บทที่ 303 แสงทองปรากฏ ความสามารถใหม่

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 303 แสงทองปรากฏ ความสามารถใหม่

นี่อะไร

เห็นเสิ่นเทียนโยนผลึกสีฟ้ามาให้ ฉีเซ่าเสวียนรับไว้ตามจิตใต้สำนึก

เย็นๆ หนาวๆ ผลึกน้ำแข็งนี้ตกลงในมือฉีเซ่าเสวียน เปล่งแสงนุ่มนวล

ตอนนี้ฉีเซ่าเสวียนรู้สึกสบายไปทั้งตัว กระทั่งดวงจิตดรุณที่เดิมทีเต้นตุบๆ เริ่มสงบลงแล้ว

อืม อาจจะดิ้นไม่ไหวแล้วก็ได้

ฉีเซ่าเสวียนพิจารณามองผลึกในมือ แววตาเผยความแปลกใจเสี้ยวหนึ่ง “นี่คืออะไร ไฉนแซ่ฉีถึงรู้สึกว่าจิตวิญญาณสบายขึ้นมาก”

คุณชายเซี่ยด้านข้างทำหน้าอิจฉา “นี่น่าจะเป็นสมบัติสูงสุดจากในเกาะดาราเบิกฟ้า ‘น้ำตาดาวเทพสมุทร’ ใช้เพิ่มระดับความแกร่งของจิตวิญญาณได้”

คุณชายไป๋เผ่าเทพหมึกยักษ์เอ่ย “บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงทะลวงพลังเกิดปัญหา เพราะแก่นพลังทองสิบรอบแข็งเกินไป พลังของดวงจิตดรุณไม่อาจทลายมันออกมาได้ ขอแค่สหายฉีกินน้ำตาดาวเทพสมุทรนี้ ดวงจิตดรุณจะแกร่งขึ้น ครั้งนี้ก็จะทุบแก่นเป็นดรุณได้ ไม่เจออุปสรรคใดๆ อีก”

เอ๋าอูพยักหน้าเช่นกัน “ได้ยินว่าน้ำตาดาวเทพสมุทรหนึ่งเม็ดเท่ากับผู้สูงศักดิ์ปกติขัดเกลาจิตใจร้อยปี เป็นสมบัติล้ำค่าจิตวิญญาณที่หายากมาก เคยมีเผ่ามนุษย์มาเยี่ยมเยือนเผ่าเทพเงือก หวังจะใช้สมบัติวิญญาณระดับสูงสามชิ้นแลกกับน้ำตาดาวเทพสมุทรหนึ่งเม็ด ก็ยังถูกปฏิเสธเลย

สมบัติชนิดนี้หายากยิ่ง นอกจากเผ่าเทพเงือกที่มีสัญชาตญาณพิเศษตามหาได้บ้างแล้ว ต่อให้เป็นเผ่าทะเลอื่นๆ ก็หาพบยากมาก เรียกได้ว่ามีเงินก็หาซื้อไม่ได้! ไม่นึกเลยว่าพี่เสิ่นเทียนจะมี ทั้งยังยินดีให้ท่านอีก”

…….

เมื่อได้ฟังคำอธิบายจากเอ๋าอูกับสี่คุณชายใหญ่ ฉีเซ่าเสวียนก็เหม่อมองน้ำตาดาวเทพสมุทรกลางฝ่ามือ

ที่แท้ เจ้าของที่มีขนาดเท่าเล็บมือนี่ก็ล้ำค่าเช่นนี้! อีกทั้งน้ำตาดาวเทพสมุทรหยดแค่นี้ยังเท่ากับขัดเกลาจิตใจร้อยปี

พึงรู้ไว้ว่า ยิ่งเป็นอัจฉริยะบำเพ็ญเซียนที่มีพรสวรรค์เหนือธรรมดามากเท่าไร ก็ยิ่งใส่ใจกับรากฐานของตนมากเท่านั้น ปกติจะเสริมรากฐานเซียนตอนยังเยาว์วัย

อีกทั้งแดนลับมากมายยังจำกัดอายุของผู้ฝึกบำเพ็ญที่จะเข้าไป เหมือนกับเกาะดาราเบิกฟ้าทะเลอุดรแห่งนี้ที่จำกัดอายุต่ำกว่าห้าร้อยปี

