้กับนาย ไม่แน่นายอาจจะสามารถขโมยคัมภีร์เล่มนั้นได้ เมื่อนายอ่านคัมภีร์เล่มนี้จบ” โมนิก้า กล่าวอย่างนุ่มนวลและมอบคัมภีร์ให้กับแดร์ริล
นี่มันคืออะไร?
ตำราวิทยายุทธลี้ลับ
แดร์ริลรับคัมภีร์มาอย่างตื่นเต้น บนปกแข็งสีเหลืองมีตัวอักษรลายมือหนาเขียนว่า วิชาเงา
วิชาเงา?
คัมภีร์เล่มนี้มีชื่อน่าสนใจหรือมันจะเป็นหนึ่งในคัมภีร์หายากอย่าง มังกรนพเก้าทะยานฟ้า?