ภายใต้สถานการณ์พิเศษ น้ำตาดาวเทพสมุทรหยดหนึ่งไม่ได้มีค่าแค่ขัดเกลาจิตใจร้อยปีแน่นอน

ก็เหมือนฉีเซ่าเสวียน หากไม่มีน้ำตาดาวเทพสมุทรนี้ ก็ต้องใช้เวลาปรับเสถียรภาพระดับพลัง

ต่อให้ทะลวงดวงจิตดรุณสำเร็จ ก็อาจจะสู้กับโอรสสวรรค์รุ่นก่อนพวกนั้นของทะเลอุดรไม่ได้

เจอกับปี้เสวียนชิงกับเอ้อทงเทียนยังสู้ได้สูสี หากเจอกับคนระดับอย่างคุนหมิง นั่นยากจะต่อต้านแล้ว

แต่หากกินน้ำตาดาวเทพสมุทรหยดนี้ ฉีเซ่าเสวียนจะปรับเสถียรภาพดวงจิตดรุณที่กำเนิดใหม่ได้อย่างถึงที่สุด และศักยภาพก็จะอยู่ในระดับดวงจิตดรุณอย่างมั่นคงแท้จริง

ถึงตอนนั้นฉีเซ่าเสวียนจะเพิ่มศักยภาพได้อย่างน้อยหนึ่งเท่า ต่อให้เจอโอรสสวรรค์ไร้พ่ายอย่างคุนหมิง อย่างน้อยก็ยังหนีออกมาได้

และหลังจากเพิ่มศักยภาพแล้ว ก็อาจจะได้ทรัพยากรในเกาะดาราเบิกฟ้าเพิ่มมากขึ้นไม่ใช่แค่เท่าตัวเดียว บางทีอาจจะสามเท่า ห้าเท่า กระทั่งสิบเท่าหลายสิบเท่า มันคือความต่างของคุณสมบัติ

……

‘สหายเสิ่นอยู่จุดสูงสุดของระดับแก่นพลังทองเช่นกัน อยู่ในช่วงที่ต้องใช้น้ำตาดาวเทพสมุทรนี่ด้วย แต่เขากลับมอบสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ให้ข้า!’

ฉีเซ่าเสวียนใจสั่นไหวเล็กน้อย เขาไม่ใช่คนโง่ รู้ดีว่าก่อนเกาะดาราเบิกฟ้าจะเปิดนั้น น้ำตาดาวเทพสมุทรหนึ่งเม็ดล้ำค่าเพียงใด

บางทีปกติน้ำตาดาวเทพสมุทรมีค่าเพียงสมบัติวิญญาณระดับสูงไม่กี่ชิ้น แต่ตอนนี้สมบัติวิญญาณระดับสูงสุดก็แลกไม่ได้

สหายเสิ่นให้น้ำตาดาวกับข้าตอนนี้ จะให้แซ่ฉีตอบแทนอย่างไร ไม่มีอะไรจะตอบแทนได้!

‘แซ่ฉีเคยมองสหายเสิ่นเป็นศัตรูในอุดมคติ อยากจะเอาชนะเขาต่อหน้าทุกคนตั้งหลายครั้ง แต่สหายเสิ่นกลับไม่คิดแค้นแซ่ฉีเลย ไม่ใช่แค่ช่วยพูดให้แซ่ฉีต่อหน้าราชามังกรดำ ตอนนี้ยังมอบสมบัติล้ำค่าช่วยแซ่ฉีทะลวงพลังอีก

นี่สิคือความมั่นใจในตัวเองและปณิธานของผู้ไร้พ่ายที่แท้จริง เทียบกับสหายเสิ่นแล้ว แซ่ฉีละอายใจที่ไม่อาจเปรียบสู้ด้วยได้!’

ฉีเซ่าเสวียนกระบอกตาแดงเล็กน้อย อารมณ์ในใจพลันสั่นไหวไม่แน่นอน

เขามองเสิ่นเทียน ผ่านไปนานถึงส่งน้ำตาดาวเทพสมุทรกลับไป “แซ่ฉีรับน้ำใจของสหายเสิ่นไว้แล้ว แต่น้ำตาดาวเทพสมุทรนี่มีประโยชน์กับสหายเสิ่นมาก สหายเสิ่นเก็บไว้ใช้ทุบแก่นเป็นดรุณเถอะ! แซ่ฉีจะพยายามต่อไป จะต้องเอาออกมาให้ได้”

ในมุมมองของฉีเซ่าเสวียน ถึงแก่นพลังทองของสหายเสิ่นจะไม่มีลายเทพ แต่ก็มีขนาดใหญ่จริงๆ ไม่ธรรมดาเลย

เสิ่นเทียนจะทุบแก่นพลังทองประหลาดเช่นนี้เป็นดรุณ คงจะยากไม่น้อย

เขาฉีเซ่าเสวียน จะแย่งโชควาสนาเขาไม่ได้!

เมื่อเห็นฉีเซ่าเสวียนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความแน่วแน่แล้ว เสิ่นเทียนอึ้งไปเลย

อะไรนะ

ทุบแก่นเป็นดรุณหรือ

ทุบแก่นอะไร เป็นดรุณอะไรกัน

ข้าเพิ่งจะรวมแก่นพลังทองออกมาไม่นานเอง!

อีกทั้งน้ำตาดาวเทพสมุทรนี่เดิมทีเป็นโชคลิขิตของเจ้า คืนให้เจ้าแล้วไฉนต้องลำบากเช่นนี้!~

…….

เสิ่นเทียนพูดด้วยความจำใจ “แซ่เสิ่นยังมีน้ำตาดาวเทพสมุทรเช่นนี้อีก ตอนนี้สหายฉีต้องรีบเสริมความแกร่งจิตวิญญาณ เอาไปใช้ก่อนเถอะ!”

ฉีเซ่าเสวียนส่ายหน้าและถอนหายใจ “สหายเสิ่นอย่าโน้มน้าวข้าเลย แก่นพลังทองของเจ้าใหญ่เช่นนี้ ทุบแก่นเป็นดรุณต้องยากกว่าแซ่ฉีแน่นอน ต้องใช้มันมากกว่า

แม้แซ่ฉีจะติดอยู่ชั่วคราว แต่ก็คงจะคิดหาทางออกมาได้ ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองสมบัติล้ำค่าของสหายเสิ่น”

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย “สหายฉีวางใจเถอะ องค์หญิงเงือกเป็นคนให้น้ำตาดาวนี่มา นางให้แซ่เสิ่นสามเม็ด”

ฉีเซ่าเสวียนอึ้งไป ก่อนจะพูดด้วยความสงสัย “เป็นไปได้อย่างไร หรือว่าสหายเสิ่นขายเสน่ห์กัน ถ้าขายเสน่ห์ ไฉนถึงกลับมาเร็วเช่นนี้ สหายเสิ่น…

เจ้าบอกว่านางให้เจ้าสามเม็ดหรือ แซ่ฉีไม่เชื่อ เว้นแต่เจ้าจะเอาออกมาอีกสองเม็ด!”

เสิ่นเทียนพูดไม่ออก

จะว่าไปเจ้าฉีเซ่าเสวียนนี่ ไฉนถึงคิดเองเออเองเช่นนี้!

เพิ่งรู้จักสิ่งนั้น เจ้านี่ก็จะเล่นใหญ่ไปหน่อยกระมัง!

เหตุใดตอนนี้ถึงเหมือนสตรีพวกนั้น กับแค่น้ำตาดาวเทพสมุทรหยดเดียว เจ้ายังพูดเองเออเองได้เช่นนี้!

ทั้งยังว่าแซ่เสิ่นเสร็จเร็วเกินไปอีกหรือ ไอ้สารชั่วนี่คิดไปถึงไหนกันแน่

ถ้าเสิ่นเทียนจะทำในห้องนางจริงๆ อย่างน้อยต้องใช้เวลาสามวัน

ถึงตอนนั้นเจ้าจะทำอย่างไร ดวงจิตดรุณคลอดยากสามวัน เจ้าทนไหวหรือ

แม้เสิ่นเทียนจะไม่คุยโวว่าตัวเองเป็นนักปราชญ์ แต่ก็ไม่ถึงกับเห็นสตรีดีกว่าสหาย สหายดวงจิตดรุณคลอดยาก เจ้ากลับไปมีความสุขกับหญิงงาม แย่มากจริงๆ

อ้า~

ทันใดนั้นฉีเซ่าเสวียนสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ดวงจิตดรุณสีม่วงนั้นเริ่มสั่นไหว จิตวิญญาณอ่อนแอลงเล็กน้อย

ถึงอย่างไรศีรษะของดวงจิตดรุณก็ถูกแก่นพลังทองหนีบไว้หุบเข้าไปในกายไม่ได้ จึงเสียพลังจิตวิญญาณ

หากทะลวงแก่นออกมาไม่ได้ ส่งพลังจิตเข้าไปบำรุงไม่ได้ ดวงจิตดรุณสีม่วงของฉีเซ่าเสวียนอาจจะบาดเจ็บที่ต้นกำเนิดจริงๆ ก็ได้

“สหายฉี ตกลงเจ้าจะกินหรือไม่”

“แซ่ฉีพูดคำไหนคำนั้น เว้นแต่สหายเสิ่นจะนำน้ำตาดาวเทพสมุทรออกมาอีกสองเม็ด ยืนยันว่ายังมีไว้ให้ตัวเองใช้จริงๆ เท่านั้น!”

“ในเมื่อเจ้าพูดไม่รู้ฟัง เช่นนั้นก็อย่าหาว่าแซ่เสิ่นใช้ไม้แข็งแล้วกัน”

“สหายเสิ่นเจ้าจะทำอะไร! สหายเสิ่นเจ้าทำเกินไปแล้ว! สหายเสิ่นอย่าหยามเกียรติแซ่ฉี ข้าบอกว่าไม่กินก็คือไม่กิน!”

“สถานการณ์เร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยของสหายฉี แซ่เสิ่นคงได้แต่ใช้กำลัง สหายฉีอ้าปากเถอะ!”

“ต่อให้เจ้ายัดใส่ปากแซ่ฉี แซ่ฉีก็คายได้…อู้~ อู้ๆ~ อู้ๆๆ~”

…………

เมื่อเห็นฉีเซ่าเสวียนที่ถูกเถากลืนกินเซียนมัดเป็นบ๊ะจ่าง รวมถึงเถาวัลย์ที่ยัดเข้าไปในปากฉีเซ่าเสวียน

เอ๋าอูกับสี่คุณชายใหญ่ต่างหนาวสั่นพร้อมกัน นี่มันการควบคุมอะไรกัน

จะให้สมบัติก็ให้ไป ยังต้องใช้เถาวัลย์มัดและยัดเข้าไปในคออีกหรือ

โอรสสวรรค์เผ่ามนุษย์เล่นกันแบบนี้รึ!

สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่าเดิมคือ เสิ่นเทียนปราบฉีเซ่าเสวียนได้อย่างง่ายดาย

แม้ตอนนี้สภาพของฉีเซ่าเสวียนจะไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ไม่ถึงกับว่าใครรังแกใครได้ แต่เขากลับถูกมัดในพริบตา

ได้แต่พูดว่าศักยภาพของเสิ่นเทียนน่ากลัวมากจริงๆ ก่อนหน้านี้ยังซ่อนพลังไว้อยู่

หากใช้ศักยภาพทั้งหมด บางทีอาจจะสั่นสะเทือนทั้งห้าดินแดน!

เถากลืนกินเซียนม้วนน้ำตาดาวเทพสมุทรยัดเข้าไปในท้องของฉีเซ่าเสวียน ไม่นานก็กลายเป็นพลังงานกลุ่มหนึ่งกระจายออกไป

พริบตาเดียว ทั้งตัวฉีเซ่าเสวียนถูกแสงสว่างสีฟ้าปกคลุม กระแสพลังวิญญาณหมุนม้วนเข้ามา

แม้ในระหว่างขั้นตอนจะน่าอับอายมาก แต่ตอนนี้ฉีเซ่าเสวียนได้น้ำตาดาวเทพสมุทรยืนหยัด พลังของดวงจิตดรุณแกร่งขึ้นด้วยความเร็วสูงสุด

ดวงจิตดรุณที่เดิมทีถูกแก่นพลังทองหนีบขยับไม่ได้ ตอนนี้เริ่มคึกคักขึ้นมาเหมือนกับได้สูบฉีดเลือดไก่

มันพลันชกหมัดขวา มุมขวาบนของแก่นพลังทองพลันเกิดรูหนึ่ง

ชกอีกหมัด มุมซ้ายบนเกิดรู สองมือยื่นออกมา จากนั้นดวงจิตดรุณก็ถีบสองขาออกมาจากข้างล่างแก่นพลังทอง

ดวงจิตดรุณขนาดเท่านิ้วมือหลุดมาจากแก่นพลังทองได้อย่างสมบูรณ์ เหมือนกับสวมชุดเกราะเทพยุทธ์

อืม อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย

มองทีแรกองอาจจริงๆ

อย่างน้อยคุณชายเต่าดำอู่อู๋ตี๋ก็คิดอย่างนั้น

……..

เสิ่นเทียนดึงเถากลืนกินเซียนกลับมาอย่างพอใจ อืม ส่วนหนึ่งถูกฟันขาดด้วย

รู้ว่าใช้ไม้แข็งราบรื่นเช่นนี้แต่แรก แซ่เสิ่นคงไม่ต้องเคี่ยวเข็ญอะไรมากขนาดนั้น

ลังเลลีลาอยู่นั่น เสียเวลาและคำพูดจริงๆ

ดีที่เมื่อน้ำตาดาวเทพสมุทรเข้าไปในปากฉีเซ่าเสวียนแล้ว เสิ่นเทียนก็พบว่าดวงจิตเขาฟื้นฟูกลับมาเป็นที่น่าพอใจ

วงรัศมีดวงชะตาของฉีเซ่าเสวียน จากลายสีม่วงที่ค่อยๆ จางลงในตอนแรก ตอนนี้สว่างยิ่งกว่าเดิม อีกทั้งยังมีลายมากกว่าเดิมเล็กน้อย

แม้จะไม่ถึงขั้นเติมเต็มทั้งวงรัศมี แต่ก็มากขึ้นกว่าก่อนอย่างชัดเจนจริงๆ

ทางด้านเสิ่นเทียนก็รู้สึกลอยล่องจะเป็นเซียนไปทั้งตัว

เขาหยิบกระจกออกมาเงียบๆ แอบมองหน้าผากตนเองแล้วมีสีหน้าดีใจขึ้นมา

พบว่าวงรัศมีดวงชะตาจากสีแดงเข้มเหนือศีรษะเสิ่นเทียนในตอนนี้ ในที่สุดก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ำ อีกทั้งในวงรัศมีสีแดงยิ่งใหญ่ ยังปรากฏแสงสีทองอ่อนๆ ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ดูแล้วสวยงามและสูงศักดิ์มาก

ใช่ หลังจากเกาะโชคลิขิตของฉีเซ่าเสวียนครั้งนี้ ในที่สุดเสิ่นเทียนก็ก้าวหน้าขึ้นไปกว่าเดิม ศีรษะเปล่งแสงทองแล้ว

ทันทีที่ตรงขอบวงรัศมีเกิดแสงสีทองนั้น เสิ่นเทียนก็รู้สึกเบาสบาย

ขณะเดียวกันเขายังได้รับข้อมูลอันน่าลึกลับมาอีก

นั่นคือความสามารถในการสังเกตวงรัศมีดวงชะตาคนอื่นกับภาพโชคลิขิตของเขาพัฒนาขึ้นแล้ว

ตอนที่เสิ่นเทียนมีวงรัศมีสีดำคลุมศีรษะนั้น เห็นเพียงภาพโชคลิขิตที่ไม่สมบูรณ์ อีกทั้งยังเห็นค่อนข้างเลือนราง

อย่างเช่นโชคลิขิตของฉินเกา มันคือคัมภีร์มารสู่สุริยันเห็นๆ แต่ตอนที่เสิ่นเทียนส่องโชคลิขิตกลับไปหยุดอยู่ที่ประวัติศาสตร์ต้าเหยียน

แต่เมื่อดวงชะตาของเสิ่นเทียนสูงขึ้นเรื่อยๆ ความสามารถในการส่องภาพโชคลิขิตก็แกร่งขึ้นเช่นกัน ประสิทธิภาพดีขึ้นทุกที

…….

ก่อนหน้านี้ตอนมีวงรัศมีสีแดง เสิ่นเทียนสามารถรู้เวลาที่อีกฝ่ายเจอโชคลิขิตผ่านภาพได้

ตอนนี้วงรัศมีดวงชะตาปรากฏสีทอง เสิ่นเทียนก็ได้ความสามารถเพิ่มมาอีกอย่าง

นั่นคือ…ตำแหน่งติดตามจริงของโชคลิขิต!

…………………………………………….